การถ่ายทำในช่วงบ่ายไม่มีอะไรมากเป็นเพียงซีนง่ายๆให้นายแบบหนุ่มได้พูดไดอะล็อกสั้นๆไม่กี่ประโยค เป็นสโลแกนที่ใช้สำหรับโปรโมท เพียงไม่กี่สิบนาทีทุกอย่างก็เสร็จสิ้น
นายแบบหนุ่มเมื่อเห็นหญิงสาวที่ตนรู้จักกำลังนั่งสัปหงกอยู่ตรงมุมเสา ก็นึกสนุกอยากจะแกล้งขึ้นมา จึงหยิบโทรศัพท์มือถือมากดถ่ายรูป ก่อนจะหันไปเซลฟี่ตัวเองโดยติดภาพหญิงสาวกำลังหลับน้ำลายไหลด้วยใบหน้าทะเล้น ก่อนจะอัพลงโซเชี่ยลของตนเอง
ภาคิณที่เดินเข้ามาในห้องที่ใช้สำหรับถ่ายทำ โดยไม่ได้สนใจทักทายใครเป็นพิเศษนอกจากพยักหน้าให้คนที่ผ่านไปมาและเอ่ยทักทายเขา ก่อนที่สายตาคมจะหยุดอยู่ที่ชายหนุ่มหญิงสาวที่กำลังหยอกล้อ พูดคุย มีถึงเนื้อถึงตัวกัน ชายหนุ่มจ้องมองหญิงสาวคุ้นตากำลังใช้มือเล็กๆทุบไปที่ชายหนุ่มหน้าตาดีคนนั้นหลายที ก่อนจะพากันหัวเราะสนุกสนาน จนนึกหมั่นไส้ อยากจะเดินไปดึงไอ้หน้าหล่อนั่นมาซัดให้น็อค กลางอากาศสักหมัดสองหมัด
“อ้าวไอ้คิณณ์ มึงมาทำไม มาตรวจกองเหรอไง”
“เออ กูอยู่แถวนี้ เลยแวะมาดู” ใช่ที่ไหนล่ะ เขาอยู่แจ้งวัฒนะ แต่ขับรถมาจนถึงพระรามสาม ใกล้มากเลยมั่ง ภาคิณค่อนแคะตัวเองในใจ ตอบแบบบอกปัดเสียงห้วน หงุดหงิด สีหน้าบึ้งตึงจนยุทธที่เข้ามาทัก ถึงกับส่ายหัวเดินออกไป
“พราว” เสียงเข้มเอ่ยเรียก จงใจขัดจังหวะคนทั้งคู่ให้หันมาสนใจเขา
“อ้าวพี่คิณณ์ วันนี้มากองด้วยเหรอคะ”
“อืม แล้วนี่ทำไร ไม่ทำงานเหรอ”
“อ๋อ พี่อ้อมให้พราวคอยดูแลพี่ไคกิค่ะ”
“แล้วนี่ถ่ายใกล้เสร็จหรือยัง เหลือกี่คิว”
“ของพี่ไคกิถ่ายเสร็จแล้วคะ แต่ทีมงานยังต้องถ่ายเก็บอะไรอีกนิดหน่อยค่ะ” พอได้ยินว่าไคกิถ่ายงานเสร็จเรียบร้อย แต่ยังมาวอแวหญิงสาวอยู่ไม่ยอมกลับ ก็เริ่มไม่พอใจ ชักสีหน้าเสียงขุ่นทันที
“พี่หิวน้ำน่ะ พราวไปซื้อให้พี่หน่อยสิ”
“ได้ค่ะ” เธอยิ้มรับอย่างไม่คิดอะไร ทำท่าจะลุกเดินไปซื้อ
“เดี๋ยวพี่ลงไปด้วยดีกว่า เอ่องั้นผมลาคุณไคกิเลยนะครับ ไว้โอกาสหน้าค่อยร่วมงานกันใหม่”
“เอ่อ... ยินดีครับ” นายแบบหนุ่มยิ้มให้อย่างคนไม่ได้คิดอะไร ในขณะที่อีกฝ่ายกลับมองเขาด้วยสายตาไม่ชอบใจเท่าไหร่นัก แต่ก็ต้องปั้นยิ้มตามมารยาท เดินตามหญิงสาวที่เดินนำเขาไปที่ลิฟต์เรียบร้อยแล้ว
ใบหน้าสวย เจ้าของรอยยิ้มสดใส ดวงตากลมโต ขนตายาวงอน ยืนรอเขาอยู่ในลิฟต์ วันนี้เธอแต่งกายในชุดทะมัดทะแมง กางเกงยีนส์ทรงสกินนี่ สวมเสื้อยืดโปโลคอปกสีขาวของบริษัท สวมทับเข้าข้างในกางเกงดูเรียบร้อย แต่ในสายตาเขากลับยิ่งเซ็กซี่ ผมยาวมัดรวบเป็นหางม้าทรงสูง ริมฝีปากบางเล็กที่กำลังฉีกยิ้มแวววาวด้วยลิปกรอสยิ่งดูอวบอิ่ม อยากจะรวบดึงมากอดจูบตรงนี้ แต่ก็ต้องห้ามใจห้ามความคิดตัวเอง รอจนลิฟต์ปิดสนิทแล้วถึงเดินเข้าไปยืนใกล้จนชิดเธอก็ไม่ได้ขยับหนีห่างไปไหน กลับช้อนตามองกะพริบตาปริบๆ
“คืนนี้ไปหาร้านนั่งฟังเพลงกันไหม”
“ที่ไหนคะ”
“ร้านเพื่อนพี่ เดี๋ยวพี่พาไป สนใจไหม”
“สนใจค่ะ มีใครไปบ้างคะ” เธอถามเพราะปกติมักจะไปสังสรรค์ด้วยกันหลายๆคน
“ถ้าไปแค่สองคน ไม่ไปเหรอ” เขาหันมาถาม สบตาเธอนิ่ง นัยน์ตาสีนิลประดุจเหยี่ยว พลางขยับตัวมาใกล้จนชิด ลมหายใจอุ่นรดบริเวณหน้าผากสวยที่ทำให้ขนอ่อนในกายลุกชัน หัวใจเต้นแรงกับการรุกรานเข้ามาในหัวใจของอีกฝ่าย เสน่ห์ที่ทำให้เธอรู้สึกคลั่งไคล้เขามากขึ้นทุกทีจนเธอเองยังนึกหวั่นใจ
เสียงเพลงจากนักร้องบนเวทีเล่นดนตรีสดในจังหวะเพลงค่อนข้างเร็ว เสียงกลองกับเสียงร้องของนักร้อง พลอยทำให้บรรยากาศในร้านนั่งชิลช่วงหัวค่ำยิ่งคึกครื้น
ภาคิณจับจูงมือหญิงสาว เลือกพาเดินเข้ามานั่งด้านในร้านของร้านที่เป็นมุมโซฟานั่งชิลที่มีไฟสลัว หลบตาผู้คน ห่างจากเวทีพอสมควร ร่างสูงให้เธอนั่งโซฟาอีกฝั่งส่วนเขาเลือกที่จะนั่งตรงข้ามเธอ พลางหันไปสั่งเมนูอาหารกับพนักงานสองสามอย่างก่อนจะหันมาถามหญิงสาวแสนสวยที่ตอนนี้อยู่ในชุดเดรสสั้นสายเดี่ยวสีดำพิมพ์ลายดอกไม้เล็กๆน่ารักๆประมาณเข่า ผมยาวม้วนเป็นลอนดูหวานและเซ็กซี่ในคนเดียวกัน
“อยากทานไรเพิ่มไหม”
“ขอยำปลาหมึกกับ เอ็นข้อไก่ทอดค่ะ”
“หึหึ เครื่องดื่มล่ะ อยากได้อะไร”
“อืม...เบียร์สตรอว์เบอร์รี่ดีกว่าค่ะ อยากดื่มอะไรชื่นใจสักหน่อย” ภาคิณหันไปสั่งเครื่องดื่มกับพนักงานตามที่เธอบอก โดยไม่ลืมสั่งของตัวเองด้วย
ทั้งคู่นั่งทานอาหารไปฟังเพลง พลางพูดคุยเรื่องนั้นเรื่องนี้กันไปไปเรื่อยๆ จนเวลาเริ่มดึก ชายหนุ่มจึงขยับมานั่งข้างหญิงสาวที่ทำหน้าแปลกใจมองเขาด้วยความงุนงงเล็กน้อย
“ถ่ายรูปกัน” เขายิ้มพร้อมกับชูโทรศัพท์ขึ้นถ่าย ในขณะที่มือโอบไหล่หญิงสาวไว้ดึงมากอด ก่อนจะกดถ่ายรูปไปอีกหลายภาพ
“ส่งให้พราวด้วยนะคะ”
“จ้ะ เดี๋ยวพี่ส่งให้” เขารับคำโดยไม่ได้คิดที่จะส่งให้หญิงสาวในทันที พลางขยับตัวนั่งโอบเอวบางที่หันมามองเขาเล็กน้อยแต่ก็ไม่ได้ว่าอะไร เวลาผ่านไปไม่ถึงสิบนาทีก็มีพนักงานยกเครื่องดื่มมาเสิร์ฟเพิ่ม ภาคิณหยิบแก้วช็อตเล็กๆ มีเกลือโรยเกาะรอบขอบแก้ว เสิร์ฟพร้อมมะนาวฝานชิ้นเล็กๆ ส่งให้เธอ
“ลองนี่ไหม รสชาติดีนะ”
“แต่พราวกินเบียร์อยู่นะคะ เดี๋ยวมันจะตีกันหรือเปล่า”
“ไม่เป็นไร พี่ดูแลอยู่ พราวกลัวอะไร”
“พี่จะมอมเหล้าพราวเหรอ”
“หึหึ จะให้มอมหรือเปล่าล่ะ หื้อ” เขาแสร้งถาม พลางยื่นหน้าจนใกล้ ปลายจมูกโด่งคลอเคลียที่ข้างแก้มเบาๆ ก่อนจะยกแก้วนั้นขึ้นดื่ม แล้วหันไป ประกบจูบขบเม้มดูดดึงอยู่หลายนาทีก่อนจะถอนริมฝีปากออกมาใบหน้าสวย นัยน์ตาหวานฉ่ำเยิ้มสบตากับเขา
“อร่อยไหม” เขาถามเสียงกระเส่า พลอยทำให้หัวใจเธอเต้นแรง เธอไม่ตอบแต่เลือกที่จะมองหน้าเขานิ่งนาน
“หรือจะให้พี่ป้อนอีก หื้อ”
“ไม่ค่ะ พราวทานเองได้” แม้ใจนั้นจะร่ำร้อง ชื่นชอบมากแค่ไหน แต่วิธีป้อนของเขามันก็ทำให้เธอใจเหลว ใจสั่นไปหมด