ตอนที่ 1 ขอไลน์หน่อย
เสียงเพลงจากดนตรีสดชวนให้บรรยากาศในร้านนั่งดื่มชื่อดังย่านลาดพร้าวช่วงค่ำวันศุกร์ คลาคล่ำไปด้วยหนุ่มสาวออฟฟิศที่ต่างชวนกันมาสังสรรค์ผ่อนคลายจากงานที่เหนื่อยมาตลอดทั้งสัปดาห์ โดยเฉพาะวันนี้ที่ออฟฟิศของพีเอ็นพี แอดเวอร์ไทสซิ่ง ได้ฤกษ์ดี นอกจากนัดเลี้ยงสังสรรค์กันประจำอยู่แล้ว ยังถือเป็นการฉลองเลี้ยงต้อนรับเด็กฝึกงานใหม่สองคนที่เพิ่งได้เข้ามาร่วมทีมอีกด้วย
“เห้ยๆ เดี๋ยววันนี้คุณชายเขาจะมีใจเสด็จมานั่งดื่มกับพวกเราด้วยนะเว้ย เดี๋ยวเตรียมต้อนรับเลยนะ” หลังจากวางสายจากคนที่กล่าวถึงทุกคนในโต๊ะก็พากันหัวเราะเสียงดังอย่างชอบใจ เพราะบุคคลผู้มีฉายาว่าคุณชายล่องหน วันนี้จะแวะมานั่งสังสรรค์ด้วย ทั้งๆที่ปกติแล้วหลังเลิกงานเขามักจะแวบหายไปเสมอ
“ใครเหรอคะพี่อ้อม” พริบพราวหันมาถามด้วยความสนใจ
“อ๋อ เดี๋ยวพอเขามา พี่จะแนะนำให้รู้จักนะ แต่ตอนนี้เรามาชน....บุรี” พออ้อม หรือ อินทิรา พูดคำว่าชน พร้อมกับยกแก้วขึ้นสูง พลอยทำให้ทุกคนในโต๊ะต่างก็พร้อมใจกันยกแก้วขึ้นชนพร้อมกับพูดคำว่า ”บุรี” กันอย่างพร้อมเพรียง
“ไปไหนน่ะพราว”
“ไปห้องน้ำ แกไปด้วยไหม” พริบพราวหันมาตอบพร้อมกับเอ่ยชวนปั้นแป้งที่นั่งอยู่ข้างๆ ซึ่งพอได้ยินว่าเธอจะลุกไปเข้าห้องน้ำ ก็รีบวางแก้วน้ำสีอันพันลงบนโต๊ะพร้อมกับวางกระเป๋าสะพายลุกตามพริบพราวเพื่อนร่วมวิชาเรียนที่มาฝึกงานพร้อมกันกับเธอไปทันที
พริบพราวและปั้นแป้งลุกหายเข้าน้ำไปนานร่วมสิบนาที พอเดินกลับมาที่โต๊ะทั้งสองต่างก็ต้องแปลกใจเพราะมีคนแปลกหน้ามาร่วมโต๊ะเพิ่มอีกสองคน โดยเฉพาะพริบพราวที่ยืนใจเต้นระรัวเมื่อได้เห็นใครอีกคนที่ไม่ได้เจอมานานเกือบสองปี
“พี่คิณณ์” พริบพราวเอ่ยเรียกเสียงเบา แทบไม่เชื่อสายตาตัวเอง ว่ารุ่นพี่ที่เธอเคยแอบชอบจะมาปรากฏตัวอยู่ตรงหน้าแบบระยะประชิดราวกับฝัน
“อ้าวพราว... แป้ง ไม่เจอนานเลย สวยขึ้นนะเนี่ยทั้งสองคนเลย”
“พี่คิณณ์ก็หล่อขึ้นนะคะ” ปั้นแป้งเอ่ยชมพร้อมกับส่งตามหวานให้เขา
“จ้า หนูก็สวยขึ้นนะ” ภาคิณฉีกยิ้มให้กับปั้นแป้ง ก่อนจะหันมาสบตากับพริบพราวรุ่นน้องที่เขาเคยสนิทสนทสมัยเรียนมหาลัย ที่ปกติจะร่าเริง เฮฮา หยอกล้อกันเป็นภาพจำที่เขาคุ้นตา แต่เวลานี้กลับนั่งเงียบ ทำตาปริบๆใส่เขา จึงเอ่ยถาม
“ไงเราเงียบเลย”
“อ้าว นี่รู้จักกันด้วยเหรอ” พี่อ้อมหันมาถามด้วยความสนใจเมื่อเห็นการทักทายของทั้งสามคน
“รุ่นน้องสมัยเรียนมหาลัยน่ะอ้อม” เขาหันไปตอบ ก่อนจะหันกลับมาหาพริบพราว
“ไง เงียบเลยไม่คิดจะคุยกับพี่เลยเหรอ”
“ยังนึกคำไม่ออกค่ะ มัวแต่อึ้งอยู่” ตอบพร้อมกับหัวเราะแห้งๆ แสร้งหันไปหยิบเบียร์ที่วางอยู่ตรงหน้ายกขึ้นดื่มรวดเดียวเกือบหมดแก้ว ท่ามกลางเสียงร้องทั้งเชียร์ทั้งห้าม กึ่งตกใจของทุกคนในโต๊ะๆ
“เห้ยๆพราว เบาลูกเบา โอ้ว...น้องกูมาเต็มเลยเว้ย”
“ไหวไหมพราว” พี่ยิ้มที่นั่งอยู่ๆใกล้เห็นรุ่นน้องสาวตาเริ่มปรือหน้าเริ่มแดง ตัวแดงไปทั้งตัว เอ่ยถามน้ำเสียงเจือหัวเราะ
“ไหวค่า พราววว ขออีกแก้ว”
“พอก่อนๆ เดี๋ยวเมากันพอดี น้องสาวฉัน” อ้อมรีบห้ามพร้อมกับยกแก้วเบียร์หนีไปวางตรงอื่นทันที
“อื้อ...พี่คิณณ์”
“ฮ่าๆเอาแล้วไง” ภาคิณหัวเราะเสียงดัง เมื่อรุ่นน้องสาวหันมาทักเขา นัยน์ตาหวานฉ่ำเยิ้มเพราะฤทธิ์แอลกอฮอล์ที่ดื่มไป
“โอ่วพี่คิณณ์ ไม่เจอนานทำไมแก่ขึ้นเนี่ย”
“เล่นกูแล้วไง” ภาคิณไปบอกกับเพื่อน หัวเราะร่วนอย่างขบขัน
จนเวลาผ่านไปสักพักปั้นแป้งและคนอื่นๆเริ่มทยอยลุกออกจากโต๊ะไปเต้นกันออกันอยู่ที่หน้าเวทีดนตรีสด เหลือนั่งอยู่ที่โต๊ะแค่ไม่กี่คน
ภาคิณละสายตาจากเวทีดนตรีสดหันมามองรุ่นน้องสาวที่ยังคงนั่งมึนอยู่กับเบียร์หนึ่งแก้วใหญ่ที่เพิ่มดื่มไป พลางโยกหัวไปมาตามจังหวะเพลงเพราะยังลุกไปเต้นกับคนอื่นหน้าเวทีไม่ไหว
“ไงเรา เมาแล้วเหรอ” ภาคิณที่นั่งมองอยู่นานแล้วถามขึ้น
“ไม่ค่ะ แค่มึนๆ” เธอปัดมือบอก พร้อมกับส่งยิ้มตายิบหยีให้เขา
“ยังใช้ไลน์เดิมอยู่ไหม หรือว่าเปลี่ยนไลน์แล้ว”
“อื้อ ไม่รู้ค่ะ พี่คิณณ์มีไลน์อันไหนเหรอคะ” ภาคิณหยิบโทรศัพท์ขึ้นมานั่งไล่ดูบางอย่าง ก่อนจะส่งให้เธอดู
“อื้อ อันนี้เลิกใช้แล้วค่ะ พราวมีไลน์ใหม่แล้ว”
“งั้น...พี่ขอไลน์เราหน่อยสิ”
“ค่ะ” พริบพราวหยิบโทรศัพท์ที่วางอยู่บนโต๊ะขึ้นมาเปิดคิวอาร์โค้ดยื่นให้เขาแบบไม่ทันฉุกคิดอะไร แต่ก็ตื่นเต้นไม่น้อยเพราะคนที่ตัวเองเคยแอบชอบมาขอไลน์ พยายามหักห้ามความคิดตนเองไม่อยากคาดหวังว่าเขาจะสนใจอะไร บอกกับตนเองว่าเขาอาจจะแค่ขอไลน์รุ่นน้องเอาไว้เพราะเคยสนิทสนมเป็นรุ่นน้องในเครือสายรหัสกัน พยายามที่จะคิดและบอกตัวเองแบบนั้นทั้งๆที่ใจสั่น ตื่นเต้นอยู่ไม่น้อย
“มาฝึกงานที่นี่สนุกไหม”
“สนุกดีค่ะ แต่พราวยังไม่ได้ออกกองเหมือนกับแป้ง ได้แต่อยู่ออฟฟิศคอยช่วยงานพี่เขาที่สตูดิโอมากกว่า”
“อื้อ แล้วมาฝึกกี่วันแล้วล่ะ”
“มาฝึกตั้งแต่วันจันทร์แล้วค่ะ แต่ทำไมพราวถึงไม่เคยเจอพี่คิณณ์ที่ออฟฟิศเลยคะ”
“หึหึ ไอ้คิณณ์มันเป็นผี น้องไม่รู้เหรอ ผีเข้าผีออกน่ะ ผลุบๆโผล่ๆ น้องไปหามันแถวศาลๆหน้าตึกตอนเช้าๆกับโพล้เพล้เจอแน่นอน” พี่เอิร์ธที่นั่งอยู่พูดแทรกขึ้นพร้อมกับหัวเราะเสียงดังชอบใจที่ได้แกล้งแหย่เพื่อนสนิทที่หันมาเหล่ตามอง แววตาเต็มไปด้วยคำด่าที่เขาไม่รู้สึกสะทกสะท้านสักนิด แถมยังหัวเราะสะใจมีความสุขอีกต่างหาก พลอยทำให้หญิงสาวคนเดียวในโต๊ะตอนนี้หัวเราะไปด้วย
“แล้วเราล่ะ มีแฟนหรือยัง”