ตอนที่ 8 ไม่ใช่แค่รักธรรมดา

2605 Words
ตอนที่ 8 ไม่ใช่แค่รักธรรมดา ผมถูกลากออกมาจากใต้โต๊ะแล้วจับวางลงไปบนโต๊ะใหญ่ ด้านหลังถัดไปนั้นไม่เหลือพนักงานคนใดอยู่อีกแล้วในเวลานี้ ซิปกางเกงของรักษาการท่านประธานบริษัทขนาดยักษ์ มีดุ้นเนื้อใหญ่โผล่ออกมาพ้นขอบกางเกง จากตรงนี้ผมมองเห็นเส้นเลือด เส้นเอ็น เป็นริ้ว เป็นรอย รอบท่อนเนื้ออวบ “คราวนี้ตาฉันบ้างนะ” มือข้างหนึ่งกระตุกเนกไทซึ่งผูกปมอยู่ติดคอหอยให้ขยับร่นลงมา เข็มขัดหนังสีดำเส้นใหญ่ถูกปลดแยกหัวแยกท้าย ตามด้วยขอบกางเกงถูกสลัดทิ้งลงไปกองจนเกือบติดหัวเข่า “หื้อ ไม่ได้คุณจะมาเอาอะไรตรงนี้ล่ะ” ผมหดขาคู้ขึ้นมาบนโต๊ะทันที “ทำไมจะเอาไม่ได้” “ก็นี่มันห้องประชุม” ผมเหลือบตายักคิ้วไปบนเพดานห้องมุมหนึ่ง ซึ่งมีกล้องวงจรปิดติดอยู่บนนั้น แล้วไม่ใช่แค่ตัวเดียวด้วย เพราะรอบห้องประชุมนี้ติดกล้อง CCTV นับได้รวมๆ กันมากถึง 4 ตัว “เธอคิดว่าคนอย่างฉัน จะทำอะไรโดยไม่ใช้สมองหรือไง” โทรศัพท์มือถือส่วนตัวของท่านประธานยกขึ้นมา พร้อมโชว์ข้อความคำสั่งไปยังฝ่ายรักษาความปลอดภัย ให้ตัดสัญญาณการบันทึกภาพภายในห้องประชุมตลอดช่วงเช้า โดยให้เหตุผลว่าเป็นการประชุมลับ “ขี้โกงนี่” “ใครบอกว่าฉันขี้โกง” มือเชยช้อนคางดึงผมเข้าไปจูบ ฝ่ามือลูบบีบนวดเนื้อตัวไปตามจุดเสียว เผลอแป๊บเดียวกางเกงของผมถูกถอดโยนลงไปไว้ใต้โต๊ะ “ที่รัก เดี๋ยวคนเข้ามาเห็น” “ไม่มีใครเข้ามาหรอก เพราะรู้ว่าฉันอยู่ในนี้” ดวงตาคมผลักคลื่นอารมณ์ปั่นป่วนชวนมวนท้องจับจ้องลงไปตรงกลางหว่างขา ร่องเนื้อระหว่างแก้มก้นซึ่งมีเนื้ออูมเบียดชิดจนเกือบติดกัน "อื้อ" ผมเลื่อนมือลงไปปิดตรงกลางระหว่างซอกขาพร้อมทำท่าเขินอายนิดๆ ถึงจะเอากันบ่อยแค่ไหนแต่ยางอายบนหนังหน้าของผมมันก็ยังพอมีอยู่ ถึงจะบางลงเรื่อยๆ ก็เถอะ “น่าเอาจัง” ยิ้มอย่างคนเจ้าเล่ห์ยกขึ้นตรงมุมปากหยัก ขาสองข้างของผมถูกยกจับถ่างแยกออกจากกัน เปิดร่องแคบนั้นให้เผยทางแยกนุ่มหยุ่นที่ซ่อนซุกเก็บไว้ “หื้อ...คุณปานัทใจเย็นสิครับ เดี๋ยวใครวนกลับเข้ามาเห็นนะ เดี๋ยวค่อยกลับไปเอาที่ห้อง” “ไม่! ฉันจะเอาตรงนี้” แท่งเนื้ออุ่นร้อนท่อนยาวขนาดสิบเอ็ดนิ้ว พุ่งเข้ามาหาผมไวยิ่งกว่าจรวด “ผมหิวข้าวขอไปกินข้าวก่อนได้มั้ยครับ...” ในเมื่อไม้แข็งห้ามไม่ได้อย่างนั้นลองไม้อ่อน อ้อนผัวไปก่อนเผื่อท่านประธานใหญ่จะเห็นใจพนักงานไอทีหรือเมียตัวเล็กๆ อย่างผม “หิวมากเหรอ” “มากกกกก...” “ฉันก็หิว.....” หิว ของเรา ไม่เท่ากัน ...เพราะผมหิวข้าว ส่วนท่านประธานดูเหมือนจะหิวอย่างอื่นมากกว่า หลังประโยคบอกเล่าว่า หิว หัวหยักปักลึก มุดเข้าไปผ่านร่องกลางส่วนล่างที่มีความยืดหยุ่นสูง แท่งเอ็นใหญ่อวบอ้วนถูกกดลึกเข้าไปจนโคนเนื้อส่วนนุ่มซึ่งมีสองลูกบอลกลมบดลงมาชิดร่องก้นของผม “อ่าส์...ที่รักไหนบอกว่าหิวไง” ผมก้มลงไปมองท่อนเนื้อใหญ่ที่มันผลุบหายจมลงไปภายในร่างกายจนมิดสุดโคนเนื้อใหญ่ "ฉันก็กำลังจะกินเธอเป็นมื้อเที่ยงนี่ไง แล้วที่สำคัญเธอเป็นฝ่ายกินฉันก่อนนะดูสิ" คิ้วเข้มกระตุกชี้ชวนให้มองร่องเนื้อที่ดูดกลืนท่อนเนื้อคนหื่นเข้าไป "อื้อออออออ คนบ้าเจ้าเล่ห์" ผมขมิบเกร็งกล้ามเนื้อบริเวณร่องก้นรัดสิ่งที่สอดคาค้างอยู่ภายในจนเจ้าของมันร้องครางออกมาเสียงดัง "กวี...นี่ยั่วเย...ฉันเหรอ" "อยากมากไม่ใช่เหรอครับ...เดี๋ยวผมจะเอาให้หักเลย" ผมยกขาขึ้นมาตวัดรัดเอวผมแล้วดันตัวเข้าไปชิด "อยากหักแล้วล่ะ มาสิอัดเข้ามาเลย" "น้ำเดียวนะ....ผมหิวข้าว" “ฉันกินเธออิ่มเมื่อไหร่....เธอค่อยไปกินข้าว” ถ้ารอให้คุณปานัทอิ่ม มีหวังผมคงอดตายหรือต่อให้ไม่อดข้าวตายผมก็คงขาดน้ำตายเพราะผัวหื่นปักหลัก ยืนสาวเอวใส่อย่างไม่คิดให้กระดูกอุ้งเชิงกรานผมได้พัก ก้นแน่นแสบร้อนเพราะถูกบดถูกกระแทกลงมารัวจนแดงเป็นปื้นเต็มง่ามขา น้ำเหนียวกลิ่นคาวไหลเป็นทางยาวย้อยจากภายในร่องลึกลงไปจนถึงตาตุ่มกลิ่นคาวคลุ้งเตะจมูกชัดเจน “ที่รัก ผมเหนื่อยแล้ว พักก่อน” ผมทิ้งแผ่นหลังลงไปนอนแผ่บนโต๊ะประชุมมือกุมหน้าท้องหอบดังแฮ่กๆ ไอ้ที่ตกลงกันว่าน้ำเดียวมันไม่เคยมีจริง “มานี่สิ” ท่อนแขนเปียกเหงื่อชื้นช้อนผมขึ้นมาจากโต๊ะ เก้าอี้นวมตัวใหญ่มีท่านประธานใส่เสื้อผูกไทแต่ท่อนล่างเปลือยอล่างฉ่างนั่งถ่างขาจับผมไปนอนทับ ขมับขวา ขมับซ้าย และก้อนเนื้อส่วนแก้มถูกจูบซ้ำๆ สลับกันไปมา หน้าขายังรับรู้ถึงความฉ่ำอันเปียกแฉะเหนียวลื่นเหนอะหนะ “อื้อ...” ผมยกมือขึ้นมาตีผัวดังตั้บๆ หงุดหงิดที่เสื้อผ้า แขนขาเต็มไปด้วยน้ำรักกลิ่นคาว “โมโหอะไร” “ก็ผมต้องกลับไปทำงานอีกนี่ เลอะหมดแล้วเนี่ย” “บ่ายนี้ฉันก็ต้องเข้าประชุมต่อ ฉันยังไม่บ่นเลย” “แล้วคุณจะทำยังไง เสื้อผ้ายับหมดแล้ว คราบน้ำเลอะเต็มไปหมดเลย กลับไปเปลี่ยนที่ห้องดีมั้ย” ผมผลุดลุกขึ้นมาแล้วรีบถามเพราะห่วงใยผัว ยังไงซะคุณปานัทก็ชื่อว่าเป็นถึงประธานบริษัท จะนั่งประชุมหัวโต๊ะโดยปล่อยให้มีกลิ่นคาวโชยออกมาอย่างนี้ไม่ดีแน่ “ใส่เสื้อผ้าก่อน เดี๋ยวจะพาไปเปลี่ยน” ผมขยับลุกขึ้นรีบใส่เสื้อผ้ากลับคืนตามเดิม จากนั้นวิ่งไปรื้อหากระดาษทิชชู่มาเช็ดทำความสะอาดคราบน้ำ คราบเหงื่อที่เปียกเป็นรอยบนผิวโต๊ะ แล้วหยิบสเปรย์ปรับอากาศซึ่งมีวางประจำเอาไว้ในห้องประชุมมาฉีดพ่นจนเกือบหมดกระป๋อง จากนั้นเดินตามหลังคุณปานัทมายังห้องที่อยู่ถัดไป ป้ายด้านหน้าเขียนบอกตำแหน่งประธานกรรมการผู้จัดการใหญ่ชัดเจน “นี่ห้องทำงานของคุณเหรอ” “ใช่ มานี่สิ...” แขนคล้องเกี่ยวเอวผมให้เดินตาม ก้าวผ่านประตูบานหนึ่งเข้าไปภายใน ผมยืนอึ้งอยู่นานไม่คิดว่า ภายในห้องท่านประธานจะซ่อนห้องนอนเอาไว้ข้างในด้วย “ถามจริง นี่มาทำงานหรือว่ามาพักผ่อน” “บางครั้ง ฉันเอาไว้งีบนอนช่วงกลางวัน หรือบางทีเอาไว้อาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า ถ้าจำเป็นต้องไปงานเลี้ยงตอนเย็นต่อ เพราะขี้เกียจกลับบ้านน่ะ” ห้องนอนแบบจำลองโรงแรมระดับ 5 ดาว ตู้เสื้อผ้าขนาดยาว 2 เมตรมีชุดสูท เสื้อผ้า แขวนเตรียมเอาไว้พร้อมใช้งาน ถุงเท้า รองเท้า เข็มขัด จัดวางเตรียมให้ไม่ต่างอะไรจากตู้เสื้อผ้าในคอนโด ผมเข้าไปอาบน้ำถูหลังให้ผัว แล้วรีบกลับออกมาแต่งตัวให้เพราะใกล้เวลาบ่ายโมงที่ทุกคนจะกลับมาทำงานตามปกติ “หิวมั้ย” เสียงทุ้มนุ่มนวลมาพร้อมจูบเบาๆ “หิวสิ....ง่วงด้วย แขนขาสั่นจนเดินไม่ไหวแล้ว” ผมยกขาเตะแฟนเบาๆ เป็นการทำโทษ เพราะการเดินทางขึ้นลงๆ จากโลกมนุษย์และสวรรค์ชั้นเจ็ด ด้วยการเย่...เย็บอย่างดุดันของท่านประธานทั้งช่วงเช้ามืด และรอบเที่ยงที่ผ่านมา ทำผมล้าทั้งแขนขา หน้าแข้ง ข้าวปลาอาหารมื้อกลางวันก็ยังไม่มีอะไรตกถึงท้องเลย ใจสั่นหวิวๆ อย่างกับคนจะเป็นลม “ถ้าอย่างนั้น บ่ายนี้ไม่ต้องลงไปทำงานนะ นอนพักในห้องนี้แหละ” “หื้อ มันจะดีเหรอคุณ” “ผัวเธอเป็นถึงท่านประธาน...ไม่มีอะไรดีไปกว่านี้แล้ว” “แต่ผมหิวข้าว” มือสองข้างยกขึ้นมาลูบท้องแบนทำท่าประกอบ “อยากกินอะไร เดี๋ยวฉันให้เลขาสั่งให้” “ถ้าเลขาคุณสั่ง เขาก็ต้องรู้สิว่าผมแอบมานอนในห้องนี้” “เลขาฉันก็เหมือนพนักงานเสิร์ฟในร้านอาหารญี่ปุ่น เขาจะเห็นและเขาจะพูดแค่สิ่งที่ฉันอนุญาตเท่านั้น” ช่วงบ่ายผมรู้ว่าคุณปานัทต้องกลับไปประชุมต่อ ทิ้งผมให้นอนรอพิซซ่าที่อยากกินในห้องคนเดียว ไม่นานเลขาประจำของท่านประธานเดินมาเคาะห้องยกถาดพิซซ่า ไก่ทอด น้ำอัดลมและขนมอีกหลายอย่างมาวางไว้ให้ “ทานให้อร่อยนะคะ น้องกวี” “ขอบคุณครับ แล้วคุณปานัท....” “ท่านประธานบอกว่าไม่หิวค่ะ ให้น้องวีทานให้อิ่มแล้วก็นอนต่อได้เลย ถ้าอยากได้อะไรเพิ่มเติมกดเบอร์ภายในโทรไปหาพี่ที่โต๊ะได้ตลอดนะคะ” “ครับ...ขอบคุณครับ” “ไอ้วี คุณนัทเขาใช้มึงไปทำอะไรมาตั้งครึ่งค่อนวัน เห็นเลขาเขาโทรลงมาบอกพี่ หายเงียบไปเลยนะมึง พวกพี่นึกว่ามึงโดนไล่ออกไปแล้วนะเนี่ย” หลังจากกินอิ่มนอนพักจนกระปรี้กระเปร่า ผมลงลิฟต์กลับมานั่งทำงานตามเดิม “ก็ทำนั่น ทำนี่ไปเรื่อย” ผมนั่งทำงานต่อได้ยังไม่ถึงชั่วโมงผู้จัดการกับบรรดาหัวหน้าแผนกที่อยู่ชั้นเดียวกันเดินเรียงแถวกลับเข้ามาด้วยท่าทางยิ้มแย้มต่างจากการประชุมเมื่ออาทิตย์ก่อนลิบลับ ผมนั่งจับใจความได้ว่าวันนี้ “ท่านประธาน” ดูใจดีกว่าทุกวัน แม้จะไม่ถึงกับยิ้มยิงฟัน แต่การไม่ดุด่า ขว้างสายตาขวางใส่ใครนั่นนับว่าเป็นนิมิตหมายอันดีมากแล้ว ติ๊ง เสียงแจ้งอีเมลส่วนกลางของบริษัทเด้งเข้ามา ผมอ่านแค่หัวข้อว่าเป็นคำสั่งโยกย้ายพนักงาน เลยไม่ได้กดเข้าไปอ่านเนื้อหาข้างใน จนกระทั่งรุ่นพี่คนหนึ่ง แหกปากร้องลั่นแผนกผมจึงต้องกระดิกนิ้วคลิ้กเข้าไป “ไอ้เหี้ยวี มึงไปทำอะไรให้คุณนัทเขาเกลียดเนี่ย ถึงได้ย้ายมึงลงไปกระบี่” “เอ่อ...” “กูบอกมึงแล้วว่าให้ขยันเอาน้ำแดงไปถวายพระพรหมหน้าบริษัท เป็นไงล่ะมึง เจ้าที่เจ้าทางคงหมั่นไส้ ไม่ได้แดกของไหว้ เลยไล่มึงไปอยู่ที่อื่น” “ปีนี้มึงปีชง มั้ยเนี่ยไอ้วี” “ไม่รู้ดิพี่” ผมยิ้มแห้งตอบกลับไป “ย้ายด่วนด้วยมึง ลงไปพร้อมคุณนัทพรุ่งนี้เลย ซวยฉิบหาย” รุ่นพี่ 2-3 คนเดินมาตบไหล่ผมแปะๆ “หรือว่าปีนี้เขามีนโยบายย้ายเด็กใหม่ไปสาขาอื่นวะ ตั้งแต่สั่งย้ายน้องเอมแล้ว” ข้อสันนิษฐาน สมมุติมากมายผุดขึ้นมาท่ามกลางหมู่พนักงานที่ไม่รู้เบื้องลึกเบื้องหลัง ส่วนเมียท่านประธานบริษัทอย่างผมได้แต่นั่งยิ้มแห้งคอยพยักหน้าหงึกๆ ตามพวกรุ่นพี่ไป “หนีบผมมาด้วยแบบนี้ไม่กลัวคนอื่นเขาจะว่าลำเอียงเหรอครับ” ผมนั่งเอียงคอซบไหล่ผัวอยู่บนเครื่องบินลำใหญ่ สายตามองออกไปนอกหน้าต่างเห็นก้อนเมฆขาวๆ ลอยตัดกับพื้นทะเลสีน้ำเงินเข้มด้านล่าง “เธอได้ยินใครพูดว่าอิจฉาเธอมั้ยล่ะ” “ไม่มีเลย...มีแต่คนบอกว่าผมน่าสงสาร” เปลือกตาสองข้างถูกผมกะพริบถี่ๆ ล้อเลียน “ฉันไม่ยอมให้ใครพูดถึงเมียฉันในทางเสียหายแน่....จุ๊บ” จูบจากปากเชื่อมเราสองคนให้ติดกัน โรงแรมขนาดใหญ่อยู่ระหว่างดำเนินการก่อสร้าง และวางแผนจะเปิดให้บริการในอีกไม่เกิน 2 เดือนข้างหน้า ผมรู้เพิ่มเติมมาว่าโรงแรมนี้มีเจ้าของโครงการชื่อคุณ “อาทิตย์” ส่วนคุณปานัทเป็นเจ้าของเงินทุน แต่มีสิทธิ์ในการเข้ามามีส่วนร่วมในการตัดสินใจครึ่งหนึ่ง อีกทั้งในการก่อสร้างบริษัทรับเหมาส่วนใหญ่ ยังเป็นซัพคอนแท็กบริษัทย่อยที่มีผู้บริหารคือคุณปานัทเอง เพื่อง่ายต่อการบริหารจัดการและควบคุมต้นทุน รวมถึงคุณภาพงาน ผมเข้ามาแนะนำตัวกับรุ่นพี่แผนกไอทีที่ประจำอยู่สาขากระบี่ มีโต๊ะทำงานแบบไม่ประจำ เพราะออฟฟิศทำงานนั้นเป็นตู้คอนเทนเนอร์ที่นำมาดัดแปลงใช้เป็นสำนักงาน ส่วนที่พักมีสวัสดิการให้พนักงานเป็นตู้คอนเทนเนอร์ตกแต่งเป็นห้องนอน นำมาวางเรียงต่อกันเป็นแถวๆ ความสูง 2 ชั้นเท่าที่ผมนับได้จากสายตาก็มีประมาณ 20-30 ตู้ ส่วนคนงานก่อสร้างมีแคมป์แบบโครงไม้ยูคาลิปตัส ฝาเป็นไม้อัดและมุงสังกะสี ตั้งอยู่ห่างไปราวๆ หนึ่งร้อยเมตร ตีวงกว้างเต็มพื้นที่เกือบสิบไร่ รถบรรทุก รถแบ็คโฮ รถที่เอาไว้ใช้เกี่ยวกับงานก่อสร้างจอดเรียงเป็นแถว เป็นระเบียบเรียบร้อย “ผม...นอนนี่เหรอครับ” ผมหันไปถามหัวหน้าแผนกไอทีประจำสาขากระบี่ “อืม พวกพี่ก็นอนที่นี่กันหมด เพราะว่าแถวนี้มันไม่มีหอพัก อยู่นี่ที่พักฟรี น้ำไฟฟรีไม่ต้องจ่ายสักบาท อาหารฟรีมีให้กิน 3 มื้อ คุณอาทิตย์ให้ตั้งโรงอาหารส่วนกลางเดินไปกินในโรงแรมโน้น เงินเดือนเหลือเก็บสบายๆ” หัวหน้าชี้นิ้วกลับไปยังโรงแรมที่ยังสร้างไม่เสร็จ “อ่อ ครับ” ผมเอากระเป๋าสะพายวางลงไปบนเตียงเหล็กขนาด 3 ฟุตครึ่งเฟอร์นิเจอร์อื่นๆ ไม่มีอะไรเลยในห้อง ดีหน่อยตรงที่มันมีห้องน้ำเล็กๆ ในตัว ช่องหน้าต่างติดเหล็กดัดเล็กๆ มองออกไปเห็นเป็นวิวแคมป์คนงานก่อสร้าง อันพลุกพล่านดูวุ่นวาย ห่างไกลจากภาพมโนในหัวของผมมาก “เป็นยังไง ที่พักเรียบร้อยมั้ย” “อือ” ผมเบะปากทำท่างอนผัว เพราะในจินตนาการ ผมฝันหวานถึงการมากระบี่เอาไว้เสียดิบดี ว่าจะได้นอนห้องพักติดทะเล มีเปลญวนผูกกับต้นมะพร้าวให้นอนเอกเขนก ได้จิบเบียร์เย็นๆ เดินเล่นริมชายหาด “ทำไม ไม่ชอบเหรอ” “ไม่ชอบเลย” เป็นเมียท่านประธานมา 1 เดือน กินหรูอยู่สบายมาได้สักพัก จนผมชักติดนิสัยไม่ดี ทั้งที่เมื่อก่อนนี้ชีวิตตัวเองเคยลำบากมามากกว่านี้อีก “มีอะไรอยากได้เพิ่มเติมหรือเปล่า” “มี...” ผมลากเสียงยาว “อยากได้อะไร ไหนลองบอกมาสิ” “อยากได้ผัว ที่รัก...ผมคิดว่าคุณจะพาผมมาอยู่ด้วยที่กระบี่ แล้วทำไมมันเป็นอย่างนี้ล่ะ ผมต้องนอนคนเดียวจริงๆ เหรอ” “ไม่จริงหรอก...” หน้านิ่งหันมาส่งยิ้มเจ้าเล่ห์ หางตาปรายเหล่ไปมองด้านหลัง ซึ่งเป็นโรงแรมใหญ่จากนั้นรีบกระชากดึงผมเข้าไปกอด แล้วปล้ำจูบดูดปากลากลิ้นมาพันกันอยู่พักใหญ่ “ถ้าไม่จริง แล้วทำไมให้ผมไปนอนรวมกับคนอื่น” “ฉันแค่ทำตามกฎบริษัท เพราะไม่อยากให้ใครนินทาลับหลังเท่านั้น” “แค่ทำตามกฎบริษัทเหรอ...ตกใจหมดเลย นึกว่าคุณไม่รักผมแล้วซะอีก” “รักสิ...ไม่ใช่แค่รักธรรมดา แต่ฉันรักเธอมากเลยนะรู้มั้ย”
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD