“งานวันแรก”

2583 Words
เมื่อฉันเดินเข้ามาด้านในของผับ ช่วงเวลานี้เป็นช่วงหัวค่ำที่คนเริ่มทยอยกันเข้ามา บางโต๊ะมีลูกค้านั่งสั่งเครื่องดื่ม บางมุมก็มีพนักงานเดินไปเดินมา จัดเตรียมของและทักทายกันบ้าง บรรยากาศภายในร้านไม่ได้วุ่นวายหรือเสียงดังจนเกินไป แสงไฟสีม่วงส้มสลัว ๆ ทำให้ทุกอย่างดูนุ่มนวลและผ่อนคลาย เสียงเพลงเปิดคลอเบา ๆ คล้ายโลกนี้ไม่ได้เร่งรีบเหมือนข้างนอก “อ่ะ เดี๋ยวแบมนั่งรอก่อนนะ” เสียงพี่มะเหมี่ยวพูดขึ้นขณะที่เขากำลังจัดแฟ้มเอกสารบนโต๊ะเตี้ยตรงมุมโซฟา “ค่ะ” ฉันพยักหน้าเบา ๆ ก่อนจะนั่งลงตามคำบอก โซฟานุ่มกว่าที่คิด กลิ่นหนังใหม่ผสมกลิ่นหอมอ่อน ๆ ของน้ำยาปรับอากาศ มันช่วยลดความประหม่าไปได้เล็กน้อย ฉันพยายามนั่งหลังตรง ไม่ให้ดูเคอะเขินหรือประหม่าเกินไปแม้ในใจจะเต้นแรงก็ตาม “ป่ะ เดี๋ยวพี่จะพาไปพบคุณคิว เจ้าของที่นี่” เสียงพี่ผู้หญิงคนนั้นพูดขึ้น พร้อมผายมือเชิญ ฉันชะงักเล็กน้อย “อ้าว…ไม่ได้จะสัมภาษณ์กับพี่หรอคะ?” ฉันเอียงคอถามด้วยความแปลกใจ เธอยิ้มบาง ๆ ก่อนตอบด้วยน้ำเสียงราบเรียบ “เปล่าหรอก พี่แค่เป็นคนรับใบสมัคร ดูแลเอกสาร แล้วก็คอยดูแลเด็ก ๆ ในงานน่ะจ้ะ ส่วนเรื่องที่แบมจะได้งานไหม…ก็ขึ้นอยู่กับคุณคิวเขาจะตัดสินใจ” ฉันพยักหน้าช้า ๆ รู้สึกเหมือนหัวใจเต้นแรงขึ้นอีกรอบ คุณคิว…เจ้าของร้าน…ฟังดูมีอำนาจ และไม่ใช่คนธรรมดาแน่ ๆ ฉันลุกขึ้นยืนตามเธอ แล้วเดินตามหลังไปอย่างเรียบร้อย เราผ่านโซนบาร์ ผ่านห้องครัวเล็ก ๆ แล้วมาหยุดที่หน้าประตูไม้ทึบบานหนึ่ง เธอเคาะเบา ๆ แล้วเปิดเข้าไป “คุณคิวคะ เด็กที่มาสมัครวันนี้มาถึงแล้วค่ะ” ในห้องทำงานเล็ก ๆ แต่ตกแต่งทันสมัย ฉันเห็นผู้ชายคนหนึ่งกำลังนั่งเอนหลังบนเก้าอี้หนังสีดำ สวมเสื้อเชิ้ตสีดำพับแขนขึ้นเล็กน้อย ผิวเข้ม หน้าตาคมคาย แววตาคมนิ่งเหมือนนักวิเคราะห์อะไรบางอย่างตลอดเวลา เขาเงยหน้าขึ้นสบตาฉัน แล้ว…ก็ยิ้มนิด ๆ เหมือนจำฉันได้ “แบมแบม?” เสียงทุ้มนั่นพูดออกมาอย่างแปลกใจเล็กน้อย ฉันกระพริบตาปริบ ๆ ทันทีที่ได้ยินชื่อ…และเสียงนั้น “คิว…?” ฉันพึมพำออกมาเบา ๆ ภาพในความทรงจำย้อนกลับมาอย่างรวดเร็ว เพื่อนชายตัวสูงในชุดนักเรียนมัธยมที่ชอบเอาแต่ใจ นั่งหลังห้อง พูดน้อยแต่ขยันส่งสายตามากกว่า “ไม่อยากเชื่อว่าเป็นเธอจริง ๆ” เขาหัวเราะเบา ๆ ก่อนลุกขึ้นเดินมาหา “เธอรู้ไหมว่าตอนเห็นชื่อในใบสมัคร ฉันยังคิดอยู่เลยว่า…มันจะใช่แบมแบมคนนั้นไหม” “ฉันก็ไม่คิดว่าจะเป็นนายเหมือนกันนี่แหละ” ฉันยิ้มเขิน ๆ ความประหม่าเมื่อครู่แทบจะหายวับไปทันที กลายเป็นความเขินผสมความคิดถึงอย่างประหลาด คิวหันไปทางผู้หญิงที่พามา “ไม่ต้องสัมภาษณ์แล้ว พาเธอไปดูงานเลย เดี๋ยวฉันจัดการเอกสารต่อเอง” “เอ๊ะ…ไม่ต้องสัมภาษณ์เลยเหรอ?” ฉันหันไปมองเขาอย่างงุนงง คิวยิ้มขำ “เธอผ่านตั้งแต่เธอก้าวเข้าร้านแล้วล่ะ” เขาหันกลับไปพูดเบา ๆ ว่า… “เพราะมีคนฝากเธอไว้กับฉันเรียบร้อยแล้ว” ฉันขมวดคิ้วเบา ๆ พลางเหลือบตามองเขาอย่างไม่เข้าใจ ฝาก…? ใครฝาก…? แล้วฝากฉัน…ในความหมายไหนกันแน่? แต่คิวก็ไม่พูดอะไรต่อ เขาหันไปหยิบแฟ้มเอกสารบนโต๊ะแล้วเดินนำออกไปอย่างไม่คิดจะอธิบายอะไร “ไปเถอะ เดี๋ยวพี่พาไปดูหน้าร้าน แล้วก็พาแนะนำเด็ก ๆ ด้วยเลย” เขาว่าเรียบ ๆ แต่รอยยิ้มที่ยังติดมุมปากกลับทำให้ใจฉันเต้นแรงกว่าเดิม ฉันลุกขึ้นตามไปแบบงง ๆ แต่ในหัวกลับวนเวียนอยู่กับคำพูดเมื่อกี้ไม่หยุด… “เพราะมีคนฝากเธอไว้กับฉันเรียบร้อยแล้ว…” มันเหมือนการบอกเป็นนัยว่า ‘เธอมีเจ้าของแล้ว’ หรืออย่างน้อยก็มีใครบางคนที่ “เห็นค่า” จนอยากให้เธออยู่ตรงนี้ แต่…ใคร? …… -ฝั่งไทเกอร์- “พี่เกอร์ มีเด็กมาสัมภาษณ์งาน จะดูประวัติก่อนป่ะ?” เสียงคิวดังผ่านทางโทรศัพท์ที่วางบนโต๊ะทำงานในห้องทำเพลงส่วนตัวของไทเกอร์ “ไม่อ่ะ มึงคัดมาแล้วก็น่าจะโอเคอยู่แล้ว” ไทเกอร์ตอบเรียบ ๆ พลางมองจอคอมที่ยังเปิดค้างไว้ตรงหน้าต่าง คิวเป็นรุ่นน้องที่ไทเกอร์สนิทด้วยมาตั้งแต่มัธยม คิวชอบเรื่องธุรกิจ ส่วนไทเกอร์ก็ไม่ใช่คนขี้เกียจจะลงทุนอะไรหากมีเหตุผลพอ คิวเคยบอกว่าอยากเปิดร้านเหล้าสไตล์ญี่ปุ่นผสมความเป็นกันเองแบบบ้าน ๆ แต่ไม่มีทุนมากพอ เลยขอความช่วยเหลือจากไทเกอร์ ตอนแรกคิวเสนอให้ไทเกอร์ถือหุ้น 70% เพราะลงเงินเยอะสุด แต่ไทเกอร์ปฏิเสธทันที “มึงคิดไอเดีย กูแค่ช่วยลงทุน ไม่เอาเปรียบมึงหรอก” คำพูดที่ไทเกอร์พูดกับคิวในวันนั้น ทำให้อีกฝ่ายยิ่งเคารพเขามากขึ้น สุดท้ายจึงกลายเป็นร้านเหล้าเล็ก ๆ ที่เติบโตอย่างมั่นคงภายใต้ชื่อ “ชิวชิว” ร้านที่คนแวะเวียนเข้ามาแทบทุกคืน ร้านที่ตอนนี้…กำลังมีคนที่เขา ‘เผลอใจ’ ให้ไปสมัครงาน ‘แบมแบม’ … ไทเกอร์ถอนหายใจยาว กัดปากล่างเบา ๆ อย่างครุ่นคิด ภาพของหญิงสาวร่างเล็ก ตาโต ใส่เสื้อเชิ้ตสีขาวพับแขนกับยีนส์สีซีดผุดขึ้นมาในหัวอย่างไม่รู้ตัว เธอเป็นเพื่อนของน้องสาวไอแทนไท แจม และเขาเองก็รู้ดีว่าไม่ควรจะมองเธอแบบนี้ ไม่ควรเลยจริง ๆ … แต่ก็ห้ามตัวเองไม่ได้ คิวส่งภาพจากกล้องวงจรปิดมาทางไลน์ให้ดู ภาพที่แบมแบมกำลังนั่งตรงโซฟาหน้าห้องทำงานอย่างเรียบร้อย กำลังเม้มปากนิด ๆ ด้วยความประหม่าแบบน่ารัก ๆ ‘แม่ง…น่ารักฉิบ’ ไทเกอร์สบถในใจ แล้วเสียงคิวก็พูดผ่านโทรศัพท์อีกครั้ง “เออ แล้วพี่ไม่ถามหรอว่าใครมาสมัคร?” ไทเกอร์นิ่งไปครู่หนึ่งก่อนจะตอบสั้น ๆ “ไม่ต้องถามหรอก” “แน่ใจ?” คิวเสียงสูง “เออ ฝากรับด้วยแล้วกัน เพื่อนน้องไอแทนไทมัน” …… -ฝั่งแบมแบม- “มะเหมี่ยว! พาเด็กใหม่ดูร้านหน่อย เดี๋ยวฉันมีประชุมสต๊อกหลังบ้านต่อ” คิวตะโกนเรียกหญิงสาวร่างเล็กแต่ท่าทางแกร่งผ่านเคาน์เตอร์ ผู้หญิงชุดเดรสสีดำ หน้าคม ผิวสองสี รอยสักที่ต้นแขน และดวงตาคมกริบเดินเข้ามาพร้อมยิ้มบาง ๆ “ป่ะ แบม เดี๋ยวพี่จะพาไปแจ้งรายละเอียดต่าง ๆ นะ” ฉันพยักหน้ารับ ก่อนเดินตามพี่มะเหมี่ยวออกมาจากห้องของคิว เจ้าของร้านที่ดูนิ่งแต่แววตาเหมือนรู้อะไรมากกว่าที่พูดอยู่เสมอ พี่มะเหมี่ยวพาฉันเดินเข้ามาในห้องรับรองด้านหลัง ซึ่งแบ่งโซนอย่างชัดเจน ทั้งโซนนักดนตรี, โซนเด็กเสิร์ฟ, โซนทำความสะอาด และโซนสุดท้ายที่เราหยุดอยู่ตรงหน้าก็คือ โซนเด็กดริ้ง หรือที่เรียกกันว่าโซน “เอ็นเตอร์เทน” ห้องไม่ได้หรูหราอะไรมาก แต่ก็สะอาดและจัดเป็นระเบียบกว่าที่ฉันคาดไว้ กลิ่นหอมอ่อน ๆ จากเครื่องฟอกอากาศทำให้บรรยากาศดูผ่อนคลายขึ้นนิดหน่อย “โอเค แบม ฟังพี่นะ ที่นี่เข้างานก่อนหนึ่งทุ่มนะจ๊ะ ถ้าวันไหนมีกิจกรรมที่มหาลัย หรือมีเหตุจำเป็นเลิกช้ามาก ๆ ก็แจ้งพี่ล่วงหน้าสักชั่วโมง พี่เข้าใจ เพราะหลายคนก็ยังเรียนกันอยู่เหมือนกัน” ฉันพยักหน้ารับ ตั้งใจฟังแม้จะเริ่มรู้สึกตื่นเต้นนิด ๆ กับสิ่งที่จะได้เจอ “เรื่องรายได้ก็ตามที่ประกาศไว้เลย ทิปเฉลี่ยต่อคืนประมาณ 2,000–4,000 แล้วแต่วัน บางวันก็ได้มาก บางวันก็เบา ๆ หน่อย แต่เงินเดือนพื้นฐานทางร้านจะโอนให้ทุกสิ้นเดือนนะจ๊ะ” 2,000–4,000 ต่อคืน… ฉันแอบกลืนน้ำลายเบา ๆ ตัวเลขมันไม่น้อยเลยสำหรับนักศึกษาคนหนึ่งที่ต้องใช้เงินเรียน และยังไม่กล้าขอพ่อแม่เพิ่ม “เลิกงานประกาศไว้ว่าไม่เกินเที่ยงคืน แต่เอาจริง ๆ ก็อยู่ที่ลูกค้าและบรรยากาศในวันนั้น บางวันคนแน่น บางวันก็ซา ๆ เลิกช้าสุดก็ไม่เกินตีสาม พอจะโอเคไหม?” ฉันยิ้มบาง ๆ ก่อนตอบไปเสียงเบาแต่ชัดเจน “โอเคค่ะ ขอบคุณพี่มะเหมี่ยวนะคะ” เธอยิ้มรับอย่างใจดี ก่อนจะพูดต่อด้วยน้ำเสียงที่เหมือนจะสบาย ๆ แต่แฝงไว้ด้วยความจริงจัง “อ้อ… ลืมบอกไปอีกเรื่อง เรื่องการแต่งตัวนะ แบม พี่ขอให้แต่งให้มันพอ ‘โชว์’ หน่อย ไม่ต้องโป๊จนเกินไป เอาแบบที่ดูดี มีเสน่ห์ เรียกแขกได้ แต่ยังดูแพง ไม่ใช่แนวโป๊จนดูน่าอึดอัด หรือแต่งแบบที่เห็นแล้วอยากหลบตาน่ะ เข้าใจใช่ไหม?” ฉันพยักหน้าเร็ว ๆ พอจะนึกออกอยู่บ้างว่าเส้นบาง ๆ ระหว่าง ‘เซ็กซี่ดูดี’ กับ ‘โป๊เกินพอดี’ มันอยู่ตรงไหน พี่มะเหมี่ยวถอนหายใจนิด ๆ เหมือนจะบ่นกับตัวเองมากกว่าจะพูดกับฉัน “เด็กในร้านบางคนชอบแต่งแบบโชว์ทุกอย่าง… โอเค เข้าใจแหละว่าอยากให้ลูกค้าเข้าหา แต่มันกลายเป็นดูไม่มืออาชีพ พี่ดูแล้วก็หนักใจหน่อย ๆ เพราะบางทีก็เหมือนจะกลายเป็นอีกอาชีพนึงไปเลย” ฉันกลืนน้ำลายเบา ๆ ไม่กล้าถามว่าพี่หมายถึงอะไร แต่พยักหน้าอย่างเข้าใจและตั้งใจจะไม่ทำให้ผิดหวัง “แค่แต่งให้เหมาะกับร้าน เหมาะกับตัวเอง ไม่ต้องเป๊ะทุกวัน แต่ให้รู้ว่าตัวเองอยู่ในสายตาลูกค้า และในฐานะทีมของเรา โอเคไหม?” “โอเคค่ะพี่มะเหมี่ยว” ฉันตอบกลับไปทันทีด้วยรอยยิ้มบาง ๆ พี่มะเหมี่ยวหัวเราะเบา ๆ พลางตบบ่าฉันเบา ๆ อย่างให้กำลังใจ “ดีมาก เดี๋ยวไปเปลี่ยนเสื้อผ้า เตรียมตัวไว้เลยนะ เดี๋ยวจะให้พี่มุกพาไปแนะนำตัวกับเด็ก ๆ ในทีม แล้วเดียวเริ่มงานเลย วันแรกพี่จะอยู่ดูให้ก่อน อย่ากลัว พี่ไม่ปล่อยให้ลอยแพแน่นอน” ฉันยิ้มออกมาได้กว้างขึ้นเล็กน้อย แม้ใจยังเต้นแรงกับสิ่งที่กำลังจะเริ่มต้น แต่ก็รู้สึกว่า…อย่างน้อย ฉันก็มีพี่มะเหมี่ยวอยู่ตรงนี้ วันแรกการทำงาน ฉันยังไม่ได้เตรียมตัวอะไรมามากเลยจริง ๆ ไม่มีแม้แต่เสื้อผ้าที่จะใส่ทำงานให้เหมาะกับที่นี่ด้วยซ้ำ โชคดีที่ทางร้านมีชุดสำรองไว้ให้สำหรับเด็กใหม่ที่ยังไม่มีอะไรพร้อม พี่มะเหมี่ยวพาฉันมาที่ห้องเก็บชุดด้านใน เป็นห้องเล็ก ๆ ที่เต็มไปด้วยราวแขวนเสื้อผ้าหลากสีสัน ทั้งเดรส เสื้อครอป กางเกงขาสั้น ชุดกระโปรง ชุดกางเกงบอดี้สูท แต่ละชุดดูโดดเด่น แตกต่างกันไป บางชุดดูหวาน บางชุดดูเปรี้ยว บางชุดก็…แทบจะเรียกว่าแรงไปเลยก็ยังได้ ฉันมองไล่ไปทีละชุด พยายามมองหาชุดที่มัน “พอดี” กับตัวเอง ทั้งรูปร่าง ความมั่นใจ และบุคลิก แต่ก็เลือกไม่ค่อยถูก จนสายตาไปสะดุดเข้ากับ ชุดเดรสสีดำตัวหนึ่ง มันไม่ใช่ชุดที่โป๊จนเกินไป… แต่ก็ไม่ใช่ชุดธรรมดา เดรสสีดำเรียบแต่แอบแซ่บ เว้าตรงเอวทั้งสองข้างจนเห็นผิวเนื้อเบา ๆ กระโปรงยาวระดับต้นขา แต่มีผ่าข้างขึ้นมานิดหน่อย เผยเรียวขาพอประมาณ มันไม่ใช่สไตล์ที่ฉันเคยใส่ แต่… ทำไมก็ไม่รู้ ฉันกลับรู้สึกว่า “มันใช่” ฉันลองถือมันขึ้นมาทาบตัวหน้ากระจกในห้อง มันดูไม่แรงเกินไป แต่ก็ดูสะดุดตา มีเสน่ห์ ถ้าฉันใส่ด้วยความมั่นใจ…ก็คงพอไปได้ “ชุดนี้ดีนะ ดูแพง แต่ไม่โป๊เกิน” เสียงพี่มะเหมี่ยวพูดขึ้นเบา ๆ ข้างหลังฉัน ทำฉันสะดุ้งเล็กน้อย “เอ่อ…ใช่ไหมคะ?” ฉันหันไปถามเสียงแผ่ว พร้อมรอยยิ้มเขิน ๆ “ใส่เลย เดี๋ยวพี่ออกไปรอข้างนอก” ฉันพยักหน้า ก่อนเดินเข้าห้องเปลี่ยนเสื้อผ้าเล็ก ๆ ที่อยู่ด้านใน มือสั่นนิด ๆ ตอนรูดซิปขึ้น รู้สึกตื่นเต้นแปลก ๆ เหมือนกำลังจะก้าวเข้าสู่โลกที่ไม่เคยรู้จัก แต่ในใจกลับบอกตัวเองว่า… “ลองดูสักตั้ง…เพราะนี่คือโอกาส ที่ฉันเลือกเดินเข้ามาเอง” ฉันสูดหายใจเข้าลึก ๆ ก่อนจะเปิดประตูห้องเปลี่ยนเสื้อผ้าออกมา เสียงเพลงเบสหนักจากด้านนอกยังคงดังก้องเป็นจังหวะสม่ำเสมอ ปะปนกับเสียงพูดคุยของพนักงานคนอื่น ๆ ที่เริ่มทยอยเข้าร้าน ทันทีที่ฉันก้าวออกจากห้อง เปลี่ยนตัวเองจากเด็กสาวมหาลัยธรรมดา มาเป็นใครอีกคนหนึ่งในชุดเดรสดำแนบเนื้อ ทุกสายตาในห้องรับรองดูเหมือนจะหันมามองพร้อมกันโดยไม่ได้นัดหมาย พี่มะเหมี่ยวที่ยืนพิงประตูอยู่ถึงกับผิวปากเบา ๆ แล้วพูดออกมาอย่างไม่ลังเล “โอ้โห…แบมมาเต็มนะจ๊ะลูก! สวยเกินหน้าเด็กใหม่แล้วมั้งเนี่ย!” ฉันยิ้มเขิน ๆ ก่อนจะหลบสายตาทุกคน แล้วพยายามเดินอย่างมั่นใจแม้ส้นสูงจะยังไม่คุ้นเท่าไร “ขอบคุณค่ะ…” ฉันตอบเบา ๆ ในหัวคิดอย่างเดียว อย่าหกล้ม…อย่าหกล้ม…อย่าหกล้ม… ขณะฉันเดินผ่านกลุ่มเด็กดริ้งค์ที่นั่งรวมกันอยู่ ได้ยินเสียงกระซิบกระซาบบางอย่างแว่วมา “เด็กใหม่เหรอ? …น่ารักว่ะ…” “ดูเรียบร้อยแต่แอบแซ่บอยู่นะ” “ใครพามาวะ…ของฝากใครหรือเปล่า?” ฉันทำเป็นไม่ได้ยิน พยายามเดินตามหลังพี่มะเหมี่ยวไปเรื่อย ๆ แต่ก็รู้สึกถึงสายตาใครบางคนที่ยังจับจ้องมาอยู่ตลอดเวลา ไม่ใช่แบบลามก…แต่เป็นสายตาที่เหมือน ‘รู้จัก’ ฉันอยู่ก่อนแล้ว ฉันเหลือบมองอย่างเร็ว ๆ และเห็นผู้ชายคนหนึ่งยืนพิงผนังอยู่มุมห้อง เขาไม่ได้อยู่ในชุดพนักงาน แต่ก็ไม่ได้แต่งตัวเหมือนลูกค้าทั่วไป เสื้อเชิ้ตแขนยาวพับขึ้นถึงศอก ผิวขาวจัด หน้าตาคมคาย และที่สำคัญ แววตาเย็นเฉียบจนใจฉันเต้นผิดจังหวะ ฉันเบือนหน้าหนีแทบจะทันที …แต่ในใจกลับสั่นอย่างบอกไม่ถูก “ป่ะ เดี๋ยวพี่พาไปแนะนำให้รู้จักกับเพื่อนร่วมงานก่อน แล้วเดี๋ยวคืนนี้พี่จะช่วยดูให้ แรก ๆ ยังไม่ต้องลงโต๊ะจริงก็ได้ ให้ลองซ้อมก่อน” เสียงพี่มะเหมี่ยวเรียกสติฉันกลับมาได้อีกครั้ง ฉันพยักหน้าเร็ว ๆ เดินตามเธอไป แต่ก็ยังรู้สึกได้ถึงสายตาคู่นั้น…ที่ยังจับจ้องมาอยู่เงียบ ๆ ไม่ห่าง
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD