ผ่านไปหนึ่งก้านธูป จานอาหารก็ถูกเก็บออกไป สามแม่ลูกย้ายมานั่งที่เก้าอี้อีกมุม ยามนี้สีหน้าของสองพี่น้องดูหม่นลง ต่างจากตอนทานอาหารยิ่งนัก “ทำหน้าเช่นนี้ สืบเรื่องมารดาของนางได้แล้วหรือ” เอ่ยถามในสิ่งที่ตนสงสัยทันที ก่อนที่แม่นมกุ้ยจะไล่บ่าวไพร่ออกไป เหลือก็เพียงคนสนิทของสองพี่น้องยืนเฝ้าอยู่ด้านหน้า กันไม่ให้ใครมาแอบฟัง “เราสืบทราบแล้วขอรับว่ามารดาของซือซืออยู่ที่ใด” เป็นหมิงซีที่เกริ่นขึ้นมาก่อน “รู้แล้ว? เช่นนั้นนางเป็นสตรีในหอนางโลมจริงหรือ” รีบถามในสิ่งที่อยากรู้ทันที หากไม่ใช่นางจะได้เปิดใจรับสตรีของบุตรชายเสียที เพราะเท่าที่เห็นซือซือไม่ได้เลวร้ายอันใด นางก็แค่ตั้งป้อมปกป้องตนเองจากคนที่คิดร้ายเท่านั้น จึงได้แสดงท่าทีแข็งกร้าวออกมาให้เห็น “มารดาซือซืออยู่ที่สุสานทาสขอรับ นางเคยอยู่ในหอนางโลมจริง คนในหอชิงเซียงบอกว่านางป่วยตายเมื่อสามปีก่อน จึงถูกฝังไว้โดยไร้ญาติขาดมิตร มีเพียงจดห