เหมือนฝันกลับถึงบ้านในเวลาเกือบสองทุ่มเพราะสภาพการจราจรที่ติดขัด อีกทั้งบ้านของเธอยังอยู่ไกลจากบริษัทพอสมควร แม้ว่าเงินเดือนเลขาฯ ของเธอจะสูงถึงเดือนละห้าหมื่นบาทพอให้เธอสามารถผ่อนบ้านใกล้ที่ทำงานได้แต่รายจ่ายของเธอก็มีหลายอย่าง ทำให้การพักที่บ้านซึ่งเป็นมรดกเพียงชิ้นเดียวที่พ่อแม่ทิ้งไว้จึงช่วยให้ประหยัดค่าใช้จ่ายมากกว่า
หลังจากที่เธอทำงานได้ประมาณหกเดือน หญิงสาวก็จำเป็นต้องผ่อนรถเก๋งญี่ปุ่นขนาดกลางเพื่อความสะดวกในการทำงานและการเดินทาง และเพราะตอนนั้นยังมีเงินเดือนเพียงสองหมื่นต้นๆ เธอจึงเลือกที่จะใช้เวลาผ่อนหกปีเพื่อให้จ่ายรายเดือนน้อยลง เนื่องจากเธอมีภาระที่จะต้องส่งน้องชายวัยรุ่นเรียนมัธยมปลายด้วย
และในตอนนี้น้องชายตัวดีก็เรียนอยู่คณะวิศวกรรมโยธาในชั้นปีที่สองแล้ว หากอีกสองปีน้องชายเรียนจบมีงานทำ เธอคงจะได้เริ่มเก็บเงินอย่างจริงจังเสียที
“กลับมาแล้วเหรอครับพี่ดรีม ผมทำกับข้าวไว้รอแน่ะ พี่จะกินเลยมั้ยครับ หรือไปอาบน้ำก่อน”
เมธาวิน หรือ โดม หนุ่มหล่อผิวสีแทนและมีความสูงถึงหนึ่งร้อยเจ็ดสิบเซนติเมตรวัยยี่สิบปี เงยหน้าจากหนังสือในมือแล้วส่งยิ้มให้พี่สาว
เขารู้ว่าเธอต้องทำงานหนักเพื่อส่งให้เขาได้เรียนในมหาวิทยาลัยดีๆ เขาจึงขยันและตั้งใจเรียนเพราะไม่อยากให้เธอรู้สึกผิดหวังที่รับน้องชายต่างแม่คนนี้มาเลี้ยงดูตั้งแต่พ่อของพวกเขาเสียไป
ส่วนแม่ของเขานั้นทิ้งไปแต่งงานใหม่ตั้งแต่เขามีอายุเพียงห้าขวบ เขาจึงรักและเคารพเธอเหมือนกับแม่แท้ๆ มากกว่าจะเห็นเธอเป็นพี่สาวเสียอีก
“ขออาบน้ำก่อนก็แล้วกันจ้ะ แล้วโดมกินหรือยังล่ะ”
“ยังครับ ผมรอกินพร้อมพี่ดรีม”
“โอเค งั้นพี่จะรีบอาบนะ”
“ครับ เดี๋ยวผมไปตั้งโต๊ะรอนะ”
“จ้ะ” เหมือนฝันพยักหน้ารับก่อนจะก้าวขึ้นไปบนชั้นสองของบ้านปูนสองชั้นที่มีอายุมากกว่ายี่สิบปี แต่เพราะเธอหมั่นดูแลและปรับปรุงมาตลอด ล่าสุดเธอก็ใช้เงินโบนัสที่ได้จากปีก่อนมารีโนเวทใหม่ในบางส่วนให้มีความเป็นมินิมอลมากขึ้น มันก็เลยยังสวยงามและสะอาดสะอ้านไม่ต่างจากบ้านใหม่ แถมยังมีพื้นที่กว้างขวางถึงสองร้อยตารางวา เธอจึงปลูกต้นไม้เอาไว้รอบบ้านและมีสวนดอกไม้เล็กๆ หน้าบ้านเพื่อผ่อนคลายในวันหยุด
“วันนี้ผลสอบกลางภาคออกแล้วนะครับ ผมได้คะแนนเกือบเต็มด้วย นี่ครับ” เขานำผลคะแนนสอบมาให้พี่สาวได้ดูด้วยความภาคภูมิใจขณะนั่งกินมื้อเย็นด้วยกันในเวลาเกือบสามทุ่ม
“เก่งมากจ้ะ แต่ก็อย่าเครียดมากนะ พี่เห็นเราอ่านหนังสือดึกทุกคืนเดี๋ยวร่างกายจะรับไม่ไหวเอา”
“ครับ ช่วงนี้ไม่มีสอบแล้วผมก็ไม่นอนดึกแล้วล่ะครับ แล้ววันนี้ทำไมกลับช้าจังล่ะครับ งานเยอะเหรอ”
“ก็ด้วยแหละจ้ะ แต่เหตุผลหลักก็คือรถติดน่ะ”
“อีกหน่อยถ้าผมเรียนจบแล้วผมจะทำงานเก็บเงินแล้วเราไปซื้อบ้านอยู่ใกล้ๆ บริษัทพี่ดรีมกันนะครับ ผมเห็นพี่ต้องขับรถไกลๆ แล้วเหนื่อยแทนเลย”
“ซื้อบ้านก็เป็นหนี้ก้อนใหญ่เลยนะ อีกอย่างอยู่บ้านนี้ก็ดีอยู่แล้ว แค่พื้นที่ก็กว้างขวางอากาศก็ดีกว่าอยู่ในตัวเมืองตั้งเยอะแน่ะ ถ้าอยากซื้อบ้านใหม่จริงๆ ก็รอโดมมีแฟนแต่งงานมีครอบครัวค่อยซื้อดีกว่าจ้ะ”
“แล้วถ้าพี่ดรีมแต่งงานมีครอบครัว พี่ดรีม...จะอยู่ที่นี่มั้ยครับ”
“ก่อนจะถามเรื่องแต่งงานมีครอบครัว ถามก่อนมั้ยว่าพี่หาแฟนได้ยัง” เธอบอกยิ้มๆ
“ก็พี่ดรีมไม่ยอมหาเองนี่นา ที่บริษัทไม่มีใครเข้าตาบ้างเลยเหรอครับ”
“แล้วใครเป็นคนบอกให้พี่สวมแว่นไว้ตลอดล่ะ”
“โธ่ ก็ตอนนั้นผมหวงพี่มากนี่นาเลยพูดไปอย่างนั้นเอง ใครจะไปรู้ว่าพี่จะใส่แว่นมานานขนาดนี้กันล่ะ แต่ผมพูดจริงๆ นะพี่ดรีม พี่สาวผมก็ไม่ได้ขี้ริ้วขี้เหร่ซะหน่อย ถ้าถอดแว่นออกนะ ผมว่าดาราสาวหลายๆ คนยังสู้ไม่ได้เลย ทำไมถึงยังหาแฟนไม่ได้ซะทีล่ะครับ ผมว่าคงไม่ใช่เพราะแว่นนี่หรอกมั้ง พี่ไม่ยอมหาเองรึเปล่า”
ได้ยินน้องชายพูดแบบนั้นเธอก็เผลอคิดไปถึงคำพูดของเจ้านายหนุ่มรวมถึงข้อเสนอที่เธอไม่แน่ใจว่าเขาพูดเล่นหรือพูดจริงกันแน่
“แน่ะ มีแล้วสินะครับถึงได้หน้าแดงเชียว” เสียงน้องชายปลุกเธอให้ตื่นจากภวังค์
“พี่เหรอหน้าแดง” เธอยกมือขึ้นกุมแก้มนุ่มทั้งสองเอาไว้แล้วก็พบว่ามันร้อนผ่าวอย่างไรชอบกล
“ก็พี่น่ะสิครับ แปลว่ามีแล้วใช่มั้ย”
“มีอะไรจ๊ะ”
“ก็คนที่เข้าตาไงครับ ใครเหรอ บอกผมบ้างสิ เดี๋ยวผมจะช่วยดูให้ว่าผู้ชายคนนั้นจริงจังหรือจริงใจรึเปล่า”
“ไม่มีหรอกจ้ะ พี่คงไม่ค่อยสบายมั้งเลยหน้าแดง เหมือนจะปวดหัวนิดๆ น่ะ” เธอแกล้งบอก
“อ้าวเหรอครับ ปวดมากมั้ยเดี๋ยวผมหายาให้”
“ไม่เป็นไรจ้ะคงเพลียจากการขับรถน่ะ เดี๋ยวนอนพักคงหาย รีบกินข้าวเถอะ พรุ่งนี้พี่ว่าจะแวะไปใส่บาตรให้พ่อกับแม่ที่หน้าตลาดก่อนเข้าบริษัทหน่อย”
“ก็ได้ครับ แต่ผมพูดจริงนะเรื่องที่ว่าผมช่วยดูให้ได้น่ะ ผู้ชายด้วยกัน มองตาแปบเดียวก็รู้ครับว่ามาดีหรือร้าย”
“จ้า เอาไว้ให้พี่หาได้สักคนก่อนนะ แล้วจะพามาให้ดูตัว”
“โอเคครับ” หนุ่มหล่อยิ้มแป้น แต่สักพักก็รู้สึกแน่นหน้าอกจนต้องยกมือขึ้นนวดเบาๆ ทำให้เหมือนฝันมองอย่างสงสัย
“เป็นอะไรน่ะโดม”
“เปล่าครับ ไม่มีอะไร แค่...รู้สึกจุกเสียดตรงหน้าอกนิดหน่อย สงสัยอาหารไม่ย่อยมั้ง”
“อาหารไม่ย่อยทำไมไปจุกตรงหน้าอกล่ะ ไปหาหมอดีมั้ย”
“ไม่เป็นไรครับ ตอนนี้ก็ดีขึ้นมากแล้วล่ะ กินข้าวเถอะครับ ผมก็ชักจะง่วงแล้วเหมือนกัน”
“ดีขึ้นแล้วแน่นะ” เธอมองเขาอย่างไม่สบายใจนัก
“แน่ครับ”
เขารีบบอกเพื่อไม่ให้เธอเป็นกังวลไปด้วย แม้ช่วงนี้เขาจะมีอาการแน่นหน้าอกและหายใจไม่ค่อยออกอยู่บ่อยๆ แต่ก็คิดว่าเขาคงพักผ่อนน้อยเกินไปเพราะอ่านหนังสือจนดึกเกือบทุกคืนนั่นเอง