เมื่อกลับถึงบ้าน วราภัคให้ลูกเข้าไปเปลี่ยนเสื้อผ้า ส่วนเธอเปิดกระเป๋านักเรียน ก็พบกับซองจดหมายทวงค่าเทอมแล้วเธอก็ต้องถอนหายใจ
ขณะที่นั่งคิดเรื่องเงินก้อนค่าเทอมลูกชาย เด็กน้อยก็วิ่งเอากระปุกออมสินของตัวเองออกมา
“แม่ฮะ...เงินที่ป๋มเก็บไว้ ให้แม่ฮะ” เควินยกกระปุกอันหนักอึ้งของตัวเองออกมา เงินวันละ 40 บาทที่แม่เคยให้เขาไปโรงเรียนทุกวันจะไม่ได้ใช้เลย เขาเก็บหยอดกระปุกไว้ทุกวันจนเต็มและยกให้แม่
วราภัคมองลูกชายตาพร่ามัวด้วยม่านน้ำตา ลูกชายของเธอช่างเป็นเด็กที่ดีจริง ๆ จนหัวใจที่เข้มแข็งของคนเป็นแม่อ่อนยวบรั้งลูกชายมากอดทั้งน้ำตา
“แม่ขอโทษลูก...ฮึก...แม่ขอโทษ” เธออยากให้ลูกของเธอได้สิ่งที่ดีกว่านี้ เพราะเธอมันจน เธอไม่เอาไหน หาสิ่งที่ดีให้กับลูกไม่ได้ เพราะความหน้ามืดตามัวของตัวเองเพียงต้องการประชดใครคนนั้น จึงทำให้อีกชีวิตต้องมาลำบากกับเธอด้วย
“แม่ฮะ...อย่าร้องสิ...ฮึก...ฮะ...แม่ร้องป๋ม...ป๋ม...
ป๋ม...ก็อยากร้องด้วยนะฮะ” แม่สอนว่าลูกผู้ชายต้องไม่ร้องไห้ แต่เมื่อเห็นน้ำตาของผู้เป็นแม่ เด็กชายเควินก็ไม่อาจจะกลั้นน้ำตาไว้ได้
มือเล็กป้อมของเขายกมือขึ้นเช็ดน้ำตาให้กับผู้เป็นแม่ เขาอยากโตเร็ว ๆ ช่วยแม่ทำงานหาเงินให้มาก ๆ แม่จะได้สบาย
“โถ...เควินลูกรักของแม่...แม่ไม่ร้องหนูก็อย่าร้องนะลูก เราต้องสู้ไปด้วยกัน” เธอเอามือเช็ดน้ำตาให้ลูกชาย ก่อนจะพยายามกลั้นน้ำตาไว้ไม่ให้ร้องออกมา เพราะลูกชายเธอร้องไห้จะปวดหัว
“มาครับหิวหรือยังเดี๋ยวแม่ทำกับข้าวอร่อย ๆ ให้หนูกินนะครับ” เธอหุงข้าวในหม้อเล็ก แล้วก็เปิดตู้เย็นหยิบไข่ออกมา ทำไข่ข้น แล้วก็ทอดเบคอนไว้พร้อม ๆ กัน
เวลาผ่านไป 15 นาที กับข้าวก็สุกพร้อมรับประทาน เธอตักข้าวใส่จานให้ลูกแล้วก็ตักกับข้าวโรยหน้าให้ดูน่ากิน
หญิงสาวยกกล้องขึ้นมาถ่ายวิดีโอขณะที่ลูกน้อยทานข้าว แล้วอัพลงโซเชียล เพื่อเป็นช่องทางการโปรโมตร้านของเธอไปในตัว
“แม่ไม่ทานเหรอฮะ”
“ลูกทานเถอะ...แม่ทานมาจากที่ทำงานแล้ว” เธอต้องโกหกลูกแบบนี้ทุกวัน อาหารที่เธอทานก็เป็นไข่ต้มในตอนเช้าแค่สองฟอง แล้วก็ผักเหลือ ๆ ที่ทำอาหารเดลิเวอรี่ส่ง ดูเหมือนเป็นอาหารสุขภาพ แต่สภาพและฐานะอย่างเธอกินแค่นี้ก็พอแล้ว ที่เหลือเก็บไว้ให้ลูก
ยิ่งวันนี้เห็นลูกเธอเอากระปุกออมสินมาให้ คนเป็นแม่รู้สึกสิ้นหวัง เขานับเงินในกระปุกของลูกชายมันมีถึง 25,000 บาท ทำให้เธอรับรู้ว่าตลอดเวลาลูกไม่ได้ใช้เงินของเธอที่ให้ทุกวันเลย แค่คิดหัวอกคนเป็นแม่แทบแหลกสลาย
ขนาดลูกชายยังรับรู้ว่าเธอเดือดร้อนเรื่องเงิน แล้วจะให้เธอใช้เงินลูกชายได้อย่างไร
เธอนับและเก็บไว้จะเอาไปเข้าบัญชีให้กับลูกชาย เงินส่วนนี้จะช่วยให้อนาคตของเด็กน้อยมั่นคง เธอจะไม่ให้ลูกต้องมาลำบากเหมือนกับเธออีก ชีวิตที่ไร้ต้นทุนมันทุกข์แค่ไหนเธอรับรู้ได้ดี
รุ่งเช้าวันถัดมา เธอพาลูกชายตื่นแต่เช้า เพราะให้
เควินนอนตั้งแต่สองทุ่ม ต่อให้ตื่นตีห้าอาบน้ำแต่งตัวเพื่อนั่งรถเมล์มาโรงเรียนแต่เช้า ลูกชายเธอก็ไม่งอแง คนเป็นแม่อย่างเธอก็ได้แต่อดทนแม้จะนอนทีหลัง แต่ก็ไปแอบงีบตอนพักเที่ยงได้
วันนี้เด็กหญิงปานดาวอยู่ในความดูแลของผู้ปกครองที่ชื่อชวกร เนื่องจากคุณพ่อกับคุณแม่ไปทำน้องและวันนี้คุณอาฉุดหล่อของเธอชวนมาโรงเรียนแต่เช้า เพื่อมาดักรอดูแฟนของหลานสาวปานดาว
“ปานดาวขา...แฟนปานดาวเขาจะมาโรงเรียนไหม” ชายหนุ่มผู้หวงหลานสาวยิ่งกว่าพ่อและแม่มองที่หน้าโรงเรียนอย่างใจจดใจจ่อ และรอให้เด็กหญิงปานดาวทานแซนด์วิชที่แวะซื้อมาให้ทานก่อนเข้าโรงเรียนให้อิ่มอีกด้วย
“มาค่ะ หากคุณแม่วราสบายดี เควินก็จะมาโรงเรียน” เสียงใสของหลานสาวบอกกับคุณอาหนุ่ม ที่ตื่นเต้นมาก ๆ กับการมาเจอแฟนของเด็กน้อย
เมื่อทานแซนด์วิชเสร็จแล้ว เขาก็จัดการเช็ดปากให้กับคุณหลานคนสวย ทั้งวันนี้ยังเปียผมให้เองกับมือ ดูแลยิ่งกว่าพ่อมันที่ชื่อมาวินเสียอีก คงเพราะเขาอยากมีลูกแต่ทว่าก็ไม่เคย Move on จากหญิงสาวเมื่อ 6 ปีก่อนได้เลย จึงเอาหลานมาเลี้ยงอยู่บ่อย ๆ
“แฟนปานดาวชื่ออะไรคะ คนฉวยของอา”
“ชื่อน้องเควินค่ะ”
“ชื่อฝรั่งด้วย เป็นลูกครึ่งหรือเปล่าน้า”
“ลูกครึ่งคืออะไรเหยอคะ” เด็กหญิงปานดาวเอียงถาม
“ก็พ่อของเควินนะสิ เป็นชาวต่างชาติหรือเปล่า” ไม่รู้ทำไมถึงอยากรู้เรื่องหนุ่มของหลานสาววัยห้าขวบมากนักก็ไม่รู้ รู้แต่ว่าอยากรู้จัก และก็อยากรู้ด้วยว่าครอบครัวเขาเป็นอย่างไร จะเหมาะกับหลานสาวไหม
คนที่คิดไปไกล สมองประมวลผลแล้วประมวลผลอีก แต่เขาคงลืมนึกไปว่าเด็กน้อยเพิ่งอายุ 5 ขวบเท่านั้น
“ไปยืนรอที่หน้าโรงเรียนดีกว่าค่ะ” เด็กหญิงปานดาวจูงมือคุณอาหนุ่มไปยืนรอแฟนของเธอที่หน้าโรงเรียน
“ใครมาส่งน้องเควินคะคนสวย”
“อุนแม่ค่ะ อุนแม่วรา” แค่ฟังชื่อเขาก็สะดุดแล้ว ไม่รู้ว่าชื่อนี้เคยได้ยินไหม แต่สะดุดใจชอบกล ทั้งหัวใจก็เต้นถี่รัวราวกับมาดูตัวว่าที่หลานเขยก็ไม่ปาน
“โน้นค่ะ...อูนแม่วรามาแย้ว” ปานดาวดิ้นลงจากอ้อมกอดของคุณอาชวกรเพื่อจะวิ่งไปหาอุนแม่วราของเธอ
ชวกรมองตามมือหลานสาว แล้วก็ต้องตกใจเมื่อวราคนนี้คือคนที่เขาหิ้วไปนอนด้วยเมื่อ 6 ปีก่อน ก่อนที่เขาจะเข้ามารับหน้าที่แทนไอ้เพื่อนตัวแสบที่ถือโอกาสป่วยแล้วโยนงานให้เขา
“คุณ!” วราเองก็ตกใจเมื่อเห็นเขา เธอดึงมือลูกชายไว้แน่น ใบหน้าส่อเค้าดีเอ็นเอของคนที่อยู่ตรงหน้าจนเธอต้องหลบสายตา
“นี่...”
“เควินลูกของฉันค่ะ” วราตอบโดยไม่สบตา แล้วก็นั่งลงสวัสดีสาวน้อยปานดาว
“วันนี้คุณพ่อกับคุณแม่ไม่ได้มาส่งเหรอคะ คนฉวย”
“ป่าวค่า คุณพ่อกับคุณแม่ไปฮันนีมูนทำน้องให้ปานดาวค่ะ วันนี้อากรเลยมาส่งแทน” เด็กสาวเล่ายาวอย่างน่ารักจนคนฟังอมยิ้มตาม
“ขอให้ปานดาวมีน้องเร็ว ๆ นะคะ”
“เควินก็อยากมีน้องนะคะ คุณแม่วราก็สู้นะคะ” เด็กน้อยเลียนแบบบิดาที่กำมือยกขึ้นแล้วบอกสู้ ๆ
“เอ่อ...”
“เรามีไม่ได้หรอกปานดาว เราไม่มีพ่อ” เสียงเศร้าของเด็กชายตรงหน้าทำให้ชวกรสะดุดใจ เขารับรู้ว่าต้องมีปัญหาบางอย่างเกิดขึ้นกับเธอเป็นแน่
“เควินมีแม่แล้วไงคะลูก แม่จะเป็นทั้งพ่อและแม่ให้เควินเอง”
“เควินอยากมีพ่อเหมือนคนอื่น” เด็กน้อยมองไปยังเพื่อน ๆ ที่มีทั้งพ่อและแม่มาส่งด้วยกัน เขาเกิดมาก็มีเพียงแม่คนเดียวที่เลี้ยงมา ไม่เคยได้รับความอบอุ่นจากพ่อเลยสักครั้ง
ชวกรมองเห็นความซึมเศร้าในดวงตาคู่เล็กที่มองไปรอบ ๆ เขาเจ็บปวดใจยิ่งนักเมื่อเห็นแววตาคู่นี้ อะไรบางอย่างทำให้เขาคิดแล้วก็สงสัย
“ส่งเด็ก ๆ แล้วคุยกันหน่อย”
“คะ...คะ...คุย”
“อื้ม” เขาว่าจบแล้วเดินนำเธอไปที่รถ และเห็นว่าเธอนั่งรถเมล์มาจึงอยากไปส่งเธออีกด้วย