ตอนที่ 8

1508 Words
หญิงสาวเดินออกมาจากห้องนอนเพื่อจะมาดูอารอน พอมาถึงปรากฏว่าเขาไม่อยู่แล้ว ผ้าห่มที่เธอนำมาให้เขาก้ถูกพับไว้อย่างเรียบร้อย อย่างนี้จะไม่ให้เธอเชื่อว่าเขาเป็นเกย์ได้อย่างไร แถมเธอยังเคยเห็นพฤติกรรมของที่บ่งบอกว่าเขาเป็นเกย์มาแล้ว บอกเลยเธอเชื่อสนิทใจ หญิงสาวเดินไปหยิบผ้าห่มแล้วเดินเอาเข้าไปเก็บที่ตู้ตามเดิม ก่อนไปทำงานเธอมักจะหาอะไรรองท้องก่อนเสมอ ก็มื้อเช้าเป็นมื้อที่สำคัญที่สุด มีครั้งหนึ่งที่เธอรีบมากจนลืมกินมื้อเช้า ผลปรากฏว่าเธอไปวูบอยู่ที่ทำงาน ลำบากถึงเพื่อนร่วมงานที่ต้องวิ่งวุ่นมาช่วยดูแลเธอ ทั้งเข็ดทั้งอาย นับจากวันนั้นเป็นต้นมาเธอก็ไม่เคยลืมกินมื้อเช้าอีกเลย ปรียาภัทรเดินตรงไปยังห้องครัว กาแฟร้อนๆ สักแก้วกับคุกกี้ที่ไมเคิลเพื่อนข้างห้องซื้อมาฝากเมื่อคืนก็เข้าท่าดี เธอเข้าไปหยิบแก้วกาแฟ กดน้ำร้อน หยิบซองกาแฟแล้วฉีกซองออกเทกาแฟลงในแก้ว จัดการคนให้เข้ากัน แล้วถือแก้วกาแฟออกมาวางที่โต๊ะกระจกหน้าโซฟา ก่อนจะเดินกลับเข้าไปในครัวอีกครั้งเพื่อจะไปเอาคุกกี้ที่จำได้ว่าวางไว้หลังตู้เย็น แต่ก่อนที่เธอจะหยิบคุกกี้ออกมา ตากลมโตสะดุดเข้ากับกระดาษโพสต์อิสสีส้มที่แปะอยู่หน้าตู้เย็น เธอจึงหยิบมันขึ้นมาอ่าน ‘ขอบคุณสำหรับชาคาโมมายล์นะครับ แล้วก็ขอบคุณสำหรับผ้าห่ม เมื่อคืนผมหลับสบายมาก โอกาสหน้าผมจะมาใช้บริการใหม่’ อ่านข้อความจบ หน้าของเธอก็ขึ้นสีแดงระเรื่ออย่างช่วยไม่ได้ “ใครอยากจะบริการคุณกันเล่า” เธอบ่นกระปอดกระแปดแต่ใบหน้าเรียวสวยเต็มไปด้วยรอยยิ้ม แต่เมื่อพึงสำนึกได้ว่าเขาไม่ได้ชอบผู้หญิง รอยยิ้มบนหน้าเรียวสวยก็จางหาย พร้อมกับเตือนตัวเองว่า ‘เขาก็แค่แกล้งให้เธอใจสั่นเหมือนอย่างเคยก็เท่านั้น’ ปรียาภัทรทิ้งกระดาษโพสต์อิสลงถังขยะ หยิบถุงขนมคุกกี้แล้วเดินออกมาทรุดตัวลงที่โซฟา หยิบกาแฟขึ้นมาดื่มพร้อมกับทานคุกกี้ไปด้วย เมื่อจัดการมื้อเช้าเรียบร้อย เธอจึงหยิบกระเป๋าสะพายเตรียมออกไปทำงาน เมื่อเปิดประตูห้องออกมาก็พบว่าไมเคิลยืนรอเธออยู่ก่อนแล้ว “อรุณสวัสดิ์ค่ะไมค์” เธอยิ้มกว้างพร้อมเอ่ยทักทายเขา “อรุณสวัสดิ์ครับ ข้าวหอม” เขาส่งยิ้มบางๆ ให้เธอ “คุกกี้รสชาติเป็นไงบ้าง” ถามถึงคุกกี้ที่ซื้อมาฝากเมื่อคืนนี้ และเดาว่าหญิงสาวคงจัดการมันเรียบร้อยแล้ว “อร่อยมากเลยค่ะ ขอบคุณนะคะ” “งั้น…เราไปทำงานกันดีกว่าครับ” “ค่ะ” ทุกๆ วันปรียาภัทรจะเดินไปทำงานพร้อมกับไมเคิลเป็นประจำ อพาร์ตเมนต์ของทั้งคู่ห่างจากที่ทำงานแค่เพียงสามช่วงตึกเท่านั้น จึงไม่จำเป็นต้องรีบร้อนเหมือนเพื่อนร่วมงานคนอื่นที่อยู่ไกลจากบริษัท ทั้งคู่เดินมาเรื่อยๆ จนกระทั่งถึงที่ทำงาน ปรียาภัทรจึงขอตัวไปที่แผนกของเธอ ไมเคิลก็เช่นกัน ปรียาภัทรเดินมาทรุดตัวลงที่เก้าอี้โต๊ะทำงานของตัวเอง เอื้อมมือไปกดเปิดซีพียูและหน้าจอคอมพิวเตอร์ที่อยู่ตรงหน้า ถอดกระเป๋าสายพายออกแล้วเก็บมันไว้ที่ลิ้นชักโต๊ะทำงาน เธอหันกลับมามองที่หน้าจอคอมพิวเตอร์อีกครั้ง เมื่อเห็นว่ามันพร้อมใช้งาน จึงลงมือจัดการร่างหัวข้อการสัมภาษณ์อารอน เรมี่ คิ้วสวยได้รูปขมวดมุ่นกับงานที่อยู่ตรงหน้า จนเพื่อนร่วมงานอย่างลินดาที่นั่งโต๊ะข้างๆ อดที่จะถามขึ้นมาไม่ได้ “ไรซ์ คุณเป็นอะไรหรือเปล่า หน้านิ่วคิ้วขมวดแต่เช้าเลย” “ก็…มีเรื่องให้กังวลนิดหน่อยน่ะ” “งั้นเหรอ…ถ้ามีเรื่องที่ฉันพอจะช่วยได้ก็บอกนะ” ลินดาเอ่ยออกมาอย่างมีน้ำใจ “ขอบใจจ้ะ” เมื่อคิดว่าหัวข้อที่จะใช้เก็บข้อมูลของอารอน เรมี่ครบถ้วนแล้วเธอจึงจัดการบันทึกไฟล์งาน หลังจากนั้นเธอก็จัดการทำงานที่คั่งค้างอยู่อย่างขะมักเขม้น จนไม่รู้ตัวเลยว่ามีใครบางมายืนจ้องมองเธออยู่นานแล้ว ปรียาภัทรเงยหน้าขึ้นมาก็สบเข้ากับสายตาของอารอนที่จ้องมองเธออย่างพอดิบพอดี “อรุณสวัสดิ์! ฮันนี่” ชายหนุ่มเอ่ยทักทายเธออย่างเช่นทุกวัน ช่วงนี้เธอเห็นเขาเข้าๆ ออกๆ ห้องของปีเตอร์เป็นว่าเล่น และวันนี้ก็เช่นกัน จากการที่เธอสังเกตเขามักจะเข้ามาช่วงประมาณเก้าโมงเช้าและกลับออกมาอีกทีใกล้ๆ เที่ยง ไม่รู้ว่าไปแอบทำอะไรกันหรือเปล่า แต่ก็อย่างว่าแหละ เขามันรสนิยมเดียวกันนี่ ปรียาภัทรไม่ได้ตอบกลับ ได้แต่เบ้ปากให้เขาอย่างเช่นทุกครั้ง อารอนก็ไม่ได้ถือสา แต่กลับส่งยิ้มกว้างมาให้เธออย่างอารมณ์ดี แต่ก่อนไป เขาก้มลงมากระซิบบางอย่างที่ข้างใบหูเล็กของเธอ แถมยังจงใจใช้ลมหายใจร้อนๆ เป่ารดใบหูของเธอ จนขนลุกเกรียวไปทั้งตัว “เจอกันคืนนี้ที่ห้องของผมนะฮันนี่” พูดจบเขาก็ถอนตัวออก พร้อมกับยัดกระดาษแผ่นเล็กใส่มือบอบบางไว้เธอรับเอาไว้อย่างงงๆ แต่ไม่ทันได้ถามอะไร ชายหนุ่มก็เดินหายเข้าไปในห้องของปีเตอร์เป็นที่เรียบร้อยแล้ว มือเล็กคลี่กระดาษออกเพื่ออ่านข้อความที่อยู่ด้านใน ‘เจอกันคืนนี้ เวลาหนึ่งทุ่มตรง ที่เพนต์เฮาส์ของผม แต่ถ้าคุณไม่มา ก็ไม่รู้ว่าผมจะมีเวลาว่างให้คุณได้สัมภาษณ์ผมหรือเปล่า’ หลังจากอ่านข้อความในกระดาษแผ่นเล็กจบ เธอก็ขยำมันทิ้งอย่างไม่ใยดี เขากล้าดียังไง นัดให้เธอไปเจอที่เพนต์เฮาส์ของเขา ที่ที่เธอมีอดีตฝังใจที่โหดร้าย ที่ที่เธอเสียตัวให้ผู้ชายที่เป็นเกย์ ไม่มีทางที่เธอจะไปที่นั่นแน่ ไม่มีทาง! พอเที่ยงตรง อารอนก็เดินออกมาจากห้องปีเตอร์ แต่ยังไม่วายหันมาส่งยิ้มสุดกวนให้เธออีก อีตาบ้า! จะป่วนประสาทเธอไปถึงไหน หลังจากที่อารอนออกไปไม่ถึงห้านาที ผู้มาเยือนรายใหม่ก็เดินมาที่โต๊ะทำงานของปรียาภัทร “อ้าวไมค์ มาถึงนี่มีอะไรหรือเปล่าคะ” “คือผม…ผมจะมาชวนข้าวหอมไปกินมื้อกลางวันด้วยกันน่ะครับ” “อ้อ…ได้สิ ฉันกำลังจะไปกินมื้อกลางวันพอดี” เธอส่งยิ้มกว้างให้เขา “ลินดาไปด้วยกันนะ” ปรียาภัทรหันไป ถามลินดา ที่ตอนนี้ใบหน้ากำลังแดงก่ำอย่างไม่ทราบสาเหตุ “มะ…ไม่เป็นไรจ้ะ” ลินดาตอบตะกุกตะกัก “น่านะ…ไปด้วยกัน” ปรียาภัทรเดินไปฉุดข้อมือให้ลินดาไปด้วย ลินดาจำต้องลุกตามปรียาภัทรไปอย่างช่วยไม่ได้ “เอางั้นก็ได้จ้ะ” ไมเคิลเดินคู่ไปกับปรียาภัทร ส่วนลินดาเดินตามหลังทั้งคู่ทิ้งระยะห่างพอควร เห็นทั้งคู่พูดคุยหยอกล้อกัน เธอก็อดที่จะเจ็บแปลบในอกไม่ได้ ผู้ชายที่เธอแอบหลงรักตั้งแต่ได้เห็นหน้าเขาครั้งแรก ‘ไมเคิล ฮาวเวิร์ด’ ทั้งสามคนเดินมากินอาหารที่ร้านอาหารที่ตั้งอยู่ภายในบริษัท ปรียาภัทรเลือกโต๊ะที่ติดกับกระจก เวลากินอาหารจะได้มองวิวอย่างเห็นได้ชัด ตอนนี้ปรียาภัทรลุกไปซื้อน้ำ ที่โต๊ะจึงเหลือเพียงไมเคิลกับลินดา ลินดาได้แต่ก้มหน้างุดไม่กล้าแม้กระทั่งมองหน้าเขา กลัวสายตาของตัวเองจะเผยความในใจออกไป เธอไม่อยากผิดหวังและไม่อยากให้เขามองเธอด้วยแววตาสมเพช จึงเลี่ยงที่จะมองหน้าเขา ซึ่งไมเคิลก็ไม่ได้คิดที่จะชวนเธอคุย ทำไมเขาจะไม่รู้ว่าผู้หญิงตรงหน้าคิดอย่างไรกับเขา แต่ผู้หญิงที่เขาชอบก็คือ ‘ปรียาภัทร’คนเดียวเท่านั้น “น้ำมาแล้วจ้า” ปรียาภัทรร้องบอกมาแต่ไกล ในมือถือน้ำอัดลมมาสามแก้ว มาถึงเธอก็วางมันลงบนโต๊ะ แล้วแจกจ่ายให้ผู้ร่วมโต๊ะคนละหนึ่งแก้ว “ขอบใจจ้ะไรซ์” ลินดาหยิบแก้วน้ำขึ้นมาดื่มพร้อมกับขอบคุณปรียาภัทรไปด้วย “เรื่องเล็กน้อยน่า” ปรียาภัทรส่งยิ้มบางๆ ไปให้ลินดา “ผมว่าเราลงมือกินอาหารกันดีกว่านะครับ” ชายหนุ่มคนเดียวในโต๊ะเอ่ยปากชวนทุกคนกินอาหาร เมื่อเห็นว่าเวลาล่วงเลยมาพอสมควร เพราะบ่ายโมงทั้งหมดต้องกลับไปทำงานตามเดิม
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD