บทที่ 9 หมากที่เหนือกว่า

1422 Words
เช้าวันรุ่งขึ้น เสียงนกร้องแว่วเบา ๆ แดดอ่อนสาดผ่านม่านสีครีมของคฤหาสน์เบลเลโซ่ กลิ่นชาเอิร์ลเกรย์ลอยคลุ้งในอากาศ ขณะที่คุณหญิงย่านั่งอยู่บนเก้าอี้หวายตัวโปรด บนระเบียงด้านทิศตะวันออกของคฤหาสน์ สวมชุดคลุมผ้าไหมสีงาช้างแนบเนื้ออย่างสง่างาม ริมฝีปากของเธอแตะขอบถ้วยชาเบา ๆ ดวงตาเหยี่ยวคู่คมจ้องเขม็งไปยังหน้าจอโทรทัศน์ขนาดใหญ่ที่ตั้งอยู่ในมุมห้องน้ำชา “…มีรายงานจากแหล่งข่าวใกล้ชิดว่า เวย์เดน เบลเลโซ่ นักธุรกิจหนุ่มเจ้าของอาณาจักรอสังหาหลายพันล้านบาท ได้ประสบอุบัติเหตุอย่างรุนแรง ขณะนี้ยังไม่ได้ออกแถลงการณ์ใด ๆ จากทางครอบครัวหรือบริษัทหลักแต่อย่างใด…” พิธีกรหญิงอ่านข่าวด้วยน้ำเสียงเรียบแต่หนักแน่น ขณะที่ภาพประกอบเป็นคลิปตัดต่อของการปิดหน้าบริษัท และกราฟหุ้นที่กำลังตกอย่างฮวบฮาบ “…แหล่งข่าวยังระบุเพิ่มเติมว่า หากภายในสามสิบวัน ไม่มีผู้บริหารเข้ามาบริหารงานแทนอย่างเป็นทางการ บรรดาหุ้นส่วนรายใหญ่ที่ถือหุ้นมากกว่าครึ่ง อาจจะรวมตัวกันเพื่อยึดสิทธิ์บริหารทั้งหมดของบริษัท ซึ่งอาจจะส่งผลกระทบถึงตลาดอสังหาฯ ทั่วภูมิภาค…” เสียงรายงานยังคงดำเนินต่อไป แต่คุณหญิงย่าฟังเพียงแค่นั้นก่อนจะยกรีโมตกดปิดหน้าจอ แล้ววางถ้วยชาลงบนจานรองเสียงเบา “พวกมันขยับแล้วจริง ๆ…” เธอเอ่ยเสียงเรียบ ริมฝีปากยกยิ้มน้อย ๆ แต่แฝงไว้ด้วยความเยือกเย็นของนักวางกลยุทธ์ ข้างกายคือเคน มือขวาคนสนิทของเวย์เดน ยืนตัวตรงพร้อมรายงาน “ฝั่งสื่อที่ปล่อยข่าว มีบริษัทในเครือของกลุ่มอดีตคู่แข่งที่เคยประมูลที่ดินแพ้คุณเวย์เดนเมื่อห้าปีก่อนครับ ตอนนี้ข่าวกระจายไปเกือบทุกช่องแล้ว หุ้นเริ่มร่วงจริง…” คุณหญิงย่าไม่ตอบในทันที เธอหยิบผ้าเช็ดปากขึ้นเช็ดมุมปากอย่างช้า ๆ แล้วจึงพูดด้วยน้ำเสียงนิ่งลึก “พวกมันคิดว่าฉันจะปล่อยให้ตระกูลเบลเลโซ่ล่มสลายงั้นเหรอ…” หญิงชราลุกขึ้นยืน แม้อายุมากแต่ยังคงแผ่รัศมีของผู้ที่เคยกุมอำนาจในยุทธจักรธุรกิจมาทั้งชีวิต “ให้ข่าวออกไปเลยว่า เวย์เดนอยู่ระหว่างการพักฟื้นตัว แต่ธุรกิจทั้งหมดยังอยู่ภายใต้การควบคุมของครอบครัว และจะเวย์เดนจะกลับขึ้นบริหารในอีกไม่กี่วัน” เคนรีบตอบรับทันที “ครับ คุณหญิงย่า” เธอก้าวเท้าช้า ๆ ไปที่ระเบียง มองออกไปยังสวนด้านล่าง ดวงตาเปี่ยมไปด้วยความมั่นใจ “แกคิดว่าฉันจะหมดไพ่เหรอ… แต่ฉันเพิ่งหยิบ ‘ตัวหมาก’ ที่แท้จริงลงกระดาน” ลมเช้าเริ่มแรงขึ้นเล็กน้อย ผ้าม่านบางปลิวไหวไปตามแรงลม ใบหน้าของคุณหญิงย่ามีทั้งความนิ่งสงบ และการรอคอย รอวันที่โลกจะได้รู้ว่า “เวย์เดน” คนที่ทุกคนเห็นในข่าว…อาจไม่ใช่เวย์เดนคนเดิมอีกต่อไป ทว่าเพียงชั่วพริบตา ตึก ตึก ตึก! เสียงฝีเท้าของผู้หญิงหลายคนดังระงมไปทั่วโถงรับแขก พวกเธอบางคนร้องไห้ออกมาอย่างควบคุมไม่อยู่ บางคนถึงกับยกมือไหว้ขอชีวิต ร่างหนึ่งสะอื้นไห้อย่างหนัก ขณะรีบสาวเท้าออกมาจากชั้นสองของคฤหาสน์ “เขา…เขาเกือบฆ่าฉัน!” หญิงสาวคนหนึ่งพูดเสียงสั่น ริมฝีปากซีดเผือด “แค่ฉันเดินเข้าไปใกล้ เขาก็โยนของใส่แล้วตวาดราวกับฉันเป็นสัตว์ร้าย!” แม่บ้านคนสนิทรีบวิ่งเข้าไปยังห้องน้ำชาของคุณหญิงย่า พลางโค้งศีรษะต่ำก่อนรายงานเสียงเรียบ “คุณหญิงคะ ผู้หญิงที่ส่งเข้าไปตอนเช้า…ไม่มีใครเข้าใกล้คุณมาร์คัสได้เลยค่ะ บางคนถึงกับร้องขอชีวิตกลับออกมา” คุณหญิงย่าเงียบไปครู่หนึ่ง ก่อนจะเอื้อมมือยกถ้วยชาขึ้นจิบอย่างใจเย็น แววตาทอประกายเงียบงันแต่น่าเกรงขาม “งั้นก็ส่งตัวพวกหล่อนกลับไปซะ…และอย่าให้ใครหน้าไหนปริปากเรื่องในคฤหาสน์ของฉัน แม้แต่คำเดียว เข้าใจไหม?” “ค่ะคุณหญิง” แม่บ้านรับคำพลางรีบผละออกไปจัดการตามคำสั่ง คุณหญิงย่ากลับนั่งนิ่ง วางถ้วยชาลงอย่างแผ่วเบา ก่อนเสียงเธอจะแผ่วต่ำแต่หนักแน่นขึ้น “น่าแปลก…มีเพียงแต่อันนา…ผู้หญิงที่ดูไร้พิษสงที่สุด กลับอยู่กับมาร์คัสได้นานที่สุด…” เธอหลุบตามองออกไปยังสวนกุหลาบด้านนอก สีหน้าเคร่งเครียดแปรเปลี่ยนเป็นจริงจังทันที “ถ้าอาการของมาร์คัสยังควบคุมไม่ได้ เราจะเสียทุกอย่าง ทั้งชื่อเสียง ธุรกิจ และมรดกของตระกูล…” แล้วคุณหญิงก็เอ่ยเสียงดังเรียกเคน มือขวาของเวย์เดนที่ยืนเฝ้าอยู่ด้านหลัง “เคน ไปติดต่อ ลูโค ที่อิตาลี…ให้บินกลับมาทันที เขาโตมากับมาร์คัส รู้จักอาการป่วยดีกว่าใคร จะได้สังเกตว่าอะไรเปลี่ยนแปลง…และหาทางรักษาในแบบที่แพทย์ทำไม่ได้” “ครับคุณหญิง แล้วอันนา…?” คุณหญิงย่าหันมามองเขานิ่ง ๆ แล้วพูดเสียงเยือกเย็น “ถ้าผู้หญิงคนนั้นเข้าใกล้มาร์คัสได้มากขนาดนั้น…ก็ให้เธออยู่ใกล้เขาต่อไป เราจะไม่เสียอะไรเลย ถ้าจะใช้เธอรักษาโรคของมาร์คัส…หรือผลิตทายาทให้ตระกูลเบลเลโซ่ไปพร้อมกัน” หลังจากคุณหญิงย่าออกคำสั่งให้เคนติดต่อ ลูโค และให้ไปตามอันนา สีหน้าของหญิงชราผู้เปี่ยมบารมีดูจะคลายกังวลลงเล็กน้อย ทว่ายังไม่ทันจะได้จิบชาถ้วยถัดไป เสียงโทรศัพท์บนโต๊ะก็ดังขึ้นทันที ครืด ครืด ครืด… เลขาส่วนตัวรีบหยิบโทรศัพท์ขึ้นส่งให้เธอ “คุณหญิงคะ…สายจากคุณลุงวัฒน์ค่ะ” คุณหญิงย่าชะงักไปครู่หนึ่ง ดวงตาแคบเรียบปรากฏร่องรอยไม่ไว้วางใจบางอย่าง ก่อนจะยื่นมือไปรับโทรศัพท์ แล้วกดรับสายอย่างสุขุม “วัฒน์…มีธุระด่วนถึงต้องโทรมาถึงฉันเช้านี้เชียวหรือ?” เสียงหัวเราะเบา ๆ ปลายสาย ดังแทรกมาในทันที มันเป็นเสียงที่อ่อนนุ่ม แต่กลับคล้ายมีหนามแหลมซ่อนอยู่ในทุกถ้อยคำ “พี่สาว…ฉันแค่อยากถามไถ่เรื่องหลานชายสุดรัก…ว่าเวย์เดนตอนนี้เป็นยังไงบ้าง สบายดีใช่ไหม?” คุณหญิงย่ายกคิ้วเล็กน้อย ดวงตาเปลี่ยนจากสงบเป็นเฉียบคม “แน่นอน…เขาสบายดีมาก ยังแข็งแรงและบริหารงานได้อย่างยอดเยี่ยมเหมือนเคย ทำไมหรือ…อยากฝากอะไรไปถึงเขา?” มีเสียงเงียบไปชั่วอึดใจ ก่อนจะตามมาด้วยน้ำเสียงที่แฝงเจตนาไม่ชัดเจน “ไม่หรอก…แค่ได้ยินข่าวลือบางอย่าง ว่าเวย์เดนหายตัวไปช่วงนี้…หุ้นบริษัทเริ่มสั่นคลอนใช่ไหม?” คุณหญิงย่าไม่ได้ตอบในทันที แต่สายตาหลุบต่ำลงจ้องที่ปลายนิ้วของตัวเองที่กุมถ้วยชาเบา ๆ แล้วเธอก็หัวเราะในลำคอ…เบา…แต่เยือกเย็น “ข่าวลือ…คือสิ่งที่คนไม่มีอำนาจมักชอบเล่นสนุก ฉันว่าแกเองก็คงรู้นิสัยของวงการดี” “ฮ่า…พูดแบบนี้ ผมก็โล่งใจแล้ว” เสียงปลายสายแฝงความเจ้าเล่ห์ แต่ก็ไม่ได้ขัดหรือซักถามต่อ ทันทีที่วางสายไป คุณหญิงย่ายืดตัวขึ้นเล็กน้อย ใบหน้าที่สงบนิ่งกลับเผยความหม่นลงอย่างเห็นได้ชัด เธอหันไปพูดกับเคนที่ยืนเงียบอยู่ด้านข้าง “ไอ้วัฒน์มันไม่ใช่คนโง่…มันได้กลิ่นอะไรบางอย่างแล้ว” “คุณหญิงหมายถึง…?” “กลิ่นของ ‘การเปลี่ยนแปลง’ …กลิ่นของความลับ…และกลิ่นของ ‘คนทรยศ’ ที่หิวอำนาจ” คุณหญิงวางถ้วยชาอย่างแรงจนเกิดเสียงกระทบเบา ๆ บนถาดเงิน “มันไม่เคยยอมเป็นเบอร์สองในวงการนี้…และมันรู้ว่าเวย์เดนคือกำแพงใหญ่ที่ข้ามไม่ได้” เธอนิ่งไปชั่วครู่ ก่อนสั่งเด็ดขาด “จับตาดูไอ้วัฒน์ให้ดี ต่อให้เป็นน้องชายของฉัน ฉันก็ไม่ไว้ใจมันแม้แต่ลมหายใจเดียว ถ้ามันขยับ…เราต้องรู้ก่อนที่มันจะยกมือ” “ครับคุณหญิง แล้วเรื่องอันนา…จะให้ตามไหมครับ?” คุณหญิงย่าหันกลับมามองอีกครั้ง แววตาแข็งกร้าวแต่ลึกซึ้ง “แน่นอน…ตอนนี้มีเพียงผู้หญิงคนนั้น ที่ทำให้มาร์คัสไม่ระเบิดออกมาได้…ถ้าเขาควบคุมตัวเองได้ ธุรกิจเราก็ยังมีหวัง…และถ้าเธอตั้งท้องได้…เราก็อาจได้มรดกเพิ่มอีกหนึ่งชีวิต”
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD