บทที่ 06 อดีตที่เจ็บปวด

1841 Words
"เออไอคีย์ทำไมมึงเงียบไปวะ" เฮียพร้อมพูดขึ้นแล้วหันไปทางเขา ทุกสายตากำลังจับจ้องเขาหมด เว้นแต่ฉันที่เบือนหน้าหนี ไม่อยากมองและไม่อยากสนทนาด้วย "เปล่า…" เขาตอบเสียงนิ่ง ฉันสัมผัสได้ว่าเขากำลังมองมาทางฉัน แต่เรื่องของเขายังไงฉันไม่สนใจเขาอยู่ดี "เห็นแต่ก่อนมึงกับพายสนิทกันจะตาย ทำไมไม่เห็นคุยกันเลย" พี่ไลอ้อนพูดขึ้นกับเขา "แล้วพี่จะไปยุ่งเรื่องเขาทำไมเล่า มาๆ กินกันดีกว่าค่ะ" เกรซพูดเพื่อเปลี่ยนประเด็นเมื่อเห็นสีหน้าลำบากใจของฉัน ทำดีมากเพื่อนรัก…ช่วยต่อชีวิตฉันได้เยอะเลย "พาย…น้ำฟ้าไม่ดื่มเหรอ?" พี่ธาวินพูดขึ้นเมื่อเห็นว่าฉันยกดื่มแต่แก้วน้ำเปล่ามาชนแก้ว เช่นเดียวกับน้ำฟ้าที่ดื่มน้ำเปล่าตามกันโดยไม่แตะแอลกอฮอล์เลย "ไม่ล่ะค่ะ พรุ่งนี้พายต้องไปทำงาน" พรุ่งนี้ฉันต้องเข้าบริษัท ขืนฉันดื่มไปนะ ไม่เป็นอันทำงานแน่นอน "ฟ้าก็เหมือนกันค่ะ เดี๋ยวบอสจะดุเอา" น้ำฟ้าพูดแล้วหันไปทำตาขวางใส่เฮียพร้อม "พายขอตัวเข้าห้องน้ำก่อนนะคะ" ว่าจบฉันก็รีบลุกจากที่นั่งอยู่ รู้สึกถึงความอึดอัดของสายตาที่กำลังมองอยู่ตลอดเวลา ไม่รู้จะมองอะไรนักหนา! "ครับ ตรงไปทางนั้นแล้วเลี้ยวขวานะครับ" พี่ธาวินชี้ทางให้ฉันเข้าไปในคฤหาสน์ใหญ่โตของเขา ฉันก็พยักหน้าเข้าใจแล้วรีบเดินหนีไปเลย ฉันยืนทำใจหน้ากระจกนานสองนาน ไม่อยากเดินกลับเข้าไปในงานเลย ฉันไม่อยากอยู่มองหน้าเขา ความรู้สึกเดิมๆ กำลังไล่เข้ามาในหัวเป็นฉากๆ ใช่…ฉันไม่มีวันลืมเขาเลย ใช้เวลาหนีไปเรียนต่อเกือบห้าปี สุดท้ายความรู้สึกก็ยังเหมือนเดิม ไม่ได้ช่วยให้ใจฉันดีขึ้นเลยสักนิด จนเวลาผ่านไปสักพักฉันจึงตัดสินใจจะตามน้ำฟ้าแล้วรีบกลับบ้านเลย อ้างอะไรก็ได้ที่พี่ธาวินยอมปล่อยให้ฉันกลับ จนคิดออกแล้วเท้าของฉันก็รีบก้าวออกจากห้องน้ำ แต่แล้ว… "ไม่คิดจะทักกันหน่อยเหรอ?" เสียงทุ้มดังขึ้นในขณะที่ยืนพิงผนังล้วงกระเป๋ากางเกงหันมามองฉัน "พี่คีริน…" ฉันพึมพำเรียกชื่อเขาเบาๆ เม้มปากแน่นแล้วหันไปทางอื่นทันที "สวัสดีค่ะ" อยากให้ทักฉันก็ทัก ทันทีที่พูดจบฉันก็รีบหมุนตัวจะเดินออกไป ทว่า… พรึ่บ! มือบางฉันกลับถูกรั้งไว้ จนฉันชะงักนิ่งปรายตามามอง "พะพายทำไมถึงเปลี่ยนไปขนาดนี้" เขาพูดขึ้นแล้วปล่อยแขนฉันให้เป็นอิสระ ในขณะที่ฉันกระตุกยิ้มมองเขาอย่างตลกในคำถามของเขา "เปลี่ยนไปยังไงเหรอคะ?" "ก็แต่ก่อนพายไม่ได้เป็นแบบนี้" หึ…เพราะแต่ก่อนฉันมันคนโง่น่ะสิ แต่ฉันจะไม่ยอมโง่ไปตลอดหรอก "หยุดพูดเรื่องอดีตเถอะค่ะ พายไม่อยากฟัง" ฉันพูดจบแล้วเดินออกมาเลย ทิ้งให้คนอย่างเขายืนทวนคำถามของตัวเองที่กำลังใจข้องใจในตัวฉัน ห้าปีที่แล้ว ฉันกับพี่คีรินเราสนิทกันมาก เพราะพ่อกับแม่เราเป็นเพื่อนสนิทกัน แล้วตอนเด็กพี่คีรินก็ชอบตามพ่อกับแม่เขามาที่บ้านจนสนิทกับฉันและเฮียพร้อม พอหลังๆ มาเขามักจะมาหาฉันบ่อยๆ พาฉันไปนู้นไปนี่ตามใจฉันทุกอย่างมากกว่าที่เฮียพร้อมตามใจฉันอีก ฉันไม่รู้ว่าความรู้สึกที่ฉันมีให้เขามันมากกว่าพี่ชายไปตอนไหน ตอนนั้นฉันอยู่ปีหนึ่ง ฉันตัดสินใจว่าจะบอกชอบเขา เพราะฉันทนเก็บความรู้สึกต่อไปไม่ไหว ฉันนัดเขามาเจอแล้วตัดสินใจพูดทุกอย่างที่ฉันคิดกับเขา แต่สุดท้ายยัยพะพายก็โดนปฏิเสธ เขาบอกว่าเห็นฉันเป็นแค่น้องสาวเท่านั้น ไม่ได้คิดอะไรเกินเลย แต่ความพยายามของพะพายก็ตื้อเขาไม่เลิก ฉันขอร้องอ้อนวอนขอให้เขาลองเปิดใจให้ฉันบ้าง ลองเปิดใจมองฉันมากกว่าน้องสาว ซึ่งคำตอบที่ได้มาคือเขาโอเคยอมฉัน บอกว่าจะลองดู ให้ความหวังจนฉันดีใจมีความสุขมาก ตอนนั้นฉันยังแต่งตัวไม่เก่ง แต่งหน้าไม่เป็น เป็นเด็กกะโปโลปีหนึ่งใสๆ เราคบกันแบบไม่มีใครรู้แม้กระทั่งเฮียพร้อม ยกเว้นเพื่อนสนิทของฉันที่ฉันเล่าทุกอย่าง เราคบกันได้หลายเดือนก็ถึงวันเกิดเขา ฉันตัดสินใจว่าจะไปเซอร์ไพรส์เขาที่ห้อง แต่ฉันกลับโดนเขาเซอร์ไพรส์กลับโดยการที่เห็นเขากำลังมีอะไรกับผู้หญิงคนอื่น ฉันอึ้งจนของที่อยู่ในมือฉันร่วงไปอยู่ที่พื้น น้ำตาใสๆ เริ่มไหลจากดวงตา สะอึกสะอื้นตัวโยนหลังจากที่เห็นเขามีอะไรกับคนอื่นต่อหน้าต่อตา จนเขาหันมาเห็นฉันแล้วตกใจรีบคว้าผ้าเช็ดตัวแล้วบอกให้ฉันไปรอนอกห้อง ตอนนั้นฉันคิดอย่างเดียวคือฉันต้องได้รับคำอธิบาย ฉันจึงอยู่รอจนเขาเปิดประตูออกมาพร้อมผู้หญิงคนนั้น "พี่ไม่เคยรักพายมากกว่าน้องสาว พายกลับไปเถอะ" ฉันจำประโยคนี้ของเขาได้ดี ฉันคงผิดเองที่ตื้อให้เขาลองเปิดใจให้ ฉันไม่เคยคิดว่าเขาจะทำกับฉันได้ขนาดนี้ "คีย์เขาไม่ชอบเด็กจืดชืดแบบเธอหรอก" ผู้หญิงคนนั้นพูดตอกหน้าใส่ ฉันจำได้ดี ฉันกลับมาบ้านฉันตัดสินใจว่าจะไปเรียนต่อต่างประเทศในทันที ความจริงป๊าให้ฉันไปตั้งแต่ฉันจะขึ้นมหาลัยปีหนึ่ง แต่ฉันก็ปฏิเสธป๊าทุกครั้งเพราะฉันอยากอยู่ใกล้ๆ เขา แต่เหตุการณ์นั้นทำให้ฉันเปลี่ยนใจบินไปเรียนต่อ โดยให้เหตุผลว่าฉันอยากเรียนต่อแบบเฉพาะทาง เลยไม่มีใครสงสัยในตัวฉัน ไม่มีใครรู้ว่าตอนนั้นหัวใจฉันมันพังแหลกเหลวมากแค่ไหน ฉันเปลี่ยนเป็นคนละคนหลังจากที่ได้เปิดโลกที่ต่างประเทศ การแต่งตัวการแต่งหน้าของฉันดีมากเพราะเพื่อนที่นู้นพากันแนะนำ ฉันเปลี่ยนเป็นพะพายคนใหม่ ในเวอร์ชั่นที่พ่อแม่ฉันยังตกใจ แต่แล้วยังไง…สุดท้ายฉันก็เปลี่ยนได้แค่ภายนอก สุดท้ายหัวใจฉันก็ไม่รักดี ไม่เคยลืมแม้แต่ใบหน้าของเขาเลย "กูเห็นพี่คีรินเดินตามมึงไป มึงได้คุยกับเขาหรือเปล่า" เกรซกระซิบกับฉันเบาๆ หลังจากที่ฉันเดินมานั่ง ฉันพยักหน้าให้เพื่อนแล้วนั่งนิ่งโดยที่ไม่คุยกับใครอีก "แล้วมึงโอเคไหม?" เกรซถามฉันต่อ ฉันก็ให้พยักหน้าให้มันต่อ แล้วพี่คีรินก็เดินกลับมานั่งที่ของเขา มองหน้าฉันนิ่งๆ จนฉันอึดอัดไม่อยากนั่งรวมโต๊ะด้วย "น้ำฟ้าเรากลับกันเถอะ" สุดท้ายฉันก็ตัดสินใจลุกจากที่นั่ง น้ำฟ้าเงยหน้ามามองฉัน เมื่อเห็นสีหน้าฉันไม่โอเคเธอก็รีบลุกขึ้นทันที "ดีเหมือนกัน ฟ้าง่วงแล้ว" "พี่ๆ คะ พายกับน้ำฟ้ากลับก่อนนะคะ พรุ่งนี้พายต้องเข้าบริษัทแต่เช้า สวัสดีค่ะ พวกมึงกูกลับละ" ฉันรวบทุกคำพูดระรัวโดยที่ไม่เปิดโอกาสให้ใครได้พูดแทรก ก่อนที่จะจับมือน้ำฟ้าแล้วเดินออกมาจากวงนั้นสับเท้าเดินไปขึ้นรถทันที "พายโอเคไหม?" ฉันส่ายหน้า ฉันตอบไปความจริง ยิ่งฉันคิดถึงอดีตที่แสนจะเจ็บปวด ยิ่งตอกย้ำให้ฉันต้องลืมเขาให้ได้ แต่ตอนนี้หัวใจฉันมันไม่ไหวเหลือเกิน ทำไมฉันยังทำใจลืมเรื่องบ้าๆ นั้นไม่ได้สักที "มีอะไรบอกฟ้าได้นะ" น้ำฟ้าจับมือฉันแล้วยิ้มให้ ฉันก็ยิ้มกลับให้เพื่อนแล้วขับรถไปส่งเธอไปถึงบ้านด้วยการฝืนร่างกายตัวเองตลอดทาง จนใช้เวลาไม่นานก็พาตัวเองกลับมาคอนโดจนได้ ตอนเช้า "วันนี้คุณพายไม่มีนัดสำคัญอะไรนะคะ" พี่นุ่นเข้ามารายงานตารางงานฉันเหมือนกับทุกวัน ฉันพยักหน้าเข้าใจแล้วเคลียร์เอกสารบนโต๊ะตัวเองทำงานตามปกติ จนกระทั่ง… ก็อก ๆ "คุณพายคะมีผู้ถือหุ้นมาขอพบค่ะ" ทันทีที่ประตูถูกเปิดออกพี่นุ่นก็รีบสาวเท้าเดินมาบอก จนฉันวางปากกาแล้วมองหน้าเลขาตัวเองด้วยความงงเล็กน้อย "วันนี้ไม่มีนัดไม่ใช่เหรอคะ?" "เขาเพิ่งแจ้งพี่มาเมื่อกี้เองค่ะ" "ให้เข้ามาเลยค่ะ" ด้วยความไม่ได้คิดอะไรฉันก็จัดการเก็บเอกสาร พร้อมกับรอผู้ถือหุ้นที่ขอพบฉันแบบเร่งด่วน ครืดดดด ~ ประตูถูกออกพร้อมกับร่างสูงโปร่งที่สวมใส่สูทสีดำเดินเข้ามาในห้องฉัน ตามด้วยเลขาฉันที่เดินตาม ฉันนิ่งไปกับคนที่เห็น เขาคือพี่คีรินอดีตที่ไม่ดีของฉันที่กำลังยืนล้วงกระเป๋ากางเกงมองฉันนิ่ง "ผมขอคุยธุระกับเจ้านายของคุณ" ในขณะที่ฉันนิ่ง เขาก็หันไปบอกกับพี่นุ่น จนเลขาสาวฉันรีบก้มหัวรับแล้วเดินออกไปทันที "มีธุระอะไรคะ?" ฉันรีบดึงสติให้กลับมาปกติ ก่อนที่จะเปิดประเด็นถามโดยไม่มีการทักทายและเชิญให้นั่งใดๆ "พี่แค่แวะมาหาพาย" พี่คีรินลงมานั่งเก้าอี้ตรงข้าม จดจ้องใบหน้าฉันนิ่งไม่ต่างกัน "ขอบคุณที่มาหาค่ะ แต่ถ้าไม่มีธุระอะไรขอเชิญให้ออกจากห้องนะคะ ฉันต้องทำงาน" ฉันพูดแล้วผายมือไปยังประตูห้องเพื่อกดดันให้เขาออกไป จากนั้นฉันก็ก้มหน้าดูเอกสารตรงหน้าต่อ โดยที่ไม่ได้สนใจเขาอีกเลย "พะพาย..." พี่คีรินยังนั่งอยู่ที่เดิม เอ่ยเรียกจนฉันเงยหน้าขึ้นอีกครั้ง "เราไม่ได้สนิทกันขนาดนั้น ไม่มีเวลามาคุยไร้สาระ" ฉันกดเสียงต่ำไล่เขาอีกรอบ ใบหน้าที่ไร้รอยยิ้มทำเอาอีกคนถอนหายใจ "เลิกคุยกับมัน" เขาเอ่ยสั้นๆ มองหน้าฉัน "หมายถึงอะไร?" "คนที่กำลังคุย เลิกติดต่อมัน" พี่คีรินพูดจบแค่นั้นก็เดินออกไป ทิ้งให้ฉันนั่งงงมองตามแผ่นหลังกว้าง แต่ฉันก็ไม่คิดจะถามอะไร เขาจะพูดอะไรก็ช่าง ฉันไม่อยากสนใจ
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD