“นี่คุณจะเอายังไง หมอไม่สามารถทำใบรับรองผลขึ้นมาเองได้นะครับ เกิดคุณสร้างเรื่องขึ้นมา หมอว่ามันไม่คุ้ม และถ้าคุณไม่สะดวกใจตรวจก็ไม่เป็นไร” อัคคีพูดอย่างรำคาญ เธอไม่ควรจะเรื่องมากหรือต่อรองอะไรด้วยซ้ำ เพราะในฐานะแพทย์ เขาไม่สามารถเขียนผลตรวจมั่วๆ ได้
“ตรวจค่ะๆ” เวทิกาพูดอย่างรวดเร็ว ก่อนจะเดินไปที่เตียงในห้องตรวจตามที่หมออัคคีสั่ง
หญิงสาวใช้เวลาเปลี่ยนชุดในการตรวจไม่นาน ก่อนที่จะขึ้นไปนอนบนเตียงด้วยใจระทึก เกิดมาไม่เคยต้องมานอนอ้าขาให้ผู้ชายคนไหนดู แต่ตอนนี้ เธอกำลังอยู่ในสภาพที่น่าละอายที่สุดในชีวิต จริงอยู่ว่าการตรวจภายในเป็นเรื่องปกติ แต่การตรวจเพื่อดูความบริสุทธิ์ไม่ใช่เรื่องปกติแน่นอน ที่สำคัญ คนตรวจยังเป็นหมอหนุ่มหน้าตาดีชวนให้รู้สึกเขินอายทุกครั้งที่ต้องเผลอจ้องหน้าด้วยอีก เวทิกาอยากจะผ่านช่วงนี้ไปไวๆเหลือเกิน
“พร้อมนะครับ” เสียงหมอหนุ่มดังขึ้น ทำเอาหญิงสาวถึงกับสะดุ้งโหยงทันที
“เอ่อ ไม่มีพยาบาลอยู่ด้วยเหรอคะ” เอ่ยถามด้วยความกังวลใจ เพราะเธอเองก็อดรู้สึกแปลกๆ ไม่ได้ที่ต้องอยู่ในห้องกับหมอหนุ่มตามลำพังเช่นนี้
“ก็ทำตามที่คุณร้องขอ อยู่นิ่งๆ หมอจะรีบตรวจ” อัคคีพูดอย่างตัดรำคาญ ไม่ใช่ว่าไม่อยากมีพยาบาลอยู่ด้วย แต่ทันทีที่ได้เห็นเนื้อแท้ของหญิงสาว มือไม้ก็สั่นอย่างที่ไม่เคยเป็น และมันไม่ดีแน่หากมีคนได้มาเห็นภาพนี้ ภาพลักษณ์แพทย์ที่สุขุม นิ่งอย่างเขาอาจจะดูเปลี่ยนไปในสายตาของใครหลายๆ คน รวมถึงหมอหนุ่มเองก็ไม่อยากจะเชื่อเช่นกันว่า ‘ความหื่น’ ของตนเองจะมากมายเพียงนี้ เพียงแค่ได้เห็นตรงส่วนนั้นของคนไข้ มันทำให้เขาอดคิดไม่ดีกับเธอไม่ได้ และมันเป็นเรื่องที่ไม่สมควรอย่างยิ่ง ที่สำคัญเขาไม่เคยมีความคิดแบบนี้กับคนไข้คนไหน
“ฉิบ!” เผลอสบถออกมาด้วยความโมโหตัวเอง อัคคีพยายามที่จะมีสมาธิในการตรวจอย่างมากเพื่อไม่ใช่ตัวเองเผลอคิดอะไรไม่ดีกับหญิงสาวอีก
“เสร็จแล้วครับ” พ่นลมออกมาอย่างโล่งใจ ก่อนจะรีบเดินออกจากห้องตรวจไปทันที
อัคคีไม่อยากจะอยู่กับเวทิกาสองต่อสองเนิ่นนานกว่านี้ สาบานเลยว่าหากพบเจอกันข้างนอกที่ไม่ใช่โรงพยาบาล จะไม่ปล่อยผู้หญิงที่สวย น่ารัก และมีเสน่ห์โดนใจเขาแบบเธอไปแน่นอน และการที่ได้รู้ว่าคนไข้สาวไม่เคยผ่านมือชายใด เขาเป็นคนแรกที่ได้เห็นและสัมผัสจุดอ่อนไหวที่สุดของเธอ มันก็ยิ่งทำให้หมอหนุ่มใจฟูขึ้นมาอย่างน่าประหลาดใจ
เวทิกาใช้เวลานั่งรอผลตรวจอยู่ครู่หนึ่ง เพียงพอให้หญิงสาวลืมความอายที่เกิดขึ้นในห้องตรวจเมื่อครู่นี้ ตอนแรก เธอแทบจะกลั้นหายใจเมื่อหมอหนุ่มเริ่มนำเครื่องมือเข้ามาในกาย ช่วงเวลายามนั้น ความรู้สึกเหมือนผ่านไปราวชั่วโมงทั้งที่จริงแล้ว หมออัคคีใช้เวลาเพียงแค่นาทีเดียวเท่านั้น
“คุณเวทิกาเชิญค่ะ”
ไม่นาน พยาบาลก็เดินมาเรียกให้เวทิกาเข้าไปที่ห้องตรวจ เพื่อฟังในสิ่งที่เธอเองก็รู้ดีอยู่แล้วว่าเป็นเช่นไร
“เชิญนั่งครับ” อัคคีพูดโดยไม่สบตาคนไข้สาวสวย
“เป็นยังไงบ้างคะหมอ เอ่อ เส้นพรหมจรรย์ฉันยังอยู่ไหมคะ” เอ่ยถามขึ้น แม้ยังรู้สึกกระดากอาย
“คุณยังบริสุทธิ์ และเส้นพรหมจรรย์ของคุณยังอยู่ปกติ แต่ต่อให้เส้นพรหมจรรย์คุณขาดไปแล้วก็ไม่ได้หมายความว่าคุณจะไม่บริสุทธิ์ ข้อนี้ฝากไปแจ้งคนรักกับแม่คนรักของคุณด้วย”อดแขวะคนรักของหญิงสาวไม่ได้ เพราะหากเป็นเขาคงไม่มีทางปล่อยให้ผู้หญิงที่รักต้องมาตรวจอะไรแบบนี้อย่างแน่นอน
“ขอบคุณค่ะหมอ ถ้าอย่างนั้น ฉันขอผลตรวจเลยได้ไหมคะ” จะว่าดีใจก็ไม่สุด เพราะต่อให้ตนเองบริสุทธิ์ผุดผ่องแค่ไหน มันก็คงไม่มีความหมายอะไรอีกต่อไปแล้ว ในเมื่อเธอไม่ได้แม้แต่จะมีสิทธิ์มอบมันให้กับผู้ชายที่รัก
“นี่คือผลตรวจของคุณ หวังว่าพวกเขาจะเชื่อแล้วนะว่าคุณยังบริสุทธิ์” อัคคีพูดอย่างหงุดหงิดใจแทน แม้จะว่ารู้ว่านี่ไม่ใช่เรื่องที่ตนควรจะเข้าไปยุ่งอะไรด้วยก็ตาม
“ขอบคุณหมอมากนะคะ ถ้าอย่างนั้น ฉันขอตัวก่อน”
เวทิการับเอกสารด้วยสีหน้าเศร้าสร้อยเสียจนอัคคีสังเกตได้ แต่หมอหนุ่มก็เลือกที่จะไม่เอ่ยถามอะไรออกไป เพราะตอนนี้หน้าที่ของตนเองได้จบสิ้นแล้ว หญิงสาวตรงหน้าก็แค่คนไข้เหมือนคนไข้คนอื่นๆ ที่มาพบหมอและก็กลับบ้านไป ที่สำคัญ เวทิกาคนนี้กำลังจะแต่งงาน และเขาก็คงไม่มีโอกาสได้สานสัมพันธ์อะไรกับเธอต่ออีก
“ขอให้คุณโชดดี อ้อ แต่ผมจะเตือนไว้อย่างหนึ่งว่า ผู้ชายถ้ามันมีความเป็นสุภาพบุรุษมากพอคงไม่ปล่อยให้คุณมาทำอะไรบ้าๆ แบบนี้คนเดียว เส้นพรหมจรรย์ไม่ใช่สิ่งที่จะทำให้ชีวิตคู่อยู่กันตลอดรอดฝั่ง เชื่อผมสิ” อัคคีพูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง อดสงสารหญิงสาวไม่ได้ที่ต้องมาทำเรื่องแบบนี้ เธอยังเป็นสาวบริสุทธิ์ก็เท่ากับว่าเขาเองได้เห็นได้สัมผัสในสิ่งที่เจ้าบ่าวควรจะได้เห็นเป็นครั้งแรก แต่ในเมื่อเวทิกาเลือกเส้นทางเดินของตนเองแล้ว เขาเองก็ไม่มีสิทธิ์เข้าไปห้าม
“ค่ะ ขอบคุณหมออีกครั้งนะคะ” แม้ในใจจะรู้สึกผิดที่ต้องโกหกออกไป แต่เวทิกาก็อดประทับใจหมออัคคีไม่ได้ที่เขายังคงสอนและเอ่ยเตือน หากครั้งหน้าได้เจอกัน เธอคงจะทำดีกับหมอหนุ่มให้สมกับความหวังดีที่เขามีให้เธอ
จากนั้น หญิงสาวจึงเดินออกจากห้องไปและเตรียมที่จะต้องเผชิญความเป็นจริงข้างหน้า แม้เธอจะไม่อยากเผชิญกับมันก็ตาม
หมอหนุ่มนั่งมองร่างบางที่เพิ่งเดินออกไปด้วยความรู้สึกที่หลากหลาย เขาไม่อยากจะเชื่อว่าคำว่า ‘รักแรกพบ’ มีอยู่จริง ไม่สิ...ต้องบอกว่าถูกใจแรกพบต่างหาก เพราะคนอย่างหมออัคคีคงไม่มีวันตกหลุมรักผู้หญิงคนไหนง่ายๆ
ที่ผ่านมาตลอดช่วงอายุถึงตอนนี้ อัคคีแทบไม่เคยคบหาใครจริงๆ จังๆ แต่ด้วยความเป็นนายแพทย์หนุ่มไฟแรง แน่นอนว่าสาวๆ ต่างก็พากันถวายตัวให้ และมีหรือที่เขาจะไม่รับไว้ ชายหนุ่มไม่เคยเรียกร้องหรือมองหารักแท้ เพราะรู้ดีว่าความรักคือเรื่องของคนอ่อนแอที่กลัวการอยู่คนเดียวเท่านั้น แต่เขาไม่ใช่คนแบบนั้น และจะต้องไม่เอาตัวเองไปพัวพันกับเรื่องที่อยู่เหนือการควบคุมของสมองอย่างแน่นอน
ติ๊ดๆ ๆ
เสียงโทรศัพท์เข้าทำให้อัคคีตื่นจากภวังค์ แล้วก้มมองโทรศัพท์มือถือตรงหน้าก่อนจะขมวดคิ้ว เพราะมันไม่ใช่โทรศัพท์มือถือของตนเองแต่เป็นของหญิงสาวที่ชื่อ ‘เวทิกา’ ที่เพิ่งออกจากห้องเขาไปต่างหาก
นายแพทย์หนุ่มหล่อมองชื่อคนที่โทร.เข้ามา แล้วเกิดความลังเลใจว่าเขาควรจะรับสายหรือไม่ แต่หากไม่กดรับสาย ‘แม่’ ของเธอก็คงจะโทร.มาไม่หยุดเป็นแน่!