ตอนที่ 1
เพื่อนไม่กินเพื่อน... ซะที่ไหน
การมีใครสักคนอยู่เคียงข้างในทุกช่วงเวลาของชีวิต สำหรับคนอื่นน่าจะเป็นเรื่องดี แต่สำหรับ ‘กมลฉัตร’ แล้ว การมี ‘แสนกล้า’ อยู่เคียงข้างในทุกช่วงเวลาของชีวิต มันทำให้เธอปวดประสาทไม่เว้นแต่ละวัน ถ้าไม่นับรวมสี่ปีแรกก่อนเข้าอนุบาลที่เธอยังไม่รู้จักเขาแล้วละก็ รวมระยะเวลาที่เธอรู้จักกับเขาจนมาถึงตอนนี้ก็ยี่สิบปีแล้ว
ใคร ๆ ต่างพากันพูดว่า เธอกับเขาเป็นเนื้อคู่กัน ยังไงก็หนีกันไม่พ้นหรอก แต่เธอว่า… ยังไงก็ต้องหนีให้พ้น
เธอไม่มีวันเอาไอ้แสนทำผัวหรอก รู้เช่นเห็นชาติกันขนาดนี้ จะให้ปี้กันได้ยังไง แค่คิดก็ขนลุกแล้ว
ตั้งแต่เข้าเรียนอนุบาลหนึ่งจนถึงมัธยมปลาย เธอกับเขาเรียนห้องเดียวกันมาตลอด กระทั่งเข้ามหาวิทยาลัยก็ยังเรียนคณะเดียวกัน สาขาวิชาเอกเดียวกัน เธอเบื่อหน้ามันใจจะขาด อยากจะตัดมันออกจากความเป็นเพื่อนสามล้านแปดแสนหกหมื่นห้าพันสองร้อยเก้าสิบเก้าครั้ง แต่ก็ตัดไม่ขาดสักที เพราะไอ้บ้านี่เห็นเธอเป็นสถานสงเคราะห์ที่มันพึ่งพิงได้ตลอดยี่สิบสี่ชั่วโมง
อย่างคืนนี้ก็เช่นกัน…
เลิกงานมาเหนื่อย ๆ แทนที่จะได้กลับคอนโดฯ ไปนอนหลับพักผ่อน เธอกลับถูกมันลากมาผับด้วย ต้องมานั่งกินเหล้าเป็นเพื่อนมัน เพราะมันอกหักครั้งที่สี่แสนสองหมื่นหกพันห้าร้อยเจ็ดสิบแปดเห็นจะได้
ถึงแม้วันนี้จะเป็นวันศุกร์ พรุ่งนี้เป็นวันหยุด ไม่ต้องไปทำงาน แต่เธอก็อยากจะทิ้งตัวลงบนเตียง มากกว่านั่งฟังมันพร่ำเพ้อถึงน้องใยไหม… พนักงานใหม่ที่เพิ่งคบกับมันแค่สองเดือน แล้วเขาก็สลัดมันทิ้งไปคบกับคนอื่น
มันไม่ใช่เรื่องแปลก ไม่ใช่เรื่องน่าตกใจ มันเป็นเรื่องปกติที่เธอเห็นจนชาชินแล้ว ไอ้แสนมีแฟนมากี่คนแล้ว อกหักมากี่ครั้งแล้ว เธอจำไม่ได้หรอก เพราะในปีหนึ่ง ๆ มันเปลี่ยนแฟนบ่อยกว่าเปลี่ยนแปรงสีฟันเสียอีก
“ฉัตร… ฉันผิดอะไร ทำไมน้องไหมถึงทิ้งฉันไปคบกับไอ้นั่น”
ถามเพื่อนแล้วก็ยกแก้วเหล้าขึ้นดื่ม พอหมดก็วางแก้วกระแทกลงบนโต๊ะ แล้วจ้องหน้าเพื่อนที่นั่งอยู่ตรงกันข้าม ระหว่างเขากับกมลฉัตรมีเพียงโต๊ะกลมตัวเล็กกั้นไว้ บนโต๊ะมีแก้วเหล้าสองแก้ว… ของเขากับของเธอคนละแก้ว มีขวดเหล้า ถังน้ำแข็ง และโซดาหลายขวด
กมลฉัตรถอนหายใจเฮือกใหญ่ เธอยกแก้วเหล้าขึ้นมาจิบนิดหน่อยแล้ววางลง จ้องหน้าเพื่อนด้วยสายตาสมเพชแกมระอาใจ
“ฉัตร… เธอตอบฉันมาสิ ตอบฉันมาว่าน้องใยไหมทิ้งฉันไปเพราะอะไร”
กมลฉัตรเหลือบตามองบน ก่อนจะตอบไปส่ง ๆ
“เพราะแกจู๋เล็ก”
คำตอบของกมลฉัตรทำเอาคนเมาแทบสร่าง แสนกล้ายื่นหน้าข้ามโต๊ะไปใกล้กมลฉัตร จ้องหน้าเธอเขม็ง ก่อนจะบอกด้วยน้ำเสียงจริงจัง
“ของฉันไม่เล็กนะโว้ย!”
กมลฉัตรถอนหายใจ เบี่ยงหน้าหนีใบหน้าที่ยื่นเข้ามาใกล้ พลางยื่นฝ่ามือไปตะปบกลางใบหน้าหล่อเหลา ออกแรงดันให้มันเอาหน้าออกไปห่าง ๆ เธอ
แสนกล้าสะบัดหน้าหนีมือนุ่ม เขายอมนั่งดี ๆ เหมือนเดิม แต่ก็ยังจ้องหน้าเพื่อนไม่ยอมละสายตาไปไหน
กมลฉัตรเห็นเขาจ้องตาเขม็ง เธอจึงพยักหน้าแล้วพูดว่า
“เออ… ใหญ่ก็ใหญ่”
“ดีมาก… เรื่องแบบนี้ อย่าเอามาล้อเล่น เพราะของฉันใหญ่จริง”
กมลฉัตรเบ้ปาก ยกแก้วเหล้าขึ้นดื่ม เธอไม่อยากมีปัญหากับคนเมา จึงเลือกที่จะนั่งเงียบ ๆ ฟังไอ้คนอกหักพร่ำบ่นคลอเคล้าเสียงดนตรี
นี่ถ้าไม่ติดว่าอยู่บริษัทเดียวกัน มันไม่มีทางลากเธอมาผับได้หรอก ขนาดเธอไม่รับสาย ไม่อ่านข้อความ แถมวันนี้เธอยังอยู่ทำโอทีด้วย เลิกงานตอนสองทุ่ม มันยังมีหน้ามาดักรอเธอที่หน้าลิฟต์ พอลิฟต์ลงมาถึงชั้นล่าง แล้วประตูลิฟต์เปิดออกมันก็จับข้อมือเธอไว้แน่นไม่ยอมปล่อย แล้วพาขึ้นแท็กซี่มาที่ผับทันที เพื่อน ๆ ที่บริษัทรู้ว่าเธอกับเขาเป็นเพื่อนสนิทกัน พื้นเพมาจากอำเภอเล็ก ๆ ในจังหวัดกาฬสินธุ์เหมือนกัน พวกเขาก็เลยเอาแต่พากันขำ มองมันลากเธอออกไปขึ้นแท็กซี่ที่หน้าตึกโดยไม่คิดจะช่วยเหลืออะไรเธอเลย
กมลฉัตรกับแสนกล้าจบวิศวกรรมคอมพิวเตอร์ ทั้งสองเป็นพนักงานไอทีอยู่บริษัทเดียวกัน เข้าทำงานพร้อมกัน แต่ทำงานคนละชั้น ดูแลระบบไอทีคนละแผนก
หลังจากเหล้าขวดแรกหมด แสนกล้าก็สั่งขวดที่สอง กมลฉัตรไม่ห้าม เพราะรู้ว่าถึงห้ามไปก็ไร้ประโยชน์ ปล่อยให้มันเมาจนหลับไป แล้วเธอค่อยหิ้วมันกลับไปส่งที่คอนโดฯ ดีกว่า
กมลฉัตรนั่งจิบเหล้าแก้วที่สองไปเรื่อย ๆ เธอกวาดสายตามองไปรอบตัว เธอกับแสนกล้ามาที่นี่ค่อนข้างบ่อย มาทุกครั้งที่ไอ้แสนมันอกหัก
มันเมา เธอนั่งเฝ้า พอมันเมาหลับ เธอก็หิ้วมันกลับไปส่งที่คอนโดฯ ของมัน แล้วเธอก็อาศัยนอนที่โซฟา พอเช้ามาเธอก็หนีกลับคอนโดฯ ตัวเองก่อนที่มันจะตื่น และคืนนี้ก็คงต้องเป็นแบบเดิมอีกนั่นแหละ
ขณะที่กมลฉัตรกำลังนั่งคิดอะไรเพลิน ๆ โทรศัพท์มือถือของเธอก็สั่นเตือนว่ามีสายโทร. เข้า หญิงสาวล้วงโทรศัพท์ออกมาจากกระเป๋ากางเกง เมื่อเห็นว่าแม่โทร. มา เธอจึงหันไปบอกแสนกล้า
“แสน… ฉันขอไปรับโทรศัพท์ก่อนนะ เดี๋ยวมา”
แสนกล้าชูแก้วเหล้าขึ้นเหนือหัว พร้อมกับพยักหน้ารับ