​​​​​​​จะเสียเวลาทำไม

1381 Words
เสียงเรียกเข้ายังคงดังอย่างต่อเนื่อง นายหัวอารัณย์ก็เลยกดรับเพราะคิดว่าคนที่โทรศัพท์มาหาเขาในเวลาดึกแบบนี้น่าจะมีธุระด่วน เขากดรับแต่ยังไม่ทันจะพูดอะไรคนปลายสายก็ส่งเสียงทักทายมาทันที และเสียงนั้นก็เหมือนว่าเขาเคยได้ยินที่ไหนมาก่อน “นายหัว ใช่เบอร์นายหัวอารัณย์ไหมคะ นายหัวบอกคนของนายหัวกลับไปก่อนได้ไหม หนูรู้นะว่านายหัวส่งเขามาขู่ให้หนูกลัวใช่ไหมล่ะ แต่ทำแบบนี้มันไม่เข้าท่าเลยนะ ถ้าอยากให้หนูออกไปก็พูดกันดีๆ ก็ได้ ไม่ต้องใช่แผนแบบนี้หรอก” หญิงสาวพูดรัวจนเขาจับใจความไม่ค่อยได้ “เพลงขวัญเหรอ พูดช้าๆ ได้ไหม เกิดอะไรขึ้น” “ก็คนของนายหัวที่หนูเจอตอนเย็น ตอนนี้พวกเขากำลังเดินอยู่รอบๆ บ้าน หนูได้ยินเสียงพวกมันแล้วจำได้ นายหัวสั่งพวกนั้นมาก่อกวนหนูใช่ไหม” เธอรับเล่าขณะที่มือไม้ก็สั่นไปหมด “ไม่ใช่นะ นั่นไม่ใช่คนของฉัน เธอรออยู่ที่นั่นนะ หาที่ซ่อนก่อนเดี๋ยวฉันจะรีบไป” พูดจบนายหัวก็รีบคว้ากุญแจรถแล้วขับรถลัดสวนยางพาราไปยังบ้านของเพลงขวัญอย่างรวดเร็ว เสียงรถที่ดังมาแต่ไกลทำให้คนที่กำลังหาทางงัดประตูบ้านรีบเผ่นกลับไปทันที ก๊อก ก๊อก ก๊อก “เพลงขวัญ อยู่ข้างในหรือเปล่า เปิดประตูหน่อยนี่ฉันเอง” เสียงนายหัวอารัณย์ที่ดังอยู่หน้าประตูทำให้เพลงขวัญที่ซ่อนอยู่ใต้เตียงรีบออกมาแต่ก็ยังไม่กล้าเปิดประตูเพราะยังไม่แน่ใจเท่าไหร่ว่าใช่เขาจริงหรือเปล่า “นายหัวแน่นะคะ” เธอถามย้ำ “อือ” พอได้ยินคำยืนยันอีกครั้งเพลงขวัญก็ค่อยๆ แง้มประตูออกทีละนิด แล้วพอเห็นว่าเป็นนายหัวอารัณย์จริงหญิงสาวก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก “เกิดอะไรขึ้น ขอเข้าไปข้างในได้ไหม” เขาถามด้วยความเป็นห่วงยิ่งเห็นใบหน้าของเธอที่มีแต่ความตื่นกลัวก็ยิ่งกังวลมากขึ้น เพราะเท่าที่ได้คุยกับเพลงขวัญเธอจะเป็นคนที่มั่นใจในตนเองมากแต่สีหน้าที่เห็นตอนนี้มันไม่ใช่แบบนั้นเลย “พวกมันมากันหลายคนค่ะ น่าจะเป็นวัยรุ่นเมื่อตอนเย็น” เพลงขวัญเดินนำเขามายังห้องรับแขกซึ่งมีชุดโซฟาเล็กๆ ตั้งอยู่จากนั้นเธอก็เล่าเหตุการณ์เมื่อครู่ให้กับนายหัวอารัณย์รวมถึงเรื่องเมื่อคืนก่อนที่เธอได้ยินเสียงคนคุยกันมีรอยเท้ากระจายอยู่รอบๆ บ้าน “แล้วทำไมเพิ่งบอกฉัน” “ก็หนูคิดว่าเป็นคนที่นายหัวส่งมา” “ฉันจะทำอย่างนั้นทำไม” “ก็นายหัวอยากได้บ้านของหนูนี่คะ” “เพลงขวัญ ฉันไม่เคยอยากได้บ้านของเธอเลยเพราะที่ดินแค่นี้ฉันจะเอาไปทำอะไร” “แต่นายหัวก็เอาไปแล้วนี่คะ” เธอเถียงกลับ “ที่ฉันยอมเอาเงินให้พี่ชายของเธอเพื่อแลกกับโฉนดที่ดินและบ้านก็เพราะถ้าฉันไม่ทำแบบนั้นพี่ชายเธอก็จะเอาไปขายให้คนอื่นแล้วเธอคิดว่าเขาจะยอมให้ยายของเธออยู่ต่อในที่ดินของเขาหลังจากที่ขาดส่งทั้งเงินต้นและดอกเบี้ยเหรอ” นายหัวหนุ่มถามหญิงสาวที่ดูเหมือนเธอคิดว่าเขาอยากได้บ้านและที่ดินของมาก ทั้งๆ ที่เขาไม่เคยอยากจะเลย “แล้วทำไมนายหัวถึงยอมล่ะคะ” “เพราะฉันเห็นแก่ยายของเธอไงล่ะ ยายของเธอก็เหมือนญาติผู้ใหญ่คนหนึ่ง ตั้งแต่เกิดมาฉันก็เห็นท่านมาทำงานที่บ้านของฉันแล้ว บางครั้งท่านก็ยังช่วยเลี้ยงฉันตอนที่พ่อกับแม่ของฉันไม่ว่าง แล้วเธอคิดว่าฉันจะทนเห็นท่านลำบากไปหาที่อยู่ใหม่ได้เหรอ” “หนูขอโทษที่คิดไม่ดีกับนายหัว หนูไม่กล้าไว้ใจใครที่นี่เลย ขนาดพี่ชายของหนูยังทำกับยายได้ ก็เลยไม่คิดว่าคนอื่นจะมาหวังดีกับยาย” เพลงขวัญไม่คิดก่อนว่านายหัวอารัณย์จะมีน้ำใจกับยายของเธอมากขนาดนี้มาก่อน “ฉันไม่ถือโทษอะไรหรอกนะเพลงขวัญ เธอยังเด็กมาก พอเจอเรื่องแบบนี้ก็ต้องระแวงเป็นธรรมดา จำไว้อย่างหนึ่งนะคนอย่างฉันถ้าอยากได้อะไรแล้วฉันไม่ต้องเสียเวลาทำอะไรแบบนี้เลย” “แล้ววัยรุ่นที่หนูเจอไม่ใช่คนของนายหัวเหรอคะ” เธอถามย้ำเพราะดูจากลักษณะแล้วพวกนั้นเกรงใจนายหัวอยู่ไม่น้อย “เด็กพวกนั้นเป็นคนงานของนายหัววาทิต” “ถึงว่าล่ะรอยเท้าถึงมาจากด้านนั้น สงสัยว่าพรุ่งนี้หนูคงต้องไปคุยกับนายหัวให้เขาบอกคนของเขาว่าอย่ามายุ่งกับหนูอีก” “เธอคิดว่ามันง่ายขนาดนั้นเลยเหรอ” “คนเราโตกันแล้วก็น่าจะพูดกันรู้เรื่องนะคะ” “ฉันก็ไม่อยากทำให้เธอกลัวหรอกนะ แต่มันจำเป็นที่จะต้องบอกไปตรงๆ เธอจะได้ตัดสินใจถูกว่าจะเอายังไงต่อ” “นายหัวจะบอกอะไรหนู” “วัยรุ่นที่เธอเจอเมื่อวาน” “ทำไมคะ” “มีสองคนที่เพิ่งออกจากคุกมาเมื่อเดือนที่แล้ว” “เขาติดคุกข้อหาอะไรคะ” “พยายามข่มขืน แต่เขามีคนคอยช่วยก็เลยติดไม่นาน” เพลงขวัญคิดไม่ตก เธอกะว่าจะอยู่ที่บ้านยาวถึงเปิดเทอมจึงขนของออกจากหอพักแล้วไปฝากไว้ที่บ้านของเพื่อนเพราะปิดเทอมยาวถึงสี่เดือนจึงไม่อยากเสียค่าหอพักไปฟรีๆ “หนูคงอยู่ที่นี่ไม่ได้แล้วใช่ไหมคะ” เธอถามความเห็นของเขาเพราะไม่รู้จะปรึกษาใคร “ฉันขอถามหน่อยนะว่าทำไมถึงอยากอยู่ที่นี่” “ก็ที่นี่เป็นบ้านของหนู ถ้าไม่อยู่ที่นี่นายหัวจะให้หนูไปไหนล่ะคะ” “กลับกรุงเทพไง” เขาเสนอทางออกเพราะไม่อยากให้เธออยู่ที่นี่เพราะตนเองคงตามมาช่วยไม่ได้ทุกครั้ง “ยังไงหนูก็ต้องกลับไปเรียนอยู่แล้วล่ะค่ะ แต่ไม่คิดว่าจะต้องกลับเร็วกว่ากำหนด” เธอพูดแล้วก็ถอนหายใจ “ไม่อยากกลับเหรอ มีอะไรหรือเปล่าถ้าเป็นเรื่องค่าใช้จ่ายฉันช่วยเธอได้เพราะรับปากยายเธอไว้แล้วว่ายังไงก็จะส่งเธอเรียนจนจบนั่นแหละ” “หนูยังพอมีเงินเก็บค่ะ แต่ที่ยังไม่อยากกลับเพราะยังไม่ได้หาหอใหม่เลย” “หาทำไมแล้วหอเดิมล่ะ” “ช่วงปิดเทอมหนูไม่ได้เช่าค่ะ ตั้งสี่เดือนนะคะ เสียดายค่าหอ แล้วหนูก็คิดว่าจะกลับมาอยู่กับยาย แต่ไม่คิดว่ายายจะจากไปเร็วแบบนี้” เสียงนั้นฟังดูเศร้าจนคนฟังก็รู้สึกเศร้าตามเธอไปด้วย “ฉันรู้นะเพลงขวัญว่ามันทำใจยาก แต่เธอก็ต้องผ่านมันไปได้” “แต่ก่อนหนูตั้งใจเรียนเพราะอยากจะจบมาทำงานดีๆ ได้เงินเดือนสูงๆ และกลับมาช่วยดูแลยาย” “เธอคิดดีแล้ว และก็ควรทำต่อ” “แต่ตอนนี้หนูไม่รู้ว่าจะทำแบบนั้นไปทำไม ถึงหนูประสบความสำเร็จแต่ยายก็ไม่อยู่แล้ว หนูไม่รู้จะทำไปเพื่อใคร” เพลงขวัญเสียงสั่นน้ำตาคลอ “เพื่อตัวเองไง เธออายุยังน้อยนะ ยังมีอนาคตอีกไกล อย่าเพิ่งท้อสิ” นายหัวอารัณย์พูดให้กำลังใจ “หนูมองอนาคตไม่ออกเลยค่ะ” “ฉันเข้าใจนะ เรื่องนั้นเดี๋ยวเวลาผ่านไปเธอก็จะเข้าใจและปรับตัวได้ แต่เรื่องที่เราควรกังวลก็คือเรื่องที่มีคนพยายามจะเข้ามาในบ้านเธอมากกว่า”
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD