อพาร์ทเมนท์ ศรีแสวงเหาะ
แก๊ก
ดืออ~ดื้อออ~
ชั้น6 ห้องหมายเลข8
เสียงเพลงดังกระหึ่มในช่วงเวลาเที่ยงคืน อพาร์ทเมนท์แห่งนี้มีทั้งหมด 9 ชั้น โดยชั้นหนึ่งมีประมาณ 9ห้อง อาจเป็นเพราะอยู่ใกล้กับย่านกลางเมืองและราคาถูกทำให้มีผู้คนหลากหลายชนชั้นอาศัยอยู่ที่นี่ วันนี้มีผู้ย้ายมาอยู่ใหม่เพิ่งเข้าพักวันแรก ก็เจอศึกหนักเมื่อข้างห้องซึ่งอยู่ด้านริมสุดเป็นห้องใหญ่มุมตึกเหมือนมีงานเลี้ยงสังสรรค์ ทำให้ทุกคนต่างนอนไม่หลับ เพราะห้องอยู่ติดกัน
"หนูได้ยินเสียงเพลงตั้งแต่ตอนเย็น หนวกหูชะมัด นี่ก็เวลาดึกดื่นทำไมพวกเขายังไม่นอน"
"ได้ยินว่าข้างห้องเราเป็นเด็กหนุ่มมหาลัย คงพาเพื่อนมาดื่มตามปกติมั้ง"
"นี่เรียกปกติหรือแม่?! เรียกว่าไม่เกรงใจคนอื่นมากกว่า คนจะหลับจะนอน"
"เราเข้ามาอยู่ทีหลังก็ต้องรู้จักเจียมเนื้อเจียมตัว อีกอย่าง...ที่พักไม่ได้หาง่ายๆ ใกล้เมืองแบบนี้ ข่มตาหลับซะเถอะโมบาย เดี๋ยวก็เช้า"
ครอบครัวนี้อาศัยอยู่ด้วยกันสามคนคนพ่อแม่ลูก
พ่อ วัยกลางคน ประกอบอาชีพยาม
แม่ วัยกลางคน ประกอบอาชีพสาวโรงงาน
ทั้งคู่มีลูกสาวสองคน
โบชัวร์ ลูกสาวคนโต อายุ 22ปี เรียนอยู่มหาวิทยาลัยปี 3 ผู้มีศักดิ์เป็นป้ารับเลี้ยงตั้งแต่ยังเด็ก จึงไม่ค่อยได้เจอกัน
โมบาย ลูกสาวคนเล็ก อายุ 19ปี เรียนอยู่มหาวิทยาลัยรัฐบาล ปี1 สูงพอประมาณหน้าตาจิ้มลิ้มผิวพรรณดี นิสัยร่าเริง มองโลกในแง่ดี หัวอ่อนไม่ทันคน
ครอบครัวนี้เดิมทีอยู่ต่างจังหวัด แต่เนื่องจากลูกสาวต้องเรียนมหาวิทยาลัยจึงพากันย้ายมาหางานใหม่ มีคนรู้จักในโรงงานแนะนำอพาร์ทเมนท์แห่งนี้ให้ เนื่องจากเดินทางสะดวกอีกทั้งราคาสมเหตุสมผล มาถึงก็ว่างแค่ห้องเดียวคือห้องที่ติดกับห้องหัวมุมใหญ่ เนื่องจากไม่มีทางเลือกมากนักเพราะในฐานะหาเช้ากินค่ำ จำใจต้องประหยัดทุกอย่าง
เช้าวันต่อมา
ทุกคนแยกย้ายกันไปทำงาน สาวน้อยโมบายก็รีบลุกขึ้นมาอาบน้ำแต่งตัวในชุดนักศึกษา หอบหิ้วกระเป๋าเดินเท้ายังปากซอยเพื่อขึ้นรถเมล์ประหยัดค่าเดินทาง
กระทั่งเลิกเรียน
ป้ายรถเมล์
ตึก ตึก ตึก
'ว้ายยยยย'
เพราะอยู่ทำรายงานจนเวลาห้าโมงเย็น โมบายรีบวิ่งมายังป้ายโดยสาร ผู้คนพลุกพล่านวิ่งกันชนละมุนเพราะอยากจะกลับบ้าน ตัวล็กโดนกระแทกจนล้มลงกับพื้น ไม่คิดว่าชีวิตในเมืองกรุงจะแสนวุ่นวายผิดกับต่างจังหวัดที่เคยอยู่อาศัย "บ้าฉิบ....!" เสียงสบถ
ขึ้นรถเมล์ไม่ทันอีกทั้งตอนพลาดเซล้ม กระดุมเสื้อนักศึกษากระเด็นหลุด สองมือรีบดึงปิดช่วงอก ท่ามกลางสายตาของบรรดาชายหนุ่มที่จ้องมอง เนื่องด้วยหน้าตาน่ารักสมวัยจึงเป็นที่สะดุดตาสะดุดใจใครต่อใคร
"อ๊ะ~" โมบายสะดุ้ง เปรยตามองชายหนุ่มยืนริมข้าง เขาถอดเสื้อชุดนักศึกษาคลุมปิดด้านหน้าให้
"หลุดไปหลายเม็ดเลยนะกระดุม" เสียงทุ้มพูด
"พะ พี่...ถอดเสื้อให้หนูทำไม"
"อยากเดินโชว์นมก็ไม่บอก"
"ไม่ใช่แบบนั้นค่ะ คือพี่ถอดเสื้อให้หนูตอนนี้พี่โป๊อยู่นะคะ อีกอย่างช่วงนี้ฝนเดี๋ยวก็เป็นหวัด"
อีกฝ่ายไม่พูดอะไรตอบกลับ ชายหนุ่มหน้าตาดีดูเหมือนจะไม่สนใจคนรอบข้าง คนอะไรทั้งสูงขาวตี๋มีซิกแพกพรีเมียมเกรดดีเยี่ยมชวนคลั่งไคล้อย่างมาก สักพักรถเก๋งก็แล่นเข้ามาจอดรับ คงไม่ได้จะมาขึ้นรถเมล์แต่มารอใครต่างหาก โมบายมองตามหลัง ยังงุนงงกับการกระทำ แต่อย่างน้อยตอนนี้เธอก็ไม่โป๊เพราะมีเสื้อของเขาปกคลุม
เมืองกรุงก็คงไม่ได้เลวร้ายที่คิดละมั้ง..
หลายวันผ่านไป
วันเสาร์
เพราะพ่อกับแม่ต้องออกไปทำงานหาเงินใช้หนี้ที่ติดค้าง ทั้งยังต้องส่งลูกสาวเรียนมหาวิทยาลัย เหลือเพียงโมบายที่อยู่นั่งรีดชุดนักศึกษา ห้องสี่เหลี่ยมขนาดไม่ใหญ่มาก แต่ตกแต่งสวยงามเพราะสาวน้อยชอบความน่ารัก ตัวเองนอนบนเตียง พ่อกับแม่มีที่นอนปิคนิคปูนอนพื้นด้านล่าง แต่บางทีก็ไม่กลับบ้านเพราะทำงานจึงนอนค้างที่นั่นเพื่อความสะดวกและลดภาระการใช้จ่ายในค่าเดินทางไป-กลับ
ก๊อก! ก๊อก!
เวลาห้าโมงเย็น พ่อเพิ่งไปเข้าเวรยาม แม่เองก็เข้างานที่โรงงานกะดึกเช่นกัน คงกลับพรุ่งนี้เช้าทั้งคู่ ทันทีที่ได้ยินเสียงเคาะประตู โมบายรีบลุกไปเปิด
แกร๊ก
"อ้าวว...พี่!" เมื่อเห็นผู้มาเยือนก็ต้องตกใจ เขาคือชายหนุ่มหน้าตาดีที่ถอดเสื้อคลุมให้วันก่อนที่ป้ายรถเมล์ "พี่จำหนูได้ไหม คนที่พี่เคยช่วยเอาไว้ที่ป้ายรถเมล์"
"น้องนี่เอง อยู่ห้องนี้เหรอ"
"ใช่ค่ะ บังเอิญจังเลยนะคะเนี่ย ยังคิดอยู่ว่าจะคืนเสื้อนักศึกษาให้พี่ยังไงดี"
"คือพี่มีเรื่องจะรบกวนสักหน่อย พี่พักห้องอยู่ห้องนี้"
ชายหนุ่มชี้ไปยังห้องริมข้างทันที นั่นก็คือห้องที่สังสรรค์เปิดเพลงดังอย่างไม่เกรงใจใครนั่นเอง
"มีอะไรหรือเปล่าคะ?" เสียงใสถาม
"ขอยืมใช้ห้องหน่อยได้ไหม เพื่อนพี่มันพาสาวมาเอาแบบไม่ได้นัดหมาย พี่ก็เลยไม่มีห้องใช้"
"หนูค่อนข้างไม่เข้าใจที่พี่พูดค่ะ"
"คิดค่าชั่วโมงเท่าไหร่? ถ้าพี่จะพาผู้หญิงมาเอาที่ห้องน้อง คือแบบว่าคนนี้ค่อนข้างเด็ดพี่ไม่อยากรอ จะให้ไปโรงแรมก็ต้องใช้เวลา พี่อยากได้แล้วอะ ของพี่มันแข็งจนฟาดปากแตกเลือดซิบได้เลยตอนนี้"
"_______"