ตอนที่ 4 สูตินรีเวช

1732 Words
ตอนที่ 4 สูตินรีเวช “คุณภารัญ แต่คุณดื่มไปเยอะแล้วนะคะ ตาคุณแดงก่ำเลย มาค่ะหนูช่วยครึ่งแก้ว” “ไม่ได้ ฉันดื่มเอง” ภารัญสาดเหล้าทั้งหมดล่วงผ่านเข้าในลำคอ จากนั้นหันไปบอกลาเพื่อน ๆ ทุกคน “เดี๋ยวค่ะภารัญ คืนนี้ลิตาเมามาก คุณไปส่งลิตานะคะ” ลิตาพุ่งเข้ามากอดแขนแฟนหนุ่มพยายามเบียดหน้าอกนุ่มถูลงไปบนร่างกายกำยำ มนตกานต์มองตามอากัปกิริยานั้นแล้วรีบเบือนหน้าหลบไปทันที “คุณเมาหรือ” “ค่ะ เมามากเลย คืนนี้คุณไปส่งลิตาที่คอนโดฯ นะคะ คอนโดฯ ลิตาอยู่ใกล้ ๆ นี้เอง” “เมามากหรือจ๊ะ หนูลิตา” ไม่ผิดจากที่คุณหญิงเพียงเพ็ญคาดการณ์เอาไว้ คนขับรถที่เธอส่งไปยังโรงแรมเคเคบอกว่าเมื่อไปถึง ไม่พบภารัญที่นั่นเจอแต่ผู้ชายสามสี่คนกำลังนั่งดื่มอยู่ภายในห้องพัก เมื่อให้คนขับรถเช็กสัญญาณจีพีเอสของลูกชายเห็นว่าภารัญยังไม่ได้ออกไปจากร้านเหล้า เธอจึงมั่นใจว่าลิตาคงใช้แผนสกปรก คิดโยนมนตกานต์ไปเข้าปากหมาขี้เรื้อนเหล่านั้น ยิ่งเห็นอย่างนี้มีหรือเธอจะยอมให้ลูกชายคว้าผู้หญิงใจคอโหดร้าย น่ารังเกียจมาเป็นเมีย “คุณแม่!” “หนูกานต์ พาพี่เขากลับบ้านเถอะลูก ส่วนเธอหนูลิตา ถ้าเมามากเพื่อนมีออกเต็มห้อง คงไม่มีใครปล่อยให้เธอ เมาจนลงไปนอนกลิ้งอยู่ข้างถนนหรอกจริงไหมจ๊ะ” อาการกระสับกระส่ายร้อนรุ่มกระวนกระวาย จนภารัญนั่งไม่เป็นสุข จนทั้งคุณหญิงเพียงเพ็ญและมนตกานต์อดเป็นห่วงไม่ได้ “คุณภารัญคะ คุณไม่สบายเหรอคะตัวร้อนจี๋เลย” มนตกานต์วางหลังมือลงไปอังหน้าผากแดง “ร้อน...มันร้อน” มือทึ้งดึงกระชากกระดุมเสื้อขาดกระเด็น “ตารัญ เป็นอะไรลูก” “คุณแม่ครับ ผมร้อน...เจ็บ” “อื้อ...” แก้มแดงสะบัดขวับหันกลับไปมองถนนนอกกระจกรถทันที เมื่อว่าที่สามีตะปบมือลงไปกำเป้ากางเกง ซึ่งเวลานี้มีอะไรบางอย่างมันแข็งลักษณะเป็นแท่งยาว ใหญ่จนมือภารัญกำเอาไว้แทบไม่มิด “ตายแล้วลูกชายฉัน” คนที่ผ่านร้อน ผ่านหนาวมามาก หากแต่ไม่เคยเจอเหตุการณ์วิปริตน่าเกลียดอย่างนี้มาก่อน “อ๊ากกกก” “โอ๊ยยย เจ็บ” เจ้าของแขนเล็กสะดุ้งเฮือกเมื่อมือหยาบคว้าเอวบางกระชากเข้าไปหา “ตารัญ” “ไปโรงพยาบาลดีไหมครับ คุณหญิง” “ไปสิ จะรออะไรเล่า” ภายในแผนกฉุกเฉินภารัญถูกทั้งหมอและพยาบาล ปฐมพยาบาลเจือจางฤทธิ์ของยาอุบาทว์ ด้านหน้านั้นมีนายตำรวจสองนายซึ่งคุณหญิงเพียงเพ็ญให้คนขับรถไปแจ้งความ กำลังนั่งสอบปากคำว่าที่ลูกสะใภ้ว่าก่อนหน้านี้ภายในห้องคาราโอเกะนั้นเกิดอะไรขึ้นบ้าง “คืนนี้ป้าฝากให้หนูกานต์ดูแลพี่เขาด้วยนะลูก” สัมผัสอ่อนโยนของคนเป็นแม่ลูบลงไปบนเรือนผมสีดำขลับของลูกชายเพียงคนเดียว “ค่ะ” ภาพมนตกานต์ นั่งสัปหงกจนหัวโขกหลังมือของเขาทำให้ภารัญนึกโมโหตัวเองไม่น้อย ภาพเหตุการณ์ก่อนสติสัมปชัญญะของเขาจะหลุดลอยไปคือแก้วเหล้าที่ลิตาส่งให้ กับท่าทีคะยั้นคะยอขอให้เขาไปส่งนั้นทำให้ภารัญเริ่มสับสนถึงตัวตนของลิตา “นี่...นี่เธอ” หลังมือมีสายน้ำเกลือเจาะเกะกะเกลี่ยลงไปบนแก้มใสจนเห็นเลือดฝาดเพราะมันปราศจากรองพื้นหรือแป้งพัฟแต่งแต้มระบายสี “หา นี่คุณตื่นแล้วหรือคะ เป็นยังไงบ้างยัง...เอ่อ ยังเจ็บอะไรตรงไหนอีกหรือเปล่า” ปากบางเม้มกัดเมื่อไม่อาจสลัดภาพท่อนกระบองยักษ์ลำใหญ่เมื่อคืนออกไปจากหัวได้สักที “หิวน้ำ ขอน้ำให้ฉันหน่อยได้ไหม” “อือ” มือยกขึ้นมาขยี้ตาสองสามทีแล้วเดินไปเปิดตู้เย็นหยิบน้ำเทจากขวดใส่แก้ว แล้วเดินนำกลับมาให้ “เมื่อคืน ขอบใจนะ” “ค่ะ” เจ้าของแก้มแดงก้มหน้างุด ๆ มุดลงไปพยายามซ่อนความเขินอายไม่ให้อีกฝ่ายเห็น มนตกานต์ละอยากเอามือทุบสมองตัวเองเหลือเกิน เพราะไม่ว่ายังไงเธอก็ไม่สามารถสลัดภาพเป้ากางเกงของภารัญออกไปได้เสียที “ทำไม เป็นอะไร ไม่สบายเหรอ” มืออุ่นแตะทาบลงไปบนหน้าผากแดง “เปล่าค่ะ หนูไปห้องน้ำก่อนนะคะ” โครม ! “โอ๊ยยยยยย” “กานต์ เธอเป็นอะไร” “โอ๊ยยยยย ซี้ดดดด โอ๊ยยยยย” เสียงโครมดังลั่น กับเสียงร้องโอดโอยมาจากในห้องน้ำ ภารัญกระชากสายน้ำเกลือบนหลังมือทิ้งก่อนจะวิ่งตามเข้าไปในห้องน้ำแคบ นั้นเห็นมนตกานต์นั่งตัวงออยู่บนพื้นห้องน้ำ “เธอเป็นอะไร” “เจ็บจิ๋ม” “ฮะ!” “จิ๋ม ชนขอบอันนั้น....” “เอ่อ..อะ อะ อะไรนะ” คราวนี้หน้าแดงขึ้นสีทั้งแก้มของภารัญและมนตกานต์สายตาประหม่ามองต่ำลงไปยังมือบางที่วางทาบกดลงไปยังตรงกลางระหว่างง่ามขาสองข้าง ใบหน้ากลมยับยู่ยี่วางซบแก้มก้อนลงมาบนหัวไหล่จนภารัญทำอะไรไม่ถูก “เอ่อ คือ...แล้ว เอ่อ...ฉัน...ฉันจะช่วยเธอยังไง” “หนูเจ็บ...คุณภารัญเจ็บจิ๋ม” “รัญ ตารัญลูก หนูกานต์ เสียงเอะอะโครมครามอะไรลูก” “หา...คุณแม่” ภายในห้องพักผู้ป่วยเวลานี้มีทั้งคุณหญิงเพียงเพ็ญที่ตั้งใจมาเยี่ยมลูกชาย คุณหมอประจำไข้ที่เข้ามาตรวจอาการตามเวลา รวมถึงพยาบาลสาวอีกสองคน และที่เดินตามเข้ามาด้านหลังนั่นคือนายตำรวจสองคนที่ตั้งใจจะมาสอบปากคำภารัญเพิ่มเติม “หนูกานต์ ทำไมเดินอย่างนั้นล่ะลูก หรือว่า....” สายตาหกคู่มองดูท่าเดินอันแปลกประหลาดของ มนตกานต์ซึ่งเดินออกมาจากห้องน้ำพร้อมภารัญ ในสภาพขาสองข้างหนีบชิดติดเข้าหากัน มือบางกดบีบลงไปยังเบื้องต่ำอันเป็นอวัยวะสำคัญของผู้หญิง หลังมือขาวมีรอยเทปกาวซึ่งเคยยึดสายน้ำเกลือมีเลือดไหลออกมา แล้วบนกระโปรงสั้นของว่าที่ลูกสะใภ้นั้นยังเปรอะเต็มไปด้วยคราบเลือด “โอยยยย ซี้ดดด เจ็บจิ๋มค่ะ” “เจ็บ เจ็บ อะไรนะลูก” “เจ็บจิ๋มค่ะ คุณป้า ซี้ดดดดดด โอยยยยยย” “นี่ตารัญ หนูกานต์” “ไม่ใช่ ไม่ใช่นะครับคุณแม่” กว่าภารัญจะอธิบายเรื่องราวทั้งหมดให้ทุกคนเข้าใจได้ หน้าเขาร้อนจนเหมือนมีไฟมาเผา ส่วนมนตกานต์ถูกพาไปยังแผนกสูตินรีเวชเพื่อตรวจดูว่าไอ้ที่เดินเอาของสงวนไปชนขอบโต๊ะนั้นบาดเจ็บมากน้อยแค่ไหน “เป็นยังไงบ้างลูก” คุณหญิงเพียงเพ็ญเดินเข้ามาประคองกอดเอวเด็กสาว “แหะ ๆ ดีขึ้นแล้วค่ะ” “เธอนี่มันจริง ๆ เลย” “ภารัญ” ลิตาเดินมาหยุดยืนมองคนทั้งสองด้วยความสงสัย ป้ายประจำแผนกสูตินรีเวชด้านบนทำให้เธอร้อนรนอย่างเห็นได้ชัด “รัญ เข็นรถพาน้องกลับไปนอนพักที่ห้องก่อนเถอะ น้องยัง...เจ็บอยู่ เดี๋ยวจะกระเทือน” “แต่ว่าคุณแม่ครับ” ภารัญหันไปทางแฟนสาว แล้วหวนนึกถึงคำบอกเล่าของนายตำรวจเมื่อเช้า ที่บอกกับเขาว่าคนที่วางยาเขานั้นคือ ลิตา อีกทั้งคำบอกเล่าเรื่องราวพร้อมหลักฐานการล่อหลอก ลวงให้มนตกานต์ ไปหาเขาในโรงแรมม่านรูดนั้นอีก “รัญพาน้องไปพักก่อนเถอะ เมื่อคืนหนูกานต์เขาอยู่ดูแลลูกทั้งคืนแล้ว คงจะทั้งเหนื่อย ทั้งเพลีย เดี๋ยวหนูลิตาแม่คุยเอง” คุณหญิงเพียงเพ็ญเน้นคำว่า ‘ดูแลทั้งคืน’ หันไปยิ้มเยือกเย็นให้กับแฟนลูกชาย แอบหวังผลจากการสื่อความหมายอันกำกวมนั้น “แต่ว่า...” ภารัญก้มลงมองปากยู่ ของคนที่นั่งตัวงออยู่บนรถเข็นแล้วจึงยอมเข็นรถนั่ง เดินห่างไปตามทางเดิน “เดี๋ยวสิคะภารัญ” “หยุดก่อนจ้ะลิตา เธอกับฉัน เรายังมีเรื่องต้องคุยกันอีกมาก” “เด็กนั่นเป็นอะไรคะ” ตาขวางมองระแวงไปยังป้ายหน้าห้องสำหรับ ‘ตรวจภายใน’ หากแต่ความคิดอกุศลเพราะเธอเองก็หวังผลจากการวางยาปลุกเซ็กซ์เมื่อคืน ทำให้ลิตายิ่งรู้สึกหงุดหงิดโกรธเคือง ขุ่นแค้นคนที่ทำให้แผนการของเธอล้มไม่เป็นท่า “เธอไม่รู้หรือว่า มันเกิดอะไรขึ้น” “ไม่จริง ถ้าภารัญมีสติครบถ้วน เขาไม่มีวันตาต่ำหลงไปเอาเด็กนั่นแน่ เขาก็ไม่มีวันนอกใจลิตา” “เธอคิดว่าภารัญขาดสติอย่างนั้นหรือ” “แน่นอน ภารัญเขารักลิตาคนเดียว เมื่อคืนนี้ถ้าเด็กนั่นไม่พาเขากลับไปก่อน บางที....” “บางทีเมื่อคืนนี้ อาจเป็นเธอสินะที่ได้นอนกับลูกชายฉัน น่าเสียดายที่แผนของเธอไม่เป็นไปตามคาด” “คุณแม่!!!” “พ่อ แม่ของเธอจะทำหน้ายังไงนะ ถ้ามีหมายเรียกส่งไปถึงบ้าน” “คุณแม่หมายความว่ายังไงคะ” แววตาประหม่ามองด้วยความหวาดระแวง กระทั่งด้านหลังนั้นมีนายตำรวจสองคนเดินเข้ามาสมทบ “ขอเชิญคุณลิตา ไปให้ปากคำกับทางตำรวจเกี่ยวกับคดีการมอมยาคุณภารัญเมื่อคืนนี้ด้วยนะครับ” “มอมยา คุณแม่เข้าใจอะไรผิดหรือเปล่าคะ” “เมื่อคืนนี้กล้องวงจรปิดภายในร้านเหล้าแสดงให้เห็นชัดเจนว่าเธอหยอดอะไรบางอย่างลงไปในแก้วเหล้าลูกชายฉัน แถมยังข้อความหลอกให้มนตกานต์ไปโรงแรมม่านรูด อย่าคิดว่าฉันรู้ไม่ทันเธอนะลิตา” “นี่....” “ฉันมีใบรับรองทางการแพทย์ ถึงอาการหัวใจเต้นผิดจังหวะ จนเกือบกลายเป็นภาวะช็อก หัวใจวายเฉียบพลันผลของภารัญ ซึ่งมีผมข้างเคียงมาจากยานรกนั้น ฉันสามารถแจ้งความข้อหาพยายามฆ่ากับเธอได้ เรื่องนี้จะกลายเป็นข่าวใหญ่บนหน้าฟีดสื่อออนไลน์ทุกแขนง พ่อ แม่ ญาติ พี่น้อง รวมถึงเพื่อน ๆ ของเธอทุกคน จะรับรู้ถึงตัวตนที่แท้จริงของเธอ” “ไม่นะคะ คุณแม่” “ถ้าเธอไม่อยากให้ฉันเดินหน้า เธอก็แค่ถอยหลังไป เข้าใจที่ฉันพูดใช่ไหม”
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD