Episode 04
จูบฉันทำไม
การเริ่มงานวันแรกของโซ่ผ่านไปได้ด้วยดีเพราะมีฟูมิโกะคอยแนะนำช่วยเหลืออยู่ตลอดเวลา ถึงแม้จะมีสายตาไม่ชอบใจของธามแอบเหล่มองมาเป็นระยะก็ตามที
“ไม่สิงร่างโซ่มันเข้าไปเลยล่ะ ถ้าจะตามติดทั้งวันขนาดนั้น” ธามเอ่ยขึ้นตอนที่ฟูมิโกะเดินเอาถาดมาเก็บ
“ทำไมหึงเหรอ”
“ทำไมฉันต้องหึงเธอด้วย”
“เพราะฉันสวยไง เสียดายละสิที่ไม่มีวันได้แอ้มฉันน่ะ” ฟูมิโกะไหวไหล่ไม่ได้ใส่ใจกับคำพูดของเธอมากมายนัก ผิดกับธามที่วางมือจากงานตรงหน้าเดินเข้ามาประชิดตัวร่างบางโดยไม่ทันได้ตั้งตัว “ทะ…ทำอะไร”
“รู้ได้ไงว่าฉันไม่มีวันได้แอ้มเธอ?” ชายหนุ่มยกหัวคิ้วหนาขึ้นพร้อมกับกระตุกยิ้มมุมปาก มือหนารั้งเอวคอดบางเข้ามาหาตัวจนชนกับแผงอกแกร่ง ทำเอาฟูมิโกะเริ่มหายใจไม่ทั่วท้องขึ้นมา
“เพราะ…เพราะว่าฉันรู้ไงว่าฉันไม่เอานายหรอก” สาวน้อยตอบกลับด้วยน้ำเสียงตะกุกตะกัก อีกทั้งยังพยายามหลบสายตาคมคายของชายหนุ่มที่จ้องมองมาที่เธอไม่กะพริบตา
“แน่ใจนะ?”
“นะ…แน่ใจ”
“หึ ถามแค่นี้ถึงกับเสียงสั่นเลยเหรอ” ธามกระตุกยิ้มมุมปากด้วยความชอบใจที่ต้อนหญิงสาวให้จนมุมได้
“ฉัน…”
น้ำเสียงหวานถูกกลืนลงคอเมื่อธามใช้ปลายนิ้วเชยปลายคางมนขึ้นมาตามด้วยจรดริมฝีปากอุ่นร้อนลงมาบนริมฝีปากบางอมชมพูของหญิงสาวกะทันหัน ทำเอาดวงตากลมโตที่ประดับด้วยแพขนตางอนยาวเบิกโพลงขึ้นด้วยความตกใจ
“ถึงเธอจะแน่ใจแค่ไหน แต่อย่าลืมนะว่าฉันเป็นแฟนของเธอ” ธามกระตุกยิ้มมุมปากด้วยความชอบใจ ก่อนจะใช้ปลายนิ้วโป้งเช็ดบริเวณริมฝีปากของคนตัวเล็กเบาๆ ก่อนจะเดินจากไป ปล่อยให้ฟูมิโกะตกอยู่ในห้วงภวังค์ของตัวเองอยู่เพียงลำพัง
ประโยคที่ว่าเขาเป็นแฟนของเธอยังคงก้องกังวานอยู่ในความคิด ราวกับเขาตั้งใจจะใช้จูบนี้เพื่อย้ำเตือนความสัมพันธ์ระหว่างเขากับเธอ ทว่าเธอเองก็ไม่กล้าคิดไปไกลถึงขั้นนั้น เพราะทั้งเขาและเธอต่างรู้อยู่แก่ใจว่าสถานะที่แท้จริงของเธอกับเขามันคืออะไร และการที่เขาทำกับเธอแบบนี้แทบจะไม่มีคำตอบไหนไขข้อข้องใจให้เธอได้เลย
หลังจากหาคำตอบให้ตัวเองไม่ได้ฟูมิโกะจึงทำได้เพียงถามหาคำตอบจากเจ้าของการกระทำอย่างตรงไปตรงมาเท่านั้น เพียงแต่ว่าอีกฝ่ายกลับไม่ให้ความร่วมมือในการไขข้อสงสัยของเธอ
“นี่นาย ตกลงเมื่อตอนกลางวันหมายความว่าไง” ฟูมิโกะเดินมาถามธามขณะที่เขากำลังปิดประตูร้าน
“พูดมาก”
“ฉันแค่พูดมากแต่นายน่ะมันนิสัยเสียมาขโมยจูบแรกฉันไปได้ไงกัน!” ฟูมิโกะตะโกนต่อว่าเสียงแหลม ยิ่งเขาทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นมากเท่าไหร่เธอก็ยิ่งรู้สึกรำคาญใจมากเท่านั้น
“กลัวลูกน้องพ่อเธอไม่รู้เหรอว่าคบกันมานานขนาดนี้แล้วพึ่งจะจูบกัน”
“นี่นาย!” คนตัวเล็กตาโตด้วยความไม่ชอบใจ ก่อนจะหันไปตะโกนบอกลูกน้องของพ่อตัวเองให้กลับไป “กลับไปกันได้แล้ว ว่างมากนักเหรอมายืนเฝ้าอยู่ได้!!!”
“นี่อย่าพาล” ธามเดินมาดีดหน้าผากมนเบาๆ เพื่อเรียกสติ
“งั้นนายก็ตอบฉันมาสิว่าไอ้จูบนั่นหมายความว่ายังไง” คนตัวเล็กยืนเท้าเอวรอฟังคำตอบด้วยท่าทางเอาแต่ใจ
“อยากรู้?”
“ใช่!”
“จะอยากรู้ไปทำไม ฉันแค่จูบแฟนตัวเองมันผิดตรงไหน?” ริมฝีปากหนายกยิ้มมุมปากพร้อมกับเลิกคิ้วหนาขึ้นแสร้งทำเป็นไม่เข้าใจว่าตัวเองทำอะไรผิด และต้องอธิบายอะไร
“ทำไมหวั่นไหวให้ฉันแล้วละสิ ยอมรับแล้วใช่ไหมว่าฉันเป็นแฟนนาย ตอนนี้อดใจไม่ไหวเลยใช่ไหมล่ะ” เมื่อไม่ได้คำตอบที่ต้องการคนตัวเล็กก็แสดงท่าทีหยิ่งทะนงตนออกมาเพื่อเอาชนะอีกฝ่าย
“ชอบท้าทายจริงๆ ไม่เข็ดใช่ไหม แต่รู้เอาไว้เลยว่าถ้าฉันอดไม่ไหวเมื่อไหร่มันไม่ใช่แค่จูบหรอก” ร่างสูงที่เดินมาหยุดพูดตรงหน้าทำเอาฟูมิโกะถึงกับประหม่ารีบถอยหลังไปตั้งหลัก เพราะกลัวจะถูกเขาฉวยโอกาสเหมือนเมื่อตอนกลางวัน
“ก็แค่ยอมรับว่าแอบหลงเสน่ห์ฉันแล้วมันพูดยากมากรึไง” ฟูมิโกะแสร้งเบี่ยงเบนประเด็นด้วยการทำตัวฟึดฟัด เพื่อหลบสายตาของธามที่มองมา
“อย่าหลงตัวเองไปหน่อยเลย” เป็นอีกครั้งที่ธามใช้นิ้วดีดหน้าผากมนเบาๆ ทำให้สถานการณ์ไม่กระอักกระอ่วนเหมือนก่อนหน้า
“ปากหมา แล้วยังปากแข็งอีกนะ”
“ก็จูบมาแล้วนี่ฉันว่ามันก็ไม่แข็งนะ หรือจะลองอีกที”
“หยุดความคิดชั่วร้ายของนายเอาไว้ตรงนั้นเลย ครั้งหน้าห้ามฉวยโอกาสกับฉันแบบนี้อีกนะฉันไม่ชอบ แล้วนี่ปิดประตูร้านทำไมฉันยังไม่ได้กลับบ้านเลย” ฟูมิโกะรีบยกมือดันร่างหนาที่จะเดินเข้ามาหาเธอเอาไว้ เพื่อให้เว้นระยะห่างที่เธอพึงพอใจ พลางเหลือบมองไปยังบานประตูร้านที่ถูกลงกลอนจากด้านในเรียบร้อยแล้ว
“มานี่สิ” ธามคว้ามือคนตัวเล็กมาจับเอาไว้ก่อนพาเธอเดินขึ้นไปด้านบนที่เป็นโซนที่พักอาศัยของเขา “นั่งรอตรงนี้ก่อน”
คนตัวเล็กยอมนั่งรออยู่บนโต๊ะกินข้าวตามคำสั่งอย่างว่าง่าย ก่อนที่ธามจะยกเตาปิ้งย่างไฟฟ้ามาวางตรงหน้าเธอพร้อมกับเนื้อสัตว์ และผักต่างๆ ที่เตรียมเอาไว้สำหรับหมูกระทะในค่ำคืนนี้
“เมื่อวานไม่ทันได้กินไม่ใช่รึไง”
“นายทำให้ฉันกินจริงๆ เหรอ?” หญิงสาวถามด้วยน้ำเสียงไม่อยากจะเชื่อ เพราะจากนิสัยพื้นฐานของธามเขาดูไม่ใส่ใจเธอมากขนาดนั้น
“เก็บตังค์ ก่อนกลับอย่าลืมจ่ายตังค์ด้วย”
“ขี้งก เดี๋ยวฉันก็เก็บค่าตัวที่มาช่วยทำงานที่ร้านนายบ้างหรอก”
“จ่ายเป็นจูบได้ไหม?”
“นี่นาย! เลิกล้อฉันได้แล้ว ฟังแล้วน่าหมั่นไส้ชะมัด”
ธามหัวเราะออกมาเบาๆ ด้วยความชอบใจ ราวกับเป็นพวกโรคจิตที่ถูกด่าแล้วมีความสุข แต่ความรู้สึกนี้คงไม่ได้มีไว้ใช้สำหรับทุกคน นอกจากธีลินพี่สาวของเขาแล้ว ฟูมิโกะก็ดูเหมือนจะกลายเป็นอีกหนึ่งข้อยกเว้นไปโดยไม่รู้ตัว เพราะถึงจะปากร้ายเอาแต่ใจยังไงเธอก็ไม่ได้เป็นผู้หญิงที่เลวร้ายอะไร หนำซ้ำยังช่วยให้พี่สาวของเขาได้มีครอบครัวที่สมบูรณ์อีกต่างหาก
“แผลนายเป็นยังไงบ้าง” ฟูมิโกะเอ่ยถามขณะนั่งเท้าคางมองธามเตรียมวัตถุดิบอยู่ในครัว
“ตึงแผลนิดหน่อย คงใกล้แห้งแล้วเดี๋ยวก็หาย”
“งั้นก่อนกลับฉันทำแผลให้ก่อนแล้วกัน ถือซะว่าจ่ายค่าหมูกระทะมื้อนี้”
“เธอกินไปก่อนฉันไปโทรหาพี่ลินก่อน” ธามเดินเอาอาหารจานสุดท้ายมาวางลงบนโต๊ะ พร้อมกับอมยิ้มให้กับวิธีการจ่ายค่าอาหารของหญิงสาว
“ฉันคุยด้วยสิอยากเห็นเด็กๆ” คนตัวเล็กรีบเดินไปเกาะแขนชายหนุ่มออดอ้อนเขาตาใสจนเขาต้องยอมให้เธอเป็นผู้ร่วมสายสนทนาด้วยความจำใจ