6 เดือนต่อมา
“ลูคัสสู้ ๆ เหยียบมันให้เละเลย”
“พี่ลูคัสอีกนิดเข้าเส้นชัยแล้วค่ะ สู้ ๆ นะคะ”
หญิงสาวร่างบางนั่งกอดอกไขว่ห้าง มองผู้หญิงทางอัฒจันทร์อย่างเบื่อหน่าย ที่กำลังยืนเชียร์ชายหนุ่มที่กำลังแข่งรถอย่างดุเดือดภายในสนามแข่ง
เสียงเชียร์ต่างเชียร์หมายเลข 01 ที่สาว ๆ ตามกรีดเชียร์กันเอาเป็นเอาตายอยู่นั้นคือลูคัส นิโคล เจ้าของธุรกิจมืดของสนามแข่งนี้นั้นเอง เธอได้แต่มองและเบื่อหน่ายและรอให้การแข่งขันนี้มันจบ ๆ สักที เธอเหนื่อยอยากไปเสียให้พ้นถ้าไม่ติดคนที่กำลังแข่งรถให้ลูกน้องยืนคุมเธอที่ยืนดูหญิงสาวอยู่ห่าง ๆ ตามที่นายสั่ง
ฟิ้วววว~~~~~~
“ตามคาดครับเจ้าเก่าเจ้าเดิมตามที่เราคิด ลูคัสนักแข่ง เฟอร์รารี่ เอสเอฟ90 เบอร์ 01 เข้าเส้นชัยเป็นที่เรียบร้อยแล้วครับ”
“เย้...มันต้องอย่างงี้สิวะ เอาเงินมาฮ่า ฮ่า” เสียงคนที่เชียร์ต่างดีอกดีใจที่ชายหนุ่มชนะเพราะมันคือการแข่งขันเถื่อน ที่เล่นเดิมพันกันอย่างผิดกฎหมาย
ถ้าชายหนุ่มชนะเงินเดิมพันที่ลงพนันไว้จะเป็นของผู้ที่เป็นฝ่ายชนะทันที
ส่วนเงินเดิมพันก้อนใหญ่ที่ตกลงเอาไว้ก่อนแข่งคือรถของอีกฝ่ายจะตกเป็นของชายหนุ่มที่เป็นผู้ลงแข่งทันที เพราะสัญญาได้ว่าเอาไว้แล้วก่อนลงแข่งผู้แพ้ต้องเสียงรถแข่งให้ฝ่ายตรงข้ามแล้วแต่ว่าจะพนันอะไรกันในแต่ละรอบ
“เธอเห็นฉันเข้าเส้นชัยไหม มิลิน” ชายหนุ่มเดินเข้ามาด้วยอารมณ์โกรธเล็กน้อยและเอ่ยถามขึ้น
“เห็น” หญิงสาวร่างบางตอบกลับสั้น ๆ อย่างไร้เยื่อใย
“หึ เห็นแต่นั่งเฉย หน้าที่เธอต้องทำอะไรคงลืมไปแล้วสินะ” เขาเอ่ยพูดและเข้ามาบีบแขนบางที่นั่งกอดอกอย่างไม่สะทกสะท้าน
“ปล่อยฉันเจ็บ”
“เจ็บแต่ก็ไม่เคยจำ ว่าเธอมาอยู่ตรงนี้ด้วยสถานะอะไร ฉันสั่งให้ทำอะไรเธอก็ต้องทำ” ชายหนุ่มพูดด้วยเสียงที่เหี้ยมเกรียมและบีบไหล่บางแน่น จนคนร่างบางนิ่วหน้าด้วยความเจ็บ
“รู้แล้ว ปล่อยก่อนได้ไหมฉันเจ็บ” ชายหนุ่มปล่อยและเอ่ยเสียงเข้ม
“ครั้งต่อไปฉันไม่ใจดีแบบครั้งนี้แน่ เธอรู้นะว่าบทลงโทษคืออะไร” หญิงสาวพยักหน้ารับรู้อย่างเข้าใจ และหยิบขวดน้ำมาเปิดให้ชายร่างสูงดื่มทันที
ลูคัสหยิบขวดน้ำมองคนร่างบางด้วยสายตาและกระดกดื่มจนหมดขวด และบีบขยี้โยนทิ้งไปอย่างไม่ไยดี
“พวกมึงไปเอารถมา เอากลับเข้าโกดังเตรียมปล่อย” ร่างสูงสั่งงานลูกน้องด้วยเสียงเข้ม ที่ตนเองได้ของที่เดิมพันมาคือรถเฟอร์รารี่ของอีกฝ่ายและเขาะจะเตรียมส่งเข้าตลาดมืดขายต่อทันที
“ครับนาย แล้วนายจะกลับเลยไหมครับ”
“ยัง พามิลินกลับไปก่อน และเฝ้าอย่าให้คลาดสายตา” ชายหนุ่มสั่งด้วยเสียงที่เหี้ยมเกรียมกับลูกน้อง
“หึ.....นายคิดว่าฉันจะหนีไปไหนได้งั้นเหรอ ทุกครั้งที่ฉันไปนายก็ตามกลับมาทุกครั้งนิ ข่มขู่ฉันสารพัดจนครอบครัวตัดฉันออกไม่ให้ยุ่งเกี่ยวกับพวกเขาอีก นายยังไม่พอใจอีกงั้นเหรอ”
หญิงสาวถามด้วยเสียงที่เย้ยหยัน ที่เธอไปขอร้องให้ใครช่วย คนตรงหน้าก็ให้ลูกน้องไปกระทืบปางตายและตามข่มขู่จนหญิงสาวไม่สามารถพึ่งความช่วยเหลือจากใครได้อีก นอกจากอยู่กับเขาเพราะไม่อยากสร้างความเดือดร้อนให้กับใครอีก เพราะไอ้ปีศาจตนนี้ไม่เคยเห็นอกเห็นใจใครนอกจากความสุขและความสะใจของตนเอง
“รู้ก็ดี ว่าที่ของเธออยู่ตรงไหน” ร่างสูงกล่าวเสร็จก็เดินออกไปทันที ที่มีหญิงสาวหุ่นนางแบบยืนรออยู่ ชายหนุ่มคว้าเอวบดจูบและผลักเข้ารถหรูของตนเองอย่างไม่ออมแรง
“ไอ้โรคจิต”
“คุณมิลิน ไม่สมควรพูดคำนั้นออกมานะครับ ถ้านายรู้คนที่เจ็บตัวที่สุดก็คือคุณเอง” ชายหน้านิ่งกวนประสาทไม่แพ้เจ้านาย วาคิมที่เป็นลูกน้องมือหนึ่งของชายร่างสูงที่เธอเกลียดเอ่ยขึ้นด้วยเสียงที่เย็นชา
“หึ...แตะต้องไม่ได้เลยนะ ทั้งลูกน้องและเจ้านายนิสัยเหมือนกันหมด พาฉันกลับบ้านสักทีสิ รีรออะไรอยู่” หญิงสาวเอ่ยพูดด้วยเสียงที่หงุดหงิด
“เชิญครับ รถพร้อมแล้ว” ชายหน้านิ่งเปิดประตูรถและเผยมือให้หญิงสาวขึ้นและขับตรงไปที่บ้านของชายหนุ่มที่หญิงสาวเกลียดทันที