ตอนที่ 10 ไม่ฝากเนื้อไว้กับเสือ

1420 Words
อันเฟยตกใจจนตั้งตัวไม่อยู่ นางเผลอตะโกนถามเขาอย่างไม่พอใจ เรื่องนี้ควรต้องแจ้งนางล่วงหน้ามิใช่หรือเหตุใดเขาจึงบอกกะทันหันเช่นนี้กัน “เหตุใดจึง….” “ข้าตัดสินใจแล้ว เปลี่ยนแผนนิดหน่อย เสด็จพ่อประทานหนังสือหมั้นหมายมาแล้ว เจ้าก็ไม่จำเป็นต้องอยู่ที่จวนนี้ ไปอยู่ที่จวนข้าได้แล้ว” “แต่ว่า พิธีสมรสมิได้จะมีขึ้นในขั้นต่อไปงั้นหรือ เหตุใด….” “ข้าบอกให้ไปก็ไป เจ้าตกลงแล้วว่าจะทำตามเงื่อนไข” “หม่อมฉันไปตกลงเมื่อใดกัน” “ป้ายหยก” “ท่านอ๋อง!!” นางโกรธจนถึงที่สุดเพราะไม่นึกว่าเขาจะมาเร่งนางเช่นนี้ ท่านอ๋องเองก็พึ่งตัดสินใจเมื่อครู่นี้เองที่นางตกลงมาสู่อ้อมกอดของฮั่วเทียนอี้ เขารู้สึกเจ็บที่หัวใจแปลก ๆ ซึ่งก่อนหน้านี้ไม่เคยเป็น เขารู้สึกหงุดหงิดและไม่พอใจแต่ไม่มีเหตุผลอะไรเพราะที่เทียนอี้ทำไปก็เพราะช่วยนางเท่านั้น แต่เขาแอบเห็นสายตาของแม่ทัพหนุ่มซึ่งดูแล้วไม่น่าจะคิดกับว่าที่พระชายาของเขาเพียงน้องสาว “ฝากปลาย่างไว้กับแมว ไม่ปลอดภัยแน่” “อะไรนะเพคะ” “ข้า…คือว่าวันนี้มีโองการออกมาแล้วให้อีกหนึ่งเดือนนับจากนี้จะเป็นพิธีแต่งงานแต่ก่อนหน้านี้ ข้า…จำเป็นต้องพาเจ้าไปพักอยู่ที่จวนก่อนเนื่องจากว่า…มีบางคนเริ่มสงสัย” “สงสัยหรือเพคะ พระองค์หมายถึง…องค์รัชทายาท” “ปึก!!” “เจ้ารู้งั้นหรือ” เขาวางจอกชาลง เดิมทีเขาไม่อยากเล่ารายละเอียดให้นางฟังเท่าใดนักแต่เมื่อมองจากเหตุการณ์เช่นนี้แล้วเขากลับดีใจที่นางเข้าใจโดยง่ายโดยที่เขาไม่ต้องอธิบายให้นางฟังซ้ำ ๆ เพราะนางคงจะได้ฟังจากคนในจวนแม่ทัพทั้งหมดแล้ว “ก็มิได้รู้ในสิ่งที่ไม่ควรรู้ แค่รู้ว่าพวกพระองค์….ไม่ค่อยลงรอยกันเท่านั้น” “เขาเริ่มสงสัยในความสัมพันธ์ของเรา และคิดว่าข้า…แค่หาตัวหลอกเพื่อไม่ให้เขาหาทางส่งคนเข้ามาในจวนของข้า” “หม่อมฉันพอเข้าใจแล้วเพคะ ตรัสเช่นนี้แต่แรกก็เข้าใจแล้วเหตุใดต้องดุด้วยก็ไม่รู้” “อีกเรื่องหนึ่ง” “เพคะ เรื่องใดหรือเพคะ” “เจ้าเป็น…พระชายาของข้าดังนั้น…ท่าทีกับบุรุษอื่น เจ้าควรเว้นระยะห่าง อย่ายุ่งเกี่ยวอีก” “แต่หม่อมฉันแทบจะไม่รู้จักบุรุษอื่น….อ๋อ หากหมายถึงพี่ใหญ่แล้วล่ะก็ นั่นเขา…” “เขาไม่ใช่แม้แต่พี่ชายเจ้าด้วยซ้ำไป อย่าได้ปล่อยเนื้อปล่อยตัว เจ้าลืมแล้วงั้นหรือว่าเจ้ามิได้เป็นน้องสาวแท้ ๆ ของเขา” “หม่อมฉัน….ลืมเพคะ ก็หม่อมฉันมิได้คิดอะไรกับพี่ใหญ่นี่เพคะ” ท่านอ๋องหยิบชาขึ้นมาจิบเพื่อปิดบังรอยยิ้มที่พอใจของตน เหตุใดเขาต้องดีใจด้วยที่นางบอกว่าไม่ได้คิดอะไรกับเทียนอี้เพราะคิดว่าเขาเป็นพี่ชายของนาง “เช่นนั้นก็ดี ข้าไม่อยากให้….มีเรื่องเกินเลย อย่างไรเขาก็เป็นผู้ชายทางที่ดีเจ้า…อยู่ให้ห่างเขาหน่อยจะดีกว่า” “แต่ว่าท่านอ๋องเพคะ พระองค์ก็เป็นบุรุษนี่เพคะ” “แต่ข้าเป็นสามีของเจ้า!!….” อันเฟยถึงกับรีบหันไปหยิบชาที่นางรินเอาไว้ยกขึ้นดื่มรวดเดียวหมดทันทีพร้อมกับรินอีกแก้วอย่างรวดเร็ว นางรู้สึกว่าใบหน้านางร้อนผ่าวและมือไม้สั่นเมื่อเขาพูดคำนี้ออกมา ท่านอ๋องเองก็พึ่งจะรู้สึกตัวและหันไปจิบชาอีกเช่นกัน “คือ…ข้าหมายความว่า….คนทั่วไป หมายถึงผู้อื่นที่มองเข้ามา มองว่าพวกเรา…เป็นสามีภรรยาดังนั้นเจ้ากับข้า…ก็ต้อง....” “หม่อมฉันเข้าใจแล้วเพคะ ไม่ต้องตรัสแล้วเข้าใจแล้วเพคะ” “ข้า….ก็ตามนั้น พรุ่งนี้ข้าจะให้คนมารับเจ้า” “พระองค์แจ้งท่านพ่อแล้วงั้นหรือเพคะ” “ข้าจะไปแจ้งกับอาจารย์เอง ข้ามิได้โหดร้ายถึงเพียงนั้น เจ้ายังไปมาหาสู่กับจวนแม่ทัพได้ตลอดเพียงแค่ย้ายที่อยู่เท่านั้นกันผู้คนจะสงสัย” “แต่หม่อมฉันยังมิได้สมรสเสียหน่อยเหตุใดจึงเร่งให้ไปพักที่จวนนั่นด้วยเพคะ” “ที่จวนนั้นเป็นเพียงจวนชั่วคราว หากต้องอภิเษกจริง ๆ ต้อง….เข้าไปอยู่ตำหนักในวังหลวง” “วังหลวง!!” “ใช่ วังหลวง” “ตายแน่ ๆ หากเข้าไปในวังหลวงเช่นนี้จะออกมาได้เช่นไรกัน” “เจ้าไม่ต้องห่วงหรอก เรื่องนั้นข้าคิดเอาไว้แล้ว พวกเราไปเพียงทำพิธีส่งตัวเท่านั้น หลังจากนั้นข้าก็จะออกมาพักอยู่ที่จวนด้านนอกเช่นเดิม” “เฮ้อ โล่งอกไปที” “แต่อย่างไรก็ต้องอยู่ในวังอย่างน้อยเจ็ดถึงสิบวันก่อนที่จะย้ายออกมา” “ก็ยังดีกว่าอยู่ตลอดหกเดือน แค่นั้นไม่เป็นอะไรหรอก” “อีกอย่างข้าก็อยากให้เจ้า…ไปรู้จักกับ..พวก….สนมในจวนนั่น” “อ้อ สนมของพระองค์หรือเพคะ” “ข้าไม่เคยยอมรับพวกนางเสียหน่อย” “แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้นี่เพคะ ถึงอย่างไรพวกนางก็ถูกประทานมาให้พระองค์” “น่ารำคาญเอาเป็นว่าเจ้าเตรียมตัวเก็บของได้แล้ว ชุดเสื้อผ้าข้าจะจัดคนมาวัดตัวตัดให้เจ้าใหม่ทั้งหมด เรื่องของใช้ส่วนตัวเอาไปแค่พอจำเป็น จากนี้เรื่องของเจ้าจวนอ๋องของข้าจะเป็นผู้รับผิดชอบทั้งหมด” “เช่นนั้นพระองค์ต้องจ่าย….” “มีแน่นอนเจ้าไม่ต้องห่วงเรื่องนั้นหรอก” “เช่นนี้ค่อยคุยกันง่ายหน่อยเพคะ” “อย่าลืมเรื่องที่ข้ากำชับเอาไว้ เรื่อง….” “หม่อมฉันจะเก็บของให้เร็วที่สุดเพคะ” “ไม่ใช่ เรื่อง…” “อ้อ เพคะ หม่อมฉันจะไม่ทำเรื่องเดือดร้อนให้พระองค์จะบอกลาพี่ ๆ ให้ดีและจะแวะมาหาพวกเขาบ่อย ๆ เพคะ” “นี่เจ้า….ช่างเถอะข้ากลับล่ะ” “เอ่อ หม่อมฉันจะไปส่งเพคะ” “ไม่ต้องก็ได้ เจ้ารีบไปเก็บของเถอะ” “เช่นนั้นก็ได้เพคะ พี่ใหญ่....เหตุใดมาที่นี่เจ้าคะ” “อันเฟย คือว่าข้าพึ่งจะทราบเรื่อง….พรุ่งนี้ข้าจะไปส่งเจ้าที่จวนท่านอ๋อง” “ไม่ต้องหรอกเทียนอี้ ข้าจะมารับนางเองน่ะ ไม่รบกวนเจ้าดีกว่า อันเฟยตามมาสิ” “เพคะ?? เมื่อครู่…” “เจ้าบอกว่าจะไปส่งข้านี่ ตามมาสิ” “เอ่อ…” สายตาของท่านอ๋องที่จ้องกลับมาราวกับบังคับนางทำเอาผู้ที่มองอยู่รู้ได้ในทันทีว่าเรื่องนี้คงไม่ธรรมดาอย่างที่บิดาของเขาบอกเสียแล้ว ยังไม่ทันที่อันเฟยจะก้าวออกจากจวนแม่ทัพ ท่านอ๋องก็ออกอาการหึงหวงนางเช่นนี้ ดูท่าแล้วต้องใช้เวลาอีกสักพักเพราะอันเฟยเองก็ดูแปลกใจเล็กน้อยราวกับไม่ได้รู้เรื่องว่าท่านอ๋องรู้สึกอย่างไร “พี่ใหญ่เช่นนั้นข้าขอตัวก่อน ท่านอ๋อง….อย่าดึงสิเพคะ” “ข้ามีธุระอื่นอีกมากอย่ามัวแต่คุยอยู่ตรงนี้ รีบตามมา” “เดี๋ยวสิเพคะ พี่ใหญ่เดี๋ยวข้ามานะเจ้าคะ” ท่านอ๋องดึงแขนนางให้เดินไปส่งเขาที่หน้าจวน ฮั่วเทียนอี้ที่ยืนมองอยู่รู้สึกไม่ชอบใจนิดหน่อยแต่เขาเป็นท่านอ๋องและยังเป็นแม่ทัพพยัคฆ์บูรพาและกองทัพกิเลนอัคคีที่เขาสังกัดอยู่ เขาจึงต้องเกรงพระทัยบ้าง “เจ็บ ๆ ปล่อยก่อนเถิดเพคะหม่อมฉันเจ็บไปหมดแล้ว” ท่านอ๋องเผลอตัวและรีบปล่อยนางในทันที เขาหันมามองนาง แม้แต่ในตอนนี้เขาก็ยังไม่เคยเปลี่ยนสีหน้าจนอันเฟยเริ่มนึกแปลกใจมาก “ท่านอ๋องเพคะ หม่อมฉันใคร่ถามว่าพระองค์จะดึงหม่อมฉันทำไมเพคะ” “ข้าพึ่งบอกเจ้าไปเรื่องการเว้นระยะห่างกับบุรุษอื่นในฐานะพระชายา แต่นี่เจ้า…” “หากว่าจะมีผู้ที่จะทำให้น่าสงสัยก็ตัวพระองค์เองนั่นแหละเพคะ” “ข้าบอกแล้วว่าเจ้ามิใช่น้องสาวแท้ ๆ ของหลินอี้ เจ้าไม่มีความจำเป็นต้องสนิทสนมกับเขาถึงเพียงนี้” “แต่คนอื่น ๆ เขาคิดว่าหม่อมฉันกับพี่ใหญ่คือพี่น้องแท้ ๆ นะเพคะ พระองค์อย่าลืมเรื่องนี้สิเพคะ” “แต่น้องสาวคนอื่น ๆ ของเขาไม่เห็นทำเช่นเจ้าเลยสักคน!!”
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD