“ได้ค่ะ นี่ที่อยู่ตามบัตรประชาชนค่ะ” เจ้าหน้าที่สาวรีบรับเงิน ก่อนที่จะส่งที่อยู่ให้ชายหนุ่ม เธอยอมรับว่าเธอคุ้นกับรูปร่างของผู้ชายคนนี้ แต่เธอไม่รู้ว่าเธอเคยเจอเขาที่ไหน เธอไม่เคยนึกเลยว่าดาราหนุ่มหล่อที่มีชื่อเสียงโด่งดังเป็นอย่างมากกำลังยืนอยู่ตรงหน้าเธอ
“ขอบคุณครับ” ชายหนุ่มรับเอาที่อยู่ ก่อนจะเดินจากไป เขาไม่แน่ใจว่าเธอจะกลับบ้านของเธอหรือหนีไปอยู่ที่ไหน แต่เขาก็จะตามที่นี่เป็นที่แรก เพราะตั้งแต่คบกันมาเขาไม่เคยรู้จักเพื่อนของเธอสักคน เพราะเขาต้องปิดบังตัวตนของตนเองอยู่ตลอดเวลา มาตอนนี้เขารู้สึกเสียใจที่เขาทำให้เรื่องนี้เป็นความลับตั้งแต่แรก จนเขาไม่มีเบาะแสของเธอแม้แต่น้อย โชคดีที่อย่างน้อยยังได้ที่อยู่ที่บ้านของเธอ คงจะได้เบาะแสของม่านแก้วไม่มากก็น้อย
ส่วนทางด้านม่านแก้วก็เดินทางด้วยรถทัวร์ ก่อนที่จะถึงจังหวัดทางภาคอีสาน ซึ่งเป็นบ้านเกิดของเธอ เธอกลับมาที่นี่อีกครั้ง หลังจากที่ไปค้าแรงงานอยู่ในเมืองกรุง กลับมาพร้อมกับอุ้มท้องลูกไม่มีพ่อ แค่คิดน้ำตาก็พาลจะไหลออกมาอย่างไม่รู้ตัว
ไม่รู้ว่ามารดาจะให้อภัยหรือเปล่า แต่นกปีกหักหลงรังอย่างเธอก็ต้องกลับมาตายรังในที่สุด หลังจากลงจากรถทัวร์เรียบร้อยแล้ว ม่านแก้วก็เรียกแทกซี่พาเธอไปส่งที่บ้าน ยิ่งเดินทางใกล้ถึงบ้านมากเท่าไหร่หญิงสาวก็ยิ่งรู้สึกเจ็บปวด เธอไม่ได้บอกมารดาล่วงหน้า เธอไม่รู้ว่ามารดาจะขับไล่ไสส่งเธอที่นำความอับอายมาให้ออกไปจากบ้านหรือเปล่า แต่เมื่อไม่มีที่พึ่ง คนที่ต้องการหนีโลกแห่งความจริงอย่างม่านแก้วก็ต้องกลับมาที่บ้านเพื่อซบอกอุ่นๆ ของมารดาเท่านั้น
หลังจากผ่านเดินทางมาตลอดทั้งคืน ตอนนี้ม่านแก้วก็มาอยู่บนรถแทกซี่แทนที่รถทัวร์คันใหญ่ ไม่นานรถแทกซี่ก็มาจอดที่หน้าบ้านครึ่งปูนครึ่งไม้ ที่มีลักษณะทรุดโทรมไปตามกาลเวลา หญิงสาวจ่ายเงินค่าแทกซี่ก่อนจะถือกระเป๋าใบเล็กสองใบลงจากรถ แล้วแทกซี่จึงเคลื่อนตัวออกไป นานทีเดียวกว่าที่ม่านแก้วจะกล้าเดินเข้าไปในบ้าน ตอนนี้เธอเหมือนเด็กน้อยที่กำลังทำความผิดและกำลังหลบหน้ามารดาอยู่ แต่อย่างไรเสีย เธอก็ต้องเจอท่านและสารภาพความจริงอยู่ดี
ม่านแก้วจึงตัดสินใจเดินเข้าไปในบ้าน ก่อนที่จะเจอมารดากำลังนั่งสานสวิงอยู่ที่แคร่หลังบ้าน นางไหมเงยหน้าขึ้นมองบุตรสาวด้วยยความประหลาดใจระคนดีใจ ไม่รู้ว่าอยู่ดีๆ บุตรสาวมาได้ยังไง ส่วนบุตรสาวนั้นแทบจะร้องไห้เมื่อเห็นหน้ามารดา