“แม่จ๋า...” ม่านแก้วเอ่ยได้แค่นั้นน้ำตาก็ไหลออกมาเป็นทาง นางไหมเห็นเช่นนั้นก็วางมือลงจากทุกอย่างแล้วเข้าไปสวมกอดบุตรสาวด้วยความตกใจ ไม่รู้ว่าบุตรสาวไปเจออะไรมา อยู่ดีๆ ทำไมร้องไห้แบบนั้น เห็นแค่นี้คนเป็นแม่ก็แทบหัวใจสลายแล้ว
“เป็นยังไงลูก ไหนเล่าให้แม่ฟังซิ ไม่ต้องร้องแม่อยู่ข้างๆ มีนเสมอ” นางไหมเอ่ยปลอบขวัญบุตรสาว พร้อมทั้งใช้มือลูบศีรษะเพื่อสร้างความอบอุ่นให้กับบุตรสาว
“มีนท้องค่ะ” หญิงสาวสารภาพทั้งน้ำตา เสียงของเธอสั่นเครือจนแทบจะฟังไม่รู้เรื่อง
“ว่าไงนะลูก” นางไหมถามย้ำอีกครั้ง
“มีนท้องค่ะ” ม่านแก้วตอบย้ำอีกครั้ง แต่เต็มไปด้วยเสียงเครือชัดเจน
“ไม่เป็นไรลูก ท้องแล้วก็ดีสิ ว่าแต่แฟนของมีนล่ะลูก” นางไหมตกใจเป็นอย่างมาก แต่เมื่อลูกทำผิดไปแล้ว คนเป็นแม่อย่างนางต้องเข้าใจลูก และปลอบโยนลูกเวลาที่ลูกมีปัญหา
“มีนเลิกกับแฟนแล้วค่ะ” ม่านแก้วตอบมารดาตามจริง
“ไม่เป็นไรลูก หลานคนเดียวแม่เลี้ยงได้ ไม่ต้องกลับไปแล้วเมืองกรุง อยู่ที่นี่เลี้ยงหลานกับแม่ เราช่วยกันทำสวนและเลี้ยงหลานไปด้วยกัน อะไรมันจะมีความสุขไปมากกว่านี้ล่ะลูก” แม้ว่าจะเจ็บปวดแต่คนอย่างนางไหมไม่มีทางแสดงความเจ็บปวดออกมาให้บุตรสาวเห็น ไม่เช่นนั้นคนที่สภาพจิตใจบอบช้ำหนักอย่างบุตรสาวนาง ก็ต้องเจ็บปวดเพราะรู้ว่าตนเองทำให้นางเสียใจ
“มีนขอโทษนะคะแม่” ม่านแก้วยังสะอื้นไห้ด้วยความปวดใจ ความผิดครั้งนี้มันเกินกว่าจะอภัยนัก คงไม่มีแม่คนไหนอยากเห็นลูกสาวท้องก่อนแต่ง ให้เป็นขี้ปากชาวบ้าน แต่มารดาของม่านแก้วกลับไม่ได้ตำหนิเธอแม้แต่คำเดียว ท่านมีแต่คำปลอบใจ นั่นยิ่งทำให้เธอรู้สึกผิดและละอายใจเหลือเกิน
“ไม่เป็นไรหรอกลูก คนเราผิดพลาดกันได้ แม่ดีใจนะที่มีนไม่เลือกที่จะทำแท้ง แต่มีนเลือกที่จะกลับมาที่บ้านเรา ไม่ว่าลูกคนนี้จะทำอะไรผิดพลาดมา แม่ก็พร้อมให้อภัยเสมอนะ” นางไหมเอ่ยจากใจจริง
“ค่ะ แม่มีนไม่มีวันทำร้ายลูกของมีนอยู่แล้ว กว่าเขาจะได้มาเกิดมันยากลำบากแค่ไหน มีนไม่มีทางทำร้ายเขาอยู่แล้วค่ะ” ม่านแก้วเอ่ยออกมาเสียงสั่น ยิ่งพูดเท่าไหร่เธอก็ยิ่งสะเทือนใจมากยิ่งขึ้น
“มาๆ นั่งก่อนลูก ใจเย็นๆ แล้วเลิกร้องไห้เถอะนะ หลานในท้องของแม่จะหน้ามุ่ยเพราะแม่เครียด” นางไหมดันร่างบุตรสาวออกจากอ้อมกอด ก่อนที่จะประคองบุตรสาวนั่งลงที่แคร่ แล้วใช้มือเหี่ยวย่นเช็ดคราบน้ำตาให้บุตรสาว