สบตาครั้งแรก

1751 Words
ตอนที่ 2 สบตาครั้งแรก ท่อนแขนแกร่งของศรัณภัทรโอบกอดร่างเล็กที่ยังคงสั่นเทาด้วยความหวาดกลัวเดินตรงไปที่คอนโดมิเนียมของตัวเองที่ตั้งอยู่ไม่ไกล พร้อมทั้งแสร้งคุยกันทำทีสนิทสนมคล้ายคู่รักที่กำลังเดินกลับไปยังที่พักด้วยกัน ระหว่างที่กำลังเดินศรัณภัทรก็คอยแอบมองไปข้างหลังอยู่เป็นระยะ ๆ แล้วก็พบว่าผู้ชายคนนั้นยังคงเดินตามมาอยู่ จนกระทั่งเขาพาหญิงสาวเข้ามายังล็อบบีของคอนโดฯ เขาให้เธอนั่งรออยู่ที่โซฟารับรอง ส่วนเขานั้นได้ขอตัวออกไปคุยกับ รปภ. เพื่อจัดการเรื่องที่เกิดขึ้น "เดี๋ยวคุณนั่งรอตรงนี้ก่อนนะ เดี๋ยวผมมา" ตวงรัตน์เงยหน้าขึ้นมองตามหลังของศรัณภัทรที่เพิ่งเดินออกไปและได้แต่นึกขอบคุณเขาอยู่ในใจ ถ้าไม่ได้เขาช่วยเอาไว้ เธอก็ไม่รู้ว่าจะเอาตัวรอดยังไง เธอโชคดีมากที่เจอเขา วันจันทร์ที่ผ่านมาตวงรัตน์ได้เริ่มทำงานที่บริษัทรับเหมาก่อสร้างยักษ์ใหญ่แห่งหนึ่ง หลังลาออกจากบริษัทเดิมเมื่อสองเดือนที่แล้ว วันนี้เป็นวันศุกร์หัวหน้าแผนกจึงพาเธอไปเลี้ยงต้อนรับตามที่บอกเอาไว้ตั้งแต่วันที่เธอเริ่มทำงานวันแรก แล้วก็เลยเถิดกันนิดหน่อยจนดึกดื่น พองานเลี้ยงเลิกราทุกคนแยกย้าย เธอบอกพี่ที่แผนกที่เธอติดรถมาด้วยให้ส่งเธอแค่หน้าปากซอย เพราะพรุ่งนี้เป็นวันหยุด เธอกะจะแวะร้านสะดวกซื้อ เพื่อซื้อของกินเข้าไปตุนไว้ พรุ่งนี้เธอจะได้ไม่ต้องเดินตากแดดออกมาหาอะไรกินให้ยุ่งยาก ซื้อของเสร็จก็เดินออกมาหน้าร้าน ในระหว่างที่เธอกำลังยืนพิมพ์ข้อความตอบหัวหน้าที่ถามว่าถึงที่พักหรือยังอยู่นั้น เธอก็รู้สึกเหมือนมีคนกำลังจ้องมองเธออยู่ แล้วพอมองไปรอบ ๆ ก็ปรากฏว่ามีคนมองเธออยู่จริง ๆ มองอย่างไม่ปิดบัง เธอจึงเริ่มรู้สึกถึงความไม่ปลอดภัย หญิงสาวรีบกดโทร. ออกหาพี่ชายที่อยู่ในกรุงเทพฯ เหมือนกัน แต่พักอยู่คนละเขตเพราะทำงานคนละที่ เธอยกสมาร์ตโฟนขึ้นมาแนบหูพร้อมกับเท้าที่รีบก้าวออกจากตรงนั้น เธอเลือกที่จะเดินไปทางที่ตรงข้ามกับที่พัก หวังจะเจอใครสักคนที่พอจะช่วยเธอในเวลานี้ได้ แต่เพราะดึกมาก ๆ แล้วบริเวณนั้นก็ไม่มีใครเดินผ่านไปผ่านมาเลยสักคน หันกลับไปมองผู้ชายคนนั้นก็ยังคงเดินตามเธอมาเหมือนเดิม เธอจึงรีบสาวเท้าเดินไปตามแนวฟุตพาทเร็วขึ้น แสงสว่างจากร้านขายของชำที่ยังเปิดบริการอยู่ทำให้เธอพอมีหวัง ประจวบเหมาะกับมีคนเดินออกมาจากร้านพอดี เธอจึงรีบเดินเข้าไปเกาะแขน พูดเสียงดังราวกับรู้จักและสนิทสนม ก่อนจะรีบขอความช่วยเหลือ ตอนแรกผู้ชายคนนั้นก็ทำหน้างง ๆ จนกระทั่งเขาหันไปมองตามที่เธอบอก และเหมือนเขาจะเป็นคนที่เข้าใจอะไรได้ง่าย เพราะเขายกมือขึ้นมาโอบกอดเธอเอาไว้ ก่อนจะพาเดินมานั่งที่ล็อบบีภายในคอนโดฯ ของเขา แถมระหว่างทางยังชวนเธอคุยราวกับรู้จักกันมาเป็นสิบ ๆ ปี เธอยังไม่เห็นหน้าเขา เพราะระหว่างทางที่เธอเดินมาด้วยกัน ความหวาดกลัวทำให้เธอไม่กล้าที่จะเงยหน้ามองอะไรเลย ได้แต่ก้มมองเท้าตัวเองที่กำลังก้าวเดิน ผ่านไปประมาณสี่สิบนาที ศรัณภัทรที่ออกมาประสานงานกับ รปภ. เรื่องชายโรคจิตคนนั้นก็เดินกลับมา ตอนนี้โรคจิตคนนั้นได้หายไปไม่ได้อยู่บริเวณนี้แล้ว แต่เขาก็ยังกำชับกับ รปภ. ให้สอดส่องดูแลความปลอดภัยให้ดี พร้อมกับโทร. แจ้งตำรวจให้มาตรวจความเรียบร้อยบริเวณนี้บ่อย ๆ เผื่อโรคจิตคนนั้นย้อนกลับมาอีกจะได้ช่วยกันจับได้ทัน หลังจากมั่นใจว่าโรคจิตคนนั้นไม่ได้อยู่บริเวณนี้แล้ว ศรัณภัทรก็เดินกลับมาหาหญิงสาวที่นั่งรอเขาอยู่ที่ล็อบบีอีกครั้ง เขานั่งลงบนโซฟาอีกตัวที่ตั้งอยู่ข้าง ๆ กับตัวที่ผู้หญิงคนนั้นนั่ง ก่อนจะพูดขึ้น "ข้างนอกปลอดภัยแล้วนะครับ มันหนีไปแล้..." คำพูดของชายหนุ่มหยุดชะงัก เมื่อหญิงสาวที่นั่งก้มหน้าอยู่เงยหน้าขึ้นมามองหน้าและสบตากับเขา เพียงแค่แวบแรกที่ได้สบกับแววตาที่สั่นระริกของผู้หญิงตรงหน้า ก็ทำให้หัวใจชายหนุ่มสั่นไหวขึ้นมาอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย "ขอบคุณนะคะที่คุณช่วยฉันเมื่อกี้" เสียงขอบคุณของหญิงสาว ทำให้เขาต้องรีบสะบัดหัวตัวเองอย่างแรงแล้วรีบหลบสายตาเธอที่กำลังจ้องมองเขา นี่มันเกิดอะไรขึ้น เขาเป็นอะไรไปเนี่ย ทำไมจู่ ๆ เขาถึงใจสั่นได้ขนาดนี้ "เอ่อ...ไม่เป็นไรครับ" เขาตอบหญิงสาวเสียงเบา นึกแปลกใจกับอาการของตัวเอง ตอนที่ได้สบตากับเธอ เขารู้สึกเหมือนคนเสียอาการไปเลย แถมใจยังสั่นขึ้นมาอย่างควบคุมไม่ได้อีกต่างหาก แต่มันคงไม่มีอะไรหรอก คงจะเป็นเพราะฤทธิ์แอลกอฮอล์ที่ดื่มไปก่อนหน้านี้ "แล้วคุณจะกลับเลยไหมครับ เดี๋ยวผมขอยืมรถมอไซค์ฯ รปภ. ไปส่ง" ศรัณภัทรว่าขึ้นอีกครั้งพยายามไม่สบตาเธอ จำได้ว่าเธอบอกว่าเธอพักที่ซอยข้าง ๆ นี้เอง ใช้มอไซค์ฯ น่าจะสะดวกกว่า "ไม่เป็นไรค่ะ เดี๋ยวมีคนมารับ" เธอตอบ เพราะก่อนหน้านี้เธอได้โทร. บอกพี่ชายเธอให้มารับแล้ว ตอนนี้คงกำลังขับรถอยู่ อีกสักหน่อยก็คงมาถึง "ขอบคุณคุณอีกครั้งนะคะที่ช่วยฉันเอาไว้ ไม่รู้จะตอบแทนยังไงดี" "ไม่เป็นไรครับ ผมยินดีช่วย" เขาตอบเธอและส่งยิ้มบาง ๆ ไปให้ มองหน้าเธอได้แค่แวบเดียวก่อนจะรีบดึงสายตาตัวเองออกมา เขาก็ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกันว่าทำไมต้องทำแบบนี้ "เอาอย่างงี้ไหมคะ พรุ่งนี้คุณว่างหรือเปล่าคะ" ตวงรัตน์พูดขึ้นเมื่อรู้แล้วว่าจะตอบแทนที่เขาช่วยเธอยังไง "ก็...พอว่างครับ" "งั้นพรุ่งนี้ฉันขออนุญาตเลี้ยงข้าวคุณ เป็นการตอบแทนที่คุณช่วยฉันวันนี้ได้ไหมคะ เอาร้านแถว ๆ นี้ก็ได้" "จริง ๆ แล้วไม่ต้องตอบแทนอะไรผมก็ได้นะครับ ผมยินดีช่วยคุณจริง ๆ" "เถอะนะคะ ถ้าอย่างนั้นฉันคงไม่สบายใจแน่ ๆ" พอได้ยินน้ำเสียงหงอย ๆ ของหญิงสาวแล้ว ศรัณภัทรก็เริ่มไม่กล้าปฏิเสธ เขาจึงพยักหน้าตอบตกลงไปในที่สุด "เอางั้นก็ได้ครับ แล้วนี่คนที่จะมารับคุณมาถึงไหนแล้วล่ะครับ" หญิงสาวหยิบสมาร์ตโฟนตัวเองขึ้นมาดูอีกครั้ง และก่อนที่เธอจะได้กดโทร. ออก พี่ชายเธอก็โทร. เข้ามาซะก่อน "ถึงไหนแล้วพี่เต้" [ยังปลอดภัยดีใช่ไหม ใกล้ถึงแล้ว แล้วตอนนี้เมอยู่ไหน] "เมปลอดภัยดี พอดีมีคนใจดีช่วยเอาไว้ ตอนนี้เมอยู่ที่คอนโด... เลยซอยหอเมมานิดหน่อย" เธอบอกชื่อคอนโดฯ ของเขาไป พี่ชายเคยมาหอพักเธออยู่สองสามครั้ง น่าจะคุ้นชื่นและเคยเห็นคอนโดฯ นี้อยู่ [โอเค ๆ กำลังเลี้ยวเข้าไปแล้ว ออกมารอเลย] ว่าจบพี่ชายเธอก็วางสายไปทันที สักพักก็มีรถกระบะสี่ประตูวิ่งเข้ามาจอดที่หน้าคอนโดฯ หญิงสาวจึงหันมาพูดกับชายหนุ่มที่นั่งอยู่ด้วยกัน "มาแล้วค่ะ ขอบคุณคุณมาก ๆ เลยนะคะ" เธอขอบคุณเขาอีกครั้งพร้อมกับหยิบกระเป๋าตัวเองขึ้นมาสะพายไว้ที่ไหล่ "เดี๋ยวผมเดินออกไปส่ง" จากนั้นตวงรัตน์ก็เดินออกไปยังรถกระบะที่จอดรออยู่หน้าคอนโดฯ โดยมีศรัณภัทรเดินตามออกไปด้วย ศรัณภัทรมองผู้ชายที่เปิดประตูลงมาจากรถกระบะคันนั้นด้วยความสงสัย ‘หมอนั่นเป็นแฟนของผู้หญิงคนนี้เหรอ’ นี่คือคำถามแรกที่ผุดขึ้นมาในหัวของเขา แล้วก็เหมือนคำถามของเขาจะได้คำตอบ เมื่อเธอเดินเข้าไปใกล้แล้วผู้ชายคนนั้นก็ดึงเธอเข้าไปกอด พร้อมกับเธอที่กอดตอบกลับไปด้วย "พี่เต้ นี่คุณ..." พอจะแนะนำ เธอก็หันมามองหน้าเขาเหมือนเพิ่งนึกขึ้นได้ว่าเธอยังไม่รู้จักชื่อเขาเลย "ศรัณภัทรครับ" เขาแนะนำตัว ก่อนที่เธอจะแนะนำเขากับพี่ชายของตัวเองอีกที "นี่คุณศรัณภัทร คนที่ช่วยเมเอาไว้" "ผมไตรวิชญ์ ยินดีที่ได้รู้จักครับ" ศรัณภัทรยื่นมือออกไปจับมือของไตรวิชญ์ที่ยื่นออกมา ก่อนที่ไตรวิชญ์จะพูดขึ้นมาอีก "แล้วก็ขอบคุณมากนะครับ ที่ช่วยแฟนผมเอาไว้" อืม...ชัดเจน คำถามที่อยู่ในหัวเขาได้คำตอบที่ชัดเจนแล้ว "ไม่เป็นไรครับ ผมยินดี" ศรัณภัทรรีบสลัดความคิดในหัวของตัวเองออก แล้วส่งยิ้มให้อีกฝ่ายอย่างเป็นมิตร "นี่ก็ดึกมากแล้ว ถ้าอย่างนั้นผมขออนุญาตพาแฟนผมไปพักผ่อนก่อนนะครับ" ไตรวิชญ์ว่า ศรัณภัทร์จึงพยักหน้าให้ จากนั้นทั้งคู่ก็เดินไปขึ้นรถ ตวงรัตน์ที่ยังไม่ลืมเรื่องจะตอบแทน ก่อนที่เธอจะก้าวขาขึ้นรถ เธอจึงหันมาพูดย้ำกับเขาอีกครั้ง "เรื่องทานข้าว เดี๋ยวพรุ่งนี้ฉันจะโทร. นัดล่วงนะคะ" พูดจบเธอก็ขึ้นรถไป จากนั้นรถก็เคลื่อนตัวออกไปทันที เหลือเพียงแค่ศรัณภัทรที่ยังยืนมองตามรถคันนั้นออกไป พลางส่ายหน้าแล้วยิ้มออกมาอย่างนึกตลกกับประโยคที่หญิงสาวพูดทิ้งเอาไว้ ‘เดี๋ยวพรุ่งนี้ฉันจะโทร. นัดล่วงนะคะ’ ...เบอร์โทรเขาเธอยังไม่ได้ขอเลย เธอจะโทร. หาเขาได้ยังไงกัน
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD