14

1474 Words
เธียรธรรมยกมือลูบใบหน้าที่เต็มไปด้วยน้ำสีแดงรสชาติเปรี้ยวอมหวานออก เสื้อของเขานอกจากชุ่มน้ำฝนต้องชุ่มน้ำทับทิมไปด้วย ทั้งเปียกทั้งเหนียวเหนอะจนอยากจะบีบคอคนสาดให้ตายคามือแต่เขาก็สงบใจเอาไว้ได้ วันนี้จะเป็นวันสุดท้ายแล้วที่เขาจะปล่อยให้เธอแผลงฤทธิ์ใส่ อยากจะวานให้คนข้างบ้านของเธอช่วยดูแล ยัยนี่ก็เป็นมนุษย์ประหลาดมนุษย์สัมพันธ์ยอดแย่เพราะดั่งฝันเพิ่งย้ายมาอยู่ในหมู่บ้านนี้ได้ไม่นานและเพราะงานที่ต้องเดินทางบ่อยๆ เธอเลยไม่มีเวลาทำความรู้จักกับคนในละแวกบ้านเดียวกันกลับดึกและออกแต่เช้า ผลปรากฏว่าไม่ค่อยมีใครคุ้นชินกับใบหน้าของเธอเลยแล้วจะหวังให้พวกเขาช่วยเป็นหูเป็นตาดูแลเธอคงยาก มันเลยเป็นกรรมของเขาต้องมานอนเฝ้าคนบ้าในเวลากลางคืนส่วนป้าอุ่นมาดูแลตอนกลางวัน เธียรธรรมถอดเสื้อคอกลมสีเทาออกทันที แล้วเสียงกรีดร้องของหนิงซูเยว่ราวกับว่าเธอได้พบสิ่งที่น่าเกลียดน่ากลัวที่สุดตั้งแต่ลืมตาขึ้นบนโลกก็ดังขึ้นพร้อมกับใบหน้าแดงก่ำ หนิงซูเยว่พลันลุกขึ้นจากเก้าอี้ถอยร่นหนีไปติดผนังห้อง “โธ่โว้ย! อะไรกันอีก ไม่เคยเห็นหน้าอกผู้ชายหรือไง คอสตูมก็ดูแลเสื้อผ้านักแสดงอยู่แล้ว ผมรู้นะพวกคุณชอบแอบมองซิกแพคนักแสดงหนุ่มๆ กับหัวนมชมพูจะตายไป อย่าทำมาเป็นแอ๊บใสไม่เคยเห็นหน่อยเลย” หนิงซูเยว่กัดริมฝีปากแน่น นางจะเคยเห็นได้อย่างไรตั้งแต่แต่งเข้าราชสกุลอ้ายซินเจว๋หลัวมีป้ายสลักด้วยหยกรับเข้าเป็นคนของบรรพชนแต่นางเองก็ยังไม่เคยถวายตัวสักครั้ง เพราะฮ่องเต้ไม่เคยเสด็จมาตำหนักเฟยเฟิงของนาง แทบทุกคืนก็พลิกแต่ป้ายเสวียอวี้เจิน ซึ่งหลังการสถาปานานางขึ้นเป็นฮองเฮาองค์จักรพรรดิก็ได้เลื่อนยศของพระสนมเอกขึ้นมาเป็นถึงหวงกุ้ยเฟย ซึ่งมีอำนาจรองจากนางเพียงคนเดียวในฝ่ายใน ดังนั้นครั้งนี้จึงเป็นครั้งแรกที่นางได้เห็นร่างกายของผู้ชายที่ปราศจากอาภรณ์ปกปิด เสียงกรีดร้องของหนิงซูเยว่ยังไม่หยุดลงจนคนเปลือยท่อนบนก้าวเข้าไปใกล้แล้วรวบตัวนางเอามืออุดปากปิดเสียงร้องของหนิงซูเยว่ “หยุดเดี๋ยวนี้ดั่งฝันคุณจะทำให้คนละแวกบ้านคุณตกใจแล้ววิ่งเข้ามาที่นี่เพราะเขาคิดว่าผมกำลังจะข่มขืนคุณ” ‘ข่มขืน!’ ก็การที่เจ้าไพร่สารเลวนี่ถอดเสื้อผ้าออกนี้ไม่ได้หมายจะข่มขืนนางหรือไง นางเป็นถึงมารดาของแผ่นดินจะไม่ยอมเปื้อนราคีเพราะชายโฉด หนิงซูเยว่กัดเข้าที่ฝ่ามือของเธียรธรรมอย่างแรง จนเขาปล่อยมือที่อุดปากออก “นี่คุณ จะบ้าไปถึงไหน ผมถอดเสื้อเพราะมันเลอะเหนียวตัวไปหมดจะขอยืมใช้ห้องน้ำอาบน้ำหน่อย ผมจำได้ว่าผมลืมเสื้อยืดไว้บ้านคุณสองตัว อาบน้ำเสร็จผมจะพาคุณไปส่งโรงพยาบาลจิตเวชเดี๋ยวนี้เลย ผมหมดความอดทนกับคุณแล้ว” หนิงซูเยว่ได้แต่ยืนนิ่งอึ้งอยู่ตรงนั้น ทำอะไรไม่ถูก เขาพูดว่าจะพานางไปโรงพยาบาลจิตเวช ที่นั่นคือที่ไหนกัน อาณาจักรต้าชิง วันนี้ฮองเฮาเสด็จเข้ามาในห้องเครื่อง ทำให้คนในห้องเครื่องต่างตกใจกันเป็นแถวเพราะไม่รู้หมายกำหนดการมาก่อนว่าฮองเฮาจะเสด็จมา ทุกคนในห้องเครื่องต่างอึ้งเมื่อฮองเฮาถลกแขนเสื้อขึ้นแล้วลงมือปรุงอาหารเอง กลิ่นฉุนของใบกระเพรากับหมูสับลอยฟุ้งตลบอบอวลไปทั่ว นางกำนัลต่างพากันจามไม่หยุด นอกจางฮองเฮาจะลงมือทำอาหารเองแล้วยังประทานส่วนที่เหลือให้พวกคนของห้องเครื่องได้ชิมกัน พวกเขากล่าวชมอย่างจริงใจว่าอร่อยล้ำแต่ไม่มีใครรูจักว่าเป็นอาหารของชาติใด แต่การเสด็จไปเยือนห้องเครื่องทำให้นางรู้มาว่าเมื่อคืนนี้ฝ่าบาทเองก็สั่งให้คนของห้องเครื่องเตรียมน้ำแกงสูตรพิเศษผสมถั่งเช่าเข้าไปถวายที่ตำหนักเฟยเฟิง คงเป็นโชคดีของนางที่เมื่อคืนรอดพ้นจากฮ่องเต้บ้ากามคิดจะเอาของแข็งที่ให้บริการผู้หญิงไปทั่ววังมาใช้กับนาง ยิ่งในยุคนี้การแพทย์ก็ยังไม่ทันสมัยนางเคยได้ยินว่าฮ่องเต้ในยุคราชวงศ์ชิงติดโรคซิฟิลิสด้วย คิดแล้วก็แขยงที่ทำไปทั้งหมดนางยั่วนางอ่อยไม่ได้ต้องการให้หยางจื่อมาตกหลุมรักนางแต่นางแค่แก้หน้าให้ฮองเฮาหนิงซูเยว่ตัวจริงที่ถูกทิ้งขว้างไม่ไยดีเท่านั้น ระหว่างเกี้ยวของฮองเฮาผ่านไปยังสวนท้อสวรรค์ เสียงดังภายนอกทำให้หนิงซูเยว่ยกม่านมองผ่านหน้าต่างออกมา ดวงตาหงส์เห็นหญิงนางหนึ่งแต่งกายเหมือนนางกำนัลจากโรงซักล้างมาเป็นลมขวางขบวนเสด็จของนาง เมื่อเกี้ยวถูกวางลง หนิงซูเยว่เดินออกมา นางกำนัลต่ำต้อยนั้นกำลังถูกขันทีหิ้วปีกออกไปให้พ้นเกี้ยวพอดี “เจ้าช่างไม่รู้จักที่ต่ำที่สูง หลังจะขาดหากไม่หลบไปเดี๋ยวนี้” นางกำนัลคนนั้นตัวสั่นงันงก หากนางไม่ทำแบบนี้นางคงไม่มีโอกาสอีก นางได้ยินว่าฮองเฮาเสด็จมาที่ห้องเครื่องถึงได้มาดักแล้วแสร้งเป็นลมเพื่อให้ขบวนเสด็จหยุด “ช่างเถอะเจ็บป่วยเป็นเรื่องที่วางแผนล่วงหน้าไม่ได้เราไม่ถือสา” หนิงซูเยว่ย่อตัวลงมองอย่างไม่ถือยศ ชะโงกหน้าเข้าไปดูนางใกล้ๆ นางกำนัลต่ำต้อยสีหน้าอิดโรยนั้นกลับยื่นบางอย่างให้นาง “ฮองเฮาเพคะโปรดช่วยให้ความเป็นธรรมแก่อดีตฮองเฮาจิ้นฮวาด้วยเพคะ” น้ำเสียงแผ่วเบานั้นแฝงด้วยความหวัง แต่การที่นางกำนัลต่ำต้อยเข้าใกล้ฮองเฮาใกล้เกินไปเหล่าขันทีจึงรีบเข้ามาลากตัวนางออกไป หนิงซูเยว่วางเฉยไม่พูดอะไรแล้วเก็บเศษผ้าเดินกลับเข้าไปในเกี้ยว เมื่อกลับมาถึงตำหนักก็ไล่นางกำนัลออกไปให้พ้นจากห้องแล้วหยิบเศษผ้าชิ้นนั้นออกมาดู ผ้าชนิดนี้มีใช้แต่เพียงราชวงศ์ชั้นสูงเท่านั้น นางกำนัลคนนั้นกำลังจะบอกอะไรนางกันแน่ หนิงซูเยว่ขบคิดเท่าไรก็คิดไม่ออกกระทั่งท้องร้องจึงหยุดคิด แล้วเก็บเศษผ้านั้นไว้ในกล่องกำมะหยี่ซ่อนไว้ในตู้อีกชั้นหนึ่ง “กองทัพต้องเดินด้วยท้อง สมองก็เช่นกันไม่มีอะไรมาหล่อเลี้ยงสมองจะคิดออกได้ยังไง” หลังจากเสวยอาหารที่ปรุงเองไปถึงสองจานและประทานส่วนที่ทำให้นางกำนัลประจำตำหนักแล้ว หนิงซูเยว่ก็บอกนางกำนัลว่าจะนอนหลับสักงีบ แต่พอจะเอนตัวนอนสมองก็ประหวัดไปถึงนางกำนัลในโรงซักล้างที่ขอร้องให้นางช่วยคืนความยุติธรรมให้อดีตฮองเฮาจิ้นฮวา “นางเห็นว่าข้าเป็นเปาบุ้นจิ้นหรือไง ไม่ใช่เรื่องของข้าสักหน่อย” หนิงซูเยว่วางเศษผ้านั้นแล้วล้มตัวลงนอน แต่เพราะลึกๆ นางเป็นคนมีน้ำใจและตงฉิน มือเรียวเล็กจึงคว้าเศษผ้าชิ้นนั้นขึ้นมาอีกครั้งแล้วมองมัน พลางคิดไปเรื่อยเปื่อยว่าหากอดีตฮองเฮาตายใครกันจะได้ประโยชน์ในการตายของนาง ระหว่างขบคิดอยู่นั้นนางกำนัลซูเหวินและเหมยเอี้ยนต่างพากันมาส่งข่าวว่าวันนี้ฮ่องเต้ทรงพลิกป้ายเสวียหวงกุ้ยเฟย ข่าวลือว่าฮองเฮาถึงจะงามขึ้นเพียงใดแต่ก็ยังมัดพระทัยองค์จักรพรรดิไม่ได้พระองค์ยังทรงโปรดเสวียหวงกุ้ยเฟยเป็นอันดับหนึ่งเหมือนเคย หนิงซูเยว่รีบเก็บเศษผ้าไปไว้ในกล่องแล้วลุกขึ้นนั่งฟังสองนางกำนัลที่เป็นเดือดเป็นร้อนแทนนาง “ข้าไม่เห็นรู้สึกเสียหน้าแต่ประการใด ปล่อยให้เสวียหวงกุ้ยเฟยดีใจไปเถอะ เพราะหัวเราะทีหลังนั้นดังกว่า” ฟากเสวียอวี้เจินคลี่ยิ้มฟังขันทีมารายงานที่ตำหนักว่าคืนนี้ฝ่าบาทพลิกป้ายของนางและสั่งจุดโคมตำหนักลู่เอิน นางฉายแววสะใจออกมาทางดวงตา นางอยากให้ถึงเช้าพรุ่งนี้เร็วๆ เพราะอยากดูน้ำหน้าของฮองเฮาว่าจะยังชูคอได้อีกหรือไม่ “ซู่หม่าลา เจ้าไปเตรียมน้ำสรงกับแป้งร่ำให้พร้อม คืนนี้ข้าจะปรนนิบัติฝ่าบาทให้หลงใหลจนไม่คิดถึงสนมชายาคนใดอีกเลยแม้กระทั่งฮองเฮาหนิงซูเยว่” ข้าไม่เหมือนเจ้าหรอกหนิงซูเยว่ที่ดึงฝ่าบาทไว้ไม่อยู่จนต้องกลับออกไปกลางดึก
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD