bc

วาสนาเมียเช่า

book_age18+
621
FOLLOW
7.9K
READ
HE
playboy
heir/heiress
blue collar
friends with benefits
like
intro-logo
Blurb

"เด็กในท้องเป็นลูกของใคร...ของผมใช่ไหม..."

"ไม่ใช่ค่ะ...เด็กคนนี้ไม่ใช่ลูกของคุณ...เขาเป็นลูกของฉันกับผู้ชายคนอื่น..."

"หลังจากที่ผมไป คุณก็ไปนอนกับผู้ชายคนอื่นเลยงั้นเหรอ นี่คุณไม่คิดจะอาลัยอาลัยอาวรณ์ผมบ้างเลยหรือไงห้ะ คิดแต่จะหาผัวใหม่อย่างเดียวเลยหรือไง"

"แล้วทำไมฉันต้องอาลัยอาวรณ์ผู้ชายที่ทิ้งฉันด้วยล่ะคะ ฉันจะห้าผัวใหม่แล้วมันผิดตรงไหนคะ ในเมื่อเราจบกันแล้ว และตอนนี้เราก็ไม่ได้เป็นอะไรกัน เพราะฉะนั้นคุณอย่ามายุ่งกับฉันจะดีกว่าค่ะ มาทางไหนก็กลับไปทางนั้นเลยค่ะ "

"ผมไม่กลับ...ผมต้องการตรวจดีเอ็นเอของเด็กในท้อง...ถ้าเป็นลูกของผม...ผมจะพาเขาไปอเมริกากับผม...."

คาร์เตอร์ คัลแลนวี่ อายุ 34 ปี

"คาร์เตอร์" หนุ่มนักลงทุนชาวอเมริกันสุดฮอตที่เดินทางไปทั่วโลกเพื่อลงทุนทำธุรกิจ จนเขาได้ลิ้มลองสาวๆมานับไม่ถ้วน ทำให้เขานั้นไม่ได้สนใจหรืออยากจะคบกับใครแบบจริงจังเลยสักคน เพราะสำหรับเขามันก็แค่เซ็กส์เท่านั้น จะกับใครมันก็เหมือนกัน จนเขาได้พบกับ " มารีลิน " เธอก็ทำให้ความคิดนี้ของเขาเปลี่ยนไป เพราะเธอมีเสน่ห์ดึงดูดทำให้หลงใหล จนเขาไม่ต้องการให้เธอไปเป็นผู้หญิงของใครเลย เขาจึงเสนอให้เธอมาเป็นเมียเช่าของเขาระหว่างที่เขานั้นอยู่ที่ไทย เพราะเขาก็อยากรู้เหมือนกันว่าเขาจะหลงเธอไปได้นานแค่ไหนกัน แต่แล้วยิ่งนานวันเขาก็ยิ่งรู้สึกกับเธอมากขึ้น เขาจึงตัดสินใจถอยห่างจากเธอและกลับอเมริกาเพื่อหักห้ามใจตัวเอง เพราะเขาไม่อยากจะมีความรักหรือมีครอบครัว แต่เขากลับรู้สึกคิดถึงเธอจนมันกลายเป็นความทรมานที่เขาไม่เคยคิดว่าชีวิตนี้จะได้รู้สึกแบบนี้มาก่อน เขาจึงกลับมาหาเธอที่ไทยอีกครั้ง และเขาก็ได้รู้ว่าเธอกำลังท้อง......

มะลิ มารีลิน อินตะวัน อายุ 24 ปี

" มะลิ " สาวสวยหน้าคมที่กำลังประสบปัญหาทางการเงิน ก็ทำทุกวิธีทางเพื่อจะหลุดพ้นจากความยากจนและความลำบากที่เธอกำลังเจอในตอนนี้ ทำให้เธอตัดสินใจไปทำงานกับที่คลับแห่งหนึ่ง และเธอก็ได้พบกับ " คาร์เตอร์ " หนุ่มนักธุรกิจที่มาเสนอเงินก้อนโตให้เธอนอนกับเขาหนึ่งคืน เธอจึงยอมมอบความสาวให้เขาเชยชมไปแบบเร่าร้อน จนเขาติดใจขอให้เธอเป็นเมียเช่าของเขาระหว่างที่เขาอยู่ที่ไทย เธอก็ตอบตกลงทันที และความสัมพันธ์ของเธอและเขาก็เริ่มขึ้นอย่างเร่าร้อน และมันก็เริ่มมีความรู้สึกดีๆให้กันจนมารีลินนั้นหลงรักเขา แต่เธอก็รู้ว่าเขาไม่ได้จริงจังกับเธอ เธอก็พยายามที่จะหักห้ามใจ จนในที่สุดเขาก็ตัดสินใจจบความสัมพันธ์และจากเธอไป..เหลือไว้แค่เลือดเนื้อเชื้อไขของเขา ที่ทิ้งไว้ให้เธอ.....

chap-preview
Free preview
1.มีแฟนแบบนี้อย่ามีเลย
สาวสวยหุ่นอวบอัดกำลังนั่งอยู่ในโชว์รูมเต้นท์รถซื้อขายรถมือสองด้วยสีหน้าคิดหนัก เพราะหลังจากที่พ่อของเธอประสบอุบัติเหตุเมื่อสองเดือนก่อนก็ได้รับการผ่าตัดที่ขา และตอนนี้หมอก็มาตรวจเจอเนื้องอกที่สมองอีก ทำให้ต้องรีบรับการรักษา เธอจึงกลายเป็นคนเดียวในบ้านที่หาเงิน ซึ่งมันก็ไม่เพียงพอต่อครอบครัวของเธอในขณะนี้ “สวัสดีค่ะคุณแม่...พี่เอ็มอยู่ไหมคะ พอดีมะลิโทรหาพี่เอ็มเขาแล้วเขาไม่รับสายน่ะค่ะ” มะลิเห็นแม่ของแฟนหนุ่มเดินมาก็รีบลุกขึ้นแล้วเอ่ยถามไป “ลูกชายฉันไม่รับสาย เธอก็ดั้นด้นมาหาเขาถึงที่เลยเหรอ...” ยุพินมองเด็กสาวแล้วเอ่ยพูดด้วยเสียงและสีหน้าไม่ชอบใจ เพราะเธอไม่ชอบแฟนของลูกชายคนนี้เลย บ้านก็จนไม่มีอะไรคู่ควรหรือเหมาะสมกับลูกชายเธอเลยสักนิด “มะลิมีเรื่องสำคัญจะคุยกับพี่เอ็มเขาน่ะค่ะคุณแม่...พี่เอ็มเขาอยู่ไหมคะ” มารีลินก็อธิบายไป เพราะเธอเองก็ไม่ได้อยากจะมาที่นี่หรอกถ้าไม่จำเป็นจริงๆน่ะ “อยู่...แต่ตอนนี้ลูกชายฉันติดธุระกับลูกค้าอยู่ คงไม่สะดวกที่จะคุยกับเธอตอนนี้ เธอกลับไปก่อนไป เดี๋ยวฉันบอกให้ลูกชายฉันโทรหาเธอก็แล้วกัน” ยุพินบอกไปด้วยเสียงเรียบ “อ่อ ไม่เป็นไรค่ะคุณแม่ เดี๋ยวมะลิรอเจอพี่เอ็มที่นี่แหละค่ะ” มารีลินได้ยินแบบนั้นก็เลือกที่จะรอ เพราะเธอมีเรื่องด่วนจะคุยกับเขา “อยากจะรอก็แล้วแต่เธอก็แล้วกัน...ไปนั่งรอตรงห้องรับแขกไป อย่ามาเกะกะตรงนี้เข้าใจไหม...” ยุพินพูดบอกไป “ค่ะคุณแม่...” มารีลินก็ตอบรับไปแบบเข้าใจ เธอรู้ว่าแม่ของแฟนหนุ่มไม่ได้ชอบเธอ เธอถึงได้พยายามเจียมเนื้อเจียมตัวเสมอเมื่อเจอแม่ของแฟน “เข้าใจก็ดี...” ยุพินมองเด็กสาวแบบหงุดหงิดใจก็พูดไป จากนั้นเธอก็เดินเข้าไปด้านในห้องสำนักงานทันที ส่วนมารีลินก็เดินไปทางห้องรับแขกของเต้นท์รถแล้วเธอก็นั่งรอเพื่อจะเจอกับอินทัชแฟนของเธอแบบเงียบๆ เพราะวันนี้เธอมีเรื่องด่วนที่จะต้องคุยกับเขาจริงๆ มารีลินก็มองนาฬิกาอย่างร้อนใจเลย “คุณนายจะให้ฝนบอกคุณเอ็มไหมคะว่าคุณมะลิเขามาขอพบ” ฝนผู้จัดการเต้นท์รถถามไป เพราะแฟนของเจ้านายมานั่งรอนานแล้ว “ยังก่อน ปล่อยให้แม่นี่รอไปแบบนั้นแหละ ลูกชายฉันออกจากห้องทำงานมาเมื่อไหร่ ก็ให้แม่นี่เจอเมื่อนั้นแหละ” ยุพินพูดบอกไปแบบแกล้งๆ “แต่นี่ก็บ่ายโมงแล้วนะคะคุณนาย ถ้าคุณเอ็มจะออกมาจากห้องทำงานก็คงจะสี่ห้าโมงนู้นมั้งคะ..วันนี้มีประชุมโทรทางไกลดิลซื้อรถเข้ามาด้วย...แบบนี้คุณมะลิเขาก็รอนานเลยสิคะ” ฝนพูดบอกไป เพราะกว่าเจ้านายจะออกมาก็นานเลย “ก็ช่างสิ ใครบอกให้แม่นี่มาเสนอหน้าที่นี่เองล่ะ...ฉันไม่ชอบเธอก็รู้ เพราะฉะนั้นอย่าบอกลูกชายฉันว่าแม่นี่มาหา เข้าใจไหม” ยุพินบอกไป “เข้าใจค่ะคุณนาย...” ฝนตอบรับไปแบบเข้าใจ แล้วก็ทำหน้ายิ้มแห้งๆออกมา เพราะเธอรู้ว่าคุณนายไม่ชอบแฟนของลูกชาย แต่ก็ไม่คิดว่าจะทำถึงขนาดนี้ น่าสงสารมะลิจริงๆ “อืม...เฝ้าดูแม่นี่เอาไว้ล่ะ อย่าให้มาก่อกวน ฉันจะออกไปทำผมก่อน” ยุพินพูดจบก็เดินไปหยิบกระเป๋าของตัวเองแล้วเดินออกไปทันที “คุณนายนี่เป็นแม่ผัวใจร้ายของจริงเลยนะพี่...น่าสงสารน้องมะลิจริงๆที่มาเจอแม่ผัวแบบนี้น่ะ...” เกตุพนักงานอีกคนที่นั่งอยู่พูดไปเมื่อคุณนายเดินออกไปแล้ว “แกนี่ก็รีบพูดจริงๆยัยเกตุ คุณนายมาได้ยินเข้าเดี๋ยวก็โดนไล่ออกกันหมดหรอก...อย่าไปยุ่งเรื่องของเจ้านายเขา” ฝนพูดไปแบบเตือนๆ เพราะคุณนายพึ่งจะเดินออกไปเอง “ก็เกตุสงสารน้องเขานิพี่ น้องมะลิเขาออกจะน่ารัก แต่แม่คุณเอ็มกลับไม่น่ารักกับน้องเขาเลย...นี่พี่จะทำตามที่คุณนายบอกจริงๆเหรอ กว่าคุณเอ็มจะออกมานี่เย็นเลยนะ พี่จะให้น้องเขารอแบบนั้นน่ะนะ ใจร้ายไปแล้วมั้ง” เกตุพูดไปแบบอดไม่ได้ “ฉันก็ไม่ได้จะใจร้ายแบบคุณนายไหมยะ...เดี๋ยวฉันจะบอกคุณเอ็มเขาละกันว่าน้องมะลิมาหา...แกทำงานของแกไปเลยยัยเกตุ ดูคุณนายให้พี่ด้วยล่ะ เผื่อกลับมา เดี๋ยวจะซวย” ฝนพูดบอกไป เพราะเธอก็ไม่ใจร้ายขนาดนั้นหรอก ยังไงเธอกับมารีลินก็คนบ้านเดียวกัน ตอนนี้ได้ข่าวว่าพ่อนอนโรงพยาบาลอยู่ด้วย ไม่รู้จะมีเรื่องอะไรหรือเปล่า “โอเคค่ะพี่ รีบไปบอกคุณเอ็มเถอะค่ะ น้องเขารอนานแล้ว” เกตุพูดไปด้วยรอยยิ้ม “อืม...” ฝนพยักหน้าแล้วเธอก็เดินเข้าไปด้านในเพราะห้องผู้บริหารอยู่ใน แล้วเคาะประตูห้องทำงานของอินทัช “คุณอินทัชคะ น้องมะลิมาหาค่ะ จะให้มาพบในห้องไหมคะ” ฝนบอกเจ้านายไป “อ่อ มะลิมาเหรอ...ให้เข้ามาในห้องทำงานผมเลย ผมว่างอยู่พอดี ” อินทัชได้ยินแบบนั้นก็ทำหน้าแปลกใจ ก่อนจะรีบบอกไปทันที “ค่ะ เดี๋ยวฝนบอกให้นะคะ” ฝนได้ยินแบบนั้นก็ยิ้มออกมาแล้วเธอก็เดินออกไปจากห้องทำงานของอินทัช ด้านมารีลินก็นั่งรออินทัชด้วยสีหน้าเหม่อลอย เพราะตอนนี้เธอเหนื่อยแล้วก็รู้สึกเครียดกับชีวิตของเธอในตอนนี้มากๆ เพราะปัญหาทุกอย่างมันรุมเร้าเธอไปหมด “น้องมะลิ คุณอินทัชเขาเรียกให้ไปหาที่ห้องน่ะ ตามพี่มา” ฝนเดินมายืนที่ประตูแล้วเรียกมารีลินไป “ค่ะพี่ฝน...พี่เอ็มเขาว่างแล้วเหรอคะ เมื่อกี้แม่เขาบอกว่าเขาคุยงานนิคะ” มารีลินได้ยินก็ดีใจ แล้วก็รีบลุกขึ้นแล้วเดินไปกับฝนพี่ที่อยู่หมู่บ้านเดียวกับเธอที่รู้จักกัน “เขาว่างอยู่แล้วล่ะ ตอนเช้าเขาไม่มีงานอะไรเยอะแยะหรอก แต่แม่ผัวใจร้ายของมะลิต่างหากที่ไม่อยากให้มะลิเจอคุณเอ็มเขาน่ะ...พี่เลยแอบบอกคุณเอ็มเองว่ามะลิมาหา” ฝนบอกไป “ขอบคุณนะคะพี่ฝน...” มารีลินตอบด้วยรอยยิ้มขอบคุณเลย “ไม่ต้องขอบคุณหรอก เราคนบ้านเดียวกันก็ต้องช่วยกันอยู่แล้วล่ะ อีกอย่างเราก็เป็นลูกพี่ลูกน้องกับจินมันด้วย พี่ก็ต้องช่วยอยู่แล้วล่ะ...นี่ห้องทำงานคุณเอ็ม เข้าไปสิ...” ฝนบอกไปเพราะเธอเป็นเพื่อนรักกับจินตนาลูกพี่ลูกน้องของมารีลิน “ค่ะพี่ฝน...ขอบคุณอีกครั้งนะคะพี่...งั้นมะลิขอตัวเข้าไปคุยกับพี่เอ็นเขาก่อนนะคะ” มารีลินบอกไปก็ยิ้มให้ แล้วเธอก็เปิดประตูเข้าไปด้านใน “มะลิ ทำไมจะมาแล้วไม่บอกพี่ก่อนหึ มารอนานหรือยัง” อินทัชเห็นแฟนสาวเดินเข้ามาในห้องแล้วเขาก็เอ่ยถามไปทันที “มะลิโทรหาพี่เอ็มแล้วนะคะ แต่ว่าพี่เอ็มไม่รับสายเลย มะลิก็เลยคิดว่าพี่เอ็มน่าจะไม่ว่างก็เลยมาหาพี่เอ็มที่นี่น่ะค่ะ” มารีลินตอบไปตามตรง “อ่อ ดีเลย เพราะเราไม่ได้เจอกันมาตั้งหลายวัน พี่คิดถึงมะลิมากเลยเนี่ย ขอกอดให้ชื่นใจหน่อยสิ...พรึบ...” อินทัชเข้าไปกอดอ้อนเธออย่างรักใคร่ “มะลิก็คิดถึงพี่เอ็มเหมือนกันค่ะ ขอโทษนะคะที่ช่วงนี้มะลิไม่มีเวลามาเจอพี่เอ็มเลย มะลิต้องทำงานแล้วก็ต้องช่วยแม่ดูแลพ่อด้วย เลยไม่มีเวลาเลย...” มารีลินโอบกอดเขาแล้วพูดตอบไป “พี่เข้าใจ ไม่เป็นไรหรอก...พ่อของมะลิย่อมสำคัญกว่าอยู่แล้ว รอให้พ่อหายแล้วเราก็เจอกันได้บ่อยๆแล้วล่ะ แล้วพ่อเป็นไงบ้าง หมอบอกหรือยังว่าจะออกจากโรงพยาบาลเมื่อไหร่น่ะ” อินทัชถามไป เพราะพ่อของมารีลินรักษาตัวที่โรงพยาบาลมาสองเดือนแล้วมั้ง จนเขาหลังๆมานี้เขาแทบไม่ได้เจอกับมารีลินเลย “พ่อออกจากโรงพยาบาลเมื่อเช้าแล้วค่ะ แต่ว่าเมื่อวานหมอตรวจเจอเนื้องอกที่สมองของพ่ออีกค่ะพี่เอ็ม แล้วหมอก็แนะนำให้พ่อรีบรักษาก่อนที่เนื้องอกมันจะใหญ่ไปมากกว่านี้...” มารีลินพูดด้วยเสียงเศร้า “พ่อเป็นเนื้องอกที่สมองเลยเหรอ...แล้วจะต้องรักษายังไง ผ่าตัดใช่ไหม” อินทัชได้ยินก็รู้สึกสงสารมารีลินมาก เพราะพ่อเธอพึ่งประสบอุบัติเหตุขาหักไปเอง นี่มาตรวจเจอเนื้องอกในสมองอีก อะไรจะซวยซ้ำซวยซ้อนขนาดนี้กันนะ “ใช่ค่ะพี่เอ็ม...หมอนัดตรวจอาทิตย์หน้าค่ะ แต่หมอที่นี่บอกว่าผ่าไม่ได้ต้องส่งตัวพ่อเข้าไปผ่าตัดที่โรงพยาบาลในกรุงเทพค่ะ แล้วค่าใช้จ่ายมันก็ต้องเพิ่มมาอีก มะลิเลยอยากจะขอยืมเงินพี่เอ็มสักหนึ่งแสนน่ะค่ะ” มะลิเอ่ยบอกแฟนของเธอไป เพราะเขาคือที่พึ่งเดียวที่เธอพอจะขอร้องเขาได้ “พี่ก็อยากจะช่วยนะมะลิ แต่คราวก่อนมะลิก็ยืมพี่ไปแสนนึงแล้วนะ มะลิก็ยังไม่ได้คืนพี่เลยนะ” อินทัชพูดไปแล้วทำหน้าเครียดขึ้นมาทันที เพราะเขาให้เธอยืมไปเขาก็โดนแม่ของเขาบ่นจนหูชาเลย ถ้าเขาให้เธออีกแม่ของเขาระเบิดลงแน่ๆ “แต่มะลิก็ไม่ได้ยืมพี่เอ็มเปล่าๆนะคะ มะลิก็เอารถของพ่อมาจำนำที่เต้นท์รถของพี่เอ็มแล้วไงคะ...ให้มะลิยืมอีกแสนนึงนะคะพี่เอ็ม มะลิต้องการเงินไปรักษาพ่อจริงๆ ตอนนี้มะลิไม่มีเงินเหลือแล้วจริงๆค่ะ ” มะลิพูดไปอย่างขอร้องเขา เพราะเธอก็ใช่ว่าจะยืมเขาเฉยๆ เธอก็เอารถมาจำนำกับเขาแล้วไง “มันก็ใช่ แต่พี่ไม่ใช่ตู้เอทีเอ็มของมะลินะที่จะเอาเงินเมื่อไหร่ก็เอาแบบนี้น่ะ พี่ให้เรายืนเงินไปคราวที่แล้วแม่พี่ก็ด่าพี่ยกใหญ่เลย ถ้าครั้งนี้พี่ให้อีก พี่โดนด่าเละแน่ๆ” อินทัชตอบไปตรง เพราะเขาก็อยากช่วยแต่เขาสู้แม่เขาไม่ได้ “แต่เงินที่พี่เอ็มให้มะลิมา...มันก็เป็นเพราะมะลิเอารถของพ่อมาจำนำกับพี่เอ็มนะคะ แล้วพี่เอ็มพูดแบบนี้ออกมาได้ยังไงคะ” มารีลินได้ยินแฟนหนุ่มพูดแบบนี้ออกมาก็สะอึกเลย ก่อนจะตอบเขาไปแบบอดไม่ได้ “พี่ขอโทษ...แต่รถที่มะลิเอามาจำนำกับพี่ พี่ก็ให้ในเรทราคาจำนำแล้ว ถ้ามะลิจะเอาอีก เราก็ต้องขายรถของพ่อให้พี่แล้วล่ะ แต่พี่ให้ได้อีกสามหมื่นเท่านั้น เพราะรถมันก็เก่าแล้วด้วย นี่พี่ก็ช่วยมะลิสุดๆแล้วนะ” อินทัชบอกไปตามตรง เพราะสำหรับเขาเรื่องส่วนตัวกับเรื่องธุรกิจจะเอามาปนกันไม่ได้ มารีลินได้ยินแบบนั้นก็อึ้งไปเลย เพราะไม่คิดว่าแฟนของตัวเองจะหน้าเลือดถึงขนาดนี้ นี่ขนาดเธอเป็นแฟนของเขานะ เขายังทำถึงขนาดนี้ “นี่พี่เอ็มช่วยมะลิแบบสุดๆแล้วเหรอคะ...หึ...นี่มะลิเป็นแฟนของพี่นะคะ พี่ไม่คิดจะช่วยมะลิ มะลิไม่เคยว่าเพราะมันเป็นเรื่องส่วนตัวของครอบครัวมะลิ มะลิต้องจัดการเอง แต่มะลิไม่คิดเลยว่าพี่เอ็มจะทำถึงขนาดนี้...” มารีลินพูดไปแบบน้อยใจเขา เพราะเขาช่วยเธอเรื่องเงินได้แต่ว่าเขาไม่คิดจะช่วยหรือว่าเสนอตัวจะช่วยเหลือเธอเลยสักนิด “พี่แยกแยะเรื่องงานกับเรื่องส่วนตัวนะมะลิ อย่าว่าพี่ที่ทำแบบนี้เลยนะ พี่เองก็ลำบากใจเหมือนกัน” อินทัชบอกไปแล้วมองเธอแบบเศร้าๆ “ค่ะ...ถ้ามะลิทำให้พี่เอ็มลำบากใจมากนัก งั้นมะลิขายรถของพ่อให้พี่เอ็มก็แล้วกันค่ะ ให้ได้อีกสามหมื่นก็สามหมื่นค่ะ...” มะลิตอบไปด้วยเสียงเข้ม เพราะตอนนี้เธอคงหวังให้เขาช่วยไม่ได้ก็ขายรถให้เขาไปเลยละกัน อย่างน้อยก็พอมีเงินพยุงไปก่อน “อืม...โอเค...แล้วส่วนที่เหลือมะลิจะไปหาจากไหนล่ะ” อินทัชพยักหน้าเข้าใจ แล้วเอ่ยถามเธอ “มันเรื่องส่วนตัวของมะลิค่ะ เดี๋ยวมะลิจะไปหาเอาเองค่ะ พี่เอ็มแค่ให้เงินค่ารถที่เหลือกับมะลิมาก็พอค่ะ” มะลิตอบไปแล้วมองอินทัชอย่างจดจ้องเลย เพราะตอนนี้เธอคงต้องคิดใหม่แล้วล่ะว่าเธอควรจะไปต่อกับเขาดีไหม เพราะบ้านเธอเกิดเรื่องขนาดนี้เขายังไม่คิดจะยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือเลย อีกหน่อยถ้าเธอแต่งงานกับเขาเป็นผัวเมียกันจริงๆ เขาจะมาดูแลอะไรเธอได้ “โอเค....สามหมื่นนะ....พี่ให้ตอนนี้เลย...งั้นมะลิเซ็นชื่อขายรถให้พี่ด้วยนะ” อินทัชบอกไปก็ดึงเอกสารในแกะมาแล้วยื่นไปให้เธอ แล้วเขาก็เดินไปหยิบเงินในลิ้นชักอีกฝั่งมา มารีลินก็มองการรกระทำของอินทัชทุกอย่าง เธอก็เอาปากกามาเขียนชื่อลงไปอย่างตัดใจ เพราะรถของพ่อที่เธอซื้อให้ตอนนี้เธอจำเป็นต้องขายเพื่อเอาเงินไปเป็นค่าใช้จ่ายรักษาพ่อของเธอแล้ว “เรียบร้อยแล้วค่ะ...ขอเงินสามหมื่นให้มะลิด้วยค่ะ” มารีลินเซ็นเอกสารแล้วก็หันมาพูดกับอินทัชด้วยสีหน้าเรียบนิ่ง “นี่เงินสามหมื่นครับ...แบบนี้พี่ค่อยสบายใจหน่อย เพราะแม่พี่เขากลัวว่ามะลิจะหาเงินมาคืนไม่ได้ แต่มะลิขายขาดรถให้พี่แบบนี้แล้วแม่พี่ก็คงไม่ว่าอะไรพี่แล้วล่ะ” อินทัชบอกไปแล้วยิ้มออกมา มารีลินรับเงินมาได้ยินเขาพูดแบบนั้นก็กำหมัดแน่นเลย ยิ่งเห็นเขายิ้มออกมาในสถานการณ์แบบนี้ เธอก็ตัดสินใจได้ทันทีเลยว่า เธอไม่ควรที่จะไปต่อกับผู้ชายคนนี้อีกแล้ว คนที่รักกันคบกันแต่ว่าไม่ช่วยเหลือเกื้อกูลกันเลยแบบนี้ แถมยังมาเอารัดเอาเปรียบ เธอก็ไม่ควรจะคบให้เสียเวลา “จากนี้ไปเราสองคนไม่ติดค้างอะไรกันแล้วนะคะพี่เอ็ม....งั้นเราก็เลิกกันเถอะค่ะ มะลิไม่อยากจะคบกับพี่เอ็มแล้วค่ะ...” มารีลินพูดด้วยเสียงเข้มแล้วกัดฟันแน่นอย่างข่มความรู้สึกเสียใจของตัวเองไว้ “อะไรนะ...เลิกกับพี่เหรอ....มะลิพูดอะไรออกมาน่ะ ทำไมต้องเลิกกับพี่ด้วย...เพราะพี่ไม่ให้มะลิยืมเงินเหรอ” อินทัชได้ยินก็ทำหน้าตกใจแล้วเอ่ยถามเธอไปแบบงุนงง “ไม่ใช่เพราะพี่เอ็มไม่ให้มะลิยืมเงินหรอกค่ะ แต่เพราะว่าพี่ไม่ใช่ผู้ชายที่มะลิต้องการค่ะ มะลิอยากคบกับผู้ชายที่รักมะลิและคอยดูแลคอยช่วยเหลือกันและกัน แต่ว่าพี่เอ็นนอกจากไม่ช่วยแล้วยังเห็นแก่ตัวกับมะลิมากๆเลยด้วย มะลิคบกับพี่ต่อไปไม่ได้แล้วล่ะค่ะ เราสองคนต่างคนต่างไปเถอะนะคะ” มารีลินพูดไปแบบจริงจัง “ไม่นะมะลิ...เดี๋ยวก่อน...พี่ไม่ได้เห็นแก่ตัวกับมะลิเลยนะ แล้วพี่ก็ช่วยมะลิมาตลอด พี่ไม่ดูแลไม่ช่วยเหลือมะลิตอนไหน” อินทัชเข้าไปจับมือเธอไว้แบบห้ามแล้วพูดไป “ปล่อยค่ะ...พรึบ...ที่ผ่านมาพี่เคยช่วยเหลืออะไรมะลิเหรอคะ ไปเที่ยวไปทานอาหารเราก็หารกันคนล่ะครึ่งตลอด แล้วนี่พ่อของมะลิเข้าโรงพยาบาล พี่ก็ควรจะช่วยบ้างแต่ไม่เลย พี่ไม่แม้แต่จะยื่นมือมาช่วยทั้งๆที่พี่เอ็มก็ช่วยได้ มะลิพอแล้วค่ะ มะลิจะไม่คบกับผู้ชายแบบพี่เอ็มแล้วค่ะ เราเลิกกันเถอะค่ะ” มะลิสะบัดมือของเขาออกแล้วก็พูดเสียงรอดไรฟันออกไปอย่างสุดทน แล้วเธอก็รีบเดินออกไปจากห้องทำงานของเขา “มะลิ...อย่าพึ่งไป....เดี๋ยวก่อนมะลิ....พี่ไม่เลิก...” อินทัชรีบเดินตามมารีลินออกมาแล้วตะโกนพูดไปจนพนักงานที่นั่งทำงานอยู่ด้านหน้ามองกันแบบตกใจเลย เพราะทันทีที่มารีลินเดินออกมาอย่างโมโหนั้น อินทัชก็เปิดประตูตามออกมาแล้วตะโกนอย่างเสียงดังเลย จนพนักงานรีบลุกขึ้นแล้วตามไปดูแบบงงๆ

editor-pick
Dreame-Editor's pick

bc

สอนรัก ลูกสาวท่านประธาน

read
1.2K
bc

ไฟรักซาตาน

read
53.5K
bc

อ้อนรักพ่อผัว

read
4.1K
bc

นางสาวอินทุอรณ์

read
12.1K
bc

ซาตานร้ายเดิมพันรัก

read
10.9K
bc

ปราบพยศรักยัยรุ่นพี่

read
1.1K
bc

วิวาห์(ไม่)ไร้รัก

read
9.3K

Scan code to download app

download_iosApp Store
google icon
Google Play
Facebook