เพลิงเสน่หา ตอนที่ 7.
1469 Words
เสียงหวานพลิ้วร้องห้าม ใบหน้างามส่ายไปมาขบริมฝีปากแน่น ร่างบางบิดตัวเร่าซ่านสยิวไปกับกระแสพิศวาสที่พุ่งผ่านเข้ามาในกาย
หากคนฟังกลับไม่ได้ยิน เพราะกำลังเพลิดเพลินกับทรวงนุ่ม อัคนีป้อนทรวงอวบนิ่มเข้าสู่อุ้งปากอย่างหิวกระหาย ปลายถันสีชมพูแดงเรื่อขึ้นเมื่อถูกดูดดึงจากริมฝีปากร้อนผ่าวหนักหน่วง ปลายยอดแข็งเป็นไตชูชันราวกับเม็ดอัญมณีเลอค่า
“เพลิง... อ๊าซ์ ดะ ดาว ซี๊ดดดด ไม่ไหวแล้ว...”
หญิงสาวครางแทบไม่เป็นภาษา เสียวจี๊ดขึ้นสมองจนแทบทนไม่ไหว ใบหน้างามแหงนเงยขึ้น ตาปรือฉ่ำด้วยแรงฤทธิ์พิศวาสแอ่นอกอิ่มให้เขาลิ้มชิมรสอย่างลืมอาย
“ดาวจ๋า... อืม”
เขาครางงึมงำ ในปากยังคาบคาปลายยอดสีชมพูไว้เต็มปาก มือสองข้างเฟ้นฟอนกอบกำขยำคลึงเคล้าทรวงอวบอย่างเมามัน ชายหนุ่มไม่อาจหักห้ามความปรารถนาได้อีก จึงปลุกเร้ากายสาวให้คล้อยตาม เขาปลดอาภรณ์เกะกะออกโยนทิ้ง ปอกเปลือยร่างงามจนเปล่าโล่ง ตัวเขายังสวมเสื้อผ้าเต็มตัว ขณะเคลื่อนริมฝีปากจูบไซ้ไปทั่วทรวงอวบไล่เรื่อยลงมาตามหน้าท้องแบนราบ ปลายลิ้นร้อนหยุดหยอกเย้าหลุมเล็กของสะดือสวย สร้างความเสียวซ่านให้หญิงสาวจนบิดตัวเร่า ปลายลิ้นห่อแข็งหย่อนแหย่ลงไปในหลุมตื้น ชั่วครู่พอให้เธอสะท้านไหว ก่อนจะมุ่งสู่เป้าหมายสำคัญที่รออยู่เบื้องล่าง ใบหน้าหล่อเหลาเคลื่อนลงมาหาเนินสวรรค์ อันเป็นที่ตั้งของกุหลาบดอกสวย ดวงตาวาวจ้าเมื่อเห็นความงดงามของเธอที่ซ่อนอยู่ใต้แพนตี้ลูกไม้สีหวาน เขาค่อยๆ แตะริมฝีปากร้อนผ่าวบนเนินสาว ใช้ปลายนิ้วเกี่ยวแพนตี้ให้แยกออก เผยให้เห็นความงดงามที่ซ่อนอยู่
“ดาวจ๋า... ผมอยากกินคุณเหลือเกิน...”
“กิน...”
ดารากานต์ปรือตามองอย่างสงสัย ก่อนจะหน้าแดงซ่านเมื่อเห็นแววตาร้อนแรงมองสบมา หญิงสาวสิ้นความสงสัยเมื่อใบหน้าหล่อเหลาก้มลงมาหากุหลาบสาว ใบหน้างามส่ายไปมาปฏิเสธยกมือพยายามจะห้ามปรามเขา แต่เขาจับข้อมือเธอกดไว้แทรกตัวเข้าไปหาความชุ่มฉ่ำที่รออยู่
“อย่าค่ะ อ๊า...”
เสียงห้ามปรามขาดหายไป เมื่อปลายลิ้นร้อนตวัดไล้เลีย แม้จะมีผ้าขวางกั้น แต่ไม่อาจกั้นขวางความปรารถนาของชายหนุ่มได้
อัคนีเกี่ยวขอบแพนตี้รูดลงมาพ้นสะโพกผาย ขยับกายเข้าไปหาใช้ไหล่ดันเข่าที่พยายามหนีบปกปิดส่วนสงวนให้อ้ากว้าง แล้วก้มหน้าลงไปหาดอกไม้งามที่คลี่กลีบอวดเกสรยั่วภมรหนุ่มให้ค้นหาความหวานฉ่ำภายใน ลิ้นร้ายฉกวูบเข้าหากลีบเกสรสีสวย ตวัดรัวปาดไล้อย่างหิวกระหาย
“อุ๊ย เพลิง... ยะ อย่าทำ อ๊าซ์ อย่า ซี๊ดดดด” เสียงสูดปากดังระงม เมื่อชิวหาร้าย ละเลงไล้หนักหน่วงขึ้น
ดารากานต์ดิ้นพล่านเหมือนปลาโดนทุบ กายสาวบิดส่ายมือน้อยสะบัดออกจากการเกาะกุม ขยุ้มดึงศีรษะที่ซบซุกเข้าหากายสาว อย่างลืมตัว ความเสียวซ่านพลุ่งพล่านไปทั้งกาย เมื่อถูกจู่โจมจุดอ่อนไหวจากคนมากประสบการณ์ที่รู้ว่าต้องกระตุ้นตรงไหนกายสาวถึงจะสั่นสะท้าน ลิ้นร้อนตวัดไล้จนถ้วนทั่วทุกอณูสาว สะโพกงามงอนส่ายร่อนเข้าหาปากและลิ้นของเขาอย่างลืมอาย หญิงสาวหอบหายใจสะท้านเกร็งตัวเมื่อปลายล้นร้อยชำแรกเข้าไปลึก เขาห่อลิ้นจุ่มจ้วงสลับกับดูดดึงเกสรสาวเป็นจังหวะ
“เพลิง เพลิงขา ไม่ไหวแล้ว...” เธอครางครวญเสียงแหบพร่า
ใบหน้างามส่ายไปมา บั้นท้ายยกลอยขึ้นเสนอสนองปลายลิ้นร้อน ยอมศิโรราบให้เขารักเธอด้วยปลายลิ้นและปาก
“ดาว ผมจำให้คุณมีความสุข” เขาเงยหน้าขึ้นบอกเธอ ก่อนจะเร่งเร้าให้เธอไปแตะเส้นขอบฟ้าในนาทีต่อมา
“อ๊าซ์ โอย...ซี๊ด อ๊า.. กรี๊ดดด”
เสียงหวานครางระงม กายสาวอ่อนระทวยหอบหายใจแรง เมื่อไปถึงความเสียวสุดขีดแบบที่ไม่เคยรู้จักมาก่อน
“ขอผมนะคนดี”
อัคนีเงยหน้าขึ้นร้องขอ ขยับตัวถอยห่าง มือหนาปลดเข็มขัดออก รูดซิปให้ความอหังการ์ผงาดออกมาพ้นกางเกง แล้วจับกายแกร่งเตรียมตัวเข้าไปสัมผัสความหวานล้ำที่รออยู่
ทว่า... สวรรค์ล่มกลางคัน เมื่อเสียงหนึ่งดังขัดจังหวะขึ้น
ก๊อก ก๊อก ก๊อก...
เสียงเคาะประตูเรียกสติสัมปชัญญะของดารากานต์ให้กลับคืน หญิงสาวผลักอกอัคนีออกห่างมือรวบดึงผ้าห่มมาคลุมตัว แล้วลุกขึ้นวิ่งหนีเข้าไปในห้องน้ำปิดประตูดังปัง
“ใครวะ มาขัดจังหวะ มันน่านัก” อัคนีคำรามอย่างขัดใจ
ร่างสูงลุกขึ้นจากเตียงจัดเสื้อผ้าให้เรียบร้อย แล้วเดินไปเปิดประตู คนที่มาเคาะเรียกยืนยิ้มหวานให้เจ้าของห้อง โดยไม่รู้ว่ากำลังทำให้อีกฝ่ายเดือดปุดๆ อยู่
“เพลิงขา จ๋าแวะมาทักทายค่ะ”
จามรีทักทายเสียงหวาน เมียงมองลอดเข้าไปในห้องพัก ก่อนจะยิ้มกว้างเมื่อไม่เห็นร่างของภรรยาชายหนุ่ม
“ขอจ๋าเข้าไปข้างในได้ไหมคะ ข้างนอกอากาศร้อนจังค่ะ”
“คงไม่สะดวกครับ เพราะภรรยาผมกำลังจะพักผ่อน ผมเองก็อยากพักผ่อนเหมือนกัน ไว้ค่อยคุยกันทีหลังนะครับ”
อัคนีบอกปัดอย่างไร้เยื่อใย เขาไม่อยากรักษามารยาทกับอดีตแฟนสาวหากมันจะทำให้เขากับภรรยาต้องหมางใจกัน
“แหม เพลิงนี่ท่าทางจะกลัวภรรยานะคะ แค่เพื่อนเก่าแวะมาทักทายก็ไม่กล้าให้เข้าห้อง”
จามรีเสียหน้าเล็กน้อยที่ถูกอัคนีปฏิเสธ แต่ยังตีหน้าซื่อเอ่ยแซว ออกไป ด้วยรู้ว่าผู้ชายมักไม่ชอบให้ใครว่าเขากลัวเมีย อดีตสามีเก่าของเธอก็เป็นแบบนี้ แต่สิ่งนี้ใช้ไม่ได้ผลกับคนอย่างอัคนี เมื่อชายหนุ่มตอบรับอย่างหน้าชื่นตาบานว่า
“ครับ ผมทั้งรักและเกรงใจคุณดาวมาก อะไรที่ทำให้เธอรู้สึกไม่สบายใจ ผมคิดว่าผมไม่ควรทำ คุณเองก็เหมือนกัน ถ้ายังเห็นว่าผมเป็นเพื่อนอยู่ ก็อย่าทำให้ผมกับภรรยาต้องมีปัญหากันเลยครับ”
คำพูดของอัคนีทำให้จามรีหน้าแดงก่ำ รู้สึกเหมือนโดนนักมวยต่อยเข้าที่เบ้าตา ทั้งมึนทั้งเจ็บ ทั้งเสียหน้าอย่างรุนแรง ไม่นึกว่าชายหนุ่มจะกล้าตอกกลับเธอแบบนี้ ทั้งๆ ที่เมื่อก่อนเขาเป็นสุภาพบุรุษจะตาย
“เพลิงคะ จ๋าแค่แซวเล่นนิดเดียวเอง ทำจริงจังไปได้ โอเคค่ะ จ๋าจะไม่รบกวนคุณกับภรรยาแล้ว บายค่ะ”
จามรีฝืนยิ้มพลางเอ่ยลา แล้วพาร่างอวบอิ่มของตนเองเดินกลับไปยังห้องพักซึ่งอยู่ไม่ไกลจากห้องพักของอัคนีกับดารากานต์ เจ้าของห้องรีบปิดประตูทันทีที่เธอเดินออกไป ทำให้หญิงสาวที่หันกลับมามองรู้สึกขุ่นเคืองใจนัก
“เพลิง คุณอย่าคิดว่าจ๋าจะยอมปล่อยคุณไปง่ายๆ”
จามรีกำหมัดแน่น นึกแค้นใจที่อดีตแฟนหนุ่มหมางเมินใส่ คนอย่างเธอคิดอยากได้อะไรแล้ว ต้องได้ต่อให้สิ่งๆ นั้นมีเจ้าของเธอก็พร้อมออกแรงช่วงชิงมา อัคนีเคยเป็นคนของเธอมาก่อนเธอจะทวงเขาคืนให้ได้ ขอเพียงให้หาโอกาสเหมาะได้ก่อนเถิด เธอจะใช้เสน่หามารยาที่มีผูกเขาไว้ไม่ให้ดิ้นหลุด ให้มันรู้กันไปว่าระหว่างผู้หญิงหน้าตาจืดชืดรูปร่างผอมบาง กับสาวสวยหุ่นสะบึ้มไฟแรงสูงอย่างเธอ ใครจะแน่กว่าใคร
หลังจากอาบน้ำแล้วดารากานต์กับอัคนีก็พากันนอนพักผ่อนในห้องพัก รอเวลาให้แดดอ่อนแสงก่อนถึงจะออกไปเดินเล่นกัน สองหนุ่มสาวเมื่อปรับความเข้าใจกันได้ก็กลับมาหวานชื่นกันอีกครั้ง ดารากานต์ได้ยินทุกคำพูดที่สามีของเธอคุยกับอดีตแฟนเก่า ทำให้เธอรู้สึกมั่นใจในตัวเขามากขึ้น แต่ไม่กล้าแสดงให้อีกฝ่ายรู้ว่าเธอรู้สึกดีกับเขามากแค่ไหน เพราะรู้ดีว่าถ้าเขารู้อัคนีมีหวังทวงสิทธิ์ความเป็นสามีจากเธอแน่นอน เธออยากให้เขากับเธอได้มีเวลาศึกษาดูใจกันอีกสักนิดเพื่อจะได้มั่นใจว่าทั้งคู่พร้อมจะใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันได้ตลอดไป
“ผมจองโต๊ะไว้แล้วนะครับ คืนนี้เราไปดินเนอร์กัน” อัคนีบอกภรรยา ขณะที่ทั้งคู่ออกมาเดินเล่นที่ชายหาด
- Writer
