ตอนที่10

1258 Words
“เธอยังอยู่ในห้องนี้อีกงั้นหรือ” ทันทีที่เปิดประตูห้องพักสุดหรูของตนเองเข้ามาแล้วพบว่าหญิงสาวยังคงนั่งอยู่บนโซฟาตัวใหญ่ ตรงหน้าคือโทรทัศน์เครื่องใหญ่ที่กำลังฉายรายการอะไรสักอย่างโดยมีหญิงสาวนั่งทำหน้าเบื่อหน่าย เดเมียนก็ทักขึ้นด้วยน้ำเสียงที่ไม่ได้แสดงความแปลกใจเลยสักนิด เพราะก่อนหน้านั้นตนเองได้รับรายงานจากอลันเรียบร้อยแล้วว่าหล่อนยังอยู่ไม่ได้พยายามหนีไปไหน “แล้วคุณจะให้ดิฉันไปที่ไหนล่ะคะ” ตะวันวาดถามจับน้ำเสียงประชดนั้นได้ หล่อนเหลือบตามองอีกฝ่ายด้วยความกลัวไม่หาย แม้หลังจากนั้นเดเมียนจะไม่ได้ทำอะไรรุนแรงกับหล่อนอีกเลยก็ตาม แต่ชื่อเสียงของเขาที่ได้ยินมาก็ทำให้หล่อนหวาดกลัวอยู่ดี “ฉันนึกว่าเธอจะหนีกลับไปอยู่ห้องเก่าๆ ของเธอแล้วเสียอีก” “...” “ดีที่เธอไม่โง่พอที่จะกล้าขัดคำสั่งของฉัน” เดเมียนมองสบตากับ หญิงสาว เห็นแวววูบไหวในดวงตาคู่นั้นก็กระตุกยิ้มด้วยความพอใจ รับรู้ได้ว่าตนเองคงจะควบคุมหล่อนได้ง่ายๆ ประหนึ่งลูกไก่ในกำมือ...ทีนี้แหละเขาก็จะบีบให้หล่อนคายความจริงออกมาให้หมด! “แล้วคราวนี้ฉันรับรองว่าเธอจะไม่ได้มายืน ท้าทายฉันแบบนี้อีกแน่ๆ” เดเมียนพูดตอนท้ายด้วยน้ำเสียงหนักแน่น มีแววขมขู่ในน้ำเสียง ทำเอาคนฟังถึงกับใจสั่น “มิสเตอร์คิดจะทำอะไรกับดิฉัน” “ก็ต้องรอดูกันต่อไป” นอกจากจะไม่ตอบคำถามแล้วเดเมียนยังทิ้งความหวาดกลัวไว้ให้กับ หญิงสาวอีกด้วย ชายหนุ่มมองใบหน้าซีดเผือดของหล่อนด้วยความพึงพอใจพลางเดินตรงไปยังห้องนอนของตนเองแล้วปิดประตูเสียงดัง ทิ้งให้หญิงสาวมองตามเขาด้วยสายตาตื่นตระหนกแกมหวาดกลัว ที่ต้องทำเช่นนี้เพราะเดเมียนไม่เชื่อว่าที่หญิงสาวเล่าจะเป็นเรื่องจริง! เขาไม่อาจเชื่อว่าหล่อนจนหมดใจได้จะไม่ใช่คนของไอ้คอร์นเนอร์ แม้หล่อนจะเพียรปฏิเสธมาตลอดก็ตาม ซึ่งการที่เขาประกาศว่าหล่อนคือคู่หมั้นสายฟ้าแลบนี้มีเหตุผลสองประการ หนึ่ง...ถ้าหล่อนเป็นคนของไอ้คอร์นเนอร์จริง เขาจะทรมานหล่อนให้ สาสมกับที่บังอาจเข้ามาล้วงคอเขา แม้มันจะเป็นเรื่องเล็กน้อยแต่ก็ไม่อาจให้อภัย ตอนแรกเขาคิดจะปล่อยหล่อนไปแต่เพราะท่าทางตื่นตระหนกของหล่อนก็ทำให้เขาติดใจและอยากจะค้นหามันว่านี่คือการแสดงหรือหล่อนรู้สึกเช่นนั้นจริงๆ และ... สอง...หากหล่อนเป็นเพียงผู้โชคร้าย การที่เขาทำอะไรลงไปในคืนนั้นถือเป็นการทำลายหล่อน ยิ่งมารับรู้ว่าหล่อนไม่เคยมีใคร แถมประวัติส่วนตัวของหล่อนก็น่าสงสาร มันพานทำให้เขาคิดไปถึงอรนลินที่แม้ตอนนี้จะแต่งงานไปกับมาร์คัสและมีชีวิตความเป็นอยู่ที่สุขสบายแล้วก็ตาม แต่การที่หล่อนมีพื้นเพคล้ายกับอรนลินโดยเฉพาะที่หล่อนเป็นคนไทย มันก็ทำให้เขารู้สึกสงสาร ซึ่งเป็นความรู้สึกที่น้อยครั้งเขาจะมีให้ใครสักคน ฉะนั้น...เมื่อมีความคิดสองส่วนที่แตกแยกและกำลังตีกันไปมาในหัวของเขา มันเลยทำให้เดเมียนไม่อาจเชื่อใจหล่อนได้เลย โดยที่เดเมียนก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมบางครั้งเขาถึงภาวนาให้เหตุผลข้อที่สองของตนเองเป็นจริง! ไม่อยากให้หล่อนเป็นคนของใคร...ไม่อยากให้หล่อนเป็นนกสองหัว! “ตะวันวาด! ตะวัน! นังตะวัน!” ริคาร์โด้ทุบประตูห้องพักเก่าโทรมจนสีหลุดลอกออกมาเป็นแผ่นๆ ของตะวันวาดดังโครมครามด้วยความใจร้อน เขายืนรอให้หญิงสาวมาเปิดเป็นเวลากว่าสิบนาทีแต่ก็ยังไม่มีใครมาเปิด นังตะวันมันหายหัวไปไหนกัน?! ริคาร์โด้คิดอย่างหงุดหงิด แล้วลงมือทุบรัวเร็วและเพิ่มความแรงมากขึ้นกว่าเดิมจนประตูเก่าโทรมแทบจะพังอีกครั้ง จนเพื่อนข้างห้องทนไม่ไหวออกมาโวยวายด่าเขาเสียงดังลั่นไปหมด “แล้วแกเป็นใคร มายุ่งอะไรกับเรื่องของฉัน!” นอกจากจะไม่สำนึกว่าก่อความรำคาญให้กับชาวบ้าน ริคาร์โด้ยังสวนกลับด้วยใบหน้าถมึงทึงและไม่พอใจ ร่างอวบอ้วนด้วยน้ำหนักกว่าร้อยกิโลกรัมเดินดุ่มๆ ตรงไปยังเพื่อนร่วมอพาร์ทเม้นต์กับตะวันวาดด้วยทีท่าคุกคาม แล้วตะคอกถามด้วยน้ำเสียงอันดัง “นังตะวันวาดมันไปไหน?!” “ฉันจะไปรู้เหรอ ไม่ได้เป็นอะไรกันนี่” ตอบเสร็จหล่อนก็ปิดประตูใส่หน้าริคาร์โด้เสียงดัง ทำเอาเจ้าตัวถึงกับสบถลั่นด้วยความไม่พอใจ เวลานี้เขากำลังเงินหมด และอาการติดเหล้าก็ทำให้เขาทุรนทุรายหากไม่มีเงินไปซื้อเหล้ากิน ซึ่งตลอดเวลาที่ผ่านมาเขาสามารถไถเอากับตะวันวาดได้ แต่เวลานี้นังตัวดีมันบังอาจหลบลี้หนีหน้าเขาอย่างนั้นหรือ...อย่าคิดฝันเลยว่ามันจะหนีเขาพ้น เป็นบุญหัวมันแค่ไหนแล้วที่เขาพามันกับแม่มันมาจากประเทศไทย ฉะนั้นมันจะเนรคุณบุญคุณนี้ของเขาไม่ได้! เป็นเวลาเกือบเที่ยงคืนเห็นจะได้ในยามที่ตะวันวาดก้าวเท้าออกจากห้องน้ำ ขณะนี้หญิงสาวอยู่ในชุดนอนเก่าๆ ซอมซ่อสีฟ้าซีดที่ผ่านการใช้งานมายาวนานหลายปี ตะวันวาดค่อยๆ จรดฝีเท้าลงบนพรมเนื้อนุ่มในยามที่เดินผ่าน เดเมียนซึ่งนอนเอกเขนกบนเตียง พลิกอ่านหนังสือเล่มหนาเกี่ยวกับการบริหารและการจัดการอยู่โดยไม่สนใจเหลือบตามองหญิงสาวเลยสักนิด จนเมื่อหล่อนเอื้อมมือหมายจะเปิดประตูห้องนอนออกไปแล้วนั่นแหละ เสียงห้าวก็ดังขัดขึ้น “อย่าคิดเปิดประตูให้เสียเวลาเลย เปิดไม่ออกหรอก” สิ้นคำพูดของเขา ตะวันวาดก็หันขวับไปมองต้นเสียงทันที แต่กลับพบว่าชายหนุ่มยังคงนั่งกึ่งเอนตัวอ่านหนังสือบนเตียงด้วยท่าทางเดิม ตะวันวาดเม้มริมฝีปากแน่น ไม่คิดจะฟังคำพูดของเขาสักนิด หญิงสาวเอื้อมมือไปจับลูกบิดเย็นชืด แล้วพบว่าสิ่งที่เดเมียนพูดเป็นความจริง! “บอกแล้วก็ไม่เชื่อ คิดว่าฉันจะโกหกเธอไปเพื่ออะไร” คราวนี้เดเมียนวางหนังสือในมือลง นัยน์ตาสีเทามองหญิงสาวด้วยแววตาเยอะหยันกับความโง่งมของหล่อน ตะวันวาดคิดหรือว่าเขาจะยอมปล่อยให้หล่อนก้าวเท้าออกไปจากห้องนี้อย่างง่ายๆ หลังจากที่เคยพลาดไปแล้วครั้งหนึ่ง “ดิฉันจะออกไป กรุณาเปิดประตูให้ดิฉันด้วยค่ะ” หญิงสาวบอกเขาด้วยน้ำเสียงที่พยายามข่มมันไม่ให้สั่น เดเมียนเหยียดริมฝีปากเป็นรอยยิ้มหยัน ตวัดขาลงบนพื้นแล้วค่อยๆ เยื้องกรายเดินตรงมาหาหล่อนช้าๆ สายตาของเขาจับจ้องที่หล่อนตลอดเวลา ดวงตาคมดุจนัยน์ตาพยัฆค์ที่จ้องมองมาคู่นั้นทำให้หญิงสาวถึงกับผงะเดินถอยหลังในทุกย่างก้าวที่เดเมียนเดินตรงเข้ามาหา
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD