“เด็กมึง...สวยดีนะ”
นาวีพูดจบก็ลุกเดินออกจากห้องทำงานของนาวาไปโดยไม่สนในเรื่องที่ดินที่เขาตั้งใจมาพูดในวันนี้เหมือนตอนแรก
“หึ! อย่างมึงคงไม่มีปัญญาหาได้”
นาวาพูดไล่หลังนาวี นั่นทำให้เขาหยุดก่อนจะหันกลับมามองนาวาอีกครั้งด้วยรอยยิ้มเหมือนเดิม
“กูหาได้แน่ แล้วก็หาได้ใกล้ ๆ ตัวมึงนั่นแหละ”
ครั้งนี้พูดจบนาวีก็เดินออกไปทันที ซึ่งคำพูดของนาวีบอกชัดเจนว่าเขาหมายถึงตัวลูกพลับนั่นเอง
“ไงสาวน้อย”
พอนาวีเดินออกจากห้องมาก็ทักลูกพลับที่ยืนรอหน้าห้องของนาวาขึ้นทันที
“...”
หญิงสาวแอบมองเขาเล็กน้อยโดยไม่ได้ตอบอะไรกลับไป
“ถ้าเธอกล้าอยู่กับไอ้นาวา เธอก็ไม่ต้องกลัวฉันหรอก เพราะฉันไม่เลวเท่ามัน”
“ต้องหน้าด้านแค่ไหนวะถึงกล้าบอกว่าตัวเองไม่เลวเท่าคนอื่น”
นาวาที่เปิดประตูตามหลังออกมาพูดขึ้น เขาได้ยินบทสนทนาของนาวีตั้งแต่แรกทั้งหมด
“หึ!”
นาวีหันไปยกยิ้มให้นาวาอีกครั้งก่อนจะเดินออกไปโดยไม่ลืมมองลูกพลับอีกครั้ง และทุกอย่างก็ตกอยู่ในสายตาของนาวาทั้งหมด
หมับ!
“อ๊ะ!”
เสียงร้องดังขึ้นเมื่อข้อมือเล็กถูกบีบก่อนจะกระชากเดินไปยังห้อง ๆ หนึ่ง
“ไปเอายาบนโต๊ะกูมา”
นาวาหันไปสั่งลูกน้องที่ยืนอยู่บริเวณนั้นออกไป แต่คำว่ายาของเขาทำเอาความกลัววิ่งเข้าสู่ร่างกายของลูกพลับอีกครั้ง
ตุบ!
“อ๊ะ!”
ร่างบางร้องขึ้นด้วยความจุกหลังจากถูกนาวาผลักลงบนเตียงกว้างอย่างแรง
“หนูน้อยของเฮียนี่น่ารักจริง ๆ ผู้ชายเข้าหากันเป็นว่าเล่น”
นาวาขึ้นคร่อมร่างบางก่อนจะยกมือลูบใบหน้าเล็กแล้วเอ่ยออกมา ถึงแม้ว่ามุมปากเขาจะยกยิ้มแต่น้ำเสียงและสายตากลับเยือกเย็นจนทำให้ลูกพลับกลับขึ้นมา
“ฮะ...เฮียพูดเรื่องอะไร”
เธอไม่เข้าใจว่าเขาพูดถึงเรื่องอะไร ผู้ชายเข้าหาอะไรกัน เรื่องเมื่อกี้ก็ไม่ใช่ความผิดของเธอสักหน่อย
“หึ!”
นาวาแค่นหัวเราะขึ้นเมื่อได้ยินเสียงสั่น ๆ ของเธอถามออกมา เขายังจำเรื่องเมื่อเช้าของเธอกับผู้ชายคนนั้นได้ไม่ลืม แล้วไหนจะเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อกี้นี้อีก ถึงเธอจะไม่ได้ผิดตรง ๆ แต่เธอก็ผิดที่ดึงดูดผู้ชายได้อย่างง่ายดายแบบนี้
ก๊อก ๆ ๆ เสียงเคาะประตูดังขึ้นก่อนประตูจะถูกเปิดออกด้วยฝีมือของรอนมือขวาของนาวานั่นเอง ลูกพลับหันหน้าหลบสายตาทันทีเพราะตอนนี้เธอกับนาวาอยู่ในท่าล่อแหลมกันมาก แม้ว่าลูกน้องเขาจะเปิดประตูเข้ามาแต่นาวากลับไม่ยอมขยับออก
“ยาครับ”
รอนเอ่ยขึ้นก่อนจะวางยาลงที่ตู้ข้างหัวเตียงแล้วออกไปอย่างเป็นเรื่องปกติ เพราะมากกว่านี้เขาก็เห็นมาแล้วนั่นเอง
“ล็อกประตูให้กูด้วย”
นาวาเอ่ยสั่งลูกน้องขึ้น เพราะปกติเขาไม่เคยสนใจว่าใครจะเข้ามาเห็นตอนที่เขาทำอะไรกับผู้หญิง แต่ร่างกายของหนูน้อยคนนี้เขายังไม่ต้องการให้ใครเห็นนั่นเอง
“ฮะ...เฮียวา”
หญิงสาวพยายามเรียกเขาให้ใจเย็นลง เพราะตอนนี้เธอรับรู้ได้ถึงอารมณ์บางอย่างในตัวเขาที่แฝงออกมา
“คิดว่าทำหน้าแบบนี้แล้วนะรอด?”
“ฮะ...เฮียวาเป็นอะไร”
หญิงสาวเอ่ยถามออกไปตรง ๆ ถึงแม้ว่าเธอจะรู้จักเขาได้ไม่นานและเคยนอนกับเขามาไม่กี่ครั้ง แต่เธอเป็นคนที่ละเอียดอ่อนจนสามารถรับรู้ความผิดปกติของอีกฝ่ายได้อย่างง่ายดาย
“หึ! ฉันคงยังไม่เคยบอกเธอใช่ไหม ว่าฉันไม่ชอบใช้ของร่วมกับใคร ถ้ายังเป็นของ ๆ ฉัน ก็ห้ามให้ใครแตะต้อง!”
ฝ่ามือหนาลูบไล้ใบหน้าเรียวอย่างอ่อนโยนก่อนจะพูดด้วยน้ำเสียงเยือกเย็นดังขึ้นอีกครั้ง และ...
หมับ!
“อึก!”
ใบหน้าเล็กถูกฝ่ามือหนาบีบอย่างแรงทันทีที่เขาพูดจบ
“อย่าให้ฉันรู้หรือเห็นอีก ว่าเธอให้ผู้ชายที่ไหนแตะต้อง!”
“ฮะ...เฮียวา”
ความเจ็บปวดวิ่งไปทั่วใบหน้าเล็กก่อนจะพยายามดึงมือเขาออก แต่เรี่ยวแรงของเธอกลับไม่สามารถทำอะไรเขาได้
แต่อย่างหนึ่งที่ทำให้เธอพอคิดได้จากสิ่งที่เขาพูด ก็คงเป็นเรื่องเมื่อเช้า ตอนที่เพื่อนสนิทของเธอเข้ามาหานั่นสินะ เขายังไม่ได้ขับรถออกไปทำให้เห็นที่เธอคุยกับเพื่อนคนนั้นสินะ
“หนูพลับรู้ไหมว่าตัวเองยิ้มหวานแค่ไหน แล้วการที่หนูพลับชอบยิ้มมันก็เป็นส่วนหนึ่งของการดึงดูดผู้ชาย”
นาวาเอ่ยขึ้นอย่างคนโรคจิต นั่นยิ่งทำให้ร่างบางใต้ร่างตัวสั่นเทาขึ้นอย่างห้ามไม่อยู่
“...”
เธอจ้องมองเขาด้วยความกลัวเพราะไม่รู้ว่ากำลังจะทำอะไรเธอ ทั้งสีหน้า สายตาของเขา มันบ่งบอกถึงความอันตรายอย่างมาก
“ถ้าอยากยิ้มก็ยิ้มให้เฮียคนเดียวรู้ไหมคะ กับคนอื่นห้ามไปยิ้มให้ใครอีก!”
“อึก!”
“หึ! วันนี้เฮียจะทำให้หนูพลับไม่อยากยิ้มให้ใครอีกเลย นอกจากเฮีย”
น้ำเสียงเยือกเย็นของนาวาเอ่ยขึ้นก่อนจะยื่นมือไปหยิบยาที่หัวเตียงมาและบีบปากลูกพลับให้เปิดออกก่อนจะเทยาลงไปจนหมดขวด
“อึก!”
ร่างบางต้องกลืนยาลงไปอย่างเลี่ยงไม่ได้ ก่อนที่นาวาจะปล่อยมือจากปากเธอและขยับตัวออกจากร่างบาง
กริ๊ก! เสียงล็อกบางอย่างพร้อมกับความเย็นของโลหะที่ข้อมือทำให้ลูกพลับได้สติหันไปมองก่อนจะเบิกตากว้าง
“ฮะ...เฮีย”
กริ๊ก! ยังไม่ทันที่เธอจะพูดอะไรไปมากกว่านี้ ข้อมืออีกข้างก็ถูกล็อกด้วยกุญแจมือสายหนังยาวที่ขึงไว้กับมุมเตียงข้างละเส้น ทำให้ตอนนี้เธอไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้เพราะถูกพันธนาการด้วยกุญแจมือไปแล้ว
“ฮะ...เฮียวา”
เสียงเล็กเอ่ยออกมาอย่างขอร้องและบ่งบอกถึงความกลัวของตัวเองมาก แต่นาวากลับลุกไปยืนปลายเตียงและยกยิ้มกับภาพตรงหน้า
“อึก!”
และไม่นานร่างบางก็เริ่มมีอาการบางอย่างขึ้นมา อาการที่เธอเข้าใจแล้วว่ามันคืออะไร ร่างบางเริ่มขยับตัวอย่างทรมาน ขาเรียวบดเบียดกันไปมาด้วยความต้องการบางอย่างที่กลางกายของตัวเอง
“เฮียวา หือ หนู ระ...ร้อน”
ร่างกายที่เริ่มขยับแรงขึ้นจนแขนกระตุกเพื่อให้หลุดออกจากพันธนาการหลายรอบทำให้ข้อมือเล็กแดงขึ้นอย่างง่ายดาย
“แล้วยังไง อยากให้เฮียช่วยเหรอ”
นาวาที่ยังยืนอยู่ปลายเตียงเอ่ยถามหญิงสาวขึ้นด้วยน้ำเสียงอบอุ่น
“เฮียวา ฮืออ มะ...ไม่ไหวแล้ว”
ร่างบางที่มีความต้องการเพิ่มสูงขึ้นเรื่อย ๆ เริ่มมีน้ำตาไหลออกมาอย่างทรมาน เธอต้องการปลดปล่อย เธอต้องการบางอย่างที่เขาเคยทำกับเธอ และต้องการมันเดี๋ยวนี้
“อยากมากไหม”
นาวายังคงเอ่ยถามอย่างใจเย็นออกไปเหมือนเดิม
“อือ”
ร่างบางพยักหน้ารับอย่างเร็วโดยไม่ต้องคิดอะไร
“แต่เฮียไม่อยากทำ”
“ฮะ...เฮียวา”
“ร่างกายหนูสกปรกจากคราบผู้ชายอื่น เฮียไม่อยากแตะต้อง”
นาวาเอ่ยขึ้นพร้อมส่ายหัวไปมาช้า ๆ
“อื้อ อึก! อ๊า”
ความต้องการที่พุ่งขึ้นสูงทำให้ลูกพลับดิ้นเร่าหนักกว่าเดิม ฟันขาวขบกัดริมฝีปากบางอย่างแรงจนห้อเลือด ขาเรียวถีบไปมาอย่างต้องการระบายความกระสันทางร่างกาย แต่มันกลับไม่ช่วยอะไรเธอเลยสักนิด เธอต้องการ...นาวา
“ทรมานไหม”
นาวาขยับตัวขึ้นไปบนเตียงอีกครั้งก่อนจะเอ่ยถามลูกพลับขึ้น ฝ่ามือหนาลูบไล้ใบหน้าเล็กของเธอที่เต็มไปด้วยหยาดเหงื่อทั้งที่ในห้องเปิดเครื่องปรับอากาศอุณหภูมิต่ำ
“ฮะ...เฮียวา ชะ...ช่วยหนูด้วย”
สายตาออดอ้อนและอ้อนวอนของเธอที่ใครเห็นต้องตกหลุมพรางของเธออย่างง่ายดายไม่เว้นแม้แต่นาวา แต่ดีที่เขาก็ไม่ใช่ผู้ชายธรรมดาๆที่จะหลงกลเธอจนไม่ลืมหูลืมตา
“งั้นลองตอบเฮียมาสิ ว่าต่อไปนี้จะยิ้มให้ผู้ชายง่าย ๆ อีกไหม”
“ฮึก!”
ร่างบางส่ายหัวออกมาอย่างไม่ต้องคิด เพราะเธอแทบไม่ไหวแล้วจริง ๆ
“แล้วจะให้ผู้ชายถูกเนื้อต้องตัวง่าย ๆ อีกไหม”
“...”
อีกครั้งที่ลูกพลับส่ายหัวไปมาอย่างแรงเพื่อเป็นการบอกเขาว่าเธอจะไม่ทำแบบนั้นอีก
“รู้ใช่ไหม ว่าถ้าทำให้ฉันไม่ชอบใจอีก หนูอาจจะต้องทรมานกว่านี้”