BAD LOVE #3
แกร๊ก! “เฮียทายไม่ได้อยู่นี่หรอคะ” ไพรินเอ่ยถามพร้อมกับมองไปรอบๆ
“น่าจะอยู่ในห้องป๊าเฮียอะ” พีทเอ่ยขึ้นก่อนจะทิ้งตัวลงบนโซฟา “มานั่งนี่สิ” พร้อมกับตบมือลงบนที่นั่งข้างๆ
ไพรินพยักหน้ารับก่อนจะเดินไปนั่งลงข้างๆชายหนุ่ม “ทำไมไม่พักหล่ะคะ กลับมาก็ลุยงานเลยหรอ”
“อื้ม มีโปรเจกท์ใหญ่พอดี” พีทพูดด้วยสีหน้าอ่อนล้า “เฮียเลยต้องลงมาดูเอง อย่าว่าแต่เฮียเลยพี่ชายเราก็วุ่นพอๆกัน”
“ใช่ค่ะ อาทิตย์ที่แล้วนะ ทุกคนไม่ยอมกลับไปนอนบ้านเลย ปล่อยรินอยู่คนเดียว” ไพรินหันไปฟ้องชายหนุ่มที่ส่งยิ้มมาให้เธออย่างเอ็นดู
“งอแงตั้งแต่เด็กจนโตเลยนะเราเนี่ย” พีทพูดพร้อมกับหันมาหยิกแก้มหญิงสาวอย่างหยอกล้อ
ก๊อก ก๊อก
แกร๊ก! “ยาแก้ปวดค่ะคุณพีท” เลขาสาวเดินถือยาและแก้วน้ำมาวางบนโต๊ะก่อนจะเดินกลับออกไป
“ปวดหัวหรอคะ” ไพรินเอ่ยถามอย่างเป็นห่วง
“อื้ม” พีทพยักหน้าเบาๆ
“แต่เฮียกินยาเยอะแล้วนะคะ ลองนอนพักดูก่อนมั้ย”
“รู้ได้ยังไงว่าเฮียกินยาเยอะ” พีทเอ่ยถามอย่างสงสัย
“รินเห็นบนโต๊ะเฮียมียาวางอยู่ค่ะ” ไพรินตอบก่อนจะกระเถิบเข้าไปใกล้ๆ “ลองหลับตาหน่อยค่ะ”
“หื้ม?”
“หลับตาค่ะ” ไพรินพูดขึ้นอีกครั้งก่อนจะเอื้อมมือไปนวดขมับทั้งสองข้างให้ชายหนุ่ม
“รินว่าเฮียเครียดไปนะคะ น่าจะพักบ้างนะ” ไพรินพูดขึ้นในขณะที่มือก็ยังคงนวดขมับให้พีทอย่างเบามือ “ดีขึ้นมั้ยคะ”
“อื้ม” พีทพยักหน้าด้วยท่าทางผ่อนคลายมากขึ้น “ทำไมถึงรู้ว่าต้องทำแบบนี้” ก่อนจะค่อยๆลืมตาขึ้นแล้วจ้องคนตรงหน้าอย่างไม่วางตา
“เคยอ่านเจอค่ะ” ไพรินยิ้มขำออกมา “เฮียพีทเป็นหนูทดลองของรินเลยนะ” ก่อนจะนิ่งไปเล็กน้อยเมื่อเห็นพีทจ้องมาที่เธอพร้อมกับยิ้มมุมปาก “ยิ้มอะไรคะ”
“ป่าว แค่คิดว่า...ทำไมน้องสาวของเฮียน่ารักจัง”
แกร๊ก!
“ทำอะไรกัน” เพทายเดินเข้ามาพร้อมกับถามขึ้นอย่างสงสัย
“เฮียพีทบ่นปวดหัวค่ะ ก็เลยลองนวดขมับให้” ไพรินตอบก่อนจะเขยิบออกห่างจากพีท
“เป็นไง” พีทเอ่ยถามเสียงนิ่ง “ข่าวดีหรือข่าวร้าย”
“ทั้งสองอย่าง” เพทายถอนหายใจออกมาอย่างเครียดๆ
“รู้ผลแล้ว?”
“อื้ม” เพทายพยักหน้า “แต่รอบนี้คนที่เราขัดผลประโยชน์ก็ใหญ่พอตัว”
พีทนิ่งไปก่อนจะพยักหน้าอย่างพอจะคาดเดาเหตุการณ์ต่อจากนี้ได้ “จะเอาไงกันต่อ”
“ไม่รู้เหมือนกัน ป๊ากำลังมาที่นี่” เพทายพูดพร้อมกับมองหน้าน้องสาวด้วยสีหน้ากังวล
“มีอะไรหรอคะเฮีย” ไพรินเอ่ยถามขึ้นด้วยสีหน้าเป็นห่วง “สีหน้าดูไม่ดีเลย”
“ฝากรินแปบนึงนะเฮีย เดี๋ยวผมมา” เพทายพูดขึ้นก่อนจะเดินออกไปจากห้องทันที
“อ่าว เฮียทาย” ไพรินทำท่าจะเดินตามพี่ชายไป แต่ก็ถูกพีทรั้งแขนไว้ก่อน
หมับ! “นวดให้อีกสิ เฮียปวดหัวอีกแล้ว” พีทพูดพร้อมกับกระตุกแขนไพรินให้นั่งลงที่เดิมเบาๆ
“ไม่ต้องมาเปลี่ยนเรื่องเลยนะเฮียพีท”
“ป่าว เฮียไม่ได้เปลี่ยนเรื่อง แต่เฮียปวดหัวจริงๆ” พีทพูดพร้อมกับจับมือหญิงสาวมาไว้ตำแหน่งเดิม
“ทำไมไม่มีใครบอกอะไรรินเลย รินโตแล้วนะ” ไพรินบ่นขึ้นอย่างน้อยใจพร้อมกับนวดขมับให้พีทไปพลาง
“โตอะไร ตัวเท่าลูกแมว” พีทยิ้มแซวหญิงสาวที่นั่งทำหน้างออยู่ตรงหน้า “ไม่มีอะไรหรอก ถ้าทายมันอยากจะบอกเมื่อไหร่ มันก็คงบอกเอง ทำอย่างกับไม่รู้จักพี่ชายตัวเอง”
ไพรินถอนหายใจออกมาเบาๆก่อนจะเงยขึ้นไปมองพีทที่นั่งหลับตาอยู่ตรงหน้า ก่อนที่หญิงสาวจะยิ้มออกมาเบาๆ “นอนลงดีๆมั้ยคะ”
“อื้อ” พีทพยักหน้าเบาก่อนจะเอนตัวลงมาบนตักหญิงสาว
“เอ่อ...” ไพรินมองชายหนุ่มด้วยสีหน้าตกใจ “เฮียพีท นอนดีๆมั้ยคะเดี๋ยวรินลุกไปนั่งที่อื่นให้”
“...”
“เฮียพีทคะ” ไพรินเรียกชายหนุ่มอีกครั้ง “หลับง่ายอะไรขนาดนี้” ก่อนจะยกโทรศัพท์มือถือขึ้นมาเล่นไปพลางๆ
.
.
ก๊อก ก๊อก
แกร๊ก! “คุณพีทคะ” เลขาสาวเดินมาสะกิดพีทด้วยสีหน้าเกรงใจ
“อื้ออ” พีทลืมตาก่อนจะมองไปที่ไพรินที่ยังหลับสนิทพิงโซฟาอยู่ข้างๆ “มีอะไร” พีทหันไปถามเลขาสาว
“คุณท่านให้เชิญไปห้องประชุมค่ะ แขกมากันครบแล้ว”
“อื้อ เดี๋ยวผมตามไป” พีทพูดขึ้นพร้อมกับเดินไปคว้าแฟ้มเอกสาร ก่อนจะหันไปมองไพรินที่ยังนอนหลับสนิทอยู่บนโซฟา
“หึ” พีทยิ้มมุมปากก่อนจะถอดเสื้อคลุมตัวนอกออกพร้อมกับคลุมไปที่ตัวหญิงสาว ก่อนจะเดินออกไปจากห้องด้วยสีหน้านิ่งๆ
แกร๊ก!
“หวัดดีครับอาวา” พีทยกมือไหว้วายุที่นั่งอยู่ข้างๆพ่อของตนเอง
“หวัดดีลูก น้องหล่ะ?” วายุเอ่ยถามขึ้นเมื่อหันไปไม่เจอลูกสาวตนเอง
“หลับครับ ผมเลยไม่อยากปลุก”
วายุพยักหน้ารับ “งั้นเราเริ่มกันเลยเนอะ” วายุพูดขึ้นก่อนจะหันไปมองหน้าพัตเตอร์เพื่อให้เริ่มอธิบายทุกอย่าง
“เราได้สัมปทานที่เกาะที่ชุมพร” พัตเตอร์พูดด้วยสีหน้าเครียดๆ
“ดูป๊ากับอาวาไม่ดีใจเลยนะครับที่เราได้”
พัตเตอร์ถอนหายใจพร้อมกับยิ้มบางๆ “สัมปทานที่เราได้มาทำให้เจ้าถิ่นเสียผลประโยชน์มหาศาล แต่นั่นไม่ใช่ปัญหา ปัญหาคือคนที่หนุนหลังพวกมันมากกว่า”
“ใครหรอครับ” พีทถามขึ้นเสียงนิ่ง
“รัฐมนตรีอนันต์” วายุพูดขึ้น “ตอนนี้อากับพ่อของเรากำลังวางแผนงานพร้อมกับแผนที่จะรับมือกับพวกมันไปพร้อมๆกัน”
“ป๊าจะดูแลเรื่องที่ไทย ส่วนอาวาจะบินไปคุยกับหุ้นส่วนที่เหลือของเรา เราต้องจัดการให้เร็วที่สุด”
“ทำไมครับ? อีกสองเดือนกว่าเราจะได้เซ็นต์สัญญาไม่ใช่หรอป๊า”
“ใช่เราเหลือเวลาอีกตั้งสองเดือน แปลว่าระหว่างนี้จะเกิดอะไรขึ้นก็ได้ ตราบได้ที่ไม่มีเอกสารมายืนยัน ทุกอย่างสามารถเป็นโมฆะได้ตลอดเวลา”
พีีทพยักหน้ารับ ก่อนจะเหลือบไปมองหน้าวายุ “อาวาโอเคมั้ยครับ?”
วายุส่ายหน้านิ่งๆ “เอาจริงๆตอนนี้ที่เอาเป็นห่วงที่สุดคือไพริน” ก่อนจะเอามือลูบหน้าอย่างเครียดๆ “พวกมันต้องเล่นไม่ซื่อแน่ๆ และการที่จะพุ่งไปเล่นงานรินน่าจะง่ายกว่าทุกๆคน”
พัตเตอร์กับพีทนั่งเงียบพร้อมกับคิดตามในสิ่งที่วายุพูด
“รัฐมนตรีอนันต์ไม่ใช่เล่นๆ อายังคิดภาพไม่ออกเหมือนกันวาอากับพ่อเราจะต้านมันไหวมั้ย”
“ให้รินมาอยู่กับกูมั้ยระหว่างมึงไม่อยู่” พัตเตอร์เสนอขึ้นด้วยน้ำเสียงนิ่งๆ “อย่างน้อยกูก็ไม่ปล่อยให้ใครมาทำอะไรหลานกูหรอก”
วายุมองหน้าเพื่อนอย่างคิดหนัก “กูขอคุยกับเฟร์ก่อนละกัน รายนั้นไม่รู้จะยอมมั้ย ไหนจะเพทายอีก”
“ยกให้มาเป็นลูกสะใภ้กูก็จบเรื่อง” พัตเตอร์เอ่ยแซวเพื่อนรักพร้อมกับยิ้มขำออกมา
“กวนตีนนะมึง” วายุส่ายหัวพร้อมกับยิ้มมุมปาก “กูไม่ค่อยเท่าไหร่หรอก แต่เพทายนี่สิ...หวงน้องอย่างกับอะไร”
“มึงก็ลองคุยก่อนละกัน แต่กูคิดว่าถ้ามึงไม่อยู่ เพทายคนเดียวต้านมันไม่ไหวแน่ๆ มึงเข้าใจใช่มั้ย?”
“อื้ม” วายุพยักหน้านิ่งอย่างเครียดๆ