“ขอบคุณนะครับสำหรับวันนี้” พาลินกล่าวขอบคุณเมื่อเขาขับรถมาจอดที่หน้าปากซอย
“แล้วไปดูหนังกันอีกนะ ครั้งหน้าพี่จะรีบมาให้ตรงเวลา”
“ครับ พี่อยากดูเรื่องอะไรนัดมาเลยครับ ช่วงนี้ผมว่าง”
“ไม่ไปทำงานเหรอ”
“ไม่ครับ สัปดาห์หน้าก็เปิดเทอมแล้วครับ เลยอยากพักสักหน่อย”
“งั้นค่อยนัดกันอีกทีละกันนะ”
“ครับ พี่โดมอย่าลืมไก่หลังรถนะ” พาลินรีบเตือนเพราะถ้าเขาลืมพรุ่งนี้มันคงได้กลายเป็นไก่เน่าแน่ๆ
“อือ”
พาลินลงจากรถแล้วเดินไปยังหอพักวันนี้มีหลายคนเริ่มกลับมากันบ้างแล้ว เพราะอีกไม่กี่วันก็จะเปิดเทอม บรรยากาศก็เลยดูครึกครื้นเป็นพิเศษ พอเขาเดินมาถึงก็โบกมือให้ดลธรรมเพื่อให้ชายหนุ่มจะได้กลับคอนโดของตัวเอง
“ลิน ไปไหนมา กลับดึกเชียวนะ” เจหรือเจษฎาเพื่อนร่วมหอพักที่นั่งอยู่ตรงม้าหินอ่อนทักทายขึ้น
“ไปดูหนังมา มึงล่ะ เพิ่งมาวันนี้เหรอ”
“อือ เพิ่งมาถึงขนของเพิ่งเสร็จกำลังจะขึ้นห้องก็เห็นมึงเดินมา พี่กันต์มาส่งเหรอ” เจษฎาเป็นรุ่นน้องคณะวิศวะจึงรู้จักกับกันต์ธีร์เป็นอย่างดี
“ไม่ใช่พี่กันต์หรอก กูเลิกกันแล้ว”
“งั้นแฟนใหม่เหรอหาได้เร็วดีนี่”
“แฟนใหม่ที่ไหนล่ะ เขาเป็นน้าชายของเด็กที่กูไปสอนพิเศษช่วงปิดเทอม ว่าแต่มึงเถอะยังไง ไหนว่าปิดเทอมจะกลับไปช่วยพ่อกับแม่ทำงาน กูเห็นนะว่ามึงอยู่กับแฟนตลอด”
“กูก็ช่วยพ่อกับแม่ไง แต่เป็นพ่อแม่แฟน”
“กตัญญูจริงๆ เพื่อนกู แล้วไปไหนแล้วล่ะแฟนมึงอะ”
“นู่นไง” เจษฎาชี้ที่หน้าปากซอยก็เห็นหญิงสาวคนหนึ่งกำลังเดินถือถุงอะไรสักอย่างเข้ามา
“งั้นกูขอตัวก่อนนะ”
“อือ”
พาลินรีบเดินขึ้นไปยังห้องของตัวเองเพราะไม่อยากให้เจษฎากับแฟนมีปัญหา เนื่องจากครั้งหนึ่งมีข่าวลือว่าเจษฎาเคยคิดจะจีบพาลิน พอแฟนรู้ก็เลยไม่ค่อยชอบหน้าเขาเท่าไหร่
“พี่เจ เมื่อกี้คุยกับใคร”
“ไอ้ลินไง”
“อะไร ยังไง ไหนว่าไม่ได้ชอบแล้ว หรือรู้ว่ามันโสดเลยคิดจะจีบอีกครั้ง”
“อ้าวนี่มะเหมี่ยวก็รู้เหรอว่ามันโสด”
“คนเขารู้กันทั้งนั้นแหละ ก็พี่เขาลบรูปคู่กับพี่กันต์ออกจนเกลี้ยงไอจีขนาดนั้น ตอบคำถามมะเหมี่ยวมาก่อนว่ายังไงจะจีบใช่ไหม”
“ไปกันใหญ่แล้วพี่ก็มีมะเหมี่ยวแล้วจะไปสนใจไอ้ลินมันทำไม มะเหมี่ยวก็รู้ว่าพี่ชอบกินนมกินหอย”
“พี่เจอย่ามาทะลึ่งนะ ขึ้นห้องได้แล้ว อย่าให้มะเหมี่ยวเห็นนะว่าแอบคุยกันอีก”
“จะบ้าเหรอ หึงไม่เข้าเรื่องเลย” เจษฎาส่ายหัว เขาไม่เคยคิดอะไรกับเพื่อนคนนี้เลยสักนิด แต่ที่ลือกันไปอย่างนั้นเพราะมีช่วงหนึ่งที่เขาสนิทกับพาลินมากกว่าใคร
ดลธรรมขับรถมาจอดที่หน้าคอนโดหยิบถุงไก่จากหลังรถ เดินมาจุดที่เคยเจอเจ้าสุนัขจรจัดเคยอยู่ ดีดนิ้วเรียกไม่กี่ครั้งเจ้าขนปุยก็วิ่งออกมาจากพุ่มไม้เตี้ยๆ
“ว่าไง จมูกไวเชียวนะขนุน อะพี่ซื้อมาฝาก” เขาเอากล่องไก่วางตรงพื้น แอบถ่ายรูปขณะที่มันกำลังดินอย่างเอร็ดอร่อย นั่งรอจนกระทั่งเจ้าขนุนกินจนเกลี้ยงจึงหยิบกล่องและถุงพลาสติกไปทิ้ง ดลธรรมรู้ว่ามันผิดที่แอบเอาอาหารให้กับสุนัขจรจัด แต่เขาก็อดสงสารไม่ได้
“พี่ไปก่อนนะ” เจ้าสุนัขกระดิกหางครางหงิงๆ ก่อนจะวิ่งหายเข้าไปในซอย
ดลธรรมอาบน้ำแต่งตัวเสร็จก็นึกถึงเรื่องเมื่อตอนกลางวัน เขาเพิ่งรู้ว่าปณิชญากับภูวินทร์กำลังจะเลิกกันแล้ว ตั้งแต่เพื่อนกับอดีตคนรักแต่งงานกันไป เขาก็ไม่ได้สนใจข่าวคราวของทั้งคู่อีกเลย
ครั้งหนึ่งเขาเคยคิดจะจริงจังกับปณิชญาถึงขั้นแต่งงานเพราะคิดว่าเป็นสิ่งที่เหมาะสมที่สุดสำหรับตัวเอง โดยไม่ได้สนใจเลยว่าตัวเองต้องฝืนใจมากแต่ไหน ทุกครั้งที่นอนกับเธอเขามีความสุขก็จริง แต่ในใจกลับไม่เคยอิ่มเอมเลยสักนิด
มีอยู่หลายครั้งที่แอบนอกกายเธอไปนอนกับคนอื่นที่เป็นชายแต่พอตัวเองถูกนอกกายบ้างกลับรับไม่ได้ ตอนนั้นเขาจมอยู่กับความทุกข์ถึงสามเดือนเต็ม ทุกข์เพราะไม่คิดว่าคนที่เธอเลือกจะเป็นเพื่อนสนิท แต่ถ้าลองกลับไปบทวนตัวเองอีกทีก็ถือว่าตัวเองมีส่วนผิดอยู่ไม่น้อย เพราะเป็นคนไม่ซื่อสัตย์กับเธอก่อน
ดลธรรมคิดว่าตัวเองจะสามารถเปลี่ยนแปลงตัวเองได้เมื่อคบกับปณิชญาแต่มันก็เป็นเรื่องยากและที่ไม่คิดจะเลิกกับเธอก็เพราะความเห็นแก่ตัวบวกกับกลัวว่าพี่ปรานต์จะไม่พอใจ
หลังจากที่ปณิชญาแต่งงานไปแล้วเขากลับมาเป็นตัวของตัวเองเต็มร้อยอีกครั้ง เขาไม่เคยคบหากับผู้หญิงคนไหนอีกเลย แต่ไม่จริงจังกับผู้ชายหรือคู่นอนคนไหน เพราะอยากใช้ชีวิตให้สนุกอย่างเต็มที่
แต่หลังจากได้เจอกับพาลินความรู้สึกก็เปลี่ยนไป เขาอยากจริงจัง อย่างอยู่ใกล้อยากใช้ชีวิตร่วมกัน เหมือนว่ามีแรงดึงดูดบางอย่างในตัวพาลินที่ทำให้เสืออย่างเขาอยากหยุด
เขานั่งไถมือถือไปเรื่อย เข้าไปดูว่าพาลินอัพรูปอะไรบ้างในแต่ละวันส่องทั้งเฟซบุ๊กทั้งไอจี แล้วก็ยิ้มเมื่อเห็นว่าพาลินอัพรูปตั๋วหนังที่ไปดูมาวันนี้
เห็นข้อความที่เพื่อนๆ ของพาลินมาเมนท์แล้วก็ยิ้มเพราะมีหลายคนยินดีที่พาลินมีคนรู้ใจคนใหม่ซึ่งเมื่อเจ้าตัวไม่ออกมาปฏิเสธต่างก็คิดว่ามันคือความจริง
ยิ่งเห็นแบบนั้นก็ยิ่งดีใจเพราะดูแล้วพาลินก็คงไม่ได้รังเกียจตนเอง แต่ที่ยังไม่ค่อยสบายใจเท่าไหร่ เพราะตัวเองไม่เคยบอกพาลินว่าเป็นเกย์และกำลังจีบอยู่ อีกคนก็เลยปฏิบัติกับเขาเหมือนเป็นพี่ชายเสียมากกว่า
ความสัมพันธ์ครั้งนี้เขาไม่อยากให้มันไปเร็วเพราะรู้ว่าอีกคนเพิ่งเจ็บมา จึงอยากให้พาลินพร้อมมากกว่านี้ แต่ก็ใช่ว่าจะปล่อยให้เวลาผ่านไปโดยไม่ทำอะไรเลย เขายังเหลือเวลาใกล้ชิดกับพาลินอีกไม่ถึงหนึ่งสัปดาห์ ก่อนที่จะเปิดเทอม
นาฬิกาที่ผนังบอกเวลาเกือบจะเที่ยงคืนแล้ว แต่เห็นว่าพาลินยังออนไลน์อยู่จึงกดโทรศัพท์ไปหาอีกฝ่ายทันที
“สวัสดีครับพี่โดม โทรมาดึกมีอะไรหรือเปล่า”
“เปล่า ก็แค่อยากโทรมาคุยด้วย ง่วงหรือยัง”
“ง่วงแล้ว แต่ยังนอนไม่ได้ กินเยอะไปหน่อยอืดท้องมาก”
“อ้าว ในห้องมียาไหมล่ะ”
“ไม่ถึงขนาดต้องกินยาหรอก เดี๋ยวมันก็ดีขึ้น”
“เป็นบ่อยเหรอ” เมื่อเห็นว่าพาลินมาได้ทุกข์ร้อนอะไรกับอาการของตัวเองก็อดถามไม่ได้
“ไม่หรอกครับ วันนี้ผมกินเยอะกว่าทุกวันไง ว่าแต่พี่เอาไก่ไปให้น้องหมาไหม”
“ให้แล้ว กินเกลี้ยงเลยสงสัยหิวมาก เดี๋ยวส่งรูปในไลน์ให้ดูนะ”
“กินเกลี้ยงจริงๆ ด้วย พี่โดม แล้วปกติมันกินข้าวที่ไหนเหรอครับ” พาลินเห็นแล้วนึกสงสารและคิดถึงตัวเองที่ตอนนี้เหมือนอยู่ตัวคนเดียว
“พี่ก็ไม่รู้แต่ก็คงมีคนให้อาหารแหละ ถ้างั้นคงผอมกว่านี้”
“นั้นสิครับ ดูแล้วคงมีคงเอ็นดูเยอะเลย” เสียงพูดเบาลงเล็กน้อย
“เป็นอะไร สงสารขนุนเหรอ”
“สงสารตัวเองครับ ขนุนยังมีคนเอ็นดูให้อาหาร แต่ตอนนี้ผมไม่เหลือใครเลย” พาลินรู้สึกโดดเดี่ยว ตั้งแต่บิดามารดาจากไปเขาก็มีเพื่อนและกันต์ธีร์คอยอยู่ใกล้ๆ แต่ตอนนี้ทั้งปิดเทอมทั้งเลิกกับแฟนเขาก็เลยไม่ค่อยโอเคเท่าไหร่
“เหลือสิ พาลินยังมีพี่นะ” ดลธรรมพูดด้วยน้ำเสียงอบอุ่นและจริงจัง เขาอยากให้อีกคนรับรู้ว่าตัวเองไม่ได้โดดเดี่ยวอย่างที่คิดเลย
“...” พาลินเงียบ คำพูดของอีกคนทำให้รู้สึกใจเต้นแรงอย่างบอกไม่ถูก
“ทำไมเงียบครับ” เขาใจคอไม่ค่อยดี กลัวอีกคนจะคิดมากกับคำพูดของตัวเอง
“ผมไม่ทำให้พี่รำคาญใช่ไหมครับ”
พาลินรู้ว่าตัวเองเกาะติดชายหนุ่มมากเกินไป เขายอมรับว่าช่วงนี้กำลังอ่อนไหวและไม่อยากอยู่คนเดียว
“พี่ไม่ได้คิดอย่างนั้นเลย”
“ถึงแม้ผมจะอยู่คนเดียวแต่ก็ไม่ได้หมายความว่าชอบอยู่คนเดียว”
“แสดงว่าที่ผ่านมาเหงามาตลอดเลยใช่ไหม”
“ก็เหงาบ้างครับ แต่เปิดเทอมก็ดีหน่อยทำงานกับเพื่อนอยู่กับเพื่อนจนดึกถึงกลับหอ”
“พี่นึกว่าอยู่กับแฟน ขอโทษที่ต้องพูดถึงเขา”
“ไม่เป็นไรครับ ถึงเป็นแฟนก็ไม่ค่อยตัวติดกันหรอกครับ เขาไม่ค่อยชอบให้ผมตามติดเท่าไหร่ ส่วนใหญ่ผมก็อยู่กับเพื่อน”
“แล้วไม่น้อยใจแย่เหรอ”
“ก็มีบ้างครับ แต่น้อยใจไปก็เท่านั้น”
ดลธรรมนึกเห็นใจชายหนุ่มอยู่ไม่น้อย เพราะช่วงนี้ทั้งปิดเทอม ทั้งไม่ได้ไปสอนพิเศษพาลินคงเหงามากจริงๆ
“พรุ่งนี้วันอาทิตย์ มาคอนโดไหม มาว่ายน้ำกัน”
“ผมไม่กวนพี่ใช่ไหม”
“ไม่หรอกมาเลย ให้ไปรับไหม”
“ไม่เป็นไรครับ ถ้าผมจะไปจะโทรบอกก่อนนะครับ” พาลินไม่อยากไปหาใครโดยไม่โทรนัดอีกแล้ว เพราะกลัวไปเห็นภาพที่ไม่ควรเห็นอีกเป็นครั้งที่สอง ถึงแม้ว่าตัวเองกับดลธรรมไม่ได้เป็นแฟนกันแต่ภาพแบบนั้นเห็นแค่ครั้งเดียวก็เกินพอ
“ถ้าโทรมาพี่ไม่รับก็มารอในห้องได้เลยเดี๋ยวจะส่งรหัสห้องให้นะ”
“ถ้าพี่ไม่รับผมก็ไม่กล้าไปหาหรอก”
“ไม่ต้องกลัวจะเจอใครหรือเห็นอะไรหรอกน่า” ดลธรรมรู้ว่าอีกคนกำลังคิดอะไร
“แน่นะครับ”
“แน่นอนสิ”
คุยกันอีกกว่าสิบนาทีทั้งสองก็แยกย้ายเข้านอน