Ep.4

1146 Words
Ep.4 Baibua talk. "เกิดอะไรขึ้นเหรอคะ ?" ฉันเดินเข้ามาในห้องแต่งตัวของศิลปินอย่างทนรอไม่ไหว พร้อมกับเอ่ยถามออกไปเมื่อได้ยินเสียงคนกำลังคุยกันอยู่ และดูเหมือนว่าจะกำลังมีปัญหาอะไรสักอย่างอยู่ซะด้วยสิ ฉันหันไปมองหน้าพี่ทีมงานก่อนจะหันไปมองหน้าอีตาจีโน่ที่มองหน้าฉันอยู่ก่อนแล้วอย่างต้องการคำตอบว่ามันเกิดอะไรขึ้นกันแน่ จริงๆ ฉันก็ไม่ได้มีอำนาจขนาดที่จะต้องรู้ทุกเรื่องที่เกิดขึ้นหรอกนะ แต่ด้วยความที่ฉันรีบไปเรียน และงานมันก็ยังไม่เสร็จ ฉันก็เลยจะรีบเคลียร์รีบทำให้มันเสร็จ ฉันเลยจำเป็นต้องรู้เรื่องและจัดการทุกอย่างให้มันเสร็จเร็วๆ เท่าที่จะทำได้ "ฉันแพ้ขนสัตว์" จีโน่พูดขึ้นมาเสียงเรียบๆ พลางเอามือล้วงเข้าไปในกระเป๋ากางเกง "แล้ว ?" ฉันถามไปอย่างไม่เข้าใจ มันเกี่ยวกันยังไง "เสื้อผ้าที่ฉันต้องใส่เข้าฉากวันนี้มันทำมาจากขนสัตว์" "แล้วนายไม่ได้อ่านรายละเอียดที่ทีมงานส่งไปก่อนหรือไง ถึงได้มามีปัญหาทีหลังแบบนี้ ?" จริงๆ ถ้าเขาอ่านก่อนเขาก็ต้องรู้สิคะว่าชุดหรือฉากมันเป็นแนวไหน แบบไหน เพราะงานแบบนี้มันต้องมีการระบุรายละเอียดในเรื่องต่างๆ แนบไปด้วยอยู่แล้ว "จริงๆ มันเป็นความผิดของฝ่ายฉันเองแหละ ที่ไม่ได้อ่านข้อมูลอย่างละเอียด" เขาพูดยอมรับออกมาว่าตัวเองผิด ก็ยังดีนะคะที่รู้ตัว แบบนี้ก็น่าจะคุยกันได้ง่ายๆ อยู่แหละ "นายรู้ว่าผิด นายก็ต้องรับผิดชอบเรื่องที่เกิดขึ้นสิ" "ก็จะรับผิดชอบอยู่นี่ไง ค่าเสียหายเท่าไหร่ก็บอกมาเดี๋ยวโอนเข้าบัญชีให้" เขาพูดเหมือนคนที่เริ่มหงุดหงิดขึ้นมานิดๆ แต่ไม่ได้มากมายอะไร แต่ประเด็นคือจะมาหงุดหงิดทำไม ในเมื่อตัวเขาเองเป็นฝ่ายผิด "เรื่องนั้นไม่ต้องเป็นห่วงค่ะ คุณได้จ่ายแน่" ฉันมองและพูดออกไปเสียงนิ่งๆ ไม่ได้ใส่อารมณ์หรืออะไรทั้งนั้น ฉันเป็นคนไม่ชอบโวยวายค่ะ มีเรื่องอะไรก็มักจะเจรจาด้วยเหตุผลมากกว่า "ก็แค่เนี้ย!" "แต่เรื่องนี้มันไม่แค่นี้น่ะสิคะ" ก็โฆษณาตัวนี้มันจะต้องออกอากาศพรุ่งนี้แล้ว ถ้าวันนี้ถ่ายทำไม่เสร็จ คือเรื่องใหญ่แน่ "แล้วมันจะอะไรนักหนาวะ!?" "โฆษณาตัวนี้ต้องออกอากาศภายในวันพรุ่งนี้ ถ้าวันนี้ไม่ได้ถ่ายทำฉันบอกเลยว่าบริษัทต้นสังกัดของนายแย่แน่" "!!!" ฉันไม่ได้ขู่นะ แต่เรื่องนี้มันเรื่องใหญ่เลยค่ะ แค่จ่ายเงินมันคงไม่พอแน่ๆ คงต้องมีเรื่องถึงต้นสังกัดเขาแน่ๆ แล้วเรื่องก็จะไม่จบง่ายๆ เพราะมันไม่ใช่แค่เรื่องของเขากับบริษัทโฆษณา แต่มันมีเรื่องของช่องโทรทัศน์ต่างๆ รวมถึงบริษัทต้นสักกัดของเขาเข้ามาเกี่ยวด้วย Baibua talk end. Jino talk. "มันจะอะไรนักหนาวะ!?" ผมถามผู้หญิงตรงหน้าออกไปอย่างหงุดหงิดทันทีที่เธอไม่ยอมจบ ก็แค่ยกเลิกงานวันนี้มันจะอะไรนักหนาวะ แต่เหมือนเธอจะไม่ได้สนใจอารมณ์หงุดหงิดของผมเลย เธอมองหน้าผมด้วยสายตานิ่งๆ ก่อนจะพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงที่ราบเรียบ แต่โคตรเฉียบ "โฆษณาตัวนี้ต้องออกอากาศภายในวันพรุ่งนี้ ถ้าวันนี้ไม่ได้ถ่ายทำฉันบอกเลยว่าบริษัทต้นสังกัดของนายแย่แน่" "!!!" และสิ่งที่เธอพูดมันทำให้ผมชะงักทันที! ลำพังตัวผมอะไม่เท่าไหร่หรอก ต่อให้เรียกร้องเท่าไหร่ผมก็จ่ายได้ แต่ถ้าถึงขั้นต้องฟ้องร้องถึงบริษัทต้นสังกัดของผม แบบนี้ไม่ดีแน่ เพราะตอนนี้ค่ายของผมกำลังมีปัญหา เพราะCEO(ทราฟฟิค)ไม่ยอมเข้ามาทำงาน เนื่องจากกำลังอกหักและกำลังตามหาเมียอยู่ พอหาไม่เจอก็กินเหล้าเมาเละเทะ งานการก็ไม่ทำ พองานไม่เดิน หุ้นต่างๆ ก็พากันร่วงอย่างหนัก ตอนนี้บริษัทก็เลยอยู่ในขั้นวิกฤต พนักงานในบริษัทหลายๆ คนก็ต่างลาออกกันเป็นแถบๆ รวมถึงผู้จัดการส่วนตัวของผมด้วย เพราะความไม่มั่นคงของบริษัทที่กำลังเผชิญอยู่ตอนนี้ ฉะนั้นพอเธอยกเรื่องบริษัทขึ้นมาพูดแบบนี้มันเลยทำให้ผมชะงักและไปต่อไม่ถูก ลำพังที่เป็นอยู่ตอนนี้พี่ทราฟฟิคก็แย่มากๆ แล้ว ถ้าเจอเรื่องนี้เข้าไปอีกมีหวังต้องปิดบริษัทจริงๆ แน่ ผมก็ไม่อยากสร้างความลำบากให้พี่ชายตัวเอง ไม่ใช่พี่แท้ๆ หรอกครับ แต่เราสนิทกันผมก็เลยนับถือพี่ทราฟฟิคเป็นพี่ชายผม "ตกลงตามนี้นะคะ ให้ทางบริษัทใหญ่เขาคุยกันเองน่าจะดีกว่า" ผู้หญิงที่ยืนอยู่ตรงหน้าผมพูดขึ้นก่อนจะหมุนตัวหันหลังให้ผมเพื่อที่จะเดินออกไปจากห้องนี้ "ดะ...เดี๋ยว!" และก่อนที่เธอจะก้าวขาพ้นประตูออกไป ผมก็ตัดสินใจเรียกเธอเอาไว้ก่อน "?" เธอหยุดเดินและหันกลับมามองผม "มีทางอื่นอีกมั้ย ? ที่ทำให้ฉันไม่ต้องใส่ไอ้ชุดขนฟูๆ นี่" ผมถามและมองไปทางชุดที่วางอยู่ด้วยสีหน้าสยดสยอง แค่เห็นก็ขนลุกแล้วครับ "ตกลงจะถ่ายต่อ ?" เธอไม่สนใจที่ผมถามแต่กลับถามผมกลับ แล้วเดินกลับมายืนอยู่ตรงหน้าผมอีกครั้ง สีหน้าเธอบ่งบอกได้ชัดเจนเลยครับว่าเธอรำคาญผมเอามากๆ และเธอเป็นผู้หญิงคนแรกเลยที่กล้าทำสีหน้ารำคาญใส่ผมแบบนี้ "ถ่ายต่อก็ได้...แต่ทำยังไงก็ได้ให้ฉันไม่ต้องใส่ไอ้ชุดฟูๆ นี่" ผมตอบไปอย่างจำยอม ถ้าไม่ติดว่าผมเห็นแก่ทางค่ายของผมที่กำลังมีปัญหาอยู่ตอนนี้ผมไม่ยอมหรอกบอกเลย "เรื่องมาก- -" "เธอว่าไงนะ!?" "ถ้านายไม่ใส่ชุดนี้มันก็ไม่มีชุดไหนแล้ว ใส่ๆ ไปเถอะมันไม่ตายหรอก!" เธอพูดอย่างคนที่เริ่มมีอารมณ์ขึ้นมานิดๆ "แต่ฉันแพ้ขนของมัน!" มันไม่ถึงตายก็จริงครับ แต่ถ้ามันได้แพ้แล้วอาการมันจะสาหัสมาก "นี่! ใส่แค่ไม่ถึงชั่วโมง มันคงไม่ถึงกับตายหรอกมั้งคะ!" เธอกลอกตาใส่ผมอย่างรำคาญแล้วพูดขึ้น "นี่เธอ!!..." และยังไม่ทันที่ผมจะได้พูดอะไร เธอก็พูดขึ้นมาอีกครั้งอย่างตัดความรำคาญ "ใส่ๆ ไปเถอะน่า! ถ้าเกิดนายเป็นอะไรหรือช็อกตายขึ้นมา เดี๋ยวฉันจะรับผิดชอบเอง!"
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD