ไปอยู่กับผม

1494 Words
"คุณจะไปธุระหรือคะ ขวัญกลับรถแท็กซี่ก็ได้" เธอบอกเขาเพราะเห็นว่ารถวิ่งคนละเส้นทางกับทางกลับบ้านเธอ "คุณจะกลับไปอยู่บ้านคุณคนเดียวไม่ได้แล้ว มันอันตราย" "แล้ว..คุณจะให้ขวัญไปอยู่ไหนคะ" พาขวัญมองหน้าเขา ด้วยแววตาที่มีความกังวน "ไปอยู่กับผม" พาขวัญมองหน้าเขา "ไปอยู่กับคุณหรอคะ เออ...ขวัญไปเช่าห้องอยู่ก่อนก็ได้คะ จะได้ไม่รบกวนคุณ" "ที่เดียวที่คุณจะปลอดภัยที่สุดคือ...อยู่กับผมพาขวัญ" ชรัณบอกเธอด้วยสีหน้าจริงจัง พาขวัญพูดไม่ออกจะให้ไปอยู่กับเขา มันก็รู้สึกแปลกๆ [คุณชรัณช่วยขวัญได้] เธอนึกถึงคำพูดพี่ชายที่พี่ชายเธอเคยบอกไว้ พาขวัญหันไปมองหน้าเขาอีกครั้ง แล้วก็ต้องยอมรับว่าตอนนี้เธอก็หมดหนทางแล้วเหมือนกัน เธอนั้งเงียบมาตลอดทาง สายตามองออกไปนอกหน้าต่างรถอย่างสิ้นหวังกับชีวิต ไม่นานรถก็เลี้ยวเขามาในเขตรั่วบ้านที่มีพื้นที่กว่าขวาง มีบ้านหลังใหญ่เด่นสะดุดตาอยู่ตรงกลางพื้นที่สวนหย่อมที่ถูกตกแต่งไว้อย่างสวยงาม รถมาจอดตรงหน้าบ้านสามชั้นสไตล์โมเดิร์นหรือจะเรียกว่าตึกก็ได้ ชั้นล้างมองเข้าไปจะมีห้องหลายอยู่ปีกซ้ายด้านขวาจะเป็นห้องโถงขนาดใหญ่ "ถึงแล้วเข้าบ้านกันเถอะ" ชรัณบอกเมื่อประตูรถเปิดออก ไม่รู้ว่าเธอคิดไปเองหรือเปล่าเหมือนเธอเห็นความอ่อนโยนใจเเววตาเขา แต่ก็แค่เเวบเดียวเท่านั้น พาขวัญลงจากรถมายืนมองบ้านหลังใหญ่ ชรัณคว้าข้อมือเธอพาเกินเข้าบ้าน เข้าพาเธอเดินไปขึ้นลิฟท์กระจกใสที่อยู่กลางบ้านเขากดขึ้นไปที่ชั้นสาม ผ่านชั้นสองดูเหมือนจะเป็นชั้นสำหรับออกกำลังกายโดยฉะเพราะ เพราะเธอมองเห็นเครื่องออกกำลังกายเต็มไปหมดชั้นสองจะเป็นกระจกที่มองเห็นเกือบทั้งชั้น แต่พอขึ้นมาชั้นสาม เหมือนเป็นบ้านอีกหลังหนึ่งมีห้องนั้งเล่น ที่มีโซฟาขนาดใหญ่ตั้งอยู่ มีห้องครัวขนาดกลางแบบสมัยใหม่มีโต๊ะกินข้าวขนาดกลางๆมีระเบียง ตรงระเบียงจะเป็นกระจกสามารถมองเห็นวิวด้านนอกได้ "ชั้นนี้ผมอยู่คนเดียว มีสองห้องนอน นั้นห้องผมส่วนคุณนอนห้องนี้" เขาชี้ไปที่ห้องนอนที่ติดกันแต่มีลักษณะเป็นห้องใหญ่กับห้องเล็ก "ค่ะ" "คุณอยู่ที่นี้อยากทำอะไรก็ทำได้เลยผมไม่ได้ยึดติดอะไร" เขามองหน้าเธอ "หวังว่าคุณจะไม่อึดอัด" "ไม่คะ ขวัญไม่อึดอัดเพียงแต่ยังไม่ค่อยชิน" "งั้นคุณไปพักเถอะ เดี๋ยวพรุ่งนี้ผมจะพาไปซื้อของใช้ ส่วนเสื้อผ้าคืนนี้คุณก็ไปเอาของผมมาใส่นอนก่อนเดี๋ยวผมจะออกไปทำงานต่อคุณไม่ต้องกลัวชั้นร่างจะมีลูกน้องผมอยู่ตลอดเวลา" "คุณชรัณค่ะ" ชรัณที่กำลังจะหันหลังเดินเข้าลิฟท์ เขาหันมาตามเสียงเรียก "ฉันขอบคุณคุณมากนะคะที่ช่วยฉันไว้" ชรัณมองหน้าเธอ "พักผ่อนเถอะ แล้วก็อีกอย่างผมชอบที่คุณแทนตัวเองว่าขวัญมากกว่าฟังดูน่ารักดี" เขาบอกก่อนจะเดินเข้าลิฟท์ไป เขาไปแล้วพาขวัญหันมองไปรอบๆ "เห้ออ...บ้านมาเฟียต้องสวยขนาดนี้เลยหรอ" พาขวัญเดินออกไปยืนที่ระเบียง หวังจะไปยืนชมวิว เเต่พอเดินออกไปก็ไปเห็นว่าชรัณกำลังจะขึ้นรถออกจากบ้านพอดี เขาเองก็มองขึ้นมา กลายเป็นว่าทั้งสองยืนสบตากันในระยะบ้านสามชั้น เป็นพาขวัญที่ต้องหลบตาเขาก่อนเธอถอยออกมาจากรัศมีการมองเห็นของเขา ชรัณขึ้นรถและรถก็กำลังเคลื่อนตัวออกจากบ้านไปอย่างช้าๆก่อนจะเร่งความเร็วเมื่อพ้นประตูรั่วออกไป พาขวัญมองตามไปจนสุดสายตา ถึงแม้ว่ารถวิ่งหายไปจากสายตาแล้วแต่พาขวัญก็ยังยืนอยู่ที่เดิม คิดหาทางออกให้ชีวิต ถึงแม้ชรัณจะให้เธอมาอยู่กับเขาเพื่อความปลอดภัยแต่เธอจะเอาตัวเองให้มาเป็นภาระคนอื่นไม่ได้ "พ่อคะ แม่คะ ขวัญจะทำยังไงดี" เธอเงยหน้ามองขึ้นไปบนท้องฟ้า ได้แต่ ภาวนาให้ตัวเองมีทางออกที่ดีในเร็ววัน /////////////////////////////// ฟ้าข้างนอกเริ่มมืดแล้ว แต่ชรัญก็ยังไม่กลับมา พาขวัณเดินเข้าไปดูในครัวที่ยังพอมีของสดอยู่บ้าง Rrrrrrrrrrrrrrrrrr ทันไดนั้นเสียงโทรศัพท์ที่วางอยู่บนโต๊ะก็ดังขึ้น พาขวัญมองตามเสียงและเดินมาหยุดมองว่าควรที่จะรับโทรศัพท์ดีไหม เสียงโทรศัพท์ดับไปแล้ว และก็ดังขึ้นมาอีกรอบ Rrrrrrrrrrrrr พาขวัญชั่งใจว่าจะทำยังไงดี สุดท้ายเธอก็ตัดสินใจยกหูโทรศัพท์ขึ้น แต่ยังไม่กล้าพูดอะไรเข้าไป [ทำอะไรอยู่ทำไมรับโทศัพท์ช้าจัง] เสียงที่ดังมาตามสาย เธอค่อยโล่งใจเพราะเธอจำได้ดีว่าเป็นเสียงของชรัณ [ขอโทษคะ ขวัญแค่ไม่แน่ใจว่าควรรับหรือเปล่า] พาขวัญบอกเขาไปตรงๆ [ทีหลังรับได้เลย ผมอาจจะกลับดึกเดี๋ยวผมให้เมียคนงานต้มข้าวต้มไปให้] [ไม่เป็นไรคะ เดี๋ยวขวัญต้มเองได้ครัวคุณก็พอมีของสดอยู่] [ตามใจ งั้นผมทำงานก่อน] [ค่ะ] ตู๊ดดดๆๆๆ สายถูกตัดไปแล้ว พาขวัญวางโทรศัพท์ลงที่เดิมแล้วเดินเข้าครัวไปทำข้าวต้มสำหรับตัวเอง หลังจากกินข้าวเสร็จเธอก็เดินเข้าห้องเพื่อที่จะอาบน้ำ เธอเพิ่งสังเกตว่าในห้อนนอนเล็กนี้มีประตูอีกบานหนึ่งที่ไม่ใช่ประตูห้องน้ำและไม่ใช้ประตูห้องที่เข้าออกปกติ เธอยืนมองอยู่สักพักก่อนจะตัดสินใจ ลองเปิดเข้าไปดู พอประตูเปิดเต็มบานจากที่มืดๆอยู่ไฟก็สว่างพรึบขึ้นมาทันที พาขวัญถึงกับสะดุ้ง เธอกวาดสายตามองไปรอบๆ นี้มันห้องแต่งตัวนี้น้า มีตู้เสื้อผ้าที่ถูกออกแบบให้เข้ากับห้องได้อย่างสวยงาม ทุกอย่างถูกจัดวางไว้อย่างเป็นระเบียบ แต่จะมีแต่ของผู้ชาย และก็น่าจะเป็นของเจ้าของบ้านนั้นเอง พาขวัญมองเห็นมีประตูอีกบานอยู่ฝั่งตรงข้าม เดาได้ไม่ยากว่าน่าจะเป็นห้องนอนของเขา พาขวัญเดินเปิดไปทีละตู้เพื่อจะหาเสื้อผ้าที่เธอพอจะใส่นอนได้ เสื้อผ้าทุกชิ้นมีแต่ของแบรนด์เนมชื่อดังแม้กระทั้งเสื้อยืดธรรมดาก็ยังติดแบรนด์ นาฬิกาหลายเรือนที่ถูกว่าไว้ใน ลิ้นชักอย่างเป็นระเบียบสวยงาม เเต่ละเรือนน่าจะราคาแพงเอาเรื่อง พาขวัญรีบปิดทันทีกลัวจะไปทำของเขาเสียหาย ตอนนี้เธอได้เสื้อแล้วเหลือแต่กางเกง จนไปเจอที่ตูสุดทายน่าจะเป็นกางเกงสำหรับใส่นอนของเขา ถึงจะตัวใหญ่ไปแต่ก็แก้ขัดได้ เธอรีบเอาออกมาแล้วรีบปิดตู้ก่อนจะรีบเดินเข้าห้องตัวเองไป เธอหารู้ไมว่าทุกการกระทำของเธออยู่ในสายตาของเจ้าของบ้านทั้งหมดผ่าน กล้องวงจรปิด ชรัณเผลอยิ้มออกมาเดชากับลูกสมุนนั่งอยู่ในห้องที่กำลังคุยงานกันถึงกับมองหน้ากันเลิ่กลั่ก "เกิดอะไรขึ้นพี่ นาย...ยิ้ม" นุที่เป็นรุ่นน้องคู่หูของเดชากระซิบถามอย่างไม่อยากเชื่อสายตา เดชาเตะขาคู่หูใต้โต๊ะเบาๆ เเละส่งสายตาห้ามปรามลูกน้องที่กำลังมองนายด้วยสายตาสงสัย "อ่ะ...ถึงไหนกันแล้ว ต่อเลยวันนี้ฉันเหนื่อยอยากพักแล้ว" ลูกน้องมองหน้ากัน "เอ้าาา..เร็วไอ้นุรายงานนายเร็วๆวันนี้นายอยากกลับบ้านแล้ว" เดชาพูดแต่พอหันไปเห็นหน้านายก็รีบเปลี่ยนคำพูดใหม่ "เอ้ออ...ไม่ใช่นายเหนื่อย" พร้อมกับส่งยิ้มแห้งๆไปให้เจ้านาย อย่างขอโทษที่เผลอกวนตีนนายแบบไม่ได้ตั้งใจ "เดือนนี้ฉันว่าจะเพิ่มโบนัสแต่กวนตีนกันแบบนี้อดไปเถอะ" ชรัณพูดขึ้น เอาคืนบรรดาลูกน้อง "โห้...นายครับพวกผมไม่ได้คิดอะไรเลยนะครับพวกผมไม่เกี่ยวนะครับนาย" นุพูดเอาตัวรอดโยนความผิดให้ลูกพี่ใหญ่ "พวกมึงแหละตัวดี" เดชาไม่ยอมรับคนเดียวอดก็อดด้วยกันแหละว่ะงานนี้ ชรัณได้เเต่ส่ายหน้าให้ลูกน้อง บางทีก็เหมือนเด็กเถียงกัน แต่ในเวลางานก็ทำหน้าที่กันได้อย่างดี
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD