พราวฟ้าเป็นลูกชาวนา ชาวไร่ชาวสวนมาตั้งแต่เกิดมา ตอนเธอยังเด็ก พ่อพาเธอออกไปเลี้ยงควาย เก็บขี้ควายและมีเจ้าถุงแดง สุนัขโปรดของเธอ ใครจะคิดว่ามาเก็บขี้ม้าที่นี่
“คงจะคิดว่าลูกคุณหนูจะทำอะไรไม่เป็นล่ะสิ เสียใจ เพราะพราวไม่ใช่ลูกคุณหนูไฮโซ คงคิดจะกลั่นแกล้งนางร้ายอย่างพราวจนทนไม่ไหวแล้วเตลิดหนีกลับกรุงเทพไปล่ะสิ”
เธอรู้ทันแผนการเจ้าเล่ห์ของเขาหมดแล้ว เพราะเนื้อเรื่องมีอยู่ในนิยายตรงเป๊ะ อาชาจงใจกลั่นแกล้งเมียที่ไม่ต้องการ ด้วยการบังคับให้ลูกคุณหนูพราวรดาทำสิ่งที่เธอไม่ชอบ ด้วยการเก็บกองขี้ม้า พราวรดาไม่ชอบม้าหรือพวกสัตว์ต่างๆ จนแทบไม่ไหวต้องกระเป๋าออกไปจากที่นี่ (เนื้อหาตามเดิม)
“พราวฟ้าไม่ใช่คนขี้ขลาดตาขาวเหมือนพราวรดา เก็บกองขี้ควาย พราวเคยทำมาแล้ว ทำไมกองขี้ม้าแค่นี้ ทำไมจะทำไม่ได้!”
คนงานหญิงคนใหม่(จำเป็น)หยิบอุปกรณ์ทำความสะอาดคอกม้า ทำงานแรก เก็บกองขี้ม้า ไม่ต้องให้ใครสอน เธอทำงานใช้แรงแบบนี้สบายมาก พราวฟ้าคนนี้แหละจะเปลี่ยนแปลงตอนจบนิยายเรื่องนี้เอง
ความจริงอาชาไม่ได้ออกไปเดินตรวจตรางานฟาร์มผักออร์แกนิคที่ไหน ชายหนุ่มแอบมองภรรยาปากเก่งทำงานตามคำสั่งของเขา
“ไม่อยากจะเชื่อว่าคนอย่างพราวรดาจะยอมทำงาน เก็บขี้ม้าโดยไม่นึกรังเกียจด้วยซ้ำ เป็นไปได้ยังไง”
“นายใหญ่มาหลบอะไรตรงนี้ครับ ผมเดินออกตามหาซะจนทั่ว นั่น! ไม่จริงใช่ไหมครับ นายหญิงปากร้ายของไร่ฟาร์มอาชาจะ...”
ทศพล หัวหน้าคนงานในไร่รู้จักฤทธิ์หึงหวงสามีของพราวรดาดีว่าอาละวาดมาก จนเกือบไร่ฟาร์มผักครั้งนั้นจะพัง
“ฉันเองก็ไม่อยากจะเชื่อเหมือนกันก็เลยต้องมาดูให้เห็นกับตาตัวเอง เธอแปลกไปตั้งแต่เมื่อคืนที่ทะเลาะกับฉันจนเธอต้องตกบันไดหัวฟาดพื้น” และหลังจากนั้นนิสัย คำพูดคำจาต่างๆ ก็เปลี่ยนไปราวกับคนละคน
“อ๋อ ผมพอจะจำได้แล้วครับว่าเมื่อวานนายหญิงไม่พอใจที่เห็นนายใหญ่ทำตัวใกล้ชิดสนิทสนมกับเอิงเอย ลูกสาวของลุงสรศักดิ์ คนงานเก่าแก่ของนายใหญ่ สงสัยนายหญิงคงจะรักสามีตัวเองมากถึงได้หึงหวงนายใหญ่กับเอิงเอย”
“รักอะไรล่ะ เป็นหมาหวงก้างซะขนาดไหน ทว่าแต่นายมาหาฉันมีเรื่องอะไร”
“ก็เอิงเอย ลูกสาวของลุงสรศักดิ์นะสิครับถามหานายใหญ่แต่เช้า สงสัยความรักจะบังตาแล้วสิครับนายใหญ่”
คนงานในไร่ฟาร์มทุกคนรู้ว่าเอิงเอยเป็นดวงใจของอาชา ถ้าไม่ติดว่าเอมอร แม่ของเขาบังคับแต่งงานกับลูกสาวเพื่อนสนิท ป่านนี้นายหญิงอาจไม่ใช่พราวรดาก็เป็นไปได้
“ไปบอกเอยว่ารออยู่ตรงนั้น เดี๋ยวฉันตามไป”
“ครับนายใหญ่”
ทศพลแปลกใจกับท่าทีเปลี่ยนไปของนายใหญ่อาชา โดยปกติถ้าเอ่ยชื่อเอิงเอย อาชาต้องรีบออกไปหาดวงใจของเขาโดยทันที หรือว่าเขาไม่ได้รักหรือมีความรู้สึกหวั่นไหวแก่เอิงเอย หญิงสาวแสนดีคนนั้นแล้ว
'แกเป็นอะไรไปวะไอ้อาชา แกต้องสนใจเอิงเอยสิ ผู้หญิงร้ายกาจคนนั้นไม่มีค่าอะไรกับแกเลย'
…
พราวฟ้าจัดการทำความสะอาดคอกม้าเสร็จเรียบร้อย กว่าจะถึงก็ปาเกือบเที่ยง ท่าทางดูคล่องแคล่ว ไม่รังเกียจพวกม้าสักนิด มิหนำซ้ำเธอยังเข้าขากันได้ดีกับเชอรรี่ ม้าเพศตัวเมียที่เชื่องแค่เจ้าของของมันเท่านั้น พราวฟ้าเป็นคนแรกที่เชอร์รี่ไว้วางใจเหมือนกับอาชา
“เฮ้อ เสร็จซะที เล่นเอาแทบเหนื่อย”
“คุณหนูพราว เหนื่อยไหมคะ น้ำค่ะ” กุ้งตามติดรับใช้คุณหนูทำหน้าที่คอยเสิร์ฟน้ำเย็นแก่เธอ
“ขอบคุณจ้ะพี่กุ้ง ความจริงพี่กุ้งของพราวไม่ต้องตามมาดูแลพราวก็ได้” รอยยิ้มแสนหวาน อบอุ่นที่เพิ่งได้รับมาจากคุณหนูพราววีนเหวี่ยงแอบทำให้กุ้งรู้สึกดี ตื้นตันดีใจจนบรรยายไม่ถูก
“คุณหนูของพราว ยังไงกุ้งก็ต้องดูแลคุณหนูอยู่ดี เพราะครอบครัวของกุ้งดูแลคนใช้อย่างกุ้งดีเหลือเกิน ไม่ว่าคุณหนูพราวจะเปลี่ยนไปยังไง คุณหนูก็ยังเป็นเจ้านายของกุ้งอยู่ดี”
พราวฟ้าไม่เคยมีใครมาคอยดูแล รับใช้ จงรักภักดีต่อเจ้านายสาวแอบสงสารพี่กุ้งที่ต้องมาคอยดูแลเธอในร่างพราวรดาตลอดเวลา เสมือนว่าพี่กุ้งเป็นเพื่อนแสนดีของเธอ
“พี่กุ้ง ตลอดที่ผ่านมาพี่คงจะเหนื่อยมากสินะที่คอยรองรับอารมณ์ของพราวรดาตลอดเวลา แต่ตอนนี้พราวสัญญาว่าพราวจะไม่สร้างเรื่องอะไรอีกแล้ว”
“คุณหนูพราวของกุ้ง”
“ขอดื่มน้ำก่อนหน่อยนะ คอแห้งหมดแล้ว”
พราวฟ้าจัดการยกขวดดื่มรวดเดียวจนหมด ไม่ทันรู้เลยว่ามีสายตาคมกริบจ้องมองด้วยแววตาอ่อนโยนมากขึ้นโดยที่เธอไม่มีโอกาสได้เห็นมัน
“สงสัยคงเหนื่อยมากสินะ ถึงได้ยกซดดื่มน้ำได้ ถึงจะเปลี่ยนแปลงไปยังไง สันดานก็คงเหมือนเดิม”
“พี่อาชา” เธอเกือบสำลักน้ำเปล่าออกมากับความปรากฎตัวเงียบๆ ของสามีปากเสีย
“ถ้าฉันไม่แอบมองเธอทำความสะอาด เก็บกองขี้ม้าอยู่คนเดียวจนสะอาดเรียบร้อย นึกว่าเธอจะใช้กุ้ง คนใช้ของเธอทำเสียอีก”
'ปากหนอปาก ปากหมาเน่าไม่เคยเปลี่ยน' พราวฟ้าส่งค้อนวงใหญ่แก่พระเอกนิยายปากดี จิกแขวะกัดเธอตลอดที่เจอกันทุกที
“พี่อาชาคงจะคิดว่าคุณหนูทำอะไรไม่เป็นอย่างพราวจะชี้นิ้วสั่งคนอื่นทำแทนหรอกค่ะ คนอย่างพราวฟ้...พราวรดา คิดจะตั้งใจทำอะไรก็ย่อมทำได้ทั้งนั้นแหละค่ะ”
อาชาแทบไม่อยากเชื่อว่าพราวรดาจะเปลี่ยนไป แต่พอเห็นเธอทำความสะอาด เก็บกองขี้ม้าและเข้าขากับเชอร์รี่ ม้าตัวโปรดได้ ความคิดของเขาก็เปลี่ยน
“เธอคิดว่างานเก็บขี้ม้า ทำความสะอาดคอกม้าแค่นี้จะทำให้ฉันหวั่นไหวกับเธอแล้วเหรอ ตลกสิ้นดี”
“หวั่นไหว? พี่อาชาเอาอะไรมาพูด ที่พราวยอมทำตามคำสั่งของพี่ก็เพราะพราวไม่อยากทำให้พี่หวั่นไหวหรอก พราวแค่อยากทำต่างหาก”
“อยากทำ? ไม่คิดเลยว่าจะได้ยินคำนี้จากปากเธอ งานแรกถือว่าใช้ได้ก็แล้วกัน แต่งานต่อไปเจอหนักแน่ กุ้งดูแลคุณหนูของกุ้งให้ดี อย่าให้ไปก่อเรื่องที่ไหนอีก”
“ค่ะนายใหญ่”
อาชาไม่สนใจภรรยาสาว กลับกันเขายิ่งมุ่งมั่นเข้าไปหาเอิงเอย ผู้หญิงที่เขารู้สึกดีมากกว่าลูกคนงาน ผู้หญิงที่สวยงาม จิตใจดีกว่าพราวรดา ภรรยาจิตใจชั่วช้าจนเขารับไม่ได้
“สงสัยคงจะรีบไปหากิ๊ก เอิงเอย นางเอกของเรื่องนี้สินะ”
พราวฟ้าแอบเบะปากหมั่นไส้กับความคลั่งรักของอาชาที่มีต่อเอิงเอย ฉากนี้น่าจะเป็นฉากหลังที่ทั้งสองคนได้เจอกัน แต่อุปสรรคคือเอมอร แม่ของเขา
'ถ้าเราทำให้พระเอกกับนางเอกได้รักกันสมบูรณ์แบบ ไม่แน่บางทีเราอาจจะได้กลับไปสู่ที่ที่เราจากมา อาจจะเป็นอย่างนั้นก็ได้ เพราะถึงยังไงตอนจบเขาก็ต้องคู่กันอยู่ดี ไม่มีเรื่องไหนที่พระเอกต้องคู่กับนางร้ายหรอกนะ'
ตอนพักกลางวัน พราวฟ้าขอพี่กุ้งออกไปทานข้าวร่วมโต๊ะกับพวกคนงานในไร่ฟาร์ม ถึงยังไงเธอก็เป็นคนงานส่วนตัวของนายใหญ่ปากหมานั่นเหมือนเดิม แต่ใครจะคาดคิดว่าการที่เธอย่างกรายเข้ามายังห้องครัวของโรงอาหารจะมีสายตารังเกียจ โกรธแค้น เกลียดชังจากคนงานผู้หญิงและสายตาหื่นของคนงานผู้ชายที่จ้องมองตาเป็นมัน ภาพนั้นย้อนกลับมาอีกครั้ง
'พราวรดา ภรรยาสุดวีนเหวี่ยง ความคิดชั่วร้ายที่หนึ่งของอาชา เดินกรีดกรายในชุดเดรสสีน้ำเงิน ส่งสายตาไม่เป็นมิตรเข้ามาหาพวกคนงานและเหล่ากลุ่มแม่ครัว-แม่บ้านในโรงอาหาร เธอมาที่นี่ก็เพื่อมาหาเรื่องเอิงเอย ลูกสาวคนสวยของป้าเพ็ญ ที่เอิงเอยกระริกกระรี้อ่อยสามีของเธอ
'คุณหนูพราวรดามาถึงที่นี่ได้มีอะไรให้พวกรับใช้เหรอคะ' ป้าเพ็ญ แม่ครัวเก่าแก่ใจกล้าเสนอหน้ามาถามนายหญิงแห่งไร่ฟาร์มอาชา
'อีพวกนังขี้ข้า มึงกล้าเสนอหน้ากูงั้นหรือ อีแก่!'
เพียะ! ฝ่ามือนางมารร้ายตบเข้าใบหน้าป้าเพ็ญเข้าเต็มแรง สร้างความตกใจแก่คนงานที่นี่
'โอ๊ย'
'คุณพราวรดามาตบป้าเพ็ญทำไมกัน ป้าเพ็ญยังไม่ได้ทำอะไรผิดสักหน่อย'
'แม่มันไม่ผิด แต่อีนังลูกมันผิดเต็มๆ กล้าดียังไงถึงไปอ่อย ให้ท่าผัวกูถึงบ้านใหญ่ ทั้งที่คนขี้ข้าอย่างมันไม่สมควรไปเหยียบที่นั่นด้วยซ้ำ นังเอิงเอย ลูกมึงอยู่ที่ไหน กูจะตบมัน นังมารหัวใจของกู!'
'แม่จ๋า ใครทำอะไรแม่' เอิงเอยได้ยินว่ามีเรื่องกันที่โรงอาหารจึงรีบมาดูอาการของแม่
'มึงมาก็ดีแล้วนังเอิงเอย มาให้กูตบหน้ามึงให้หายแค้น มึงร่านอ่อยผัวกู ผัวกูจึงมั่วแต่สนใจนังเมียน้อยอย่างมึง นังเอิงเอย มึงกล้าแย่งของของกู'
'มันไม่ใช่อย่างนั้นนะคะคุณพราว เอยไม่ได้อ่อยอะไรนายใหญ่ด้วยซ้ำ โอ๊ย!'
เพียะ!