บทที่5 เมียนะไม่ใช่คนงาน

1616 Words
“คุณหญิงไม่ต้องเข้าไปเรียกลูกชายของท่านมาหรอกค่ะ” กุ้งเหลือบมองเห็นอาชา อยู่ในชุดทำงานในไร่ฟาร์ม เขาเดินตรงมายังแม่และภรรยาสาวตัวเอง ยิ่งเห็นพราวฟ้าเมิน ไม่มองหน้าเข้มคมสัน ยิ่งทำให้คนเป็นสามีหงุดหงิดชอบกล ไอ้ความรู้สึกแปลบนี้มันคืออะไร “รู้สึกว่าวันนี้แม่เพิ่งเคยเห็นลูกชายกับลูกสะใภ้ของแม่ลุกขึ้นมาตื่นเช้าพร้อมกัน อาชามาตักบาตรกับแม่บ้างนะลูก” “ครับ” อาชาว่าจะออกไปดูเจ้าม้าตัวโปรดของตัวเอง เขาไม่เคยเห็นมุมอ่อนโยน น่ารักของภรรยาสุดร้ายในอดีต ชายหนุ่มจงใจขยับตัวเข้าใกล้ชิดหญิงสาวที่กำลังสนใจเตรียมของรอพระ ท่าทางเมินเฉยของเธอมีต่อสามีหน้ามึน เขาควรจะดีใจมากไม่ใช่เหรอที่เธอไม่สนใจใยดี ไม่รักเขาเหมือนแต่ก่อนที่เคยเกาะแกะแขนแกร่ง ตามราวีไม่เลิก แต่ทำไมตอนนี้ใจของอาชาหวิวๆ เจ็บแปลบหน้าอกกับคำบอกว่าไม่รักของภรรยาสาวที่เปลี่ยนไป “ไม่ยักรู้ด้วยว่าผู้หญิงขี้อิจฉาริษยาคนอื่นจะออกมาทำบุญตักบาตรก็เป็น แต่อย่าคิดนะว่าทำบุญแค่นี้จะลบล้างบาป ในสิ่งที่เธอทำลงไปได้ ฉันไม่มีวันให้อภัยเธอเด็ดขาด พราวรดา” น้ำเสียงเข้มทุ้มใหญ่เอ่ยกระซิบข้างใบหู “ก็แล้วแต่ ฉันไม่ได้ทำอะไรผิดสักหน่อย หลีกไปค่ะ พระท่านกำลังจะมาแล้ว” พราวฟ้าไม่รู้หรอกว่าพราวรดาเคยทำอะไรอย่างที่เขากล่าวหา แต่เธอมาอยู่ในร่างนี้จะเป็นคนเปลี่ยนแปลงนิสัยร้ายกาจเอง “ไม่สะทกสะท้านคำด่าของคนเป็นผัว มันยังไม่จบแค่นี้หรอก พราวรดา” อาชาพึมพำเบาๆ ถ้าคิดจะมาท้าทายคนอย่างเขา บอกตามตรงว่าเธอคิดผิดถนัด หลังจากได้อิ่มเอมบุญเสร็จ เอมอรขอตัวกลับไปทำงานต่อที่บริษัทในเมืองกรุงเทพฯ ซึ่งห่างไกลจากที่นี่พอสมควร ฟาร์มอาชา ตั้งอยู่จังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งเป็นฟาร์มม้าใหญ่ระดับจังหวัด ยังไม่พอเขามีฟาร์มผักออร์แกนิคขายส่งออกต่างประเทศ บ้านหลังใหญ่เหลือแค่สองสามีภรรยาที่ไม่ถูกหน้า อาชาคิดแผนการกลั่นแกล้งภรรยาตัวเอง เพื่อให้ทนอยู่ที่นี่ต่อไปไม่ไหว แน่นอนว่าคุณหนูไฮโซ ไม่ชอบตากแดด ตากลมเหมือนเขา “กินข้าวเสร็จแล้วก็รีบไปเปลี่ยนชุดที่ฉันเอามาให้ซะ อย่าอิดออด ฉันไม่ชอบคนเชื่องช้า ทำอะไรไม่เป็นสักอย่าง” ระหว่างรับประทานอาหารร่วมกัน อาชายื่นเสื้อผ้าคนงานแก่นายหญิงของไร่ฟาร์มอาชา พราวฟ้ามองหน้าคนเป็นสามีหนุ่มเข้มตรงหน้าด้วยความสงสัย “พี่อาชาจะพาพราวออกไปไหนหรือคะ หรือว่าจะเปลี่ยนใจจะพาเมียแต่งตัวเองออกไปเที่ยวเหรอคะ คุณสามี” พราวฟ้าจงใจยียวนกวนประสาทด้วยการเรียกเขาว่าพี่อาชา ถ้าไม่ติดว่าคุณแม่เอมอรขอร้อง เธอไม่มีทางเรียกชื่อทุเรศๆ เด็ดขาด “นี่เธอคิดว่าอยู่กลางไร่ กลางเขา แล้วฉันจะพาเธอออกไปเที่ยวเล่นตามใจชอบงั้นเหรอ ฉันไม่ใช่คนรับใช้ของเธอที่จะต้องทำตาม รีบกินแล้วก็รีบเปลี่ยนเสื้อผ้าซะ” ผู้หญิงอะไรไม่มียางอาย ถ้าเป็นเอิงเอยของเขาล่ะก็ คงจะม้วนแล้วม้วนอีกเพราะความขวยเขิน “คิดว่าตัวเองหล่อตายล่ะ เป็นแค่ผัวไม่ใช่เจ้าของชีวิตพราวเสียหน่อย” ไม่รู้ว่าพราวรดา นางร้ายที่เธออยู่ในร่าง ตกหลุมรักส่วนไหนของเขาถึงได้หลงใหลหัวปักหัวปำขนาดนั้น “คุณหนูพราว ทำไมพูดแบบนั้นล่ะคะ นายใหญ่เป็นสามีของคุณหนูนะคะ” กุ้งเอ่ยห้ามปราบเจ้านายสาวที่แขวะเหน็บแหนมสามีหนุ่มเพิ่งออกไปจากห้องอาหารได้ไม่นาน “สามี? นี่น่ะเหรอที่เขาเรียกว่าสามี ถ้าพราวรู้ตั้งแต่แรก พราวคงไม่ยอมแต่งงานกับผู้ชายปากหมาเน่าแบบนี้หรอก” .......... “คุณหนูพราวของกุ้งจะออกไปที่ฟาร์มม้าตามคำสั่งของคุณอาชาจริงๆ เหรอคะ” คนรับใช้สนิทของคุณหนูพราวรดาเอ่ยถามร่างหญิงสาวที่ยอมใส่ชุดคนงานตามคำสั่งของจอมเผด็จการนั่น อีกอย่างคุณหนูพราวไม่แตะต้องเครื่องสำอาง แปลก! ปกติจะออกไปข้างนอกหรืออยู่บ้าน คุณหนูของเธอต้องแต่งหน้า ทาปากแดงตามสไตล์นางมารร้ายอาละวาดอยู่ตลอดเวลา มาวันนี้กลับใช้แป้งทาบนใบหน้าอ่อนๆ เท่านั้น “ทำไมเหรอ มีเรื่องอะไรทำไมพี่กุ้งถึงไม่ยอมให้พราวออกไปข้างนอกบ้าน เอ๋ ทำไมไม่มีลิปมัน สงสัยยัยคุณหนูนั่นไม่ชอบใช้ลิปมันแน่เลย” “เอ่อ คือ คุณหนูพราวไม่ชอบเข้าไปในฟาร์มม้าไม่ใช่เหรอคะ บ่นว่าเหม็นขี้ม้า บ่นว่าแดดร้อน เดี๋ยวผิวขาวของคุณหนูจะคล้ำเสียหมด” กุ้งไม่สามารถขยายความละเอียดได้ว่าคุณหนูของเธอเป็นที่น่ารังเกียจของคนงานทั้งไร่ฟาร์ม อีกทั้งเมื่ออาทิตย์ก่อนพราวรดามีเรื่องกับแม่ครัวคนงานจนเกิดจะทะเลาะตบตีกัน โชคดีตอนนั้นอาชาเข้ามาห้ามปราบเอาไว้ได้ทัน กุ้งกลัวว่าจะเกิดประวัติศาสตร์ซ้ำรอยอีกครั้งหนึ่ง “พราวเคยพูดเอาไว้แบบนั้นเหรอ ไม่เห็นจะจำได้เลย แต่งตัวเสร็จแล้ว เรารีบลงไปกันเถอะ เดี๋ยวอีตาบ้านั่นจะรอนาน” อาชายกดูเวลาบนนาฬิกาข้อมือของตัวเอง เขาให้เวลาคุณหนูไฮโซแต่งตัวแค่ห้านาที ทว่ามันเลยเวลาไปถึงสิบกว่านาที เจ้าตัวจอมแสบยังไม่ลงมา “แต่งตัวอะไร ชักช้าเสียจริง” “ช้าที่ไหนกันล่ะคะ พราวมาทันเวลาพอดีเป๊ะๆ ต่างหาก” คนตัวสูงหันขวับว่าจะต่อว่าภรรยาสมรสตัวเอง แต่กลับตกตะลึงอ้าปากค้าง พูดอะไรไม่ออก เขาช็อคเมื่อเห็นความน่ารักของเมียตัวเอง ยิ่งเธอไม่แต่งหน้าเข้มยิ่งทำให้สวย ใส น่ารักเป็นธรรมชาติ “....” “พี่อาชาคะ มีอะไรติดบนใบหน้าของพราวหรือเปล่า พี่กุ้ง มีอะไรติดบนหน้าพราวเหรอ ทำไมเขาถึงมองพราวตาไม่กระพริบเลยล่ะ” หรือว่าเธอทำอะไรให้เขาไม่พอใจ “คงไม่ใช่แบบนั้นหรอกมั้งค่ะ กุ้งขอตัวเอาของของคุณหนูเก็บไว้บนรถก่อนนะคะ” กุ้งอมยิ้มเล็กน้อยกับความตกหลุมรัก ความน่ารักสดใสของคุณหนูพราวในชุดคนงาน พราวฟ้าแค่ถักเปียผมยาวไว้ด้านหลัง เธอไม่ชอบปล่อยผมยาวให้รำคาญตา ไม่เหมือนพราวรดา นางร้ายที่ชอบปล่อยผมยาวอ่อยคนเป็นสามีตัวเองอยู่เรื่อย “พี่อาชาค่ะ” “ออกไปแต่งตัวแค่นี้ทำเป็นชักช้าเสียจริง นี่มันสิบนาทีแล้ว” อาชาตั้งสติเอาไว้อยู่กับเนื้อกับตัว เขาตีหน้าเข้มเป็นอาชาโหดดุดันเหมือนเดิม “ก็พี่บอกกับพราวไม่ใช่เหรอคะว่าให้แต่งตัวสิบนาที นี่ก็สิบนาทีตรงเป๊ะ” “สิบนาทีที่ไหน ฉันสั่งห้านาทีต่างหาก คนรักษาไม่เวลาต้องถูกทำโทษ” “ทะ ทำโทษ?” เสียงสั่นเล็กน้อยเมื่อใบหน้าคมเข้มของสามีโน้มใกล้ลงมาแนบชิดปลายจมูกของเธอ “รับรองว่าเธอคงลืมมันไม่ลง ฉันเองก็เช่นกัน สามีลงโทษภรรยาคงไม่แปลกหรอกมั้ง จริงไหม พราวรดา” “.....” หมายความว่ายังไง ทำโทษแบบที่สามีทำกับภรรยา สายอ่านนิยายรักอย่างพราวรดาอดคิดฉากแบบนั้นไม่ได้ หรือว่าเขาจะทำ...กับเธอจริงๆ สิ่งที่พราวฟ้าคิดมโนตั้งไกล สิ้นเชิงกับความเป็นจริง อาชาพานายหญิงของฟาร์มอาชา แน่นอนว่าเขาจะมาหาม้าตัวโปรดของตัวเอง “เชอร์รี่ พี่คิดถึงน้องเหลือเกิน เป็นยังไงบ้าง เมื่อคืนนอนหลับสบายดีอยู่ไหม พี่รักน้องมากๆ เลยนะ เชอร์รี่ที่รัก” “เชอร์รี่ ชื่อม้าเนี่ยนะ” พราวฟ้าบ่นพึมพำกับตัวเอง ม้าอะไรชื่อเชอร์รี่ หรือว่าเขาเปลี่ยนรสนิยมชอบเอากับม้า?! “ไม่ต้องร้องนะเชอร์รี่ เดี๋ยวพี่ออกไปสั่งงานคนงานใหม่ของพี่ก่อน” แลเขาดูอบอุ่น อ่อนโยนมากเหมือนอยู่ใกล้ม้าทั้งหลาย เพิ่งเคยเห็นมุมแบบนี้ น่ารักดีเหมือนกัน แต่เอ๊ะ พราวฟ้าคนนี้จะไปสนใจเขาทำไมกัน แล้วคนงานใหม่ที่เขาว่าคือคนไหน “เธอ มาหาฉันตรงนี้หน่อย” ถือว่าเป็นเจ้านายใหญ่สุด สั่งได้ สั่งดี ไม่เว้นแม้กระทั่งเมีย “ค่ะบอสใหญ่” พราวฟ้าเอ่ยประชดเขาต่างหาก หญิงสาวในชุดคนงานทะมัดทะแม่งก้าวเดินตรงมาหาเขา โดยเว้นระยะห่างสองเมตร “งานแรกของเธอ โน่น เก็บขี้ม้าที่อยู่ในคอกม้าทั้งหมด” อาชาเอาอุปกรณ์ทำงานวันแรกโยนใส่ตรงหน้าคนงานใหม่ซึ่งก็คือภรรยาตัวเอง “เก็บขี้ม้า?” เธอหันไปมองคอกม้าตามคำสั่ง นี่น่ะเหรอ บทลงโทษของเธอ ให้ไปเก็บกองขี้ม้าเนี่ยนะ “ใช่ นี่คืองานแรกของเธอ เก็บกองขี้ม้าคอกนี้เสร็จ เดี๋ยวฉันจะบอกเธอเองว่าให้ทำอะไรต่อไป” พอสั่งการเสร็จก็ออกไปจากตรงนี้ทันที “คุณอาชา นี่มันอะไรกัน พราวเป็นเมียคุณนะ ไม่ใช่คนงานในไร่ฟาร์มของคุณ พระเอกในนิยายประสาอะไร หาความโรแมนติกแทบไม่มี” ถ้าเธอเป็นเอิงเอยล่ะก็ เธอไม่เอาอีตาปากหมาเป็นสามีเด็ดขาด ไม่มีวัน!
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD