ตอนที่ 1 คุณหญิงราตรี

1941 Words
"นี่ตาพี แม่เคยบอกลูกแล้วใช่ไหมว่าถ้าจะพาใครเข้าบ้านเนี่ยให้ดูสกุลรุนชาติเสียก่อน ไม่ใช่ไปเจอใครถูกใจก็ไปคว้าเอามาทำเมียเสียหมด" คุณหญิงราตรีกล่าวอย่างหยามเหยียดต่อบรรดาลูกสะใภ้   "คุณหญิงแม่ครับ ผมรักเธอที่หัวใจนะครับ ไม่ใช่ที่ตระกูล ขอให้เธอเป็นคนดีเท่านั้นก็พอครับ" บุตรชายของหล่อนอธิบายและนั่นก็ไม่ใช่ใครที่ไหนนั้นคือท่านชายพี พีรพรรณ ซุ้มงามตานั่นเอง   "นี่ลูกกำลังเถียงแม่ต่อหน้ามันนะลูก ถึงยังไงแม่ก็ไม่ยอม..." คุณหญิงราตรีก็ยังไม่ยอมยังกล่าวด้วยน้ำเสียงขึงขังแต่แฝงด้วยความน้อยใจบุตรชาย   "คุณหญิงแม่ฮะ ท่านชายกำลังอธิบายให้คุณหญิงแม่ฟังถึงเหตุผลที่ท่านเลือกพวกผมมาเป็นสะใภ้นะฮะไม่ได้เถียงสักหน่อยนะฮะ" สะใภ้ใหญ่อย่างข้าวปั้นออกโรงเองด้วยความไม่พอใจในคำพูดที่ฟังดูเหมือนจะเหยียดหยามความเป็นคนของตนเองรวมถึงสะใภ้คนอื่นๆด้วย   "ใช่ครับ! ท่านชายไม่ได้คิดจะกล้ายอกย้อนคุณหญิงแม่หรอกนะครับ และกรุณาเรียกพวกผมให้สุภาพสมกับเป็นสะใภ้ของคุณหญิงราตรีนิดหนึ่งก็ดีครับเพื่อความเหมาะสมครับ..." สะใภ้อันดับ 2 อย่างวีก็ไม่ยอมที่จะให้สามีถูกตำหนิและส่งผลมาถึงตนเอง   "ผมว่าคุณหญิงแม่ต้องพบหมอบ้างนะครับแต่คุณหญิงแม่ไม่ต้องไปไหนไกลหรอกครับเพราะผมเองก็เป็นหมอ ที่จะช่วยฟื้นฟูความทรงจำให้กับคุณหญิงแม่ว่าเมื่อตอนที่ท่านชายยังเด็กคุณหญิงแม่เคยพูดอะไรกับท่านชายบ้างน่ะครับ..." สะใภ้อันดับ 3 อย่างหมอปีย์ ปิติภัทร รีบกล่าวถึงความทรงจำที่ครั้งหนึ่งคุณหญิงเคยบอกอะไรบางอย่างต่อท่านชายพีเมื่อครั้งตอนเป็นเด็ก   "แกกำลังจะพูดอะไรฉันไม่สนหรอกนะ สิ่งที่ฉันอยากจะบอกพวกแกวันนี้คือฉันไม่อยากได้สะใภ้อย่างพวกแก เข้าใจไหม พวกแกทำให้ฉันอับอายขายหน้า ทำให้ฉันไม่อยากเข้าสังคม ที่สำคัญฉันไม่อยากอยู่บ้านเดียวกันกับพวกแก ตาพีแม่จะให้โอกาสลูกไล่พวกมันออกไปจากบ้านของแม่ซะ!!..."   "การเรียกผู้อื่นว่ามัน คุณหญิงแม่คิดว่ามันเป็นคำพูดที่เหมาะสมกับคนที่ได้ขึ้นชื่อว่าเป็นคุณหญิงเหรอครับ พวกผมทำอะไรผิดถึงจะมาไล่พวกผมออกจากบ้านของสามีพวกเราผมขอถามซักคำเถอะครับ ผมเองก็ไม่ยอมเหมือนกันนะครับ ท่านชายต้องจัดการให้พวกเรานะครับ..ท่านชาย!!" หนุ่มน้อยหน้าหวานอย่างซีสะใภ้อันดับที่ 4 กล่าวโต้แย้งด้วยความน้อยใจแม่ย่าแต่แฝงไปด้วยความน่ารักยิ่งนัก   "พวกเราจะไม่ยอมให้คุณหญิงแม่ข่มเหงอีกแล้ว พวกเราจะสู้ให้ถึงที่สุด จนกว่าคุณหญิงแม่จะยอมรับพวกเราที่เป็นลูกสะใภ้ของคุณหญิงแม่นะครับ ในวันพรุ่งนี้ท่านชายก็จะพาลูกสะใภ้ของคุณหญิงแม่เข้ามาอยู่ในบ้านหลังนี้เพิ่มอีก 2 คนครับ เป็นอย่างนี้คุณหญิงแม่จะกล้าไล่พวกเราหรอครับ ถ้าคุณหญิงแม่กล้าไล่พวกเรา เรื่องนี้จบไม่สวยแน่ๆ" สะใภ้อันดับที่ 5 อย่างเรย์ อดีตลูกคุณหนูไฮโซ เสนอความคิดเห็นด้วยความไม่พอใจกับการกระทำที่ผ่านมาของคุณหญิงราตรีที่ทำต่อพวกเธอ   "กรี๊ดดดดดๆๆ!! อะไรนะพรุ่งนี้ตาพีจะพาเมียแพศยาเข้าบ้านอีก 2 คนเหรอ ตาพีแกชักจะเอาใหญ่แล้วนะเห็นฉันไม่พูด อยากจะทำอะไรก็ทำสินะ เดี๋ยว!!...พวกแกกล้าดียังไงมาว่าฉันแบบนี้ ฉันคุณหญิงราตรี วดีกาญจนานะ ตาพีลูกต้องเลือกแล้วล่ะ ว่าระหว่างแม่บังเกิดเกล้าอย่างฉันกับเมียๆแพศยาพวกนี้แกจะเลือกใคร??....หะ!? ตอบแม่มาซิ..." คุณหญิงราตรียื่นคำขาดด้วยอารมณ์โกรธสุดขีด   "คุณหญิงพูดกับลูกดีๆหน่อยก็ได้ครับ ไม่เห็นต้องใช้อารมณ์กับลูกเลย ถึงยังไงพวกเขาก็โตๆกันแล้วนะ"   "คุณก็พูดแบบนี้แหละ ดูสิลูกชายฉันเสียคนหมดแล้วแทนที่เขาจะเป็นเหมือนผู้ชายทั่วไปที่สนใจหญิงสาว คุณรู้ไหมลูกคุณหญิง คุณนายมากมายเขาต่างสนใจลูกชายของเราทั้งนั้นแต่ดูลูกชายของเราสิ ไปสนใจเพศเดียวกันซะงั้น ฉันไม่เข้าใจเลยจริงๆเด็กสมัยนี้" หล่อนตัดพ้อต่อชายที่ยืนด้านข้างหล่อนด้วยอาการหัวเสียอย่างอ่อนแรง "คุณหญิงอย่าลืมนะครับว่าผมเองก็เป็นเด็กสมัยนี้เหมือนกัน ถึงผมจะเป็นท่านทูตแต่ผมก็มีอายุไม่ต่างจากลูกชายของคุณหญิงเลย หากคุณหญิงจะพูดอะไรก็ขอให้เกรงใจผมบ้าง ผมเคยบอกคุณหญิงหลายครั้งแล้ว ลูกเราสามารถเลี้ยงได้แค่ตัวเท่านั้น ส่วนหัวใจของเขาจะเลือกหรือต้องการอะไรนั่นก็เป็นสิทธิ์ของเขาไม่ใช่เหรอครับ ผมจะพูดครั้งนี้เป็นครั้งสุดท้ายนะครับคุณหญิงราตรี"   "คุณตรีตนุพงศ์ฉันขอโทษที่ทำให้คุณรู้สึกไม่ดีแต่ตาพีเขาเป็นลูกของฉัน ฉันย่อมมีสิทธิ์ในตัวเขาเพื่อเลือกสิ่งที่ดีที่สุดให้แก่เขาไม่ใช่เหรอคะ คุณไม่เคยมีลูกคุณไม่รู้หรอก ฉันขอโทษที่ต้องพูดตรงๆแบบนี้แต่เรื่องนี้ฉันขอเถอะค่ะ เขาเป็นลูกของฉันและฉันก็อยากให้เขาได้สิ่งที่ดีที่สุดในสิ่งที่ฉันเลือกให้ คุณอยู่ข้างๆฉันคอยให้คำปรึกษาฉันจะดีกว่าค่ะ"   "แต่คุณหญิงแม่คงจะลืมถามผมไปหรือเปล่าครับ ว่าผมต้องการสิ่งที่คุณหญิงแม่ยัดเยียดให้หรือเปล่า??..." ท่านชายพีเสียมารยาทพูดแทรกขึ้นระหว่างที่คุณหญิงแม่และท่านทูตกำลังสนทนากันอยู่กับสิ่งที่เขากำลังคิดถึงคำพูดของผู้เป็นมารดาบอกกับท่านทูตผู้เป็นสามีใหม่ของคุณหญิงแม่ของเขา   จากคำพูดของท่านชายส่งผลให้คุณหญิงราตรีถึงกับน้ำตาไหลพรากเพราะความเสียใจบวกกับความไม่เข้าใจในหัวอกของคนเป็นแม่ที่มีต่อบุตรชายแต่นั่นกลับเป็นสิ่งที่เขาไม่ต้องการที่จะได้รับในสิ่งที่ผู้เป็นมารดามอบให้ ขณะที่คุณหญิงราตรีเดินตรงเข้าไปหาบุตรชายเตรียมจะยกมือขึ้นเพื่อหวังจะฟาดที่แก้มของบุตรชายด้วยอารมณ์โกรธและเสียใจอย่างที่สุด   "หยุดนะคุณหญิง!!.. คุณหญิงจะทำอะไรเพื่อลูกผมไม่ว่าแต่ผมไม่ชอบที่จะให้คุณหญิงใช้ความรุนแรงกับลูกของคุณหญิงเอง" ท่านทูตตรีรีบเดินเข้าไปจับข้อมือของคุณหญิงราตรีในขณะที่กำลังจะฟาดฝ่ามือเข้าที่ใบหน้าของท่านชาย บรรดาลูกสะใภ้ก็ต่างอยู่ในอาการตกใจไปพร้อมๆกันกับพฤติกรรมของแม่ย่าที่พวกเขาเห็นจนชินตา   "ปล่อยคุณหญิงแม่ตบผมเถอะครับ ถ้าเป็นสิ่งที่คุณหญิงแม่ต้องการเพราะยังไงผมก็ไม่มีวันทำตามความต้องการของคุณหญิงแม่แน่นอน" ท่านชายกล่าวเสียงเรียบต่อผู้เป็นมารดาอย่างอ่อนใจ   "ท่านชายอย่าพูดแบบนั้นสิครับ ผมรู้และเข้าใจหัวอกของท่านชายรวมถึงเข้าใจถึงหัวอกของคุณหญิงแม่ของท่านด้วย ผมเองก็จะพยายามทำทุกอย่างให้ท่านชายและคุณหญิงแม่ของท่านชายเข้าใจกันให้ได้ ไม่ว่าจะนานแค่ไหนก็ตามผมจะทำให้คุณหญิงแม่ของท่านชายเข้าใจในตัวท่านชายและผมก็จะทำให้ท่านชายเข้าใจในความรู้สึกและความต้องการของคนเป็นแม่ของท่านชายด้วยครับ ท่านชายเข้าใจในสิ่งที่ผมพูดไหมครับ" ท่านทูตกล่าวอย่างสุขุมถึงความรู้สึกที่เขาต้องการอยากจะช่วยเหลือคนทั้งสองให้เกิดความเข้าใจกันให้เร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้   "มันคงเป็นไปไม่ได้หรอกครับคุณพ่อ ผมขออนุญาตเรียกคุณว่าคุณพ่อได้ไหมครับท่านทูต" ท่านชายกล่าวด้วยความรู้สึกปลาบปลื้มในคำพูดของท่านทูตก่อนจะลงไปนั่งคุกเข่าแล้วยกมือขึ้นพนมเตรียมจะก้มกราบคนตรงหน้าแต่ไม่ทันที่เขาจะได้ก้มกราบอีกฝ่าย ฝ่ามือใหญ่ของท่านทูตก็ยื่นมารองรับมือของท่านชายไว้เสียก่อน   "ท่านชายอย่าทำแบบนี้เลยนะครับ ผมเป็นเพียงท่านทูต อายุของผมก็เกือบจะเท่าๆกับท่านชาย ผมไม่คู่ควรให้ท่านชายเรียกผมว่าพ่อหรอกครับ มันไม่สมควรที่ท่านชายจะมาก้มกราบคนธรรมดาๆอย่างผม ขอนะครับอย่าทำแบบนี้เลยท่านชาย" ท่านทูตกล่าวพร้อมประคองท่านชายให้ลุกขึ้นยืน ในขณะที่คุณหญิงราตรีรับไม่ได้กับเหตุการณ์ที่ไม่เป็นไปตามความต้องการของหล่อนจึงรีบเดินขึ้นห้องนอนไปอย่างรวดเร็วและไม่พ้นที่ท่านทูตต้องรีบตามขึ้นไปปลอบโยนเช่นทุกครั้ง   "คุณหญิง!.. คุณหญิงครับ รอผมด้วย" ท่านทูตรีบวิ่งก้าวขึ้นบันไดตามหญิงวัยกลางคนเพื่อคอยปลอบโยนหล่อนเช่นทุกๆครั้ง   "คุณหญิงเป็นอะไรครับ" ท่านทูตเอ่ยถามขณะที่เขากำลังปิดประตูห้องนอน   "คุณไม่น่าถามฉันนะว่าฉันเป็นอะไร ทำไมคุณต้องพูดแบบนั้นด้วย ยิ่งคุณพูดไปแบบนั้น บรรดาเมียแพศยาของตาพีมันก็ยิ่งได้ใจสิคะ" หล่อนตัดพ้อสามีคราวลูกพลางทำท่าทางงอนง้อเหมือนสาวๆและนั่นก็คือความน่ารักของหล่อนที่เปรียบดั่งมนเสน่ห์ให้ท่านทูตหนุ่มอย่างเขาตกหลุมรักหล่อนเข้าอย่างจังเมื่อหลายปีก่อนที่งานกาล่าดินเนอร์ที่สถานกงสุลประจำกรุงนิวยอร์ก   "ไม่เอาน่า ผมไม่อยากพูดอะไรซ้ำๆบ่อยๆหรอกนะครับ ท่านชายก็โตแล้ว เขามีความรัก มีความคิด มีชีวิตเป็นของตัวเองนะครับ ถึงคุณหญิงจะเป็นผู้ให้กำเนิด ถึงเขาจะเป็นเลือดเนื้อเชื้อไขของคุณหญิง ถึงเขาจะเป็นเพียงความหวังเดียวของคุณหญิงหรือถึงแม้ท่านชายจะเป็นทุกๆอย่างสำหรับคุณหญิง คุณหญิงก็อย่าลืมสิครับว่าเราไม่สามารถไปบังคับจิตใจของใครได้หากรังแต่จะบังคับจิตใจกันอยู่แบบนี้ คุณหญิงจะทนได้เหรอครับถ้าวันหนึ่งท่านชายรับไม่ไหวกับแรงกดดันครั้งนี้แล้วหนีออกไปจากชีวิตคุณหญิง เชื่อผมนะครับลองให้ท่านชายได้เลือกและได้ใช้ชีวิตอย่างที่เขาต้องการดูครับ วันหนึ่งท่านชายจะได้เรียนรู้ด้วยตัวของเขาเองว่าอะไรดีหรือไม่ดีสำหรับตัวเขา...." คุณหญิงราตรีดูสงบลงทันทีหลังจากฟังผู้เป็นสามีกล่าวจบก่อนจะหันไปกอดท่านทูตด้วยใบหน้าเปื้อนรอยยิ้ม   "ขอบคุณนะคะคุณตรีที่คอยอยู่เคียงข้างตรี"   "ไม่เป็นไรหรอกครับ ที่ผมพูดไปทั้งหมดก็เพื่อให้คุณหญิงได้เข้าใจท่านชายบ้างก็เท่านั้นครับ ถึงผมจะไม่ใช่พ่อแท้ๆของท่านชายก็ไม่ใช่ว่าผมไม่เป็นห่วงท่านชายนะครับ" ท่านทูตสวมกอดภรรยาอย่างสุขใจด้วยความคิดที่ว่าอะไรๆคงจะดีขึ้นนับจากวันนี้   "ตรีขอบคุณคุณจริงๆค่ะที่รักลูกชายของตรี ตอนนี้ตรีเข้าใจอะไรขึ้นเยอะเลยค่ะ" ฝ่ามือเล็กของหล่อนลูบแผ่นหลังของสามีอย่างแผ่วเบาและอ่อนโยนแต่แววตาของคุณหญิงราตรีในเวลานี้กลับเปล่งรัศมีความเจ้าเล่ห์เพทุบายเหมือนว่าหล่อนคิดอะไรบางอย่างขึ้นมาได้      
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD