ตอนที่ 1.1 คุณหญิงเปลี่ยนไป

1599 Words
สุภาษิตไทยที่ว่า น้ำหยดลงหินทุกวันหินยังกร่อน คงจะเกิดขึ้นกับคุณหญิงราตรี วดีกาญจนาเสียแล้วเพราะหลังจากที่หล่อนได้รับคำปรึกษาจากสามีคราวลูกไปเมื่อ 2 วันที่แล้วหล่อนดูเปลี่ยนไปจากสายตาของทุกๆคนอย่างไม่น่าเชื่อ ความอ่อนโยน ความเข้าอกเข้าใจ ความเมตตาด้วยหัวใจของคนที่เป็นแม่ย่าที่ดีถูกแสดงออกจากหญิงวัยกลางคนอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในทศวรรษ โดยที่ไม่มีลูกสะใภ้คนใดจะจับพิรุธหล่อนได้ ว่า สิ่งที่หล่อนแสดงออกมานั้นคือความจริงใจหรือไม่   "ข้าวปั้นหนูกำลังทำอะไรเหรอลูกมีอะไรให้แม่ช่วยไหม" น้ำเสียงที่ฟังดูเป็นมิตรถูกเปล่งออกมาจากวาจาของคุณหญิงราตรี เป็นผลให้สะใภ้ใหญ่อย่างเธอรีบหันไปทางต้นเสียงด้วยความประหลาดใจ   "คุณหญิงแม่.... ไม่มีอะไรหรอกครับผมกำลัง ทำอาหารไปให้ท่านชายที่สนามหญ้าข้างสระน้ำครับ" สะใภ้ใหญ่กล่าวด้วยสีหน้างุนงงเล็กน้อยกับพฤติกรรมที่เปลี่ยนไปของคุณหญิงแม่ของเขา   "อ้าวเหรอจ๊ะ เดี๋ยวแม่ช่วยยกกับข้าวไปให้ท่านชายด้วยคนได้ไหม แม่เห็นข้าวปั้นเหนื่อยมามากแล้ว แม่อยากช่วยลูกบ้าง คงไม่รังเกียจแม่นะ"   "ได้สิครับผมจะรังเกียจคุณหญิงแม่ได้ยังไงครับ คุณหญิงแม่เป็นถึงแม่ของท่านชายพีนะครับ" สะใภ้ใหญ่เกิดความเห็นใจคุณหญิงแม่ของเธอก่อนจะส่งจานเปล่า 2 ใบให้คุณหญิงแม่เป็นผู้ถือออกไปที่สระน้ำข้างบ้าน   "คุณหญิงแม่ช่วยผมถือจาน 2 ใบนี้ก็ได้ครับจะได้ไม่หนักมากส่วนผมจะถือกับข้าวพร้อมข้าวสวยออกไปเองครับ"   "ได้จ้า แม่ต้องขอบใจสะใภ้ใหญ่ของแม่มากๆนะที่เข้าใจแม่และยอมรับการปรับปรุงตัวเองของแม่ แม่เข้าใจอะไรขึ้นเยอะแล้วจ้าว่าลูกสะใภ้ของแม่ทุกคนต่างมีความหวังดี และช่วยตาพีทำงานด้วยความขยันขันแข็งกัน ที่ผ่านมาแม่เข้าใจผิดว่าลูกๆอยากได้มรดกเท่านั้นเลยทำให้แม่คิดไม่ดีและขัดขวางความรักของลูกๆตลอด แม่ขอโทษลูกด้วยนะจ๊ะ ที่ก่อปัญหาให้ลูกๆไม่เว้นวัน" คุณหญิงราตรีกล่าวพลางรับจานจากลูกสะใภ้ใหญ่ทั้งน้ำตาอาบแก้มเป็นทาง เสียงสะอื้นของหล่อนดังเป็นระยะ   "คุณหญิงแม่ร้องไห้ทำไมครับเรื่องแค่นี้เอง พวกผมเข้าใจคุณหญิงแม่ดีครับ อย่าร้องไห้เลยนะครับยิ่งคุณหญิงแม่มีน้ำตาแบบนี้ พวกผมที่เป็นเพียงลูกสะใภ้ก็ยิ่งรู้สึกแย่นะครับ" ข้าวปั้นรีบวางถาดอาหารที่เตรียมพร้อมไปบริการท่านชายพีลงบนโต๊ะทานอาหารประจำบ้านอย่างรวดเร็วแล้วเดินเข้าหาแม่ย่าที่ยังสะอื้นไห้ก่อนจะหยิบผ้าเช็ดหน้าในกระเป๋ากางเกงขึ้นมาเช็ดน้ำตาให้คุณหญิงแม่อย่างคนรู้สึกสงสาร   "ขอบใจนะที่เช็ดน้ำตาให้แม่แต่น้ำตาที่แม่เสียไปครั้งนี้ มันแสดงออกถึงความรู้สึกผิดของแม่ที่สำนึกในความดีของลูกๆทั้ง 7 คนที่มีต่อตาพีของแม่...ฮืออๆๆ..." น้ำตาของหล่อนยังรินไหลไม่ยอมหยุดด้วยความเสียใจ   จากเหตุการณ์นั้นทำให้แม่ย่ากับลูกสะใภ้ได้พูดคุยปลอบโยนซึ่งกันและกันอยู่สักครู่หนึ่ง ได้มี 1 ในสะใภ้ที่อยู่กับท่านชายพีด้านนอกเดินเข้าพบเหตุการณ์นั้นพอดี   "คุณหญิงแม่ พี่ข้าวปั้น!!??? มันเกิดอะไรขึ้นเหรอครับ?"   "อ๋ออ..เปล่าหรอกซี คือคุณหญิงแม่ท่านเข้ามาช่วยพี่ยกอาหารไปให้ท่านชายน่ะ แต่เราสองคนคุยอะไรกันนิดหน่อย ท่านชายให้ซีเข้ามาตามเหรอ?" สะใภ้ใหญ่เอ่ยถามน้อง 4 อย่างเป็นปกติแต่เธอจะรู้ไหมว่า คนตรงหน้าเธอกำลังเกิดความสับสนในใจกับสิ่งที่เกิดขึ้นระหว่างคนสองคนที่เคยขัดแย้งกันมาตลอดเวลาก่อนหน้านั้น พอมาวันนี้คนทั้งคู่กลับสนทนากันอย่างคนไม่เคยมีเรื่องกันมาก่อน   "หนูซีเป็นอะไรหรือเปล่าลูก? ทำไมมองแม่กับพี่ใหญ่แบบนั้นจ๊ะ" ไม่มีสัญญาณตอบรับจากลูกสะใภ้คนที่ 4 ของหล่อน   "ซี!... เป็นอะไรหรือเปล่า คงแปลกใจเรื่องพี่กับคุณหญิงแม่ใช่ไหม?..." ข้าวปั้นเดินเข้าไปตบบ่าคนตรงหน้าเบาๆเพื่อเรียกสติแล้วก็ได้ผล ซีทำหน้าตาเลิกลั่กก่อนจะเปลี่ยนเรื่องเพื่อดึงสติของเธอให้กลับมาเต็มร้อย   "เอ้อออ!!.... ผมว่ารีบยกอาหารไปให้ท่านชายก่อนเถอะครับ ท่านคงหิวมากแล้วครับส่วนเรื่องนั้นค่อยคุยกันก็ได้ครับ..." ซีกล่าวจบพลันรีบช่วยคุณหญิงแม่และสะใภ้ใหญ่ยกถาดใส่แก้วน้ำดื่มไปยังสระน้ำข้างบ้าน ด้วยความงุนงงไม่หาย ทันทีที่อาหารพร้อมเครื่องดื่มถูกยกมาบริการยังบริเวณโต๊ะทรงกลมสีขาวด้านข้างสระน้ำ เสียงหวานๆของคุณหญิงราตรีก็ดังขึ้นเพื่อดึงความสนใจจากบุตรชายและสะใภ้ของหล่อนเจื้อยแจ้ว   "อาหารและเครื่องดื่มมาแล้วจ้าทุกคน ขึ้นจากน้ำมาทานอาหารร้อนๆและเครื่องดื่มเย็นๆชื่นใจก่อนจ้า ตาพีรอนานไหมลูก แม่ขอโทษนะลูก มัวชวนหนูปั้นคุยเล่นกันอยู่น่ะจ้ะเลยมาเสิร์ฟข้าวลูกช้า" เมื่อท่านชายได้ยินเสียงที่คุ้นเคยจึงรีบหันไปมองทางต้นเสียงก่อนจะรีบลุกขึ้นไปหาผู้เป็นมารดาอย่างไว   "คุณหญิงแม่!!.. ไม่น่าลำบากยกมาให้ผมเลยนะครับเดี๋ยวก็หกล้มไป มาครับผมช่วยยก ทำไมคุณหญิงแม่ไม่ให้เด็กๆในบ้านช่วยข้าวปั้นยกมาล่ะครับ..." สีหน้าท่านชายบ่งบอกถึงความไม่สบายใจกับสิ่งที่เกิดขึ้นก่อนจะมองหาเด็กสาวรับใช้ภายในบ้านที่อยู่บริเวณสระน้ำนั้นจนกระทั่งสายตาของเขาไปพบกับหญิงรับใช้วัยกลางคนกำลังนั่งอยู่ด้านข้างประตูทางเข้าด้านข้างพอดีจึงเรียกเสียงเข้ม   "ใครอยู่ตรงนั้นน่ะมานี่สิ!!..." เสียงแห่งอำนาจถูกเปล่งออกมาส่งผลให้หญิงรับใช้คนนั้นถึงกับสะดุ้งพร้อมทั้งรีบวิ่งแล้วคลานเข้าหาเขาด้วยสีหน้าหวาดกลัวเพราะคงรู้ชะตากรรมตนเอง หากท่านชายได้กริ้ว   "ท่านชายมีอะไรให้อิฉันรับใช้คะ?..." หญิงรับใช้กล่าวพลางมีเม็ดเหงื่อผุดขึ้นตามใบหน้าและเกิดอาการตัวสั่นเพราะกำลังกลัวคนตรงหน้าหล่อน   "ไม่น่าถามนะว่ามีอะไรให้ช่วยไหม ป้าปล่อยให้คุณหญิงแม่ยกอาหารมาให้ผมได้ยังไง มันไม่ใช่หน้าที่ของป้าหรือยังไง...ห้ะ!!??" หล่อนสะดุ้งโหยงพลางยกมือขึ้นไหว้ และเสียงนั้นได้สร้างความหวาดกลัวให้กับทุกคนถ้วนหน้าเพราะน้อยครั้งมากท่านชายจะมีอารมณ์เกรี้ยวกราดขนาดนี้   "อิฉันขอกราบขอโทษท่านชายและคุณหญิงค่ะที่บกพร่องต่อหน้าที่ ต่อไปอิฉันจะกำชับเด็กๆในคฤหาสน์ทุกคนเรื่องหน้าที่ที่ควรกระทำค่ะจะไม่ให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นอีกแล้วค่ะท่านชาย คุณหญิงและคุณๆทุกคน...ฮืออๆๆ..." หญิงรับใช้พูดทั้งน้ำตากับความผิดของตนพลางจะก้มกราบแทบเท้าท่านชายเพื่อแสดงถึงการขอโทษ   "เดี๋ยวหยุดก่อน!.. หล่อนไม่ต้องทำแบบนั้นหรอกนะ ตาพีฟังแม่ลูก... แม่เป็นคนขอเข้าไปช่วยหนูปั้นจัดเตรียมอาหารมาให้ลูกในครัวเอง อีกอย่างแม่ก็เห็นว่ามีเด็กๆหลายคนอยู่บริเวณห้องครัวแต่แม่ไม่ได้ขอให้พวกเขาเข้ามาช่วยแม่ยกของมาให้ลูก เลยทำให้ลูกแม่เข้าใจผิด ถ้าลูกจะลงโทษพวกเขาลูกก็ต้องลงโทษแม่ด้วย พวกเขาไม่ได้ผิดอะไรนะลูก" คุณหญิงราตรีอธิบายยาวพลอยให้บรรดาลูกสะใภ้อีก 6 คนต่างมองหน้ากันไปมาด้วยความแปลกใจ   "คุณหญิงแม่!.." ท่านชายอุทานเรียกผู้เป็นมารดาอย่างแปลกใจไม่ต่างจากบรรดาภรรยา   "ป้าครับ ไม่มีอะไรแล้วไม่ต้องคิดมากนะครับ ป้ากลับไปทำงานต่อเถอะครับท่านชายเข้าใจแล้วครับ.... คุณหญิงแม่ท่านเปลี่ยนไปแล้วครับท่านชาย" ข้าวปั้นกล่าวกับหญิงรับใช้อย่างสุภาพก่อนจะหันไปชี้แจงต่อท่านชายกับเรื่องราวที่เกิดขึ้น ยิ่งคำยืนยันสะใภ้ใหญ่ของบ้านทุกคนมีอาการคล้ายกันไม่อยากจะเชื่อในสิ่งที่ได้ฟังเลยแม้แต่น้อย จึงทำให้เกิดการนินทาขึ้นระหว่างสะใภ้ด้วยกันเองมากมาย หลังจากขึ้นจากสระน้ำด้วยชุดว่ายน้ำตัวจิ๋วของแต่ละคน สร้างความตื่นตาแก่เด็กสาวรับใช้ที่ได้ยินเสียงทรงอำนาจของท่านชายพีก็ต่างกรูกันมาดูเหตุการณ์ดุเดือดที่เกิดขึ้นเมื่อสักครู่นี้ละลานตา แต่แล้วความสุขกับการได้ยลโฉมเรือนร่างของสะใภ้คุณหญิงต้องสิ้นสุดลงเพราะถูกสายตาทรงอำนาจของคุณหญิงราตรีที่แอบลูกๆจิกตาใส่พวกเขาจนแทนจะหลบกลับเข้าไปในบ้านกันแทบไม่ทัน ระหว่างที่ทุกคนกำลังเอร็ดอร่อยกับอาหารและเครื่องดื่มอย่างมีความสุข กลับมีใครคนหนึ่งมองและส่งรอยยิ้มหวานๆที่เคลือบความอำมหิตไว้ไปทางกลุ่มคนด้านหน้าอย่างสุขใจกว่ามาก แต่เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งหมดได้อยู่ในสายตาของใครอีกคนหนึ่งที่กำลังมองทุกคนอยู่ด้านบนคฤหาสน์หลังใหญ่พร้อมทั้งมีอาการส่ายหัวต่อการกระทำของใครคนนั้นอยู่เป็นระยะ    
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD