ฉันวิ่งลงมาจากห้องทำงานของพ่อเลี้ยง ก็มาถึงภายในห้องพักด้านล่างของฉันด้วยสีหน้าตื่นตระหนก โดยที่ฉันเปิดตู้เสื้อผ้าและเก็บข้าวของที่จำเป็นใส่กระเป๋าอย่างเร่งรีบ ก่อนจะได้ยินเสียงของป้ารำพึง เอ่ยดังขึ้นมา
“ไอติม เกิดอะไรขึ้น แล้วนี่หลานจะเก็บเสื้อผ้าไปไหน”
รำพึง เอ่ยถามขึ้นด้วยความตกใจ เมื่อเห็นท่าทางของหลานสาวที่กำลังเดินเก็บข้าวของยัดใส่กระเป๋าอย่างร้อนรน
“พ่อเลี้ยงจะข่มขืนหนูป้ารำพึง หนูเลยใช้รูปปั้นทุบหัวจนพ่อเลี้ยงสลบไป หนูอยู่ที่นี่ไม่ได้แล้วจ้ะป้า” ฉันมองหน้าของป้ารำพึง ก่อนจะพูดตอบด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ อย่างหวาดกลัวอิทธิพลของพ่อเลี้ยงสุชาติ ที่เคยได้รับรู้มาและ ถ้าฉันอยู่ที่นี่ต่อไป ฉันคงไม่รอดแน่ ๆ
“งั้นหลานรีบเก็บของที่จำเป็นพอ ก่อนที่คนในบ้านจะรู้ตัวแล้วแห่กันมาจับหลานไปให้พ่อเลี้ยง”
รำพึงที่ได้ยินก็เข้าใจในทันที จึงเดินไปเปิดลิ้นชักหยิบของมีค่าที่เธอเก็บสะสมไว้ทั้งหมดรวมทั้งเอกสารสำคัญของไอติม ออกมายัดใส่กระเป๋าของหลานสาวในทันที
“แล้วป้ารำพึงล่ะ ไม่ไปกับหนูเหรอคะ เราสองคนอยู่ที่นี่ไม่ได้แล้วนะ”
“ป้าไม่เป็นไร ป้ามีแม่เลี้ยงผกา คอยช่วยเหลืออยู่ เดี๋ยวป้าจะไปขอร้องให้ลุงสมพรช่วยพาหลานออกไปจากที่นี่เอง”
“แต่ป้ารำพึงคะ....”
ฉันที่กำลังจะพูดแย้งอย่างไม่เห็นด้วยแต่ทว่า ป้ารำพึงก็รีบก้าวเดินออกจากห้องไปอย่างรวดเร็ว โดยที่ฉันไม่มีเวลาคิดทบทวนอะไรมากจึงรีบเก็บข้าวของมีค่าที่จำเป็นเท่านั้นยัดใส่กระเป๋าอย่างรวดเร็ว ก่อนจะก้าวออกจากห้องไปยังประตูเล็กหลังบ้านในทันที
“ไอติม รีบไปขึ้นรถเร็ว ลุงสมพรให้หลานชายแกเอารถจอดรออยู่ข้างรั้วบ้านแล้ว”
รำพึงเอ่ยขึ้นและคว้าหยิบกระเป๋าเสื้อผ้าของไอติม ยื่นส่งให้หลานชายของลุงสมพรที่ยืนรออยู่ข้างรั้วกำแพงใหญ่
“ป้ารำพึงดูแลตัวเองด้วยนะคะ ไว้หนูลงตัวทุกอย่างที่กรุงเทพแล้วจะรีบกลับมารับป้าไปอยู่ด้วยกัน”
ฉันพูดขึ้นพร้อมสวมกอดป้ารำพึงอย่างอาลัยอาวรณ์ และกำลังจะก้าวเดินไปขึ้นรถก็ต้องหยุดชะงักเมื่อได้ยินเสียงที่คุ้นหูเอ่ยแทรกดังขึ้นมา
“พวกเธอทำอะไรกัน” นุกูล เอ่ยถามขึ้นด้วยความแปลกใจเมื่อเขาบังเอิญเดินผ่านมาเห็นกลุ่มคนกำลังยืนมุงและมีท่าทีแปลกๆ จนเขาอดที่จะสงสัยขึ้นมาไม่ได้
“พี่นุกูล คือพ่อเลี้ยงใช้ให้ฉันไปซื้อยาให้น่ะ “ฉันได้สติก่อนทุกคนที่กำลังยืนนิ่งตื่นตะลึง ฉันจึงรีบพูดตอบพี่นุกูลด้วยรอยยิ้มพร้อมกับเดินเข้าไปใกล้ในทันที
“ยาอะไร?”
นุกูล เอ่ยถามขึ้นอีกครั้ง อย่างจับผิดแต่ก็ต้องหยุดชะงักเล็กน้อยเมื่อไอติมยื่นหน้าสวยๆ ของเธอเข้ามาใกล้ ทำให้เขาเผลอก้มมองหน้าอกใหญ่ๆตรงหน้าอย่างลืมตัว ก่อนจะได้ยินน้ำเสียงออดอ้อนของเธอ จนหัวใจเขาเต้นแรงขึ้นมาในทันที
“หนูพูดได้เหรอคะ พี่นุขา”
“ไอติม ลองบอกพี่มาสิ ว่าหนูจะไปไหน”
“พ่อเลี้ยงใช้ให้หนูไปซื้อไวอากร้าค่ะ พี่นุกูล อย่าไปบอกใครนะ พ่อเลี้ยงเขาอายน่ะที่นกเขาของเขาไม่ขัน”
ฉันโน้มใบหน้าเข้าไปใกล้พี่นุกูล พร้อมกับแสร้งกระซิบเบาๆอย่างออดอ้อนที่ข้างหูของลูกน้องพ่อเลี้ยงสุชาติ ที่มีสันดานไม่ต่างกันกับเจ้านาย
“พี่เข้าใจแล้ว หนูติมรีบไปรีบกลับล่ะ แล้วก็ช่วยแวะซื้อถุงยางมาให้พี่ด้วยสิ เผื่อว่าพี่จะเอาไว้ใช้กับหนูติมบ้าง และที่สำคัญ นกเขาของพี่ไม่ต้องพึ่งยาเลยนะ” นุกูล พูดตอบอย่างรับรู้ ก่อนจะเอ่ยขึ้นด้วยสีหน้าและแววตาเป็นประกายอย่างสื่อความหมายให้กับเด็กสาวตรงหน้า
“ได้สิคะพี่นุกูล งั้นติมไปก่อนนะคะป้ารำพึง” ฉันเอ่ยตอบและขยิบสายตาให้พี่นุกูลอย่างเย้ายวน พร้อมหันหน้าไปสบตากับป้ารำพึงที่พยักหน้าอย่างรับรู้ ก่อนจะรีบเดินไปขึ้นรถที่จอดรอ อย่างรวดเร็ว
“ป้าก็รีบไปพักผ่อนล่ะ คืนนี้ป้าคงต้องนอนคนเดียวแล้วล่ะ เพราะหลานสาวคนสวยของป้าอาจจะต้องนอนอยู่กับผมทั้งคืน หึหึ”
นุกูล หันไปพูดกับป้ารำพึงและหัวเราะออกมาอย่างอารมณ์ดี ก่อนจะเดินกลับเข้ามาภายในบ้านใหญ่ แล้วขึ้นไปยังห้องทำงานของพ่อเลี้ยง เพื่ออยากรู้ว่าพ่อเลี้ยงจะเคร่งเครียดขนาดไหนที่นกเขาไม่ขัน ต่อหน้าสาวน้อยไอติมแบบนั้น
เขามาหยุดอยู่หน้าห้องและเคาะประตูเรียกอยู่นาน ก็ไม่ได้ยินเสียงตอบรับจากด้านใน ทำให้เขาถือวิสาสะเปิดประตูและเดินเข้าไปด้านในห้องทำงานอย่างรวดเร็ว แต่แล้วนุกูลก็ต้องถึงกับตื่นตกใจ เมื่อเห็นพ่อเลี้ยงนอนแน่นิ่งอยู่บนพื้น ในสภาพที่ชุดคลุมอาบน้ำแยกออกจากกันจนเห็นร่างเปลือยเปล่า โดยศีรษะด้านข้างมีแผลลึกและเลือดไหลออกมา เขาจึงรีบเข้าไปประคองตัวและเอ่ยเรียกพ่อเลี้ยงในทันที
“พ่อเลี้ยง พ่อเลี้ยง พ่อเลี้ยงครับ!!”
“อ่า นุกูล” พ่อเลี้ยงสุชาติ รู้สึกตัวลืมตาตื่นขึ้นมาแล้วยกมือกุมที่หัวของตัวเอง ด้วยความเจ็บปวดและมึนงงไปชั่วขณะ
“เกิดอะไรขึ้นครับ ทำไมพ่อเลี้ยงถึงได้มานอนแก้ผ้าแบบนี้ และหัวพ่อเลี้ยงไปโดนอะไรมาครับ” นุกูลเอ่ยถามขึ้นด้วยความแปลกใจ เพราะคิดว่าพ่อเลี้ยงอาจจะเป็นลมแล้วล้มลง ก่อนจะชะงักเมื่อได้ยินเสียงของพ่อเลี้ยงพูดดังขึ้นมา
“อีติมมันอยู่ไหน! อีเด็กเวรนี่มันทำร้ายกู..” พ่อเลี้ยงสุชาติที่ได้สติ กลับมาก็รีบเค้นเสียงถามถึงเด็กแสบนั่นออกมาด้วยความโกรธเคืองในทันที
“ไอติมบอกผมว่า พ่อเลี้ยงให้เธอออกไปซื้อยาไวอากร้าที่ร้านค้า ผมก็เลย...” นุกูล พูดตอบและจ้องมองหน้าของพ่อเลี้ยงด้วยความตกใจ ก่อนที่เขาจะถูกพ่อเลี้ยงยกมือฟาดลงที่หัวของเขาอย่างแรง พร้อมกับเสียงตวาดดังลั่นห้อง
“ไอ้โง่! อีเด็กนั่นมัน ตีกบาลกูแตกขนาดนี้ กูจะให้มันไปซื้อยาได้ยังไง"
“ก็ผมไม่รู้นิครับ พ่อเลี้ยง”
“มึงเกณฑ์คนมาทั้งหมดเลยนะ แล้วไปตามลากตัวอีติมมาให้กูเดี๋ยวนี้ ถ้าตามตัวมันกลับมาไม่ได้ พวกมึงก็ไม่ต้องกลับมา แม่งทำกูเจ็บขนาดนี้ วันนี้กูต้องได้มันมาเป็นเมียกูให้ได้ อีเด็กแสบ!!” พ่อเลี้ยงสุชาติ เอ่ยสั่งเสียงเข้มอย่างคับแค้นใจ ที่ตัวเองเสียรู้และพลาดท่าให้นังเด็กเมื่อวานซืนหลอกจนเจ็บตัวแบบนี้
“ได้ครับพ่อเลี้ยง ผมจะไปเดี๋ยวนี้”
นุกูลรีบพูดขานรับ พร้อมกับรีบออกจากห้องทำงานเพื่อไปตามจับไอติมอย่างร้อนรน แม้จะเจ็บใจที่ตัวของเขาเองก็ยังโดนไอติมหลอกเหมือนกัน ก่อนที่เขาจะยกมือขึ้นมาขยี้หัวและด่าตัวเองในใจเบาๆ
“ไอ้นุเอ๊ย!โดนเด็กหลอกเต็มๆเพราะมัวแต่จ้องนมกูจะฉิบหาย