#สนามบินจังหวัด
“ขอบคุณพี่อ่ำมากๆ ที่มาส่งติมและติมฝากพี่ช่วยดูแลป้ารำพึงแทนติมด้วยนะคะ”
ฉันหันไปเอ่ยกับพี่อ่ำ หลานชายของลุงสมพรด้วยน้ำตาคลอเบ้าหลังจากที่รถเลี้ยวเข้ามาจอดยังสนามบินเล็กๆ ของจังหวัด
“เรื่องป้ารำพึง ไอติมไม่ต้องห่วงหรอก ยังไงก็ยังมีคุณนายผกา ภรรยาของพ่อเลี้ยง คอยปกป้องป้าแกอยู่ ตอนนี้พี่ว่า ไอติมรีบไปเถอะ ก่อนที่คนของพ่อเลี้ยงจะตามมาทัน” อ่ำพูดตอบเด็กสาวที่เขาแสนเอ็นดูและเห็นเป็นน้องสาวคนหนึ่งด้วยแววตาเต็มไปด้วยความเป็นห่วง หลังจากที่เขาได้สอบถามเรื่องราวที่เกิดขึ้นทำให้เขารู้ดีว่าพ่อเลี้ยงจะต้องส่งคนมาตามล่าไอติมอย่างแน่นอน
“งั้นติมไปก่อนนะคะพี่” ฉันพูดขึ้นและยกมือไหว้พี่อ่ำอีกครั้ง ก่อนจะหยิบหมวกแก๊ปขึ้นมาสวมใส่และเปิดประตูลงจากรถทันที เมื่อรถของพี่อ่ำขับออกไปจากสนามบินแล้ว ฉันจึงหยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดโทรหาเพื่อนสนิทของฉันและรอสายไม่นานก็ได้ยินเสียงหวานของเพื่อนพูดตอบกลับมาจากปลายสายทันที
(ว่าไงเพื่อนเลิฟ!!)
“ยี่หวา มึงช่วยจองตั๋วเครื่องบิน ไฟล์ทที่เร็วที่สุดไปกรุงเทพให้กูได้ไหม ตอนนี้กูอยู่ที่สนามบิน แล้ว” ฉันพูดขึ้นและมองซ้ายขวาและด้านหลังอย่างระมัดระวังตัว
(เกิดอะไรขึ้น!!) ยี่หวา ร้องถามออกมาด้วยความตกใจ
“ไว้กูค่อยเล่าให้มึงฟังนะ กูส่งรูปบัตรประชาชนกูให้มึงในข้อความแล้ว มึงช่วยกูที”
(เออๆ เดี๋ยวกูรีบจัดการให้ ถ้าได้ไฟล์ทบินแล้ว กูส่งไปบอกนะมึง)
“ขอบใจมาก”
ฉันพูดตอบกลับเพื่อนและรีบกดวางสาย พร้อมกับมองไปยังรอบๆ บริเวณสนามบินที่มีผู้คนและนักท่องเที่ยวค่อนข้างบางตาอีกครั้ง ก่อนจะหันหน้ากลับมามองทางประตูทางเข้าด้านใน ก็ต้องชนกับคนที่เดินอยู่ด้านหน้าอย่างแรง จนเอกสารของคนนั้นปลิวตกลงมาที่พื้นอย่างไม่ตั้งใจ
พลั๊ก!…
“อ๊ะ!!ขอโทษค่ะพี่ หนูไม่ทันได้มอง พี่เจ็บตรงไหนหรือเปล่าคะ”
ฉันพูดขึ้นพร้อมกับก้มลงเก็บเอกสารที่ตกลงบนพื้นอย่างรวดเร็ว ก่อนจะรีบยื่นส่งให้กับพี่ผู้ชายตรงหน้าอย่างรู้สึกผิดในทันที แต่เมื่อฉันเงยหน้าขึ้นมา ก็ต้องถึงกับตื่นตะลึง และหัวใจเต้นแรงระรัวขึ้นมาในทันที
เมื่อได้สบตากับนัยน์ตาสีฟ้าที่เต็มไปด้วยความเย็นชา บวกกับความหล่อเหลาของคนตรงหน้าที่โคตรหล่อแบบตะโกน ซึ่งฉันเกิดมา ไม่เคยเจอใครหล่อแตกแตนได้มากขนาดนี้มาก่อน ก่อนจะสะดุ้งเล็กน้อยเมื่อได้ยินเสียงเข้มๆ พูดกลับมา
“หลีกไป...” ดีเซล เอ่ยขึ้นอย่างหงุดหงิด ก่อนจะเอื้อมมือไปหยิบเอกสารจากมือของผู้หญิงตรงหน้า เพื่อจะรีบเดินเข้าไปด้านใน แต่เขาก็ต้องแปลกใจ เพราะเธอไม่ยอมปล่อยมือจากเอกสารของเขาสักที ทำให้เขาต้องพูดขึ้นอีกครั้งพร้อมกับก้มมองผู้หญิงคนนั้นหมายจะเอาเรื่องทันที
“ปล่อยเอกสารสิ...”
แต่เมื่อเขาได้สบตากับดวงตากลมโต ใบหน้าจิ้มลิ้มราวกับตุ๊กตาของผู้หญิงตรงหน้าที่กำลังจ้องมองเขานิ่งราวกับตกอยู่ในภวังค์ ก็ทำเอาทุกอย่างรอบ ๆ ตัวเขาหยุดเคลื่อนไหวในทันที พร้อมกับหัวใจของเขาที่ดันเต้นแรงผิดจังหวะขึ้นมา จนตัวเขาเองก็อดสงสัยไม่ได้ ว่านี่มันเกิดอะไรขึ้นกับเขากันแน่ ก่อนที่เขาจะได้สติอีกครั้ง เมื่อได้ยินเสียงหวานของผู้หญิงตรงหน้าพูดดัง
“เอ่อ…นี่ค่ะเอกสาร หนูขอโทษพี่อีกครั้งนะคะ”ฉันพูดขึ้นและรีบปล่อยมือจากเอกสาร ก่อนจะส่งยิ้มหวานให้กับพี่ผู้ชายตรงหน้าอย่างเคอะเขิน ที่ตัวเองเผลอเคลิ้มไปกับความหล่ออย่างลืมตัว พร้อมกับโทรศัพท์ในมือของฉันที่สั่นแจ้งเตือนข้อความของยี่หวา ทำให้ฉันรีบเดินเลี่ยงเข้าไปด้านใน แต่ก็ไม่วายหันหลังกลับไปมองผู้ชายคนนั้นอีกครั้ง และพูดกับตัวเองในใจเบาๆ
“กินอะไรเข้าไปนะ ถึงได้หล่อโฮกขนาดนี้”
ดีเซลที่หยุดยืนนิ่งจ้องมองแผ่นหลังของเด็กน้อยคนนั้นเดินจากไปจนลับสายตา ด้วยความรู้สึกเสียดายขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก ก่อนจะได้ยินเสียงของไอ้โชค ลูกน้องคนสนิทของเขา เอ่ยดังขึ้นมาเบาๆ
“นายครับ เดินเข้าไปรอผมทางด้านในก่อนนะครับ ผมขอไปเคลียร์เรื่องตั๋วสักครู่เพราะไอ้คม มันจองตั๋วให้นายน่าจะผิดพลาด” โชค พูดขึ้นอย่างกล้าๆกลัวๆและคิดว่าคงจะถูกนายด่าแน่ๆแต่เขาก็ต้องแปลกใจ เมื่อได้ยินคำตอบจากนายของเขา
“ไม่เป็นไร กูนั่งได้ เข้าไปด้านในเถอะ” ดีเซลพูดตอบและเดินมายังด้านในสนามบินด้วยท่าทางเรียบเฉยเพราะเขามีธุระด่วนบางอย่างที่ต้องไปจัดการไม่อยากเสียเวลา
“กูไม่โดนนายตบกบาล แสดงว่าวันนี้แต้มบุญมึงหมดแล้วไอ้โชค!” โชค บ่นพึมพำออกมาก่อนรีบก้าวเดินตามนายของเขาเข้าไปด้านในสนามบินอย่างรวดเร็ว
#เคาน์เตอร์เช็กอิน
“ขอโทษนะคะ เสร็จหรือยังคะ พอดีฉันรู้สึกปวดท้องอยากจะเข้าห้องน้ำมากๆเลยต้องขอโทษด้วยที่เร่งแบบนี้”
ฉันพูดถามเจ้าหน้าที่ด้วยท่าทางร้อนรนพร้อมกับแอบหันไปมองแถวประตูทางเข้าสนามบินอย่างวิตกกังวล เพราะป่านนี้พ่อเลี้ยงสุชาติคงน่าจะรู้สึกตัวตื่นและคงสั่งให้ลูกน้องออกตามตัวฉันแล้วแน่ ๆ ฉันจึงหยิบแมสจากกระเป๋าขึ้นมาสวมใส่เพื่อปิดบังใบหน้าของตัวเอง
ก่อนจะได้ยินเสียงของพี่พนักงานเอ่ยดังขึ้นมาเบาๆ
“เรียบร้อยแล้วค่ะ ขออภัยที่ล่าช้านะคะ”
“ขอบคุณมากนะคะ” ฉันยิ้มตอบกลับและรับตั๋วเครื่องบิน ก่อนจะรีบเดินออกจากหน้าเคาน์เตอร์เช็กอิน เข้าไปยังด้านในโซนผู้โดยสารเพื่อรอขึ้นเครื่องอย่างเร่งรีบในทันที
ดีเซล เดินเข้าแถวเพื่อเช็กอินเหมือนผู้โดยสารทั่วไป แต่ทว่า ก็ได้ยินเสียงหวานที่สะดุดหู ทำให้เขาหันไปมองทางหน้าเคาน์เตอร์ด้านข้าง ก็เห็นเด็กสาวผมยาวคนนั้นกำลังยืนท่าทางลุกลี้ลุกลนแปลกๆ จนเขาอดที่จะเผลอจ้องมองเธอ ด้วยความสนใจอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ก่อนจะได้ยินเสียงของลูกน้องพูดดังขึ้นมาอีกครั้ง
“นายครับ ถึงคิวแล้ว เรารีบไปเช็กอินแล้วเข้าด้านในกันเถอะครับ” โชค เอ่ยขึ้นมาเบาๆ เมื่อเห็นผู้เป็นนายกำลังยืนจ้องมองผู้หญิงคนหนึ่งอย่างเงียบๆ
“อืม”
ดีเซล ขานรับในลำคอเบาๆและจึงรีบเดินไปเช็กอินหน้าเคาน์เตอร์แต่ก็ยังคง หันกลับไปมองทางที่ผู้หญิงคนนั้นเดินหายเข้าไปด้านในโซนผู้โดยสาร ด้วยแววตาเต็มไปด้วยความเสียดายเล็กน้อย ก่อนจะหันกลับมารับตั๋วเครื่องบิน และเดินเข้าไปด้านในโซนผู้โดยสารเพื่อรอขึ้นเครื่องเช่นกัน