ตอนที่ 5

1263 Words
ฉันตัดสินใจเดินตามพี่ผู้ชายสุดหล่อคนนั้น มายังด้านในบริเวณที่มีผู้คนบางตา ก่อนจะมานั่งลงตรงเก้าอี้แถวยาว ด้วยท่าทางหวาดระแวงเล็กน้อย พร้อมกับได้ยินเสียงเข้มดุของพี่สุดหล่อที่นั่งตรงข้ามกับฉันเอ่ยถามออกมาเบาๆ “เธอชื่ออะไร” ดีเซล เอ่ยถามและเริ่มกวาดสายตาวิเคราะห์เด็กสาวตรงหน้าในใจอย่างเงียบๆ “น้ำแข็งค่ะ หนูชื่อน้ำแข็ง” ฉันพูดตอบชื่อไปอย่างมั่วๆ แล้วรีบก้มหน้าลง ไม่กล้าสบตามองดวงตาสีฟ้าอันแสนเย็นชาคู่นั้น ที่จ้องมองฉันอย่างไม่ละสายตา “อายุล่ะ” ดีเซล พูดถามขึ้นด้วยน้ำเสียงราบเรียบอีกครั้ง “สิบเก้าแล้วค่ะ เอ่อคือ พี่ไม่พาหนูไปนั่งเครื่องบินเหรอคะ ใกล้จะได้เวลาเครื่องออกแล้วนะคะ” ฉันพูดถามขึ้นด้วยแววตาเต็มไปด้วยความสงสัยและก้มมองตั๋วเครื่องบินในมือที่ระบุหมายเลขเที่ยวบินและเวลาเครื่องออก หลังจากได้ยินเสียงประกาศจากเจ้าหน้าที่สนามบินดังขึ้นมา “ดีเซล” “คะ?” “ฉันชื่อดีเซล” ดีเซล พูดย้ำชื่อตัวเองอีกครั้ง โดยไม่สนใจท่าทางลุกลี้ลุกลนของเด็กน้อยตรงหน้า ก่อนจะจ้องมองใบหน้าหวานที่ดูจิ้มลิ้ม น่ารักรวมทั้ง ดวงตากลมโตใสแป๋ว แต่แฝงไปด้วยความเจ้าเล่ห์บางอย่างที่เขารู้สึกได้ “อ๋อค่ะ แล้วพี่ดีเซลเราไม่ไป…” ฉันกำลังจะเอ่ยถามคำถามเดิมขึ้นมาอีกครั้งแต่ก็ถูกเสียงเข้มดุของพี่ดีเซลเอ่ยแทรกขึ้นมาในทันที “รอคนของฉัน” “ค่ะ รอคนของพี่ค่ะ” ฉันพูดทวนคำพูดของพี่ดีเซลและพยักหน้าหงึกๆอย่างเข้าใจ ก่อนจะก้มหน้าลงและหุบปากของตัวเองให้เงียบลงในทันที แต่ทว่าภายในใจของฉันกับบ่นอุบอิบขึ้นมาคนเดียวอย่างหมั่นไส้คนตรงหน้าอย่างแรง “ชิ แค่นี้ต้องทำเป็นขรึม เป็นเข้มไปได้ นึกว่าเป็นพรีเซนเตอร์เมล็ดกาแฟเสียอีก” “เธอแอบด่าฉัน?” ดีเซล พูดถามขึ้นและจ้องมองเด็กตรงหน้าด้วยใบหน้าเรียบเฉย “เปล่านะคะ หนูยังไม่ได้พูดด่าอะไรออกมาให้พี่ได้ยินสักหน่อย ขี้ตู่ชะมัด” ฉันพูดปฏิเสธอย่างเลิ่กลั่กก่อนที่จะรู้สึกตัวว่า ตัวเองหลุดพูดอะไรออกไป ฉันก็รีบก้มหน้าลงในทันที เพื่อผ่อนคลายความกดดันที่พี่ดีเซลเอาแต่นั่งจ้องมองฉันนิ่งราวกับคนจับผิด ดีเซลถึงกับยกยิ้มและหัวเราะในลำคอออกมาเบาๆ อย่างชอบใจกับคำตอบของเด็กตรงหน้าที่แสดงว่า คงด่าอะไรเขาอยู่ภายในใจอย่างแน่นอน ก่อนจะพูดเอ่ยถามเสียงเข้มขึ้นมาอีกครั้ง “แล้วเธอ จะไปทำอะไรที่กรุงเทพ” “ไปเรียนค่ะ หนูสอบติดมหาลัยในกรุงเทพ แล้วกำลังจะย้ายเข้าหอพัก แต่ก็ดันมีเรื่องวันนี้เสียก่อน” “ไปอยู่กับแฟน?” ดีเซล พูดถามและจ้องมองใบหน้าจิ้มลิ้มอีกครั้งด้วยแววตาเต็มไปด้วยความวูบไหวเล็กน้อย “มะ ไม่มี หนูยังไม่มีแฟนเลยค่ะ” ฉันเอ่ยตอบและก้มหน้าลงอย่างเคอะเขินเมื่อถูกพี่ดีเซลถามคำถามที่จี้ใจดำฉันขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก เพราะถึงฉันจะ ดูหวีดผู้ชายหล่อ แต่ก็ไม่เคยคบใครหรือรู้สึกดีกับใครเลยสักคน แถมยังไม่เจอคนที่ทำให้หัวใจเต้นแรง นอกจากคนตรงหน้าฉันนี่แหละที่หล่อมากเกินไป “งั้นเหรอ ส่งโทรศัพท์ของเธอมาสิ” ดีเซลพูดขึ้นพร้อมกับแอบยกยิ้มขึ้นมาเล็กน้อยอย่างพึงพอใจ “พี่ดีเซล จะเอาไปทำอะไรเหรอคะ” ฉันพูดตอบและมองหน้าพี่ดีเซลเต็มไปด้วยความสงสัย แล้ววินาทีต่อมา ฉันก็ต้องถึงกับแอบลอบกลืนน้ำลายลงแทบจะทันที เมื่อจู่ๆ พี่ดีเซลก็โน้มใบหน้าอันแสนหล่อเหลาเข้ามาใกล้ฉัน พร้อมกับเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงเย็นเฉียบราวกับน้ำแข็ง ฉันรู้สึกร้อนๆหนาวๆขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก “แล้วหมาตัวไหน มันบอกว่าจะยอมทำตามฉันทุกอย่าง หากฉันช่วย” ดีเซลขยับตัวเอง แล้วยื่นหน้าเข้าไปใกล้พร้อมเอ่ยขึ้นด้วยสายตาเต็มไปด้วยคำถาม “หนูบอกเองค่ะ ไม่ใช่หมา พี่ดีเซลเอาไปเลยรหัสปลดล็อก สามหกสองสี่สามห้าค่ะ” ฉันพูดขึ้นและยื่นโทรศัพท์ของตัวเองส่งให้พี่ดีเซลและบอกรหัสปลดล็อกที่ฉันตั้งตามสัดส่วนของตัวเองอย่างเก็บอาการหงุดหงิด ก่อนจะก่นด่าผู้ชายตรงหน้าในใจอย่างเงียบๆอีกครั้ง “ถ้าใครจะเป็นหมาก็ต้องเป็นพี่นั่นแหละเหมาะสมที่สุด ผู้ชายอะไรหล่อแบบสูบๆแต่สกิลปากหมาทองคำชัดๆ” “ต่อจากนี้ไป เธอต้องรับสายฉัน พักอยู่ไหนก็ต้องส่งโลเคชั่นมาบอกฉัน จะไปเรียนหรือไปไหนก็ต้องคอยรายงานฉันตลอดอย่าให้พลาดสักวัน” ดีเซล พูดตอบด้วยสีหน้าและแววตาราวกับจริงจังเป็นอย่างมาก แต่ทว่า ภายในใจเขาก็แค่อยากรู้ว่าเด็กน้อยตรงหน้า กำลังทำอะไร อยู่ที่ไหนกับใคร มากกว่า พร้อมกับยื่นโทรศัพท์คืนให้กับเด็กน้อยตรงหน้าหลังจากที่เขาเมมชื่อตัวเองและได้เบอร์โทรเรียบร้อยแล้ว “ทำไมหนูต้องทำถึงขนาดนั้นด้วยล่ะคะ…” “เพราะตอนนี้ เธอเป็นของฉันแล้วยังไงล่ะ น้ำแข็ง” ดีเซลพูดขึ้นและสบตามองดวงตากลมโตอีกครั้ง ก่อนจะแอบยกยิ้มขึ้นมาเล็กน้อยอย่างพึงพอใจ เมื่อเห็นเด็กน้อยตรงหน้าเชื่อฟังอย่างว่าง่าย “อ๋อเข้าใจแล้ว น้ำแข็งเป็นของพี่ดีเซลค่ะ” ฉันพยักหน้ารับอย่างเข้าใจและใช้นิ้วกลางไขว้กับนิ้วชี้ อุบอิ๊บเรื่องชื่อที่ตัวเองพูดโกหกไว้ พร้อมกับเอ่ยย้ำชื่อ กับพี่ดีเซลอีกครั้งว่าคนชื่อ น้ำแข็ง เป็นของเขา ส่วนฉันชื่อ ไอติม ก็จะเป็นตัวของตัวเองตลอดไป ระหว่างนั้นเราทั้งสองคนก็นั่งนิ่งเงียบอย่างไม่พูดอะไรจนฉันเผลอหลับไปตอนไหนก็ไม่รู้ก่อนจะรู้สึกตัวตื่นขึ้นมา เมื่อได้ยินเสียงพูดของพี่ดีเซลที่กำลังถือโทรศัพท์ไว้แนบหู และเห็นคนของพี่เขาเดินกลับมาพร้อมกับคนกลุ่มหนึ่งที่โค้งคำนับและแสดงความเคารพพี่ดีเซลเป็นอย่างมาก ภาพนั้นทำเอาฉันรู้สึกแปลกใจขึ้นมาในทันทีกับท่าทางที่ชินตาแต่ดูยิ่งใหญ่กว่าพ่อเลี้ยงสุชาติเป็นสิบเท่า จนฉันถึงกับพึมพำคนเดียวในใจอย่างครุ่นคิด”นี่คงไม่ใช่ว่า ฉันหนีเสือปะจระเข้หรอกนะ” “นายครับ เครื่องบินส่วนตัว พร้อมบินแล้วครับ” โชค พูดขึ้นพร้อมกับโค้งคำนับให้กับผู้เป็นนายของเขาอย่างนอบน้อมในทันที หลังจากที่เขาได้ติดต่อประสานงานกับคนของเขาและเจ้าหน้าที่ภายในสนามบินรวมทั้งไอ้คม ที่เก็บกวาดงานให้นายเสร็จเรียบร้อยก็เดินทางมาเตรียมตัวที่สนามบินแล้วเช่นกัน ฉันรีบขยับลุกขึ้นยืน เมื่อได้ยินเสียงคนของพี่ดีเซลเอ่ยรายงานกับพี่เขา แต่ฉันก็ต้องถึงกับชะงักตัวแข็งทื่อ และหัวใจสั่นกลัวขึ้นมาในทันที ที่ได้ยินเสียงอันคุ้นเคย ตะโกนดังขึ้นมาจากทางด้านหลัง “ไอติม นั่นมึงใช่ไหม!!”
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD