ตอนที่3-2เลิกกันเถอะ

1303 Words
หญิงสาวเดินเล่นระหว่างรอเวลาระหว่างเขาทำธุระจะเสร็จธุระมาหาเธอที่ห้างก็คงเวลาพอดีกัน ด้วยการเลือกซื้อของไปพลางๆ จนเวลาล่วงเลยมาจนเกือบหกโมงครึ่ง รัญลฎาที่เริ่มรู้สึกหนาวๆร้อนๆมาตั้งแต่เช้า มีอาการมึนศีรษะเล็กน้อย จึงมานั่งรออยู่ที่ร้านกาแฟแบรนด์ดัง ทำไมพี่เขาถึงไม่รับสายนะ....คิ้วสวยขมวดมุ่นด้วยความแปลกใจ เมื่อเธอเพียรโทรหาเขาหลายสาย แล้วยังส่งข้อความไปถามหาว่าเขาถึงไหนแล้ว เพราะเธอเริ่มหิวข้าวแล้วแต่เขาก็ไม่อ่านข้อความและไม่รับสาย จนถึงเวลาทุ่มสิบห้านาทีที่พนักงานของโรงภาพยนตร์เริ่มเปิดให้คนเข้าไปด้านใน ร่างเล็กเดินวนไปวนมา ชะเง้อคอคอยหาคนที่นัดดูหนังกับเธอไว้ หมายเลขที่ท่านเรียกไม่สามารถติดต่อได้ขณะนี้ หยดน้ำตาไหลรินอาบแก้มเมื่อเวลาล่วงเลยมาจนถึงสามทุ่มครึ่ง เขาก็ยังเงียบหายติดต่อไม่ได้ แถมอากาศโดยรอบก็เย็นจัดจนเริ่มห่อตัวกอดอกตัวเอง สูดลมหายใจเข้าปอดลึกยาว เขาทิ้งให้เธอรอแบบนี้อีกแล้ว...สุดท้ายเธอจึงตัดสินใจหอบร่างกายตัวเองที่บอบช้ำทั้งภายในจิตใจและร่างกาย กลับคอนโดของตนเองแทนคอนโดของเขาในเวลาเกือบห้าทุ่ม ฝืนทนเก็บกวาดทำความสะอาดห้องที่ไม่ได้กลับมานอนหลายเดือนด้วยสภาพอิดโรยอ่อนแรง แต่ก็กัดฟันทำจนเสร็จเรียบร้อย หญิงสาวทรุดตัวลงนั่งพิงพนังห้องครัวอย่างหมดแรง ปากแห้ง ตาโหย ความปวดเริ่มแผ่ซ่านกัดกินศีรษะหล่ออย่างจะกรุมตะกราม ร้าวไปถึงกระบอกตา ลมหายใจร้อนผาวจนรู้สึกได้ เสียงโทรศัพท์เครื่องหรูของตนเองที่ใครบางคนซื้อให้เมื่อหลายเดือนก่อนแผดเสียงดังขึ้น หญิงสาวปรือตาขึ้นมองก่อนจะคืบคลานตัวเองไปหยิบโทรศัพท์ที่วางทิ้งไว้บนโต๊ะขึ้นมาดู เชฟพอร์ช เธอมองชื่อที่ปรากฏบนหน้าจอนิ่ง หยดน้ำตาไหลรินอาบแก้ม หลายครั้งหลายคราที่เธอถูกเขาทิ้งไว้ ไม่สนใจใยดี ราวกับเธอเป็นคนโง่ไร้หัวใจ ที่เขานึกอยากจะทำอะไรเธอก็ย่อมทำได้ เพราะเธอไม่มีฤทธิ์หรือพิษสงสินะเป็นของตายในสายตาของเขา ที่นึกจะปล่อยทิ้งให้รอก็ไม่คิดที่จะสนใจว่าเธอจะรอเขานานแค่ไหน ไม่คิดที่โทรมาหาหรือส่งข้อความมาบอก ครั้งนี้เธอคงพอแล้ว มันเหนื่อยมากแล้วกับการถูกเขาทิ้งขว้างเช่นนี้ เธอปล่อยให้เสียงเรียกเข้าดังอยู่เช่นนั้นโดยไม่คิดจะกดรับ พร้อมกับหัวใจที่บอบช้ำร่ำร้องแต่คำว่าพอแล้ว...เธอควรพอได้แล้วรัญลฎา ร่างเล็กฝืนตัวเองลุกไปอาบน้ำ ทานยาลดไข้เพราะรู้ว่าตัวเองกำลังไม่สบายก่อนจะล้มตัวลงนอน พยายามใจแข็งไม่สนใจโทรศัพท์ที่มีทั้งเสียงข้อความและเสียงโทรศัพท์ดังขึ้นเป็นระยะ เพราะรู้ว่าอีกไม่นานเขาก็ล้มเลิกและไม่สนใจเธอเหมือนเช่นทุกครั้ง และต้องเป็นเธอที่ต้องเป็นฝ่ายยอมอ่อน ง้อเขาเองราวกับคนโง่เขลา หญิงสาวหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดูอีกครั้งหลังจากนอนพลิกไปพลิกมา ห้าสายสำหรับสายที่ไม่ได้รับ ปลายนิ้วเรียวสั่นเทาเล็กน้อย กดเข้าไปในห้องแชทที่พิมพ์คุยกับเขาล่าสุด คือเธอส่งข้อความหาเขาว่าจะมาหาเธอกี่โมง หยดน้ำตาไหลรินอาบน้ำแก้ม ‘พี่พอร์ช...เราเลิกกันเถอะค่ะ’ กดส่งไปแล้ว หัวใจเธอก็สั่นหวิว ครั้งนี้เธออยากตัดใจจริงๆ ตลอดหลายปีที่คบหากันมา เป็นหล่อนคนเดียวที่คอยวิ่งไล่ตาม เขาบอกอะไร พูดอะไรเธอเชื่อทุกคำ เชื่อแบบไม่มีเงื่อนไข ราวกับคนโง่ เป็นเพียงเพราะโลกทั้งใบของเธอมีแต่เขามาโดยตลอด เธอไม่มีใคร ไม่มีญาติพี่น้องที่ไหน น้องจากเพื่อนสนิทสองคน เธอก็มีคนนี่ล่ะ คนเดียวที่เธอยึดเหนี่ยวเป็นที่พึ่งของหัวใจเธอ เธอรู้จักกับเขา เพราะเขาเป็นลูกชายของเจ้านายเก่าพ่อของเธอ สมัยที่พ่อเธอรับราชการและเลี้ยงดูเธอคนเดียวลำพัง ไม่มีญาติพี่น้องที่ไหน ครั้นเมื่อท่านเสียชีวิตเพราะโรคร้ายและเราได้เจอกันอย่างบังเอิญในวันที่เธอสูญเสีย ร้องไห้อย่างหนัก ตัวเขาเองก็มีเรื่องเสียใจ เสียศูนย์เพราะเพิ่งเลิกรากับคนรักไป ทำให้เราสองคนใช้เวลาไม่นานในการเข้าหากัน เข้าใช้ความว้าเหว่ในการเข้าครอบครองพื้นที่ในจิตใจเธอ เพียงเวลาไม่นาน เขาก็ชักชวนให้เธอมาอยู่กินกับเขา ดูแลใส่ใจในช่วงแรกที่คบหากัน ราวกับเธอเป็นคนรักของเขา เพียงแต่ไม่เคยบอกสถานะ ไม่เคยตกลงกันเป็นเรื่องราว ไม่เคยรู้จักสังคมของกันและกัน แม้กระทั่งสังคมในที่ทำงาน เขาเองก็เคยกำชับไม่ให้เธอบอกใคร เพราะไม่อยากให้มีปัญหาในระหว่างที่ทำงาน กลัวว่าจะถูกเพ็งเล็ง หึ น่าขันที่เธอก็เชื่อฟังทุกอย่าง ทุกถ้อยคำ! ไม่เคยมีสถานะแน่ชัด เป็นคนรักของเขาหรือเปล่า เธอยังไม่รู้ตัวเลยด้วยซ้ำ! ช่วงค่ำของวันอังคารเชฟหนุ่มที่เริ่มจะมีชื่อเสียงมากขึ้นจากการแนะนำของเพื่อนนักเรียนเชฟที่รู้จักกันทำให้เขาได้เป็นที่รู้จักในวงกว้าง มีหลายรายการทางโทรทัศน์ติดต่อเขาเข้ามาเพื่อให้เขาได้ไปร่วมเป็นกรรมการ หรือแม้กระทั่งให้สมัครเป็นผู้เข้าแข่งขันรายการอาหารชื่อดังของประเทศไทย แต่สิ่งนี้เขาได้ตอบปัดเพราะมันใช้เวลาที่ค่อนข้างมากและภาระผูกพันพอสมควร ถัดมาอีกวันหลังจากเขาถ่ายสัมภาษณ์รายการทางออนไลน์เสร็จเรียบร้อย เขาจึงขับรถตรงกลับมาที่คอนโดหลังจากที่ไม่ได้กลับมาเมื่อวันก่อน กอปรกับระยะหลังมานี้ที่เขาไม่ได้ใส่ใจหรือสนใจ รัญลฎามากนัก ละเลยทุกสิ่งอย่าง เพราะส่วนลึกเขายังรู้สึกสับสนในตัวเองอยู่ค่อนข้างมากพอสมควร ทำให้สองวันนี้เขากลับบ้านไปอยู่กับตัวเอง แม้จะรู้สึกผิดอยู่เล็กน้อย ที่ผิดนัดเธอในวันนั้น แต่ก็คิดเอาเองว่าเธอคงจะกลับบ้านไปนอนรอตั้งแต่ชั่วโมงแรกที่เขาผิดนัดแล้วด้วยซ้ำ เมื่อเปิดประตูห้องเข้ามา ความมืดโรยอยู่รอบตัว กับอากาศที่ค่อนข้างเหม็นอับเล็กน้อย บ่งบอกให้รู้ว่าห้องนี้ไม่ได้ถูกเปิดหรือมีคนอาศัยหลายวันแล้ว ร่างสูงก้าวขายาวๆ เดินไปเปิดไฟให้ทั่วห้อง เปิดเครื่องปรับอากาศจนเริ่มเย็นฉ่ำ พลางกวาดสายตามองรอบๆห้อง ทุกอย่างยังคงเหมือนเดิม แต่ที่เปลี่ยนไปคือข้าวของส่วนตัวของใครอีกหายไปเกือบหมด แต่ยังมีหลงเหลืออยู่บ้างประปราย คิ้วหนาขมวดมุ่น ชายหนุ่มถอนหายใจยาวด้วยความหงุดหงิด กอปรกับความเหนื่อยล้าที่สะสมมาหลายวัน ทำให้เขารู้สึกเบื่อหน่าย เดินไปนั่งทิ้งตัวลงที่โซฟากลางห้องรับแขกหยิบโทรศัพท์มากดโทรหา รอสายอยู่นานเธอก็ไม่กดรับ หล่อนไม่รับสายเขามาสามวันแล้วหลังจากวันนั้น เขาจึงโยนโทรศัพท์นั้นทิ้งอย่างไม่ใยดี พร้อมกับหลับตาลงด้วยความเบื่อหน่าย ทำแบบนี้อีกแล้วสินะ! งอนทีไร ขนของหนีกลับห้องทุกที!
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD