ตอนที่ 7-1 หรือเธอไม่กล้า

1374 Words
ตอนที่ 7 หรือเธอไม่กล้า “อยู่นี่จริงๆด้วย” ปลายน้ำเสียงติดเหวี่ยงเล็กน้อยของหญิงสาวรูปร่างผอมเพรียว ในชุดเดรสรัดรูปสีดำ ผมยาวปล่อยสบาย ฉีดน้ำหอมจนฟุ้งแสบจมูก ลุคเปรี้ยวเข็ดฟัน ดวงตากลมโตปัดมาสคาร่าจนงอนยาวหรี่มองหล่อนอย่างไม่เป็นมิตรจนรู้สึกได้ ส่วนผู้หญิงอีกคนดูแตกต่างด้วยเสื้อผ้าที่ใส่เน้นโทนสีหวานสดใส เสื้อยืดพอดีตัวสีขาวกับกางเกงขายาวสีครีม รองเท้าหนังสีขาวมีลายแบรนด์ยี่ห้อดัง จ้องมองเธอด้วยดวงตาวาววับไม่พอใจเฉกเช่นเดียวกัน “คุณมาหาใครคะ” “หาเธอนั่นล่ะ” รัญลฎาผงะกับถ้อยคำที่หลุดออกจากปากของหญิงสาวหน้าตาสวย “หาฉัน? มีธุระอะไรเหรอคะ?” หล่อนทวนคำด้วยความแปลกใจ จำไม่เคยได้ด้วยซ้ำว่าไปรู้จักผู้หญิงสองคนนี้ที่ไหนมาก่อน แต่เมื่อเพ่งสายตาดีๆ ผู้หญิงที่แลดูเปรี้ยว โฉบเฉี่ยวกว่าก็ดูคุ้นตาไม่น้อยเหมือนเคยเจอที่ไหนสักแห่งแต่ให้นึกเท่าไหร่ก็นึกไม่ออก “ทำไมเธอมาอยู่ในห้องของพี่พอร์ช” ผู้หญิงที่ดูเรียบร้อยกว่า เอ่ยถามเสียงเย็น แววตาจ้องมองบอกให้รู้ถึงความเกลียดชัง ขณะที่ถือวิสาสะเดินชนไหล่หญิงสาวที่ถือครองเป็นเจ้าของในเวลานี้ผ่านเข้ามาในห้องหน้าตาเฉย สายตากวาดมองไปทั่วห้องอย่างพินิจพิจารณา ในขณะที่อีกคนก็ทำในลักษณะคล้ายกัน เดินชนไหล่รัญลฎาจนเซ แล้วกรีดกรายเดินเข้ามาในห้องชุดสุดหรูอย่างถือวิสาสะ “ฉันกำลังคบกับเขาอยู่ พวกคุณมีอะไรหรือเปล่าคะ” เมื่ออีกฝ่ายไม่มีมารยาท เธอเองก็ไม่ควรจะไปพูดดีด้วย ตอบกลับเสียงห้วน ไม่พอใจเช่นกัน ทว่าอีกฝ่ายกับแค่นหัวเราะ สีหน้าคล้ายหยันเมื่อได้ยินคำนั้นออกจากปากของเธอ “แน่ใจเหรอ ว่าเขาคบกับเธอ...ที่ฉันได้ยินมา คือเขาบอกว่า...เขาโสดนะ...เธอเข้าใจอะไรผิดหรือเปล่า” แคทเอ่ยขึ้น มองสบตาหญิงที่อ้างตัวว่าคบหากับเพื่อนแฟนตัวเองอย่างสมเพช “แล้วพวกคุณเป็นใคร มายุ่งอะไรกับความสัมพันธ์ของฉันกับเขา” แม้จะโกรธจนตัวสั่น น้ำเสียงสั่นเครือ จนอยากจะร้องไห้แต่เธอก็เพียรกลั้นมันไว้ “หึ...เธอไม่ต้องรู้จักฉันหรอก แต่เธอควรรู้จักผู้หญิงคนนี้ไว้ก็ดีนะ...นี่มุกรดา คนรักเก่าของพี่พอร์ช แล้วก็กำลังจะกลับมาคบกันอีก รู้ไว้ด้วย...เจ้าของเขากลับมาทวงของแล้ว เธอควรรู้นะว่าต้องทำยังไง...ผู้ชายไม่เคยให้เกียรติบอกว่าคบด้วยสักนิด ยังมาลอยหน้าลอยตาบอกว่าคบกับเขาอีก หน้าด้านนะเธอ” “อย่ามาพูดจาไร้สาระที่นี่นะ...พวกคุณออกไปจากห้องฉันได้ละ” “แน่ใจเหรอว่านี่ห้องเธอ ที่ฉันจำได้ ห้องนี้เป็นห้องของพี่พอร์ช และฉันก็เคยมาที่นี่หลายครั้งแล้วด้วย เธอต่างหากล่ะ ที่ต้องเป็นคนออกไปจากห้องนี้ ไม่ใช่ฉัน” “วันนี้พวกฉันสองคนไม่ได้จะมาหาเรื่องเธอหรอกนะ...ฉันรู้ว่าเธอไม่เคยรู้เรื่องที่พี่พอร์ชจะกลับไปคบกับมุกเพื่อนฉัน วันนี้ฉันเลยต้องมาบอกเธอด้วยตัวเองไงล่ะ อย่างน้อยก็ผู้หญิงด้วยกัน เธอจะได้เตรียมตัวเตรียมใจ ย้ายออกไปจากที่นี่ซะ อย่าอยู่เป็นมือที่สามคอยขวางความรักคนอื่นอยู่เลย” “แล้วฉันจะเชื่อพวกคุณได้ยังไง ในเมื่ออยู่ๆพวกคุณก็บุกเข้ามา กล่าวอ้างลอยๆแบบเนี่ย” ย้อนถามด้วยเสียงสั่นเครือ พยายามอย่างยิ่งที่จะไม่อ่อนแอ ไม่ให้น้ำตารินไหลให้ผู้หญิงสองคนตรงหน้าเยาะเย้ยได้อีก “ไม่เชื่องั้นเหรอ หึ” มุกรดายกยิ้มมุมปาก สายตาที่มองสบคล้ายกับเยาะเย้ยให้กับความโง่เขลาของเธอ ก่อนจะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดหมายเลขโทรหาใครอีกคน พร้อมกับเปิดลำโพงให้เสียงนั้นดังได้ยินทั่วกัน ‘ว่าไงครับมุก’ “ตอนนี้พี่พอร์ชอยู่ที่ไหนเหรอคะ” ‘อยู่ที่โรงแรมครับ มีอะไรหรือเปล่า’ “ค่ำนี้เรามีนัดกันนะคะ มุกแค่มาเตือนกลัวพี่พอร์ชลืมนัดมุก” ‘หึหึ พี่ไม่ลืมหรอก ขืนลืม พวกธารามันก็บุกมาลากพี่ไปอยู่ดี’ เขาตอบอย่างอารมณ์ดีน้ำเสียงเจือหัวเราะ ยิ่งทำให้หัวใจของรัญลฎาเจ็บปวด จนแทบพูดอะไรไม่ออก ทีกับหล่อนเขากลับทำน้ำเสียงเย็นชา ไม่สบอารมณ์ทุกครั้งที่โทรหา แต่กลับผู้หญิงคนนี้เขากลับพูดจาดีอ่อนโยนราวกับมีความสุขอยู่ตลอดเวลา “โอเคค่ะ งั้นเย็นนี้เจอกันนะคะ” ‘ครับ’ หญิงสาวแสร้งหัวเราะออกมาเบาๆก่อนจะตัดบทกดวางสายทันที มุกรดาแค่นยิ้มหลังจากกวาดสายตามองสำรวจของหญิงสาวตรงหน้าขำขันจนหัวเราะออกมาเบาๆ กล่าวด้วยน้ำเสียงติดเยาะเล็กน้อย “หึ แต่งตัวสวยขนาดเนี่ย ไปไหนเหรอจ๊ะ...อย่าบอกนะว่าวันนี้เธอมีนัดกับพี่พอร์ช” หญิงสาวยืนตัวสั่นน้ำตาคลอ เมื่อครู่เธอได้ยินชัดทุกถ้อยคำ เขานัดเธอแล้วแต่ทำไมยังไปนัดรับคนอื่นอีก “ถ้าเธอคิดว่าเธอแน่นัก ลองพนันดูไหมล่ะ ว่าระหว่างเธอกับฉัน พี่พอร์ชจะเลือกใคร” มุกรดายกยิ้มอย่างคนที่คิดว่าถือไพ่เหนือกว่า เดินมาหยุดอยู่ตรงหน้ารัญลฎา แววตาท้าทายอย่างคนที่คิดว่าตนเองมีแต้มต่อในขณะที่ผู้หญิงตรงหน้าแทบไม่มีอะไรให้ต้องรู้สึกกลัวเกรงเลยสักนิด “หรือเธอไม่กล้า” แคทได้ทีรีบผสมโรง หรี่ตามองด้วยสายหยามหยัน ต้องใช้ความพยายามอย่างยิ่ง ข่มความรู้สึกตัวเองไว้ หล่อนทั้งเจ็บใจ ทั้งโกรธทั้งโมโห แต่ก็ทำได้แค่เพียงระงับความรู้สึกนั้นไว้ แววตาวาววับด้วยหยาดน้ำที่พยายามอดกลั้นอย่างสุดกำลังเพราะไม่อยากอ่อนแอให้อีกฝ่ายหัวเราะมากขึ้นไปอีก เค้นเสียงต่ำไม่ให้สั่นเครือ “คุณสองคน ออกไปจากห้องนี้ได้ล่ะค่ะ” “จ้า...จ้า พวกฉันออกเดี๋ยวนี้แหละ...เชิญเธออยู่ในห้องนี้ต่อไปเถอะนะ แต่คงอยู่ได้ไม่นานหรอก เพราะครั้งหน้าเพื่อนฉันจะมาไล่เธอออกไปเอง” แคทพูดเสียงดัง ก่อนจะหัวเราะร่วนออกมาอย่างชอบใจ เดินควงแขนเพื่อนรัก “อุ้ยลืมเลย” หญิงสาวทำเหมือนนึกอะไรขึ้นมาได้ “อะไรเหรอมุก” แคทหันหน้าเพื่อนอย่างแปลกใจ “ลืมบอกชื่อร้านน่ะ วันนี้เราจะไปดินเนอร์ใต้แสงเทียนที่ร้านอาหารของพี่พอร์ชนะ รู้ใช่ไหมว่าร้านของพี่พอร์ชอยู่ไหน...ให้ฉันส่งโลเคชั่นให้ไหมจ๊ะ จะได้ไม่ต้องงมหานานเดี๋ยวจะเสียเวลา” “บอกชื่อร้านไปก็พอมุก...นางคงรู้อยู่แล้วล่ะ ว่าร้านของพี่พอร์ช อยู่ที่ไหนก็เขาเป็นแฟนกันนี่เน๊อะ ฮ่า” ลูกผสมได้ทีเย้ยใส่อย่างคนที่คิดว่าเหนือกว่า ควงแขนพากันเดินออกจากห้องด้วยท่าทีสบายอกสบายใจ เสียงฮัมเพลงดังไล่หลังจน รัญลฎาต้องรีบปิดประตูเสียงดังลั่นกลบทุกสิ่ง ทุกความรู้สึก หล่อนยืนนิ่งอยู่ตรงนั้นเนิ่นนาน ขาทั้งสองข้างราวกับไร้เรี่ยวแรงที่จะก้าวเดินยืนหอบหายใจแรง หยดน้ำตาร่วงเผาะอาบแก้ม ร้านอาหารของพี่พอร์ชอย่างนั้นเหรอ...ทำไมเธอถึงไม่เคยรู้มาก่อน ว่าพี่เขามีร้านอาหารด้วย เขาไม่ให้เธอรู้อะไรเกี่ยวกับเขาสักอย่าง แม้กระทั่งเรื่องที่เขาทำ! เขาจะทำอะไร ที่ไหน กับใคร เขาไม่เคยบอก ไม่เคยปรึกษา หากจะเล่าก็เล่าเพียงผ่านๆไม่เคยลงรายละเอียดอะไรให้เธอรู้ แต่ผู้หญิงคนนั้นรู้ รู้ทุกอย่าง
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD