EP.8 อย่ามาเสียงแข็งใส่

1291 Words
“…ขอบคุณมากๆ เลยนะคะ ขอบคุณสำหรับทุกอย่างเลยค่ะ” คนที่เพิ่งวางแกงจืดวุ้นเส้นลงบนโต๊ะอาหารเอ่ยปากขอบคุณคนตัวโตที่นั่งรออยู่ก่อนแล้ว “เรื่อง?” “เรื่องที่พี่ช่วยใจดีกับหม่อนและครอบครัวไงคะ เมื่อก่อนนะคะ ถ้าฝนตกฟ้าร้องแบบนี้ เคยอยู่กันอย่างสงบสุขซะที่ไหน ไปทางไหนฝนก็รั่วแหละ” “ขนาดมุมไหนก็รั่วยับเยิบขนาดนั้นมนุษย์ป้ายังออกแนวขี้งกเฉยอ่ะนะ” คำพูดคำจาของคนตัวสูงทำคนตัวเล็กกว่ายิ้มกว้าง “ก็ไม่อยากจะเม้าส์อ่ะนะ แต่จะว่าใช่ก็ใช่แหละ” “อย่าบอกนะว่าโดนแบบนี้ประจำ” “ก็ถ้าจ่ายช้าป้าแกก็จะมาโวยวายประมาณนี้ แต่ทุกทีแกก็ไม่ได้ไล่ออกหรอกนะ เหมือนแค่อยากมาทะเลาะกับแม่มากกว่า เถียงจนพอใจแกก็กลับนั่นแหละ ไม่เคยทำรุนแรงอะไร” “แล้วคำว่าไม่รุนแรงของเธอมันเป็นแบบไหน แล้วไอ้การที่เขาใช้คำพูดเพื่อกระแทกแดกดันทำให้เจ็บใจนี่มันน่าหมั่นไส้ไหม” คำถามส่งผลให้คนฟังนั่งคอตกพร้อมกับกลืนน้ำลายเหนียวลงคอ นึกออกทันทีว่าความเป็นไปได้ มันน่าจะมาจากคำพูดประโยคไหน ก็คงไม่พ้นที่ป้าเจ้าของที่แซะเธอแรงจัดเรื่องที่ครอบครัวพี่เคนไม่ต้อนรับเธอ เหตุผลเพราะเธอและเขามันต่างกันนั่นแหละ “หรือเธอเป็นยัยชี ไม่เจ็บ ไม่รู้สึก” “ก็แล้วถ้ารู้สึก แล้วหน้าอย่างหม่อนจะทำอะไรเขาได้” “หลังมืออ่ะมีไว้ทำไม แค่บอกว่ามือลั่นมันก็ไม่ได้พูดยากเท่าไหร่เลยเหมือนกัน” คนฟังถึงกับห่อปาก กระพริบตาปริบๆ มองใบหน้าหล่อคมของคนเลือดเย็น “พูดไม่ยาก แต่เดินเข้าคุกก็ไม่น่าจะยากเหมือนกันนะ” “เธอนี่นะ ไม่ได้ดั่งใจเลย เธอคิดว่าไอ้การทำแค่นั้นมันจะทำให้เธอเข้าคุกเลยเหรอ” “ก็ถ้าจะไม่ได้เข้าคุก มันก็คงมีเหตุผลและวิธีเดียวนั่นแหละค่ะ” “วิธีที่ว่านี่คือ?” “จีบพี่ตำรวจให้ใจอ่อนยอมไม่จับขังไง” ตอบออกไปพลางยิ้มเก๋ แตกต่างจากสีหน้าของคนฟังโดยสิ้นเชิง “บรรลัยเถอะ ความคิดเธอโคตรบรรลัย” “พี่ไบรท์แค่ไม่รู้อะไร หน้าแบบนี้พี่ๆ ตำรวจแซวบ่อยจะตาย หม่อนแค่ยิ้มให้ครั้งเดียวเท่านั้นแหละ” “เหรอ” “ช่าย~ หน้าตาก็ไม่เท่าไหร่ แต่คุยด้วยแล้วติดใจ” “เอากระจกไหม?” “บางคนเขาก็ชอบคนที่ใจไม่ใช่หน้าตาน้า~” “กูจะบ้าตาย” ไบรอันส่ายหน้ารัวแทนคำตอบ แต่ก็เอาเถอะ เห็นเธอไม่ฟูมฟาย ไม่มีอาการจะเป็นจะตายเพราะความรักมันก็ดีแล้ว เพราะเขาไม่โอเคแน่ๆ ถ้าต้องจ้างเธอมาแล้วไม่ได้อะไรกลับคืนเหมือนแบกภาระไว้เปล่าๆ คนเราก็ต้องหวังผลประโยชน์ให้กับตัวเองด้วยกันทั้งนั้นแหละ เขาก็เหมือนกัน “…เย็นนี้เธอต้องไปทำงานพร้อมฉัน ต้องไปส่งของให้กับลูกค้า” “ได้ค่ะ ไปประมาณกี่โมงคะ” “สามทุ่ม” “แล้วกลับประมาณกี่โมงคะ” เธอเข้าใจและจำได้ว่า เวลาของเธอมันเป็นของเขาตลอดยี่สิบสี่ชั่วโมง แต่เธอต้องการรู้เพื่อปรับเวลาให้มันเหมาะสม “ประมาณตีสองก็เสร็จ จากนั้นอาจจะมีดื่มต่อกับเฮียๆ จะเรียบร้อยก็คงตีสี่” ใบหม่อนรับฟังพร้อมกับพยักหน้ารับ “ถ้าเธอง่วงก่อนฉันมีที่ให้เธอนอน ไม่ปล่อยให้อดหลับอดนอนหรอกน่า ไม่ได้ใจดำขนาดนั้น” “โอเคค่ะ แล้วในวันที่ต้องทำงานพี่ไบรท์ตื่นมาทานอาหารเช้ากี่โมงคะ หม่อนจะได้ลุกมาเตรียมอาหารไว้ให้ล่วงหน้า” “ไม่เป็นเวลา แต่เรื่องนั้นไม่ใช่ปัญหา ฉันรอได้ หิวก็จะบอกเอง” “ถ้าแบบนั้นก็โอเคเลยค่ะ ว่าแต่ที่บอกว่าไปส่งของ ไปส่งอะไรที่ไหนเหรอคะ” “เดี๋ยวก็รู้เองแหละ” “…ผิดกฎหมายไหม” เอ่ยถามเสียงอ่อน ทั้งกลัวว่าเขาจะโกรธและไม่พอใจ แต่เธอก็อยากรู้นี่นา ให้แบกรับความอยากรู้เอาไว้โดยไม่ถามอะไรออกไปเธอทนไม่ได้แน่ “ทำไม เธอกลัวฉันค้ายาหรือทำเรื่องผิดกฎหมายงั้นเหรอ” “ก็หม่อนไม่อยากนอนคุกนี่นา ใช้ชีวิตยังไม่คุ้มเลยนะ ไหนจะพ่อ ไหนจะแม่ ไหนจะน้อง” “ชีวิตเธอนี่มีคนให้ห่วงใยเยอะจังเลยนะ” “คนในครอบครัวนี่คะ ก็มีกันแค่นี้นี่นา แต่หม่อนก็คงแค่คิดมากไปเองแหละ พี่คงไม่ทำอะไรหรือยุ่งเกี่ยวอะไรที่มันผิดกฎหมายอยู่แล้ว เพราะถ้าพี่ทำแบบนั้นคนที่รักพี่ก็คงต้องตักเตือนอยู่แล้วแหละ ถูกต้องไหมคะ” “อะไรที่ทำให้เธอคิดแบบนั้น” “คนเราถ้ารักกันถ้าเป็นห่วงกันก็ต้องตักเตือนในสิ่งที่อีกคนทำผิดอยู่แล้ว” “เพราะโลกสวยแบบนี้หรือเปล่า ครอบครัวแฟนเธอเลยมีโอกาสเข้ามากีดกัน ทั้งที่ความเป็นจริง ถ้าผู้ชายคนนั้นมันรักเธอมากพอ มันต้องไม่แคร์สิว่าเธอจะรวยหรือจน ถ้ามันรักเธอมากพอ ต่อให้เธอเป็นขอทาน มันก็ต้องรักเธอและเอาเธออยู่ดี” “เนี่ย~ แล้วก็พูดให้เศร้า” “หึ! เศร้าเพราะโดนผู้ชายเท เศร้าเพราะมันรักเธอไม่มากพอน่ะเหรอ” “เศร้าที่เมื่อกี้เผลอเปรียบตัวเองเป็นขอทานต่างหากล่ะ” เอ่ยออกมาพร้อมกับฉีกยิ้มจนตายี๋ พอแล้วแหละ พอแล้วกับการปล่อยให้ตัวเองจมอยู่กับความเศร้าและความผิดหวังแบบนั้น เศร้าไปมันก็ไม่มีอะไรดีขึ้นมา ยอมรับความจริง อยู่ในโลกของความเป็นจริงแบบนี้ดีกว่า “เอ่อ แล้วเวลาอยู่ต่อหน้าเฮียๆ หม่อนต้องรับบทคู่หมั้นด้วยไหม” “เธอเก่งอยู่แล้วไม่ใช่เหรอ รู้จักสังเกต เดาสถานการณ์เอา อันไหนที่ทำและคิดว่ามันดีต่อฉันเธอก็ทำไปเลย” “หม่อนจัดให้ค่ะ” ขยิบตาเบาๆ ใส่คนตัวสูงกว่า ตาฝาดหรือเปล่านะที่เห็นว่าคนที่เผลอมองเธอก่อนแล้วหูแดงขึ้นมาเฉย แต่ถึงอย่างนั้นก็เถอะ เรื่องแค่นั้นมันไม่สามารถระบุอะไรได้หรอก ต่อให้เขาจะหูแดง แต่หน้าหล่อๆ ก็บึ้งตึงใส่เธออยู่ดี @เวลา 21:00 น. ไบรอันก้าวขาออกมาจากห้องนอนส่วนตัว เผลอชะงักเล็กน้อยเมื่อพบว่าคนที่นัดหมายกันไว้สามทุ่มนั่งรอเขาอยู่ก่อนแล้ว แว๊บหนึ่งที่ดวงตาคมกริบไล่มองการแต่งตัวของคนตรงหน้าตั้งแต่หัวจรดปลายเท้า “แต่งตัวอะไร” “แต่งตัวเพื่อไปทำงานไงคะ” “นี่คือชุดไปทำงาน?” “ใช่ค่ะ จะไปอวดความสดใส” “อวดใคร?” โดนถามกลับจนใบหน้าของคนฟังร้อนวูบ เลือกชุดตั้งนาน พกความมั่นใจว่าเกินร้อยแล้วแท้ๆ แต่โดนมองจนความมั่นใจหดหาย “อวด…เฮียของพี่ไบรท์มั้ง” “มันมีเมียแล้ว” “เรียกใครว่ามัน” ตกใจมาก ตอนอยู่ต่อหน้าเฮียๆ เขาพูดจาน่ารักมากเลยนี่นา “อย่ามาเสียงแข็งใส่ เดี๋ยวจะโดน” ************************ วิ่งค่ะ วิ่งๆ วิ่งไปฟ้องเฮียลันกับเฮียเลอร์ พี่ไบรท์เรียกเฮียว่ามัน งานนี้ต้องฟ้อง เอาให้หนัก 555555 พาน้องหม่อนมาอวดความสดใส อ่านแล้วคอมเมนต์ให้เนมหน่อยน้าา~ ปารีวิวให้ด้วยจะขอบพระคุณเป็นอย่างสูง อยากให้อัปบ่อยๆ คอมเมนต์ตามตัวได้เลยน้าาา~ 😜😜🥰🥰
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD