" สายตาที่เปลี่ยนไป "

1987 Words
@3 วันต่อมา "เมย.... ผมบังเอิญเจอกับเมยที่โรงอาหาร แผลที่หัวเธอยังไม่หายดี มันยังมีเลือดซึมออกมาผ่านผ้าพันแผลเล็กน้อย ที่จริงผมสังเกตเห็นตั้งแต่วันนั้นแล้ว แต่ไม่ได้เอ่ยปากถามเธอออกไป ด้วยสถานการณ์ตอนนั้นมันไม่เอื้ออำนวย "แผลที่หัวไปโดนอะไรมา ผมก้าวเท้าเข้าไปใกล้ กำลังจะยกมือขึ้นไปจับบริเวณแผลดังกล่าว แต่เมยถอยเท้าหนีออกไป ก่อนจะเดินเลี่ยงไปอีกทาง โดยไม่พูดกับผมสักคำ ไม่แม้แต่จะมองหน้ากัน ผมเลยได้แต่ถอนหายใจออกมาแล้วกำมือตัวเองไว้แทน ตั้งแต่วันนั้นวันที่เธอบอกว่าจะไม่มาวุ่นวายกับผมอีก เธอก็ไม่มาจริงๆ ไม่ปรากฏตัวให้ผมเห็นเลยสักนิด จนวันนี้ได้บังเอิญผ่านมาเจอ (มาดักรอเพราะรู้ว่าเธอมาทานข้าวที่โรงอาหารฝั่งครุศาสตร์) ผมไม่รู้แม้กระทั่งว่าสายตาของเธอเป็นยังไง ผมมองหน้าเธอตลอด แต่เธอไม่แม้แต่จะมองหน้าผม ใบหน้าที่เต็มไปด้วยรอยยิ้ม ความสดใสร่าเริงที่ผมเคยได้รับ ตอนนี้ไม่มีแม้แต่คำทักทายให้กัน ความรู้สึกผมมันเหมือนกับขาดอะไรไป เหมือนกำลังทำบางสิ่งบางอย่างหลุดมือไป และมันอาจจะไม่ได้กลับคืนมา "ทำไมถึงเจ็บที่หัวใจ...ผมเอามือขึ้นมาจับที่อกข้างซ้ายที่ตอนนี้มันรู้สึกเจ็บขึ้นมาเสียดื้อๆ @ 2 สัปดาห์ต่อมา แสงแดดอ่อนยามสายลอดผ่านกระจกเข้ามาในโรงอาหาร เสียงช้อนกระทบจานและการพูดคุยของนักศึกษายังคงคึกคักเหมือนเช่นทุกวัน แต่ท่ามกลางบรรยากาศคุ้นเคยนี้ บรรยากาศที่โต๊ะของกลุ่มคามินกลับต่างออกไป เขานั่งก้มหน้าเขี่ยข้าวในจานด้วยปลายช้อนอย่างเหม่อลอย ใบหน้าเรียบนิ่งแต่แววตากลับซ่อนความกระวนกระวายไว้ไม่มิด หัวคิ้วขมวดเล็กน้อย มุมปากตึงตลอดเวลาเหมือนกำลังคิดอะไรบางอย่าง "ไอ้มิน...มึงเป็นอะไร...ทำหน้าอย่างกับคนอกหักกำลังจะตาย.." : โรม โรมเงยหน้าจากจานข้าว ก่อนจะพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงกวน ๆ แต่แฝงความสงสัยจริงจัง "เปล่า...กูปกติดี" คามินตอบโดยไม่แม้แต่จะเงยหน้ามอง สายตายังจับจ้องไปยังทิศทางหนึ่งผ่านช่องกระจกของโรงอาหาร ห้องดนตรีที่อยู่อีกฟากของสนามหญ้า "แล้วมึงชะเง้ออะไรหนักหนา กูเห็นมึงมองไปห้องดนตรีนานแล้ว" : โรม โรมพูดพลางหันมองตามสายตาคามินด้วยความอยากรู้ "เปล่า..." เขาตอบอีกครั้ง เสียงแผ่วลงกว่าเดิมเล็กน้อย แววตาเหมือนพยายามหลบสายตาโรมแต่ก็ไม่สำเร็จ "อะไรวะ...ถามอะไรก็เปล่า...เปล่าอย่างเดียว" : โรม น้ำเสียงของโรมเริ่มมีอารมณ์หงุดหงิดปะปนอยู่เล็กน้อย ขณะเอนตัวพิงพนักเก้าอี้อย่างหมดความพยายาม บรรยากาศบนโต๊ะเงียบลงชั่วครู่ ก่อนที่โรมจะเปลี่ยนเรื่อง "นุ่น...วันนี้มึงไปดูการประกวดร้องเพลงเป็นเพื่อนกูหน่อยดิ" : โรม "ไปทำไม...ปกติไม่เห็นมึงสนใจ" : นุ่น นุ่นเอียงคอมองเพื่อนอย่างสงสัย ขณะเคี้ยวข้าวคำสุดท้ายอย่างช้า ๆ "เอ้า...ก็วันนี้น้องเมยมาร้องในพิธีเปิดด้วย กูอยากไปดูน้องเมย นะนุ่นนะ พาไปหน่อย" : โรม โรมยิ้มแป้น ดวงตาเป็นประกายเหมือนเด็กเจอขนม ถูกใจจนเผลอเอามือผลักแขนนุ่นเบา ๆ อย่างอ้อน ๆ "กูไปด้วย!" เสียงของคามินดังแทรกขึ้นกะทันหัน ทำเอาโรมกับนุ่นที่กำลังหัวเราะกันเบา ๆ หันหน้ามาหาเขาพร้อมกันอย่างตกตะลึง ทั้งคู่ชะงักไปหนึ่งวินาที ก่อนสบตากันเหมือนถามว่า “ใช่หูฉันไม่ได้ฝาดใช่ไหม?” "มึงจะไป ?" : โรม "อืม...แปลกตรงไหน..." คามินตอบพลางยกแก้วน้ำขึ้นดื่ม หน้านิ่งแต่คิ้วยังคงไม่คลายออกจากกัน "แปลก!" : นุ่น/โรมพูดออกมาพร้อมกัน ทั้งคู่ตอบสวนทันควัน เสียงดังจนโต๊ะข้าง ๆ หันมามองเล็กน้อย @ ลานกิจกรรม ลมเย็นยามบ่ายพัดพาใบไม้แห้งปลิวตามพื้น ทางเดินถูกปูด้วยพรมแดงไปสู่เวทีใหญ่ที่ถูกตกแต่งด้วยผ้าแพรสีทองขาวหรูหรา เก้าอี้ถูกจัดเรียงอย่างเป็นระเบียบ เบื้องหน้าเวทีมีนักศึกษาเริ่มจับจองที่นั่งกันมากขึ้น เสียงซ้อมดนตรีเบา ๆ ดังมาจากหลังเวที "ไอ้มินมึงไปนั่งตรงโน้น...กูจะนั่งตรงนี้...อยากเห็นน้องเมยชัด ๆ" : โรม โรมพูดพลางรีบเดินนำไปยังแถวกลางของเก้าอี้ที่มองเห็นเวทีชัดเจนที่สุด "นั่งไหนก็เหมือนกัน..." คามินพึมพำขณะเดินแยกไปอีกทาง ก่อนจะหย่อนตัวนั่งลงอย่างมั่นคงที่แถวหน้าเกือบสุด ดวงตาเขามองตรงไปยังเวทีนิ่ง ๆ สีหน้าเหมือนพยายามสงบ แต่หัวใจกลับเต้นเร็วอย่างควบคุมไม่ได้ คามินนั่งเก้าอี้บริเวณด้านหน้าที่สามารถมองเห็นหน้าเวทีได้อย่างชัดเจน "เอ้า...ไอ้นี้ มาแย่งที่กูเฉยเลย" : โรม โรมโวยวายขณะเดินมานั่งข้าง ๆ อย่างจำใจ ส่ายหัวกับท่าทางนิ่ง ๆ ของเพื่อนที่วันนี้ดูจะแปลกกว่าทุกวัน คามินไม่ได้ตอบกลับ แค่ยกมือขึ้นกอดอกสายตามองตรงไปยังเวทีราวกับว่า...มีใครบางคนที่เขาเฝ้ารอให้ปรากฏตัวอยู่ตรงนั้น @การแสดงเริ่มขึ้น "ต่อไปเป็นการแสดงพิเศษ จากน้องเมย วิศวะปี 1 ของเรา ขอมอบเวทีนี้ให้กับน้องเมยครับ "เสียงปรบมือดังสนั่น พร้อมด้วยเสียงร้องกรี๊ดกร๊าดไม่ขาด "สวัสดีค่ะพี่ๆทุกคน..เพลงที่เมยจะมอบให้ในวันนี้ เมยขอส่งให้เป็นกำลังใจกับคนที่รู้สึกผิดหวังกับความรัก หรือกำลังสับสนกับมันอยู่ ขอให้ทุกอย่างผ่านพ้นไปด้วยดีนะคะ" เมยร้องเพลงไปเรื่อยๆ ก่อนจะถึงท่อนหนึ่ง ที่ทำเอาหัวใจของคามินกระตุกวูบ เหมือนกับว่ามันกำลังเกิดขึ้นกับตัวเขา เขาทำแบบนั้นกับเธอใช่ไหม.. เขาจ้องมองเมยอยู่แบบนั้น แต่คนตัวเล็กไม่แม้แต่จะหันมามองที่เขาเลยแม้แต่น้อย มันเจ็บดี..กับพฤติกรรมที่เธอแสดงออกมา เสียงดนตรีจากเวทีเริ่มซาลง ผู้คนบางตาแล้วหลังจบกิจกรรม แต่ท่ามกลางความวุ่นวายของลานกิจกรรม ยังมีเสียงพูดคุยจอแจจากกลุ่มนักศึกษาชายที่ยืนรวมกลุ่มอยู่ไม่ไกลจากคามิน พวกเขาเอียงหน้าหัวเราะหยอกล้อกันอย่างออกรส ดวงตาหลายคู่ต่างจับจ้องไปยังร่างเล็กในชุดนักศึกษาหญิงที่เพิ่งเดินกลับลงมาจากเวทีด้วยท่าทีเรียบร้อยและแววตาเหนื่อยล้าเล็กน้อย "ขอบคุณค่า" เสียงใสของเมยดังขึ้นขณะเธอรับคำชมจากนักศึกษาที่เดินผ่าน เธอฝืนยิ้มน้อย ๆ ให้ตามมารยาท แม้ในแววตานั้นจะฉายแววเศร้าหม่นอย่างเห็นได้ชัด "อื้อน้องเมยของกู..ทำไมดูเศร้า ๆ ว่ะ" "นั่นดิ...ใครทำอะไรน้องหรือเปล่า" "แบบนี้ต้องหาทางเข้าไปปลอบโยนให้หายเศร้าแล้ว" "สวยน่ารักขนาดนี้..แม่ง..ถ้าได้คบกูจะถนุถนอมให้ดีเลย" เสียงพูดคุยปนล้อเล่นของชายหนุ่มเหล่านั้นยังคงดังต่อเนื่อง โดยไม่รู้เลยว่า มีใครบางคนที่ยืนห่างออกมาเพียงไม่กี่ก้าว กำลังยืนนิ่ง ใบหน้าหล่อคมเคร่งเครียดขึ้นเรื่อย ๆ คามินกำมือแน่น หัวใจพลุ่งพล่าน สายตาคมวาวมองไปที่เมยอย่างคุมอารมณ์ไม่อยู่ เสียงหัวเราะของพวกนั้นทำให้เขาอยากจะเข้าไปกระชากเสื้อสักคนสองคนเต็มที ‘มีสิทธิ์อะไรมาพูดถึงเมยแบบนั้นวะ’ ความรู้สึกข้างในเขากำลังปั่นป่วน เพราะรู้ตัวดี...เมยไม่ใช่ผู้หญิงที่ใครควรเข้ามายุ่งง่าย ๆ และที่สำคัญที่สุด...ไม่ใช่ของใครหน้าไหนทั้งนั้น เพราะเธอเคยเป็นของเขา ถึงจะไม่ได้เอ่ยปากขอคบ แต่หัวใจของเธอ...ก็เคยอยู่กับเขา คามินเม้มปากแน่น สูดลมหายใจเข้าอย่างพยายามสงบสติอารมณ์ ก่อนจะตัดสินใจหมุนตัวเดินแยกออกจากจุดนั้นทันที เขาเดินฉับ ๆ มารอหน้าห้องน้ำหญิง เสียงเท้าหนักและจังหวะหายใจของเขาเหมือนคนที่กำลังตัดสินใจครั้งสำคัญ มือหนึ่งถือช่อดอกกุหลาบสีแดงสดที่จัดไว้อย่างเรียบง่ายแต่สวยงาม หัวใจเต้นแรงจนแทบระเบิดออกมา กลีบดอกกุหลาบเหมือนจะร้อนผ่าวจากฝ่ามืออุ่น ๆ ที่กำแน่นด้วยความประหม่า กลิ่นหอมอ่อน ๆ ของดอกไม้ลอยฟุ้งชวนให้นึกถึงคำพูดที่ยังไม่ได้เอ่ยออกไป ในที่สุดเมยก็เดินออกมาจากห้องน้ำ ท่าทางของเธอดูเหนื่อยล้าและอ่อนแรงจากการฝืนยิ้มทั้งวัน เธอแทบไม่เห็นเขาจนกระทั่งเดินเข้าใกล้มากพอ ทางเดินแคบเกินกว่าจะหลีกกันได้ เธอชะงักไปชั่วขณะเมื่อเห็นเขายืนอยู่ตรงหน้า คามินสบตาเธอทันที ร่างสูงตรงหน้ายื่นดอกไม้ไปข้างหน้า พร้อมน้ำเสียงแผ่วเบาที่ฟังดูจริงใจยิ่งกว่าครั้งไหน ๆ "เมย...ร้องเพลงเพราะมาก.." พี่ "เอาดอกไม้มาให้เพื่อเป็นกำลังใจ" "......" เมยเบือนหน้าหนีไปทางอื่นอย่างชัดเจน ริมฝีปากเม้มแน่นไม่มีคำใดหลุดออกมา แววตานิ่งเฉย และไร้เยื่อใยจนน่าใจหาย เธอไม่แม้แต่จะเหลือบตามองดอกไม้ในมือเขาด้วยซ้ำ คามินนิ่งไปครู่หนึ่ง มือที่ยื่นออกมาเริ่มสั่นเล็กน้อย แต่เขายังคงถือไว้โดยไม่ลดท่าที "เออ...งั้นเดี๋ยวซัมเมอร์รับไว้ให้นะคะ" เสียงของเพื่อนสาวของเมยดังขึ้น พร้อมกับยื่นมือมาหยิบช่อดอกไม้ไปแทนเมื่อเห็นว่าบรรยากาศเริ่มตึงเครียด และเมยไม่มีท่าทีจะตอบรับเลยแม้แต่น้อย คามินมองมือของซัมเมอร์ที่รับดอกไม้ไป ก่อนหลีกทางให้เมยเดินผ่านด้วยหัวใจที่หนักอึ้ง เธอเดินผ่านเขาไปเงียบ ๆ เหมือนเขาไม่เคยมีตัวตน ราวกับว่าเขาเป็นเพียงเงาลาง ๆ ที่ลอยผ่านเข้ามาในชีวิตแล้วจางหายไป ไม่มีแม้แต่คำทักหรือรอยยิ้ม สิ่งที่เขาเคยได้รับมาอย่างน้อยที่สุดในอดีต เขายืนอยู่ตรงนั้น สองเท้าเหมือนฝังรากแน่นกับพื้น หัวใจว่างเปล่าจนน่ากลัว ความรู้สึกผิด ความเสียใจ และคำถามในหัวพรั่งพรูไปหมด "เฮ้อ.........เอาไงดีวะกู.." เสียงถอนหายใจหนักหน่วงหลุดออกมาจากปากชายหนุ่มอย่างหมดแรง คามินก้มมองพื้น เหมือนอยากจะกลืนหายลงไปจากตรงนี้... Rrrrrrrrrr 📞📱📱📱📞 Rrrrrrrrr "📞 ว่า..? "📞 เธอนั่งแท็กซี่กลับระหว่างทางเกิดอุบัติเหตุรถชนเสาไฟฟ้า สาเหตุเกิดจากคนขับเมาครับนาย "📞 อืม.... ผมถอนหายใจยาวๆออกมาพร้อมกับหลับตาลงช้าๆ ถ้าวันนั้นไม่ปล่อยให้เธอกลับเองคงไม่เกิดเหตุการณ์แบบนี้ แถมเธอโทรหาผมอยู่หลายสาย แต่ผมดันไม่สนใจเธอเลยแม้แต่น้อย..เพราะมัวแต่ปลอบโยนเบลล์..ที่ร้องไห้อย่างหนัก.. ขอบคุณที่เธอไม่เป็นอะไรมาก เพราะผมเธอถึงได้เจ็บตัวแบบนี้...ผมได้แต่โทษตัวเองซ้ำไปซ้ำมาอยู่แบบนั้น "กูทำอะไรลงไปว่ะเนี้ย... มันโคตรทรมานกับความรู้สึกที่เป็นอยู่ จะเรียกว่าสายตาเย็นชาก็คงไม่ใช่ เพราะเธอไม่แม้แต่จะมองหน้าผม ... ยิ่งคิดเห็นใบหน้าท่าทางที่เฉยเมยนั้น ยิ่งหน่วงหัวใจมากขึ้นทุกที
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD