ตอนนี้วรรษากำลังยืนมองประตูไม้บานใหญ่ที่แกะสลักเป็นลวดลายอันสวยงามด้วยความรู้สึกหนักใจ
เธอเม้มริมฝีปากแน่น ขณะที่มือก็ทำท่ายึกยักอยู่นานหลายนาทีแล้ว ด้วยเจ้าตัวกำลังชั่งใจว่าจะเคาะประตูดีหรือไม่ แต่แล้วเมื่อเหลียวไปมองด้านหลัง ก็เห็นเฟรดเดอริกพ่อบ้านของตระกูลธอร์นตันยืนอยู่ พร้อมส่งสายตาคล้ายกับจะบอกให้เธอเริ่มทำงานได้เสียทีก็ทำให้หญิงสาวลอบถอนใจยาว แล้วตัดสินใจเคาะประตูไม้เบื้องหน้าทันที
ก๊อก...ก๊อก...ก๊อก
และราวกับว่าคนที่อยู่อีกด้านของประตูจะรอคอยการมาของเธอนานแล้วกระมัง เพราะดูเหมือนจะยังไม่ทันสิ้นเสียงเคาะดี ประตูบานใหญ่ก็เปิดกว้างออกทันที
“เชิญ” พร้อมกันนั้นเจ้าของห้องซึ่งทำตัวผิดแผกด้วยการลุกมาเปิดประตูให้สาวใช้ก็ออกปากเชื้อเชิญให้เธอก้าวเข้าไป แล้ววรรษาจะทำอย่างไรได้นอกจากทำตามที่เขาบอกด้วยการค่อยๆ ก้าวเข้าไปข้างในห้องนั้นช้าๆเพื่อเริ่มหน้าที่ของเธอเสียที
หน้าที่ของสาวใช้ประจำตัวนิโคลัส ธอร์นตัน!
หญิงสาวมองชายหนุ่มตรงหน้าซึ่งร่างสูงใหญ่นั้นมีเพียงเสื้อคลุมสีขาวซึ่งปกปิดร่างกายอย่างหมิ่นเหม่ด้วยสายรัดที่ถูกผูกอย่างหลวมๆ เผยให้เห็นแผงอกกว้างขาวจัดด้วยสายตาราวกับจะจับผิดทำให้เจ้านายโดยตรงของเธอสังเกตเห็นมันได้กระมัง ชายหนุ่มจึงส่งรอยยิ้มอันเจิดจ้าราวกับเทวทูตซึ่งกำลังลงมาโปรด เหล่ามวลมนุษย์อย่างเธอ รอยยิ้มที่ดูคลับคล้ายจะเป็นยิ้มอันแสนจะเมตตาและอ่อนโยน...
แต่ให้ตายสิ! เธอเกลียดรอยยิ้มของเขาที่สุดเลย!
ก็เขายิ้มแบบนี้ทุกครั้งในเวลาที่เขากำลังแกล้งเธอ ครั้งแรกเธอก็ลังเล ไม่คิดว่ามันจะเป็นไปได้...แต่เมื่อยังโดนอีกหลายๆ ครั้งก็ทำให้เธอรับรู้ได้ในที่สุด
คนอย่างนิโคลัส ธอร์นตันเป็นประเภทหน้าตาย...ไม่ใช่ว่าเขาทำหน้าตาเฉยชา แต่เขาสามารถยิ้มหัวเราะอย่างใสซื่อ และตีหน้าตายเหมือนกับว่าไม่ได้ทำ คนอย่างเขานี่มัน...จิ้งจอกพันหน้าชัดๆ!
“เฮ้อ...”
คราวนี้วรรษาถอนใจยาวและไม่คิดจะปิดบังด้วย เมื่อนิโคลัสเริ่มยิ้มกว้างมากขึ้น แถมยังกอดอกแล้วอิงสะโพกกับขอบโต๊ะเครื่องแป้งแล้วจ้องมองเธอตรงๆเสียด้วย
และที่ทำให้เธอกลุ้มใจมากที่สุดก็คือการที่เขาตื่นขึ้นมาเองโดยที่ไม่มีเธอไปลากเขาลงมาจากเตียง!
ฝนเอ๋ย...คิดผิดแล้วนั่นแหละที่อยากจะทำงานให้เขา แทนที่จะรับข้อเสนอเป็นแขก ได้อยู่สบายๆ ไม่ต้องมาทนลำบากแบบนี้
หญิงสาวคร่ำครวญในใจ ก่อนจะก้มหน้าลงแล้วเริ่มปฏิบัติหน้าที่...ซึ่งเธอเริ่มทำ...นับได้นี่ก็เป็นวันที่สี่แล้ว! คิดแล้วก็อยากจะร่ำไห้ ทำไมผู้ชายใจดีของเธอคนนั้นถึงได้กลายมาเป็นจิ้งจอกเจ้าเล่ห์อย่างตอนนี้ได้นะ?!
ไม่เข้าใจเลยจริงๆ
ย้อนกลับไปเมื่อสามวันก่อน
06.00 น.
วรรษาคลี่ยิ้มออกมาเมื่อเธอเหลือบตามองนาฬิกาเป็นครั้งที่สามแล้วพบว่าถึงเวลาที่อยู่ในข้อตกลงของการทำงานพอดี หลังจากที่เมื่อวานนี้จากการโต้เถียงอันยาวนานกินเวลาเกือบๆ สามชั่วโมงก็ได้ข้อสรุประหว่างการอยู่ที่นี่ ของเธอกับผู้ชายใจดีที่ตอนนี้เขาเปลี่ยนสถานะมาเป็นเจ้านายคนใหม่เรียบร้อยแล้ว
หญิงสาวค่อยๆ ปิดประตูห้องพักของตนเองลง ตอนนี้เธออยู่ในชุด สีน้ำเงินเข้มคาดเอวด้วยผ้ากันเปื้อนสีขาว มันชุดของ 'เมด' ประจำคฤหาสน์ ธอร์นตันที่เมื่อคิดว่าตนเองต้องสวมใส่วรรษาก็อดรู้สึกขำไม่ได้ ก็นี่มันไม่ต่างจาก ชุดของสาวใช้ในการ์ตูนญี่ปุ่นตาหวานที่เธอเคยอ่านสมัยยังเรียนมัธยมที่เมืองไทยเลยนี่นา
เมื่อออกจากห้องของตนเองแล้วหญิงสาวก็เหลียวมองไปทางขวามือตนเอง ประตูของห้องบานถัดไปที่ปิดสนิท นั่นคือสถานที่ทำงานอันแท้จริงของเธอ...ในฐานะสาวใช้ประจำตัวเจ้าของคฤหาสน์หลังนี้
คิดมาถึงตรงนี้แล้วเธอก็ออกจะไม่ชอบใจนัก ที่ดูเหมือนว่าตนเองจะชนะเพราะสิ่งที่เสนอส่วนใหญ่นั้นได้รับการตอบสนอง แต่ไอ้ห้องที่พักอยู่นั้นดันไม่ใช่ห้องพักของคนใช้โดยแท้จริง เขาทำเหมือนว่าแค่ตามใจเธอเพื่อหาอะไรทำเล่นๆสนุกๆ แค่นั้นเอง ก็ดูทีรึจะมีสาวใช้บรรดาศักดิ์สักกี่คนกันได้มีห้องพักส่วนตัวอยู่ข้างๆ ห้องเจ้าของบ้าน
คิดมาถึงตรงนี้แล้วก็ออกจะขัดใจ แต่เธอก็ไม่สามารถทำอะไรได้นอกจากยอมในสิ่งที่เขาเสนอ
เพราะถึงอย่างไรสิ่งสำคัญที่สุดสำหรับเธอในตอนนี้คือการที่ต้องอยู่ที่นี่ให้ได้
...อย่างน้อยเธอก็จะได้มีที่ซ่อนตัวไม่ให้ 'เขา' ตามหาเธอพบ
และสถานที่แห่งนี้ก็เหมาะสมอย่างที่สุดเพราะ 'เขา' คงคิดไม่ถึงว่าเธอจะมาหลบซ่อนตัวอยู่ที่นี่ คฤหาสน์หลังนี้ดูหรูหราโอ่อ่าเกินกว่าที่คนต่างชาติต๊อกต๋อยอย่างเธอจะมีปัญญาได้เข้ามาอยู่ที่นี่
และเหนือสิ่งอื่นใด...เธอจะขอใช้สถานที่นี้เป็นที่พักกายและใจก่อนจะกลับไปเผชิญปัญหาใหญ่นั้นอีกครั้ง ตอนนี้ขอเธอได้ลืมปัญหานั้นให้หมดไป ทิ้งความเป็นวรรษาไว้...แล้วขอสวมบทบาทเป็น 'เรน' ผู้หญิงไร้ที่มาที่ไปเสียจะดีกว่า
“เข้ามาได้”
เมื่อเคาะประตูห้องเพียงแค่ครั้งเดียวเท่านั้น ประตูก็เปิดออกแง้มๆ นิดเดียวพร้อมกับเสียงร้องบอกจากอีกด้านของประตู วรรษาที่มาพร้อมกับความมุ่งมั่นที่จะทำงานตามประสาคนที่ไม่เคยอยู่นิ่งก็ผลักประตูเข้าไปอย่างร่าเริง ก็เห็นสภาพของคนที่มาเปิดประตูเข้าไปเต็มๆ ตา
นิโคลัสนั้นเป็นเจ้าของเรือนร่างสูงใหญ่เป็นสิ่งที่เธอรับรู้ แต่ที่เธอไม่เคยรู้และไม่คิดอยากรู้คือการได้มาเห็นเขาในสภาพเปลือยท่อนบนแบบนี้! ถึงแม้สิ่งที่เธอเห็นจะเป็นเพียงแผ่นหลังกว้างขาวจัดอย่างคนที่ใช้ชีวิตในเมืองหนาวก็เถอะ แถมตอนนี้เจ้าตัวยังอยู่ในสภาพที่หญิงสาวก็พูดไม่ออก...ผมสีทองนั้นดูยุ่งเหยิง ไม่เป็นทรง แถมกางเกงผ้าเนื้อบางเบาที่เกาะขอบสะโพกอย่างหมิ่นเหม่นั่นก็ ชวนใจเต้นพิลึก หญิงสาวหน้าแดงวาบนึกอยากหันหน้าหนีจากภาพตรงหน้า แต่ดูเหมือนว่าเจ้าของเรือนร่างเซ็กซี่นั่นจะไม่สนใจสายตาเธอเลยสักนิด เพราะเขากลับเดินดุ่มๆ ไปถึงเตียงขนาดคิงไซส์ของตนเองแล้วทิ้งตัวลงนอนทันที
ภาพที่เห็นมันทำให้เธอหลุดขำ อาการใจเต้นแปลกๆ และใบหน้าที่ร้อนวูบวาบเหมือนจะหายไปทันที...ก็ท่าทางของเขามันเหมือนหมีขี้เซาอย่างไรอย่างนั้น เอ...แต่คนอย่างเขาเจ้าเล่ห์เกินกว่าจะเป็นหมี เป็นจิ้งจอกขี้เซาท่าจะดี
แต่เห็นท่าทางเขาอย่างนั้นแล้วเธอก็ได้แต่ส่ายหน้าระอา วรรษาค่อยๆเดินตรงไปหาเขาช้าๆ จนไปหยุดอยู่ข้างเตียง ทว่าคนขี้เซาก็ไม่ได้มีทีท่าจะรู้สึกตัวเลยเสียด้วยซ้ำ หญิงสาวถอนใจยาวแล้วเอื้อมมือไปสะกิดไหล่แข็งๆ ของชายหนุ่มเบาๆ เมื่อนึกถึงคำสั่งของเขาเมื่อวานนี้
'เฟรดพรุ่งนี้คุณไม่ต้องปลุกผมแล้วนะ ให้ยกหน้าที่นี้ให้สาวใช้คนใหม่ของเราทำก็แล้วกัน' ชายหนุ่มสั่งเสียงเรียบเรื่อย เป็นงานง่ายๆ ที่เมื่อได้ฟังวรรษาก็ ออกจะไม่พอใจนัก ก็เขารึโตขนาดนี้แล้ว ตื่นเองไม่เป็นหรืออย่างไร
ทว่าดูเหมือนเฟรดเดอริกจะมีสีหน้ายุ่งยากที่สุดเท่าที่เธอเคยเห็นมา 'แต่ว่า...' เฟรดเดอริกทำท่าเหมือนจะท้วง
นิโคลัสกลับค้าน 'ไม่เป็นไรหรอก มันเป็นงานง่ายๆ นี่ เธอน่าจะทำได้นี่เรน...ใช่ไหม?' ตอนท้ายเขาหันมาถามเธอ ทำให้วรรษาพยักหน้ารับอย่างเห็นด้วย ก็เธอไม่เห็นว่ามันจะลำบากตรงไหนนี่นะ?
'งั้นตกลงตามนี้ ทุกหกโมงเช้าในวันจันทร์ถึงศุกร์ เธอก็เข้ามาปลุกฉัน แล้วก็ระหว่างฉันอาบน้ำก็จัดเตรียมเสื้อผ้าให้อะไรประมาณนี้'
'ได้ค่ะ...ไม่มีปัญหา'