ทันทีที่ได้สัมผัสมีมี่ก็รีบดึงมือกลับพร้อมโต้ตอบ "ไอ้เอ็มโรคจิตปะเนี่ย!"
"เอออ แค่หยอก ฮ่าๆ สรุปเดาเท่าไหร่"
"คงสี่เก้าหรือห้าสองมั้ง เวลาแบบนี้ยังมีอารมณ์กวนตีนอีกนะ"
"ผิด..มึงเรียนเก่งแต่ทฤษฎีในตำราสินะ จะบอกให้ว่าสู้ปฏิบัติไม่ได้หรอก ไปซื้อมาห้าเก้าหรือหกสองก็ใส่ได้"
แม้ตอนนี้เขามีอารมณ์เต็มที่ แต่เห็นสีหน้าถอดสีของมีมี่ก็อดจะแกล้งไม่ได้ ตัวเล็กทำหน้าไม่พอใจตอบกลับทันควัน
"อย่ามาตอแหลไซซ์มาตรฐานก็ไม่เกินห้าสอง"
"อืมมม ก็ใช่..แต่ที่มึงจับมันยังไม่แข็งเต็มเหนี่ยวไง รีบไปซื้อซะกูรีบ"
แกร๊ก
เอ็มเดินกลับไปยังห้องน้ำในสุดที่มีสาวสวยรออยู่ปล่อยให้มีมี่ยืนแน่นิ่ง เธอเม้มริมฝีปากเข้าหากัน ภายในใจระส่ำไปหมด
"ไอ้บ้า! มาตรฐานตรงไหน ม..มันเรียกว่าใหญ่"
สุดท้ายตัวเล็กก็ต้องเป็นคนไปซื้อให้ จากนั้นเปิดประตูเข้าห้องน้ำด้านข้างเพื่อยื่นลอดผ่านช่องว่างด้านล่าง
ที่จริงเธอเองไม่ได้อยากทำเท่าไหร่แต่เพราะเพื่อนชายรวยมาก และ ไม่เคยขอให้ใครทำอะไรให้ฟรีๆ มักจะจ่ายเงินเป็นค่าจ้างตอบแทน ก็ครอบครัวของเอ็มทำธุรกิจ 'เปิดบริษัทประกัน' โดยมีแม่เป็นผู้บริหารจัดการ
เช้าวันต่อมา
"สามหมื่น" เสียงมีมี่ตกใจนั่งนับเงินที่ได้ค่าจ้างจากเอ็มหลายอย่างทั้งทำรายงานอีกทั้งจิปาถะ
ติ้ง'
ขอความแจ้งเตือนจากไลน์กลุ่ม แพรวพิมพ์ทิ้งไว้ก่อนจะรีบออฟไลน์หายไป
-ไอ้โจ้เข้าโรงพยายาบาลตึกC-
โรงพยาบาล
หลังจากที่ด้รับข้อความก็ตรงดิ่งไปหาเพื่อนด้วยความเป็นห่วงทันที มาถึงก็เจอเอ็มกับแพรวนั่งอยู่โซฟา ส่วนโจ้นอนให้น้ำเกลือ
"เป็นอะไรเนี่ยเมื่อคืนยังไปเที่ยวด้วยกันอยู่เลย" มีมี่มองสภาพเพื่อนนอนนิ่งเหมือนผักไม่ได้แช่น้ำ ทั้งซีดทั้งยม "อย่าบอกนะว่าไปโดนตีนใครมาอีก?"
"กูเป็นกระเพาะสงสัยไปแดกเหล้าลืมกินข้าว"
"โอ๊ยยยย นึกว่าเป็นอะไรสาหัสรีบมาจนลิปสติกไม่ได้ทาเลยเนี่ย"
"ก็เพื่อนป่วยอยู่อย่าด่าได้ไหม ฮ่าๆ"
โจ้หัวเราะได้เพียงเล็กน้อยส่วนแพรวปอกผลไม้กินอย่างเอร็ดอร่อย
สักพักพยาบาลเปิดประตูเข้ามา รอยยิ้มสวยงามพูดสุภาพ
"ขออนุญาตตรวจเช็กร่างกายคนไข้นะคะ"
เมื่อความสวยพุ่งกระแทกตาทำให้หนุ่มหล่อร้อยลีลาอย่างเอ็มลุกขึ้นยืนหยอดคำหวานใส่
"คุณพยาบาลช่วยเช็กหัวใจของผมได้ไหมไม่รู้ว่าเป็นอะไร.."
"ไม่สบายหรือเปล่าคะแนะนำให้ติดต่อคุณหมอเพื่อดูอาการก่อนก็ได้นะคะ"
"ผมคิดว่าอาการของผมคงไม่หนักหนาสาหัสอะไร แต่คุณพยาบาลพอจะช่วยรักษาได้ไหม"
"แล้วไม่ทราบว่าคุณเป็นโรคอะไรหรือคะ"
สายตาห่วงใยของพยาบาลสาวที่ทำตามหน้าที่อย่างสุดความสามารถกลับทำให้เขาพอใจกระตุกยิ้มหล่อกระแทกใจพร้อมตอบกลับ "ผมเป็นโรคขาดแคลนความรัก แต่คงไม่ต้องเอ็กซเรย์หัวใจหรอกนะครับ เพราะตอนนี้หัวใจของผมมันอยู่ที่คุณพยาบาล"
พูดจบเขาก็ยื่นมือถือให้พยาบาลสาวสวยที่กำลังเอียงอายแต่เธอทำหน้าที่ได้ดีตรวจเช็กร่างกายของโจ้ก่อนที่เอ็มจะเดินไปส่ง
"พ่อแม่เปิดบริษัทประกันส่วนลูกชายมีเมียเป็นแชร์ลูกโซ่เลยไอ้สัส ฮ่าๆ" โจ้ขำพร้อมกับมองตามเพื่อนส่วนมีมี่กับแพรวทำหน้าเอือม
"ว่าแต่เป็นยังไงบ้างพ่อเลี้ยงมึง" แพรวเปลี่ยนเรื่องหันกลับมาถามเพื่อนสาว "มันกวนตีนอยู่ไหม"
"อย่าให้พูดเลยทุกวันนี้กูแทบจะไม่อยากมองหน้ามัน"
"แต่เอาจริงนะเว้ยแม่มึงดูรักมันมาก"
แพรวพูดน้ำเสียงเป็นห่วง สักพักเสียงโจ้ก็พูดแทรก
"ก็ต้องรักมากสิ พ่อเลี้ยงมีมี่อายุห่างจากแม่มันเป็นสิบปี หลงผัวเด็กแหละกูว่า"
"ที่มึงพูดก็ถูกแต่มีมี่มันเป็นลูกคนเดียวนะ จะรักผัวมากกว่าลูกสาวแท้ๆ ขนาดนั้นเลยหรือ"
"เพราะว่ามึงไม่เคยมีผัวไงถึงไม่รู้จักว่ารสชาติชีวิตแบบว่าแซ่บมันเป็นยังไง"
"กูยอมกินแบบจืดชืดดีกว่าถ้าแซ่บแล้วจะเหี้ยอะ"
ทั้งสองพูดคุยกันถึงเรื่องราวปัญหาที่ตอนนี้มีมี่ต้องเผชิญ เมื่อก่อนครอบครัวของตัวเล็กเคยสงบสุข หลังจากที่พ่อเสียชีวิต ตั้งแต่มีมี่เรียนอยู่มัธยมปลายก็มีแม่ทำงานหาเงินเลี้ยงเป็นอย่างดี
กระทั่งเข้าเรียนปีหนึ่ง แม่ก็พาผู้ชายคนหนึ่งเข้าบ้านพร้อมกับประกาศว่าเขาคือสามีใหม่ แม้ว่าเธอจะโต้เถียงออกไปสุดท้ายก็เป็นฝ่ายที่ต้องยอมจำนนอยู่ดี
บ้าน มีมี่
"วันนี้ไม่ไปเรียนหรือไงเห็นแต่งตัวชุดธรรมดาออกจากบ้าน" น้ำเสียงขรึมทัก "เป็นสาวเป็นนางเที่ยวเตร่ทุกคืนเเถมไม่ยอมไปเรียนอีกน่าสงสารคนเป็นแม่นะที่ต้องหาเลี้ยง"
"ก่อนจะด่าคนอื่นหัดมองตัวเองบ้างนะ เงินที่ใช้ซื้อของ ฉันหามาเองแทบไม่เคยขอแม่ด้วยซ้ำ ก็ยังดีกว่าผู้ชายบางคนที่งานการไม่ทำ เอาแต่พบปะเพื่อนฝูงตีกอล์ฟทำตัวเป็นแมงดาเกาะชายกระโปรงผู้หญิงกิน"
"นี่เธอ..!!"
"คุณไม่ใช่พ่อของฉันฉะนั้นหุบปากซะอย่าเห่า"