เนสิตาทักทายน้าชายแล้วเขาก็พาเธอไปยังจุดให้บริการรถเอทีวีที่มีจอดเรียนกันอยู่
“วันนี้น้างานยุ่งไหมคะ”
“ก็นิดหน่อยมีองุ่นที่ต้องตัดหลายแปลง”
“ตัดไปขายเหรอคะ”
“ก็ทั้งตัดไปขายและก็ทำไวน์ ถ้าเนสอยากไปดูเขาตัดก็ไปแปลงที่เจ็ดในแผนที่นะ เพราะแปลงพวกนั้นเปิดให้นักท่องเที่ยวตัดเองแต่ก็จะมีคนงานให้คำแนะนำอยู่”
“น้าพลจะไปดูคนงานไหมคะ”
“ใช้จ้ะ แต่น้าจะไปดูแปลงถัดไปน่ะเพราะเป็นองุ่นที่พวกนี้เป็นเกรดส่งออกเลยต้องดูแลอย่างใกล้ชิด”
“คุณฐากูรก็จะไปดูด้วยไหมคะ”
“ไม่หรอก วันนี้เขาต้องไปดูคนงานตัดองุ่นไปทำไวน์น่ะ แต่เนสไม่ต้องไปหรอกนะเพราะแปลงองุ่นพวกนั้นมันอยู่ท้ายสุดของไร่เลย ไกลจากนี่มากคุณฐากูรไม่อนุญาตให้นักท่องเที่ยวเข้าไป”
“ค่ะน้าพล”
“จะไปคนเดียวจริงเหรอเนส”
“ค่ะน้าพล เนสเคยขี่รถแบบนี้มาแล้ว สบายมากค่ะ”
“แต่ไร่นี้มันกว้าง”
“แต่หนูมีจีพีเอสค่ะและก็มีแผนที่ของไร่ด้วยรับรองได้เลยว่ายังไงก็ไม่หลง”
“มากินข้าวกลางวันด้วยกันนะ”
“น้าพลไม่ต้องห่วงนะคะทำงานของน้าไปเถอะถ้าหนูหิวหนูจะกลับมากินเองที่ร้านอาหารค่ะ”
“งั้นก็ตามใจนะแต่ถ้าเปลี่ยนใจก็โทรหาน้าได้ตลอดนะ เพราะต่อให้น้ายุ่งยังไงน้าก็ต้องพักกินข้าว” นวพลบอกหลานสาวก่อนมองเธอขับรถออกไปจนสุดสายตา
หญิงสาวขับรถอเอทีวีออกจากลานจอดแล้วลัดเลาะไปตามเส้นทางในแผนที่อย่างช้าๆ เพื่อชื่นชมวิวสองข้างทาง
พื้นที่ไร่ของฐากูรกว้างขวางมาก แปลงองุ่นหลากหลายสายพันธุ์ปลูกสลับกันไป เหล่าคนงานกำลังตกแต่งกิ่งองุ่นและบางแปลงก็กำลังเก็บเกี่ยวผลผลิต มีนักท่องเที่ยวหลายคนที่จอดรถแล้วลงไปดูใกล้ๆ บางคนก็ลงไปถ่ายรูป
เนสิตาขับรถไปตามถนนลูกรังที่คดเคี้ยวภายในไร่ แปลงองุ่นหลายแปลงกำลังออกผลดก บางจุดมีต้นไม้ใหญ่ที่ให้ร่มเงาและบ่อน้ำใสสะอาดทำให้รู้สึกสนุกและผ่อนคลายเป็นอย่างมาก หญิงสาวรู้สึกชอบที่นี่และคิดว่าคงต้องมาที่นี่บ่อยๆ
เธอขับรถเอทีวีผ่านแปลงองุ่นแปลงไปนับสิบแปลงก็ถึงแปลงที่น้าชายของเธอบอก หญิงสาวยิ้มเมื่อเหลือบไปเห็นร่างสูงคุ้นตาของฐากูรกำลังยืนอยู่
เขากำลังดูแลคนงานหลายสิบชีวิตที่กำลังใช้กรรไกรตัดพวงองุ่นสีม่วงเข้มออกจากเถาอย่างขะมักเขม้น แสงแดดยามสายสาดส่องลงบนใบหน้าคมคายส่งให้เห็นโครงหน้าและสันกรามที่ดูมีความมุ่งมั่นในเวลาทำงาน
เนสิตารีบดับเครื่องยนต์และกระโดดลงจากรถเอทีวีอย่างคล่องแคล่วแล้วตรงเข้าไปหาฐากูรด้วยรอยยิ้มกว้าง
“บังเอิญจังนะคะที่เจอคุณฐาที่นี่”
“คุณมาไกลเลยนะเนส ตั้งใจมาหรือว่าหลงทางครับ” เพราะพื้นที่ตรงนี้อยู่นอกเขตที่จะให้นักท่องเที่ยวเข้าชม
“ก็ขับรถมาเรื่อยๆ ค่ะ แต่ขับเพลินไปหน่อยก็เลยมาโผล่ที่นี่พวกเขาตัดองุ่นไปขายเหรอคะ สีม่วงเข้มแบบนี้คงจะหวานมากเลยใช่ไหมคะ"
ฐากูรหันมามองเธอเล็กน้อยก่อนจะพยักหน้าเบาๆ เขาแปลกใจที่เจอเธอเพราะส่วนใหญ่นักท่องเที่ยวจะไม่มาไกลถึงที่นี่เพราะเป็นเขตที่ไม่ให้นักท่องเที่ยวเข้ามา
“องุ่นพวกนี้เราจะเอาไปทำไวน์น่ะ”
“แม่บอกว่าที่นี่มีโรงบ่มไวน์ด้วยใช่ไหมคะ”
“ครับ”
“ถ้าเนสอยากไปดูได้ไหม”
“ถ้าจะไปดูก็ไปตามแผนที่ คุณได้แผนที่มาไหม”
“ได้ค่ะ แต่มันปลิวแล้วตอนที่เนสขับเอทีวีมามันปลิวไปแล้วค่ะ คุณฐาพาเนสไปดูได้ไหม”
“วันนี้คงไม่ได้ผมต้องดูคนงานตัดองุ่น เอาวันหลังนะ” เขาตอบแต่สายตายังจับจ้องไปที่คนงาน
“หมายความว่าคุณฐาจะให้เนสมาที่นี่อีกใช่ไหมคะ” หญิงสาวดีใจและคิดว่านี่เป็นโอกาสดีที่จะสนิทกับเขามากขึ้น
“ที่ไร่ผมเปิดให้เที่ยวเพราะฉะนั้นใครจะมาก็ได้ผมคงไม่ห้าม”
“แต่คุณฐาจะเป็นคนพาเนสไปใช่ไหมคะ”
“ถ้าวันนั้นผมว่างนะ”
“คุณรับปากแล้วนะ เนสว่ามันต้องมีสักวันที่คุณฐาว่าง” หญิงสาวรู้ว่าจะสืบจากที่ไหนว่าเขาว่างหรือเปล่าหรือถ้ามีอีกทางเลือกหนึ่งก็คือเธอจะมาที่นี่บ่อยๆ มันต้องมีสักวันที่ฐากูรว่าง
“ก็คงมีสักวันอย่างที่คุณพูด” เขาหัวเราะเบาๆ เพราะว่าคงไม่มีใครมาเที่ยวที่นี่บ่อยๆ
“คุณฐาคะเนสอยากลองตัดองุ่นดูบ้าง เนสขอไปช่วยคนงานตัดองุ่นได้ไหมคะ” เนสิตาไม่เคยทำแบบนี้มาก่อนและเมื่อมีโอกาสก็อยากจะลองทำบ้าง
“แต่แดดมันเริ่มร้อนขึ้นเรื่อยนะ ไม่กลัวผิวเสียเหรอ” เขารู้ว่าผู้หญิงต้องรักสวยรักงามถ้าพูดแบบนี้เธออาจจะเปลี่ยนใจ
“ไม่เป็นไรหรอกค่ะเนสทาครีมกันแดดมาแล้ว”
“แน่ใจนะครับว่าอยากจะทำจริง” ฐากูรถามเพื่อความแน่ใจอีกครั้ง
“แน่ใจค่ะ เนสว่ามันน่าสนุกดีออกนะคะ” หญิงสาวตอบด้วยเสียงหนักแน่นแววตามุ่งมั่นอย่างเห็นได้ชัด
“ถ้าอยากทำจริงก็ใส่หมวกก่อนถ้ากลับไปหน้าดำแม่กับน้าคุณคงคิดว่าผมพาคุณมาใช้งาน” ฐากูรถอดหมวกคาวบอยปีกว้างของตนเองให้เธอสวมให้กับเนสิตาก่อนจะเรียกคนงานคนหนึ่งให้เอากรรไกรตัดองุ่นมาให้เธอ
“ขอบคุณค่ะ” หญิงสาวยิ้มเพราะภายใต้หน้าที่ดูเย็นชาแต่เขาก็ยังมีมุมที่อบอุ่นและอ่อนโยนอยู่บ้าง
เนสิตารับกรรไกรมาด้วยความตื่นเต้นเธอเดินตามเขางลงไปที่แปลงองุ่นใบหน้าสวยมองพวงองุ่นสีเข้มที่ห้อยระย้าลงมาแต่ยังไม่กล้าจะตัด
“พวงนี้ตัดได้ไหมคะ” เธอไม่แน่ใจเพราะตั้งแต่เกิดมาก็ยังไม่เคยได้ตัดองุ่นเลย
“องุ่นลูกโตและเต็มพวงแบบนี้ตัดได้เลย ส่งกรรไกรมาสิเดี๋ยวผมจะตัดให้ดูว่าต้องตัดแบบไหน”
เขารับกรรไกรมาจากมือของหญิงสาวจากนั้นก็ตัดองุ่นพวงโตและวางลงบนตะกร้าที่วางอยู่ก่อนแล้ว
“ง่ายนิดเดียวเองนะคะ”
“แต่ระวังมือด้วยนะ คุณไม่มีถุงมือ”
“ค่ะ” เนสิตาพลางลองใช้กรรไกรตัดพวงองุ่นออกอย่างระมัดระวังแม้จะยังไม่ค่อยถนัดเท่าไหร่แต่ใบหน้าของเธอก็เต็มไปด้วยความสุขและสนุกที่ได้ทำแบบนี้