“ผมนึกว่าคุณแค่อยากจะลองตัด” ฐากูรถามหญิงสาวหลังจากเธอช่วยคนงานตัดพวงองุ่นมานานเกือบครึ่งชั่วโมง
“เนสว่ามันสนุกดีค่ะ คุณฐาสนใจรับคนงานเพิ่มอีกสักคนไหมคะ จ้างเนสได้นะคะ”
“ค่าจ้างที่นี่คงไม่พอกับค่าครีมกันแดดที่คุณต้องจ่ายหรอกนะ”
“แต่วันนี้เนสทำงานไปครึ่งชั่วโมงแล้วเนสควรได้ค่าจ้างนะคะ”
“เอาล่ะ ผมว่าคุณถอยออกมาก่อนแล้วให้คนงานเขาทำงานกันดีไหม ผมไม่ได้บอกว่าคุณทำงานไม่ดีนะแต่ให้คนที่เขาชำนาญทำจะเร็วกว่า”
เพราะเขาพูดถูกเนสิตาเลยส่งกรรไกรคืนให้กับคนงานแล้วเดินตามเขามายังใต้ต้นไม้ใหญ่
“เหนื่อยใช่ไหม” ฐากูรถามพลางหยิบขวดน้ำที่แช่ไว้ในถังน้ำแข็งใบใหญ่ส่งให้
“ก็นิดหน่อย ชอบคุณค่ะ” หญิงสาวเปิดขวดแล้วดื่มอย่างกระหาย
“ค่อยๆ กินสิเดี๋ยวก็ได้สำลัก”
“เพิ่งรู้สึกว่าน้ำเปล่าอร่อยก็วันนี้ ไม่รู้เพราะเนสเหนื่อยหรือเพราะเป็นน้ำที่คุณฐาเอาให้กันแน่”
ฐากูรส่ายศีรษะกับคำพูดของหญิงสาวที่เหมือนจำมาจากละครเรื่องไหนสักเรื่อง
“ผมว่าตอนนี้แดดเริ่มร้อนมากแล้วคุณน่าจะกลับไปนั่งในห้องแอร์เย็นที่ร้านอาหารมากกว่า”
“คุณไล่เนสเพราะรำคาญเหรอคะ” เธอทำเสียงเหมือนเสียใจที่เขาพูดแบบนั้น
“ไม่ใช่นะ” ฐากูรเห็นท่าทางของเธอก็รีบปฏิเสธ
“งั้นเนสขออยู่ต่อ”
“ผมว่าจะพาคุณไปลองชิมอาหารร้านผมบ้าง สนใจไหมล่ะ” เพราะคิดว่าถ้าเธออยู่ที่นี่ต่อก็คงลงไปตัดองุ่นกับคนงานอีกแน่และคนที่ไม่เคยได้ทำงานหนักกลางแดดคงจะไม่เท่าไหร่
“สนใจค่ะ”
“งั้นคุณไปรอที่ร้านนะ ผมสั่งงานคนงานก่อนแล้วจะตามไป”
“เนสจำทางกลับไม่ได้ค่ะ รอขับรถตามคุณฐาไปดีกว่า” หญิงสาวกลัวว่าเขาจะหลอกให้เธอออกไปจากที่นี่
หลังจากสั่งงานลูกน้องเรียบร้อยแล้วฐากูรก็ขับรถเอทีวีช้าๆ เพื่อนำทางเนสิตามายังร้านอาหารและเครื่องดื่มเล็กๆ ที่อยู่ด้านหน้าของไร่ ตัวร้านถูกตกแต่งอย่างเรียบง่ายดูสบายตา มีระเบียงไม้เปิดโล่งให้เห็นทิวทัศน์ของไร่องุ่นทอดยาวสุดลูกหูลูกตา เป็นภาพที่งดงามเกินกว่าที่เนสิตาจะจินตนาการได้
“เนสขอนั่งข้างนอกนะคะ” ตอนแรกเธออยากนั่งในห้องแอร์แต่พอเห็นบรรยากาศของร้านหญิงสาวก็เปลี่ยนใจ
เมื่อเธอนั่งลงพนักงานก็ตรงมารับออเดอร์
“มีเมนูไหนแนะนำบ้างคะ”
“อยากทานอาหารแนวไหนล่ะ”
“อะไรก็ได้ที่ร้านเนสไม่มีค่ะ” เนสิตาพลิกเมนูอยู่หลายหน้าแต่ก็ยังตัดสินใจไม่ได้
“ทานเผ็ดได้ไหม”
“ได้นิดหน่อยค่ะ”
ฐากูรสั่งย้ำรวมมิตรทะเลเส้นบุกแบบเผ็ดน้อย ต้มย้ำไก่บ้าน ไข่เจียวกุ้งสับ ผัดผักรวมและต้มแซ่บเอ็นแก้วเพราะคิดว่าเมนูพวกนี้หญิงสาวน่าจะทานได้
ระหว่างนั่งรออาหารเนสิตาก็รู้สึกได้ถึงสายตาหลายคู่ที่จับจ้องมายังโต๊ะของพวกเขา เธอสังเกตเห็นคนงานและพนักงานในร้านบางคนแอบมองมาทางเธอและฐากูรคงเพราะสงสัยที่เจ้านายของตนมาทานอาหารกับผู้หญิง
“ที่นี่สวยจังเลยค่ะคุณฐาบรรยากาศดีมากๆ เลยนะคะ ตอนแรกเนสคิดว่าจะร้อนแต่ลมพัดแบบนี้ลืมห้องแอร์ไปเลยค่ะ” เธอชวนเขาคุยขณะกวาดสายตามองไปรอบๆ
“เพราะที่นี่เรามีต้นไม่เยอะก็เลยไม่ร้อน”
“น่าอิจฉาคุณฐานะคะที่ได้นั่งทานอาหารวิวสวยแบบนี้ ผิดกับที่ร้านของแม่เลยค่ะ”
“ผมไม่ค่อยมาทานที่นี่”
“คุณคงอึดอัดกับสายตาคนอื่นที่จ้องมาใช่ไหมคะ”
“ก็ประมาณหนึ่งครับ”
“เนสอยากแนะนำคุณฐาว่าอย่าสนใจสายตาคนอื่นเลย แต่ก็ดีนะคะที่คุณไม่ชอบให้คนมองมันเลยให้เราได้เจอกัน”
“ครับ” ไม่เคยมีผู้หญิงคนไหนพูดกับเขาในลักษณะนี้มาก่อน มันทำให้เขาทำตัวไม่ถูก เพราะนอกจากสายตาของพนักงานและนักท่องเที่ยวแล้วเขายังต้องคอยหลบสายตาที่ซุกซนของเนสิตาด้วย
ระหว่างรออาหารเนสิตาก็พยายามชวนเขาคุยเรื่องไร่ การดูแลองุ่นหรือแม้กระทั่งเรื่องเล็กๆ น้อยๆ อย่างสภาพอากาศวันนี้ แม้เขาจะตอบแบบนั้นแต่เธอก็ชอบที่จะฟังเสียงเขาเวลาตอบหรือบางครั้งเขาก็หัวเราะเบาๆ กับเรื่องไร้สาระที่เธอถาม
“นั่นน้าชายของคุณมาแล้ว” ฐากูรดีใจที่ไม่ต้องทานอาหารกับเธอแค่สองคน
“ทางนี้พี่พล” ฐากูกวักมือเรียกรุ่นพี่ที่ทำหน้าที่ผู้จัดการไร่มาตั้งแต่เขายังไม่มารับช่วงต่อจากบิดา
“หลานสาวพี่ไปรบกวนคุณฐาหรือเปล่า” นวพลถามเจ้านายด้วยความเกรงใจ
“ทำไมถามแบบนั้นคะน้าพล หนูไม่ได้กวนอะไรเลยจริงไหมคะคุณฐา” หญิงสาวอ้อนน้าชายเสียหวาน
“ไม่หรอกพี่พลเธอก็แค่ขับรถหลงไปท้ายไร่”
“หลงเหรอ แล้วทำเป็นเก่งบอกว่ามีแผนที่มีจีพีเอส ดีนะที่ไม่หลงออกไปทางน้ำตกนู่น”
“ก็แผนที่มันปลิวไปแล้วนี่คะ ดูจีพีเอสก็ไม่รู้เรื่อง ว่าแต่ที่นี่มีน้ำตกด้วยเหรอคะน้าพล”
“ไม่ใช่น้ำตกหรอกมันก็แค่ทางน้ำไหลผ่านโขดหินเองไม่มีอะไรน่าสนใจหรอก” เขารีบบอกเพราะกลัวว่าหลานสาวจะขอให้พาไปที่นั่นซึ่งทุกคนในไร่รู้ว่าเป็นที่ส่วนตัวของเจ้านาย
“น้าพลพูดแบบนี้หนูเลยคิดว่ามันน่าสนใจ พาหนูไปหน่อยสิคะ นะคะน่าพลสุดหล่อของหนู”
“น้าพาไปไม่ได้หรอก”
“ทำไมล่ะคะ”
“คือที่นั่นมันเป็นที่ส่วนตัว”
“ของใครคะ”
“ของผมเอง”
“ของคุณฐาเหรอคะ ถ้างั้นคุณฐาพาเนสไปได้ไหม เนสอยากเล่นน้ำ”
“ผมขอคิดดูก่อนนะแต่คงยังไม่ใช่เร็วๆ นี้เพราะผมไม่ว่าง”
“ตอนนี้ยังไม่ว่างก็ไม่เป็นไรค่ะ แต่คุณฐาต้องสัญญานะคะว่าจะให้เนสไปที่นั่น”
“ครับ” เขารับปากไปแบบส่งๆ เพราะคิดว่าสักพักเธอก็จะลืม
“น้าว่าหนูรบกวนคุณฐาเขามากไปแล้วนะ”
“เนสไมได้บังคับสักหน่อยก็แค่ขอร้อง คุณฐาเป็นผู้ใหญ่ใจดีใช่ไหมคะ”
“อาหารมาแล้วเรารีบทานกันก่อนเถอะ” เมื่อเห็นท่าทางกลืนไม่เข้าคายไม่ออกของเจ้านายนวพลก็เลยต้องรีบเปลี่ยนเรื่องคุย
เมื่อทั้งสามคนทานอาหารกลางวันเสร็จ ฐากูรก็ขอตัวไปทำงานส่วนเนสิตาก็ตามน้าชายของไปยังแปลงองุ่น