เสียงฝีเท้าหนักแน่นก้าวเข้ามาในลานบ้านเงียบงัน ทำให้ทั้งเพียงฟ้าและคุณเพ็ญพรหันมองอย่างพร้อมเพรียง หัวใจของเพียงฟ้ากระตุกวูบทันทีเมื่อเห็นชายร่างสูงสง่าในชุดสูทเรียบหรู ภีมยืนปรากฏตัวอยู่ตรงนั้น
แววตาคมกริบของเขากวาดมองภาพตรงหน้า แม่ลูกที่นั่งกอดกันท่ามกลางความสิ้นหวัง ราวกับกำลังเสพความพ่ายแพ้ที่เขาเป็นผู้มอบให้ มุมปากของภีมกระตุกยิ้มเย็น รอยยิ้มที่เต็มไปด้วยความสาแก่ใจ
“ในที่สุด…ก็ถึงเวลาที่พวกเธอต้องเจอความจริง”
สายตาของเขาหยุดที่เพียงฟ้า แววตานั้นเต็มไปด้วยความเย็นชา แต่กลับก่อให้เกิดไฟโกรธในอกเธออย่างรุนแรง ก่อนที่ภีมจะเหลือบมองไปยังคุณเพ็ญพร ที่กำลังหลบสายตาเขาด้วยความละอาย
“คุณเพ็ญพร…” เสียงทุ้มต่ำของเขากดดันบรรยากาศจนหนักอึ้ง “นี่แหละ…ผลลัพธ์ของความเย่อหยิ่งและความโลภที่คุณสร้างเอง เมื่อก่อนคุณเชิดหน้าสูงนักใช่ไหม? คิดว่าทรัพย์สมบัติที่ได้จากสามีจะอยู่กับคุณตลอดไป? ตอนนี้เห็นหรือยัง… ทุกอย่างมันหายไปหมดแล้ว”
คุณเพ็ญพรตัวสั่น ริมฝีปากเม้มแน่น น้ำตาเอ่อขึ้นมาอีกครั้ง แต่กลับไม่อาจโต้แย้งอะไรได้ เพราะทุกคำพูดนั้นคือความจริงที่เจ็บปวด
เพียงฟ้าเงยหน้าขึ้น มองภีมด้วยแววตาเกลียดชัง น้ำเสียงสั่นเครือแต่หนักแน่น
“คุณมันโหดร้าย! นี่มันคือบ้าน…ที่พ่อฉันสร้างขึ้นเองกับมือ แต่คุณกลับคิดจะยึดมันไปเพียงเพราะความสะใจ!”
ภีมเลิกคิ้วเล็กน้อย แววตานิ่งเรียบ แต่แฝงความแข็งกร้าว
“สะใจงั้นหรือ? …ใช่ มันสะใจที่ได้เห็นคนที่เคยทำร้ายคนอื่น ต้องลิ้มรสกับสิ่งที่ตัวเองก่อไว้ ฉันไม่คิดจะปฏิเสธหรอกเพียงฟ้า”
เขาก้าวเข้ามาใกล้อีกหนึ่งก้าว แววตาทิ่มแทงไปยังแม่ลูกตรงหน้า
“และฉันก็จะเอาบ้านหลังนี้…มาอยู่ในมือฉันให้ได้ ไม่ว่าพวกเธอจะยอมหรือไม่ก็ตาม”
บรรยากาศรอบกายหนักอึ้งจนแทบหายใจไม่ออก เพียงฟ้าสั่นสะท้านทั้งกาย ทั้งโกรธ ทั้งเจ็บปวด น้ำตาไหลออกมาโดยไม่อาจกักเก็บได้ แต่ข้างในใจกลับเต็มไปด้วยไฟแห่งการต่อต้าน
เธอรู้แล้วว่า นี่ไม่ใช่แค่เรื่องบ้าน แต่มันคือการต่อสู้ระหว่างเธอกับผู้ชายที่ชื่อภีม แต่เธอไม่รู้เลยว่าเพราะเหตุใด เขาถึงมีปฏิกิริยาเช่นนี้กับเธอ ทั้งเธอและเขาไม่เคยรู้จักกันมาก่อน แต่เขาก็ทำราวกลับว่า เขาเกลียดขี้หน้าเธอเสียเป็นประดา