บทที่ 3 ตัดใจ 1

892 Words
นริศตาตื่นขึ้นมาในเช้าวันใหม่ที่สดใส แต่ข้างกายเธอกลับว่างเปล่า บนเตียงอีกฝั่งที่เยียบเย็นฟ้องชัดว่าเมื่อคืนอธิปกไม่ได้กลับเข้ามานานในห้องนี้ เขาคงจะอยู่ดูแลอลิสาจนถึงเช้าเลยสินะ เธอเพียรระงับความเจ็บปวดในใจ เตือนตัวเองว่าเขาไม่รักเธอ แล้วเธอต้องซ้ำเติมตัวเองให้ยิ่งเจ็บด้วยหรือ คนเดียวที่เธอควรใส่ใจให้มากๆ ก็คือลูกในท้องต่างหาก หญิงสาวก้มหน้ายกมือลูบท้องเบาๆ เอ่ยกับเจ้าตัวเล็กว่า “แม่ขอโทษ หนูอย่างอนแม่เลยนะ ต่อไปแม่จะดูแลตัวเองให้ดี คิดแต่เรื่องดีๆ ที่ทำให้หนูมีความสุขนะลูก” หมอกควันหมองเศร้าที่ปกคลุมหัวใจเธอคล้ายจะบรรเทาเบาบางลงมาก ทำให้นริศตายิ้มออก เพราะมีลูกละมั้ง ทำให้เธอรู้สึกอบอุ่นและพลอยเข้มแข็งมากขึ้น ไม่จมจ่อมอยู่กับความทุกข์ที่มีอธิปกเป็นศูนย์กลาง เธอเข้าห้องน้ำเตรียมตัวไปวัด วันนี้เป็นสำคัญที่เธอจะต้องไปร่ำลาคุณปู่เอื้อเป็นครั้งสุดท้ายพร้อมบอกข่าวดีให้รู้ว่า...ท่านมีหลานสมใจแล้ว นริศตาลงมาชั้นล่างผ่านห้องอาหาร ทีแรกตั้งใจจะดื่มนมสักหน่อย แต่เหลือบเห็นอธิปกใส่ผ้ากันเปื้อนเตรียมอาหารเช้าอยู่ ข้างกายมีอลิสาคอยเกาะติดอยู่ไม่ห่าง ในมือถือขนมปังคอยป้อนถึงปากให้สามีเธอ ปากก็เอ่ยออดอ้อนอย่างน่ารักน่าชังว่า “พี่ปกรู้ใจอุ้มชะมัด รู้ว่าอุ้มชอบซุปครีมเห็ดก็อุตส่าห์ทำให้ทาน อืม...ห้อมหอม น่าทานที่สุด ขอบคุณนะคะ อุ้มรักพี่ปกที่สุดในโลกเลย” อธิปกมองคนจีบปากจีบคอพูดยิ้มๆ แววตาเต็มไปด้วยความเอ็นดู บรรยากาศของทั้งคู่ดูเหมาะสมอบอวลอบอุ่น เต็มไปด้วยความโรแมนติกอ่อนหวาน นริศตาไม่อยากขัดจังหวะพวกเขา คนจะรักกัน เธอจะไปห้ามหรือขัดขวางได้อย่างไร จึงตั้งใจจะหันหลังเดินออกไปเงียบๆ แต่สายตากลับบังเอิญสบตากับอธิปกเข้าพอดี เห็นเขาขมวดคิ้ว เธอจงใจเมินไม่ยอมหยุดเท้า แต่อลิสากลับเอ่ยรั้งเอาไว้ก่อน “พี่นาว ตื่นแล้วเหรอคะ พี่ปกทำซุปครีมเห็ดไว้ มาทานด้วยกันสิคะ” น้ำเสียงราวกับเป็นภรรยาของเขา ส่วนเธอเป็นแค่แขก นริศตาหันกลับมายกยิ้มบางๆ ถึงจะแพ้ แต่เธอไม่ยอมให้มือที่สามมาลอยหน้าชูคออยู่ในบ้านของเธอเหมือนกัน “เชิญตามสบายเถอะค่ะ คุณเป็นแขก ฉันในฐานะภรรยาเจ้าของบ้านควรต้อนรับดูแลคุณให้ดี ทานให้อร่อยนะคะ” นริศตาเอ่ยอย่างใจกว้าง อลิสาชะงัก สีหน้าเจื่อนลงทันตาราวกับถูกกระทบใจ แววตาละห้อยมองสามีเธออย่างขอความเห็นใจ ดึงชายผ้ากันเปื้อนที่เขาสวมอยู่พลางเอ่ยเสียงสั่นว่า “ขอโทษะนะคะพี่ปก เมื่อคืนอุ้มเอาแต่ใจตัวเองมากไปหน่อย ทำให้พี่นาวไม่พอใจซะแล้ว” อธิปกที่ไม่พูดอะไร ไม่มีท่าทีแยแสการมีอยู่ของเธอด้วยซ้ำ ตอนนี้กลับจ้องเธอเขม็งที่กล้าทำให้ยอดดวงใจของเขาเศร้าหมอง ก่อนจะสั่งเสียงห้วนเจือไปด้วยแววเย็นชาว่า “ไปนั่งเดี๋ยวนี้” ถ้าเป็นเมื่อวานเธอคงไม่กล้าขัด แม้จะเจ็บแต่ก็ยอมกล้ำกลืนฝืนใจทนเพื่อเขา อาจจะถือเป็นเกียรติด้วยซ้ำที่เธอได้ทานอาหารฝีมือของสามีเป็นครั้งแรก ใครอยากใช้ให้เธอรักเขาล่ะ แต่ตอนนี้เธอมีคนรักคนใหม่แล้ว แม้จะยังรักไม่มากไปกว่าที่รักเขาก็ตาม แต่สายสัมพันธ์นั้นแน่นแฟ้นยิ่งกว่า ไม่มีใครที่สำคัญกับเธอมากไปกว่าลูกในท้องอีกแล้ว “แน่ใจเหรอคะว่าจะกินลง” เธอเลิกคิ้วถามกวนๆ ใช่แหละ...เธอจงใจกวนประสาทเขา ต่อไปนี้ไม่อยากทน เธอก็จะไม่ทน “ถึงพวกคุณกินลง แต่ฉันกินไม่ลง ขอตัวก่อนนะคะ อ้อ...วันนี้เป็นวันเผาคุณปู่แล้ว ถ้าคุณยังพอจะเหลือความกตัญญูหรือจิตสำนึกอยู่บ้าง ก็มาร่ำลาท่านให้เรียบร้อยนะคะ อย่าให้ใครๆ เอาไปพูดสนุกปากกันได้ว่าหลานชายหลงคนอื่นจนลืมครอบครัว คนนอกอย่างฉันขอเตือนด้วยความหวังดี” สีหน้าอธิปกมืดครึ้มราวพายุโหมกระหน่ำ ดูแล้วน่าขนลุกจับใจ คงจะโกรธจัดที่ถูกเธอต่อว่ากันซึ่งๆ หน้า แต่ใครสนล่ะ เธอแค่ทำเพื่อคุณปู่เป็นครั้งสุดท้าย... นริศตายืนจ้องตากับเขา ไม่ได้กลัวว่าเขาจะเข้ามาฉีกเธอเป็นชิ้นๆ แต่เพราะยังมีอีกเรื่องที่อยากจะตกลงกับเขา เธอลังเลว่าควรจะพูดต่อหน้าคนนอกอย่างอลิสาดีหรือไม่ อีกอย่างเวลาก็กระชั้นชิดด้วย ไม่น่าจะคุยกันรู้เรื่องหรือจบง่ายๆ ตอนนี้เรื่องของคุณปู่สำคัญกว่า จึงตัดใจหมุนเดินจากไปทันที เขาจะไปหรือไม่ไปก็ช่าง ถือว่าเธอทำหน้าที่ดีที่สุดเท่าที่จะพอจะทำได้แล้ว ส่วนเรื่องที่ว่า...เอาไว้หลังจากนี้ค่อยคุยกันทีเดียวให้จบไปเลยก็แล้วกัน
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD