บทที่สี่

2008 Words
‘มาเจอพี่ที่ห้อง 912 พี่อยากคุยและอธิบายเรื่องทุกอย่างกับดานะ’ ‘อนวัฒน์’ “นั่นแกจะไปไหน” วันวิสาถามเพื่อนสนิทที่เอาแต่ยืนนิ่งราวกับครุ่นคิดอะไรบางอย่าง หล่อนลากกระเป๋าเดินทางลงมาพร้อมญาดาเพื่อเช็กเอาต์ หญิงสาวร้องไห้ตลอดหลังจบงาน เธอสะอึกสะอื้นบอกว่ากลับบ้านโดยเร็วที่สุด “ดา…” วันวิสาสะกิดแขนเรียว นัยน์กลมโตจ้องมองแล้วขมวดคิ้วมุ่น “พี่เชนฝากข้อความนี่ทางพนักงาน เขาเลยเอามาให้ฉัน” ญาดายื่นเศษกระดาษเล็ก ๆ ที่ถูกเขียนด้วยปากกาหมึกซึม “ยุ่งยาก อยากคุยกับแกทำไมไม่โทร. หา แถมนัดไปเจอที่ห้องหลังจากเพิ่งด่าเมียเนี่ยนะ ฉันโคตรจะไม่เก็ตกับความคิดของหมอนี่” วันวิสาบ่นด้วยสีหน้ายุ่ง ๆ “แกจะไปไหม” อย่างไรหล่อนก็เลือกถามต่อเพราะหวังดี “ฉัน…” “ถ้าแกอยากคุย อยากเคลียร์ก็ไป ฉันรออยู่ข้างล่างนี่แหละ แต่ถ้าเปลี่ยนใจไม่กลับเมื่อไรโทร. บอกฉันด้วย อย่าทิ้งให้เป็นหมาอยู่ตรงนี้นะยะ!” ต่อให้เกลียดชังอนวัฒน์แค่ไหนก็ไม่ยุยงให้เพื่อนเสียใจ หล่อนตบบ่าก่อนขยับปลายนิ้วสั่งอย่างไม่จริงจังนัก ญาดาพยักหน้าหงึกหงักฝากสัมภาระทุกอย่าง หมุนกายขึ้นลิฟต์เพื่อไปยังที่นัดหมาย ติ๊ง! ลิฟต์หรูพาเธอขึ้นมายังชั้นเก้า ยิ่งหญิงสาวจ้ำเดินตามพรมอิตาลีแดงตัดสลับน้ำเงิน อัตราการเต้นของหัวใจคล้ายพุ่งสูบฉีด… มือบางกำกระดาษไว้ เล็บยาวจิกเข้าหากันจนมีร่องรอยเปื้อนขูดเนื้อขาว ‘912’ ไม่แน่ใจว่าพาตนเองมายืนหยุดตรงนี้เสียเมื่อไรรู้ตัวอีกทีก็ยืนอยู่หน้าห้องสวีตในโรงแรมระดับพรีเมียม ญาดาเคาะประตูสองสามทีเพื่อให้ผู้ที่อยู่ข้างในเปิดออก ใช้เวลาไม่นานก็ได้ยินเสียงปลายเท้าของใครบางคน “ไปไม่นานเลยนะพี่เชน” หากคำพูดถัดไปต่างหากมันนำพาหัวใจดวงน้อยกองกับพื้น ก้อนเนื้อในอกข้างซ้ายคล้ายโดนบีบรัดรุนแรงจากโซ่ตรวน ญาดาเงียบจนรู้สึกถึงลมร้อนที่พัดผ่านเบื้องหลัง “นี่เธอ!” อิงอรเบิกตาโพลง ก่อนดันประตูปิดไม่ต้อนรับ บัดนี้หญิงผู้ดีอยู่ในชุดคลุมอาบน้ำ แต่งกายไม่เรียบร้อยนัก “คุณมาทำอะไรในห้องของสามีฉัน” ดวงตาหวานปรากฏเปลวเพลิง ญาดาผลักสิ่งกั้นขวางจนอิงอรกระเด็นไปพ้นทาง “โง่หรือเปล่า หญิงชายค้างคืนด้วยกันคิดว่าทำอะไรล่ะ” ร่างเล็กในชุดคลุมอาบน้ำหยันกายพยุงตนเองขึ้น หล่อนหรี่ตาเคลื่อนไปยังสูทสีดำซึ่งญาดาจำได้ทันทีว่าเป็นของใคร เสื้ออนวัฒน์ทำไมถึงมาอยู่ในห้องนี้! “คงไม่ต้องให้ฉันเล่าเป็นฉาก ๆ หรอกนะว่าเมื่อคืนฉันกับสามีเธอเราทำอะไรกันบ้าง” หล่อนกอดอกพร้อมเฉลย ใบหน้างดงามแสยะยิ้มร้ายปราศจากยางอาย “ฉันรู้มาตลอดว่าคุณอยากได้พี่เชน…” ญาดามองกลับอย่างไม่ลดละ เธอสาวเท้าเข้ามาใกล้อิงอรเรื่อย ๆ จนอีกฝ่ายถดกายแทบชิดโซฟา “แต่ไม่คิดว่าผู้หญิงมีชาติตระกูลอย่างคุณจะกล้าทำอะไร ต่ำ ๆ ได้แบบนี้!” “นังญาดา!” “คิดเหรอว่าฉันจะเชื่อว่าพี่เชนเอาคุณ…” คำพูดเหยียดหยามทำร้ายหัวใจอิงอรหมดสิ้น ลูกสาวคนเดียวของนายธนาคารยักษ์ใหญ่รู้สึกเหมือนศักดิ์ศรีตนเองตอนนี้ถูกบดขยี้ด้วยฝ่าเท้าหญิงชั้นต่ำ “ถ้าเขาจะเอา เขาเอาไปนานแล้ว…” “…” “เพราะคุณก็ดูเต็มใจขนาดนั้น แต่ผู้ชายไม่เลือกตั้งแต่แรก คำตอบก็น่าจะชัดเจนอยู่แล้วว่า ‘ไม่เอา’!” สายตาแปรเปลี่ยนเป็นเข้มแข็งไต่ระดับความโกรธเคืองของอิงอรจนสุดเพดาน หล่อนเข้าไปจิกหัวญาดา พร้อมเหวี่ยงร่างมารหัวใจติดผนังห้อง น้ำเสียงนิ่งเย็นชา คำดูราบเรียบแต่ดูมีอิทธิพลนั่นแผดเผาหัวใจอิงอรประหนึ่งกองไฟชั้นดี! “แกดูถูกฉันเหรอ อีชั้นต่ำ!” อิงอรขยุมผมยาวสลวย บังคับให้ญาดาเงยหน้าขึ้นมองตน “ผู้หญิงที่มาจากครอบครัวต่ำ ๆ แบบแกจะเทียบอะไรฉันได้” “…” “ไม่รู้พ่อแกสั่งสอนมายังไง ถึงหน้าด้านยุ่งกับคนที่เขามีคู่หมั้นอยู่แล้ว!” “…” ญาดาจ้องหน้าอิงอรเขม็ง หญิงสาวกัดฟันกรอดจนเห็นสันกรามเด่นชัด “คนจน ๆ อย่างแกไม่เคยชนะฉัน สุดท้ายพี่เชนเขาต้องรู้ว่าใครเพชรใครเป็นแค่กรวด” ผลัก! ญาดาไม่รอให้อิงอรได้พ่นคำพูดบัดซบถากถาง เธอฝืนกายปัดป่ายจนดิ้นหลุดจากการเกาะกุม เพียะ! คนที่ไม่คิดต่อความยาวสาวความยืดหมดความอดทนตั้งแต่วินาทีที่อิงอรดูถูกกำพืดตนเอง เธอยอมได้หากหล่อนจะเอา เรื่องอนวัฒน์มาพูดให้ไขว้เขว แต่ยอมไม่ได้เด็ดขาดเพราะหล่อนปากพล่อยมากล่าวโทษครอบครัวที่รัก มือบางฟาดหนัก ๆ จนใบหน้าสวยของคู่อริสะบัด อิงอรล้มพับลงกองกับพื้นในขณะที่ญาดาคร่อมทับร่าง เพียะ! “แน่ใจเหรอว่าผู้หญิงอย่างคุณน่ะเป็นเพชร คำพูดการกับกระทำต่ำ ๆ ของคุณมันดูไม่ออกสักนิดว่าคุณได้รับการสั่งสอนมาแบบผู้ดี!” “อีดา!” ญาดาตบอิงอรเลือดกบปาก “ทำไมคุณอิง!” “อีผู้หญิงสารเลว!” อิงอรผลักร่างเล็กในจังหวะที่ญาดาต่อปากต่อคำ หล่อนหยันกายเตรียมลุกหนี สังหรณ์ตนรู้ว่าสู้แรงเมียอนวัฒน์ไม่ไหว ทว่าคนชอบเอาชนะไม่ลืมถมน้ำลาย พร้อมชี้หน้าราวประกาศกร้าวว่าฝากไว้ก่อน ถุย! “แกมันชั้นต่ำเหมือนบ้านเน่า ๆ ของแกนั่นแหละ!” หล่อนว่าก่อนก้าวจ้ำเตรียมเข้าห้องน้ำ คำพูดของอิงอรทำให้ญาดาฉุนกึก เธอลุกเดินไว ๆ เพื่อถึงตัวคนที่ก้าวผ่านประตูกระจก “นี่แกจะไม่จบใช่ไหม!” “จะจบได้ยังไง คุณต้องขอโทษฉันก่อน” “แกฝันอยู่ใช่ไหม ทำไมฉันต้องขอโทษด้วย!” อิงอรดึงเข้าญาดาผลักออก ประตูห้องน้ำที่ถูกฉาบไว้ด้วยกระจกแผ่นบานเรียบจึงเกิดสั่นคลอน แรงโมโหของญาดาดันให้อิงอรซึ่งกำลังน้อยกว่าลื่นล้มกองอยู่กับพื้น ราวกับกรรมติดจรวดเพราะในจังหวะที่ญาดาออกแรงดันเข้าไปนั้น ประตูกระจกแม้ไม่สูงมากนักดันเอนปักต้นขาอิงอร เพล้ง! เสียงกระจกแตกพร่าก้องแก้วหูญาดา เธอทำอะไรไม่ถูกปากคอซีดสั่น ร่างเล็กเตรียมปราดเข้าไปช่วยคู่อริ แต่ไม่ทันเสียแล้วเพราะเลือดมากมายทะลักหลั่งไหลเปียกชุ่มพื้นกระเบื้อง “อิง!” เสียงหนัก ๆ ของอนวัฒน์มาจากไหนไม่รู้ดังขึ้นเบื้องหลัง เขาผ่านหน้าเธอไปราวไร้ตัวตน สาวเท้าเหยียบเศษกระจกไม่สนใจคนเป็นเมียสักนิด ชายหนุ่มช้อนอุ้มผู้หญิงอีกคนในขณะที่ญาดาก็เจ็บปวดไม่แพ้กัน เท้าน้อยเหยียบเศษแก้วแหลมคม กลิ่นคาวเลือดฟุ้งกระจัดกระจายทั่วทุกอณูของห้องน้ำ เสียงร้องไห้ระงมก้องดังถึงเสี้ยวลึกของหัวใจ ญาดาปล่อยกายทรุดกระแทกพื้นกระเบื้อง… หมดแรงแล้ว เธอเหนื่อยเหลือเกิน… บัดนี้ความรักของเธอและเขาไม่ต่างอะไรกับแก้วแตกละเอียดบนพื้นสีแดงฉาน… ชีวิตคู่ที่มีมากกว่าสองคน…สุดท้ายจุดจบจะเป็นอะไรไปได้นอกจากน้ำตา เธอเสียน้ำตาให้ผู้ชายคนนี้ซ้ำแล้วซ้ำเล่า! เช้าวันถัดมา… “เหนื่อยไหมพี่ดา” อันนาที่กุลีกุจอทำอาหารเช้าง่าย ๆ ให้พี่สาวอยู่ในครัวเบี่ยงหน้าถามไถ่ “ไข่ดาว ขนมปังปิ้ง ไส้กรอกร้อน ๆ พี่กินสักหน่อยนะ ไม่มีอะไรตกถึงท้องตั้งแต่เมื่อวาน” “พี่ไม่หิวจริง ๆ ขอบใจนะนา” ญาดาส่ายหน้าปฏิเสธ ดวงตาคู่งามปิดลงในจังหวะที่เอนกายพิงโซฟา น้ำสีใสรินไหลผ่านปลายหางตา “นากับพี่วีน่าเป็นห่วงพี่นะ” อันนานั่งลงก่อนเอื้อมกุมมือ ญาดา “เรื่องพ่อถ้าพี่ไม่โอเค ดาว่าเราปฏิเสธทางนั้นไปก็ได้” “พี่…” “ส่วนเรื่องพี่เชน คนเป็นผัวเมียกันตัดไม่ขาดหรอก รอเขากลับมาแล้วค่อยอธิบายเรื่องยายไฮโซจอมปลอมนั่น คิดแล้วมัน น่านัก!” อันนากระแทกเสียงหนักแน่น หล่อนได้ยินมาจากวันวิสา เรื่องที่อิงอรทำกับญาดาโคตรบัดซบ มีอย่างที่ไหนยั่วให้ญาดาฟิวส์ขาดส่วนตนเองรับบทนางเอกเจ้าน้ำตา เคยได้ยินว่ามีแต่ดาราเขาทำกัน ยายคุณหนูนี่ยิ่งกว่านักแสดงมืออาชีพ หล่อนน่าจะได้รางวัลตุ๊กตาทอง จะโทษอิงอรฝ่ายเดียวก็ไม่ได้อนวัฒน์เองก็หูเบา หล่อนเคยเตือนญาดาตั้งแต่คบชายหนุ่มใหม่ ๆ ให้รีบกั้นผู้หญิงคนนั้นออกจากพี่เขย เพราะอิงอรปักใจรักอนวัฒน์เสียยิ่งกว่าอะไร ส่วนฝ่ายชายก็เอ็นดูน้องสาวนอกไส้จนเห็นว่าหล่อนใสซื่อ ทั้งที่เรื่องจริงยายนั่นไม่ต่างอะไรกับปีศาจในคราบนางฟ้า! “พี่เหนื่อยนา ทำไมพี่เชนถึงไม่ฟังพี่บ้าง” “บางทีความเชื่อใจก็ทำให้คนโง่ได้นะพี่ แถมพี่เชนยังเข้าใจผิดพี่เรื่องรับงาน ค่อย ๆ คิดนะพี่ดา” อันนาถูไถใบหน้ากับแขนเสื้อญาดา หล่อนฉีกยิ้มกว้างแลบลิ้นปลิ้นตาจนคนเป็นพี่ระเบิดหัวใจ “เรานี่นะ แสบเกินใคร” ญาดาโยกศีรษะยายเด็กดื้อประจำบ้าน แม้น้ำตาหลั่งไหลเป็นมหาสมุทร ในวันแย่ ๆ แบบนี้ก็ยังมีครอบครัวคอยเป็นหลักยึด “เดี๋ยวพี่เชนกลับมาพี่ก็คอยคุยกับเขานะ คุยดี ๆ ชีวิตคู่อย่าใช้อารมณ์” “สอนพี่อย่างกับเราเคยมีแฟน” “ภาคปฏิบัติไม่มี แต่ทฤษฎีแน่นนะ!” หล่อนว่าพลางยกมือขึ้นตบอกอย่างภาคภูมิใจ “ยายนา!” “จ๋า ยิ้มได้แล้วเหรอคนสวย” “เรานั่นแหละทำให้พี่ยิ้มออก ขอบคุณนะ” “งั้นกินนี่หน่อยนะ นิดนึงก็ยังดีคืนนี้จะได้มีแรง” หล่อนส่งยิ้มช้อนสายตาทางพี่สาว ซ้ำอันนายังถือโอกาสดันจานอาหารเช้าเมื่อท่าทีเศร้าโศกของญาดาอ่อนลง “คืนนี้เราจะไปกับพี่ไหม” ญาดาถามน้องสาว น้ำเสียงไม่กดดันอันนาเพราะรู้ว่าหล่อนไม่เต็มใจนัก “นา…” อันนาระบายลมหายใจแผ่วร้อน หล่อนเขยิบกายออกห่างมือนิ่มอยู่ไม่สุขราวใช้ความคิด ญาดาลอบมองใบหน้ายายเด็กแสบ ทั้งอึดอัด ทั้งหนักใจจนญาดาสงสาร “ถ้านาไม่อยาก เดี๋ยวคืนนี้พี่คุยกับอีกฝ่ายเองก็ได้” “ขอโทษนะพี่ดา นายังทำใจไม่ได้จริง ๆ” ดวงหน้าสดใสแปรเปลี่ยนเป็นเซื่องซึมในชั่ววิ “พี่รู้เราอย่าคิดมาก เดี๋ยวเรื่องนี้พี่จัดการเองนะ” ญาดาลูบเรือนผมเงางามของอันนา บัดนี้หญิงสาวไม่ต่างอะไรกับหัวหน้าครอบครัว เธอแบกรับทุกปัญหาหลังจากพิศาลป่วยมาหลายปี มีบ้างที่ท้อแต่ก็ถือคติว่า… ลูกท้อมีไว้ให้ลิงถือ ญาดาไม่ใช่ลิงแถมยังสวยขนาดนี้! และชีวิตคนเราคงไม่มีใครเจอไฟแดงตลอดไปหรอกใช่ไหม อีกสักพักมรสุมที่พัดเข้ามาคงกลายเป็นไฟเขียวแล้ว ไม่ว่าจะ เรื่องอนวัฒน์หรือพิศาลหญิงสาวเชื่อว่าไม่น่าคงผ่านพ้นไป… แต่จะผ่านพ้นแบบไหน คงต้องใช้เวลาเพื่อหาคำตอบ หญิงสาวยิ้มให้อันนาอีกครั้ง เด็กน้อยระบายยิ้มให้เธอเช่นกัน สองพี่น้องได้แต่มองกันเงียบๆ ในห้องนั่งเล่นสี่เหลี่ยม ทั้งคู่รู้ดีการวนกลับมาเจอคนที่เคยพรากหัวใจตนเองอีกครั้งมันไม่ใช่เรื่องง่าย ผู้หญิงคนนั้นก็เช่นกัน…ผู้หญิงที่ทิ้งเธอแล้วน้องไปโดยไร้คำร่ำลา!
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD