ไฟหน้ารถสาดกระทบถนนตอนกลางคืน ญาดาเม้มเรียวปากกระจับอึกอัก นัยน์ตาหวานเคลื่อนมองข้างถนนอย่างช่วยไม่ได้
“ไม่ต้องเกร็งพี่ขนาดนั้นก็ได้”
ชายหนุ่มข้างกายระบายรอยยิ้มหวาน มือหนาเปิดเพลงสากลคลอเพื่อคลายอาการประหม่าระหว่างเขาและเธอ
“พูดเป็นกันเองกับพี่ ยังไงดาก็ลูกน้านี”
คามินกล่าวในขณะที่มือหนายังคงจับพวงมาลัย แววตาคมกริบนึกเอ็นดูน้องสาวนอกไส้คนนี้เหลือเกิน
“ดาไม่กล้าขนาดนั้นหรอกค่ะ” ญาดาส่ายหน้าปฏิเสธ ‘คามิน’ คือลูกของ ‘เผ่าพงศ์’ สามีใหม่มารดา
ไม่กี่วันที่ผ่านมาเขาติดต่อหาอันนา ตอนแรกญาดาไม่เชื่อด้วยซ้ำว่าคนเป็นแม่จะหวนกลับมาในชีวิตอีกครั้ง
‘ปรานี’ ตัดขาดจากพิศาลไปเป็นเวลาเนิ่นนาน หล่อนทิ้งเธอไว้กับพ่อตั้งแต่อันนาเล็ก ๆ จนพี่สาวอย่างญาดาต้องคอยดูแลน้องแทนผู้เป็นแม่ เธอไม่แน่ใจว่าปรานีรู้ข่าวการป่วยของพิศาลตั้งแต่เมื่อไร เพราะอยู่ดี ๆ หล่อนไหว้วานคามินเข้ามาเจรจาเพื่อเป็นกาวใจ เขาเสนอออกเงินค่าผ่าตัดบิดาให้ทั้งหมด แต่มีข้อแม้เพียงอย่างเดียวคือต้องแวะไปหาปรานีบ้างเป็นครั้งคราว
‘แม่คิดถึงเราสองคนมากนะ’
ญาดาไม่อยากเชื่อด้วยซ้ำว่าผู้หญิงคนนั้นรักเธอกับน้องจริง ตอนทิ้งก็ไร้เยื่อใย พอจากไปเพิ่งมานึกได้หรือว่ามีหนึ่งครอบครัวที่หล่อนทำลายลงยับเยิน
“นี่บ้านดาเหรอ” คามินชะลอหน้าบ้านทาวน์เฮาส์ที่สภาพไม่ได้ดูดีนัก
“เราอยู่ที่นี่คนเดียว ?” เขาเลิกคิ้วถามพลางสำรวจรอบข้างราวเป็นห่วง
“ดาอยู่กับสามีค่ะ” ญาดาตอบกลับเสียงฉะฉาน
“พี่เพิ่งรู้ว่าดาแต่งงานแล้ว”
“ค่ะ ขอบคุณคุณมินมากนะคะ” หญิงสาวยกมือกระพุ่มไหว้ก่อนเคลื่อนกายจับประตู
“เดี๋ยวสิดา”
ยังไม่ทันเปิดออก คามินดึงญาดาไว้จนใบหน้าหนุ่มสาวใกล้ชิดกันฉับพลัน ลมหายใจอุ่นร้อนสัมผัสกันและกันเพิ่มอณูตึงเครียดเป็นเท่าตัว
“อะ…เอ่อ…พี่ขอโทษ แค่เป็นห่วง” เหมือนชายหนุ่มพอเดาออก สีหน้าญาดาบัดนี้ไม่สบอารมณ์นัก เธอสะบัดกายห่างมองเขาปานของร้อน
“ดาขอตัวก่อนนะคะ”
“แล้วข้อเสนอพ่อ ?”
“ถ้าคุณเผ่าพงศ์ทำได้อย่างที่ปากว่า ดาพร้อมจะเก็บเอาไปคิดอีกครั้งค่ะ ขอบคุณที่เป็นธุระมาส่งดาถึงบ้าน”
ญาดากล่าวตัดบทสนทนา เธอลงจากรถคันหรูโดยไม่สนใจคำหนุ่มหล่อเบื้องหลังซึ่งตะโกนดัง ๆ ไม่สนใจรอบข้าง
“ขอบคุณสำหรับวันนี้ ฝันดีนะดา”
ร่างบางเดินเข้าบ้านตนในขณะที่คามินยืนรอจนกระทั่งเธอ ล็อกประตูรั้ว ใบหน้าคมคายของลูกนายตำรวจชั้นผู้ใหญ่อยู่ ๆ ก็เปื้อนยิ้มมุมปาก เขาเพ่งพิศมองดูญาดา จนกระทั่งร่างบางลับสายตาไป
มือบางไล่สัมผัสผ่านสวิตช์ไฟใกล้ห้องนั่งเล่น แสงสว่างวาบขึ้นจนเธอตกใจ เพราะร่างสูงของคนเป็นสามีนั่งอยู่ไม่ไกลบริเวณโซฟา
“พี่เชน…” ในมือเขาถือกระป๋องเหล้า อนวัฒน์บัดนี้แต่งกายไม่เรียบร้อยนัก ญาดาลอบสังเกตใบหน้าหล่อเหลาซึ่งแดงก่ำ ใคร่ครวญคิดแล้วเขาคงเมาอยู่พอควร
“กลับมาตั้งแต่เมื่อไรคะ”
หญิงสาวพยายามใช้น้ำเย็นเข้าลูบ เวลานี้อารมณ์ของคนตัวสูงเครียดจัดสุดกู่
“ดาล่ะ ไปไหนมา” เขาแสยะยิ้มพลางเลิกคิ้วถาม นัยน์ตา คมกริบของอนวัฒน์จับจ้องญาดาไม่ลดละสักเสี้ยวนาทีเดียว
“ดาออกไปทำธุระมาค่ะ”
“ธุระ ?” อยู่ ๆ ชายหนุ่มก็ระเบิดหัวเราะ
“พี่เชนเมา ค่อยคุยพรุ่งนี้เถอะดาเหนื่อย”
ญาดาระบายลมหายใจเชื่องช้า เธอเบี่ยงปลายเท้าขึ้นไปทางบันได หากยังไม่ทันก้าวด้วยซ้ำ มือหนัก ๆ ของชายเบื้องหลังรั้งยกร่างบางลอยขึ้นเหนือพื้น
“จะโกหกพี่ถึงเมื่อไรวะดา!”
“พี่เชนบ้าไปแล้วใช่ไหม!”
ญาดาเบิกตากว้าง ดีดดิ้นแกว่งไกวปลายเท้าไปมาราวขัดขืน ยิ่งเธอแสดงท่าทีพยศเท่าไรอนวัฒน์ยิ่งลงน้ำหนักมือ เดินดุ่ม ๆ พาคนเป็นเมียมุ่งไปยังจุดที่ต้องการ
ฟุบ!
ชายหนุ่มโยนร่างเล็ก จนญาดาเสียหลักกระแทกโซฟา ร่างหนัก ๆ ของเขากดทับไม่ปล่อยหญิงสาวได้หลีกหนี
“พี่เชน ปล่อยดานะ” ญาดาเปล่งเสียงกรีดร้องและจิกมือ เธอมองเขม็งไม่เข้าใจว่าบัดนี้คนเป็นสามีบ้าอะไรถึงได้ทำต่ำทรามกับตนดั่งสัตว์ร้ายก็ไม่ปาน
“ปล่อยงั้นเหรอ อยากให้พี่ปล่อยดามาก ?”
อนวัฒน์เหมือนคนหูหนวกตาบอด อะไรที่เป็นความปรารถนาของญาดาเขาพร้อมทัดทาน ชายหนุ่มกระชากเน็กไทลวก ๆ พลางตึงมือบางทั้งสองข้างเหนือศีรษะ คนกักขฬะมัดภรรยาอย่างไร้อารยะธรรมที่สุด
“ทำไมดาต้องโกหกพี่ซ้ำไปซ้ำมา”
“ดาโกหกอะไรพี่ อย่าทำแบบนี้นะพี่เชน!”
ดวงหน้ามนหลีกหันทางขวา นัยน์ตาดวงน้อยสั่นระริกฉายชัดว่าผิดหวังสุดขั้วหัวใจ
“ปากแข็งตลอด!” เสียงเขาราบเรียบเฉยชาไม่รู้สึกอะไร หากมือหนากลับบีบเรียวคาง
“มองหน้าพี่สิดา!” เขาเน้นย้ำทุกคำพูด
“…” กลีบปากระเรื่อกัดเข้าหากันจนห้อเลือด
“…หน้าพี่ดูเหมือนไอ้โง่มากหรือไง” ชั่วขณะปลายเสียงเข้มจัดแปรเปลี่ยนเป็นสั่นไหว
“ดาไม่ได้หลอก…”
“ปากนี้ใช่ไหมที่ชอบพ่นคำโกหกใส่พี่” นิ้วหัวแม่มือบดขยี้ปากแดงระเรื่อ
ญาดาจุกจนพูดไม่ออกสักคำ ก้อนเนื้อในอกด้านซ้ายรวดร้าวไปทั้งดวง แค่เมื่อวานเขาเลือกอิงอรมันยังไม่พอใช่ไหม
จะทำให้เธอแตกสลายไปถึงไหน เมื่อไรอนวัฒน์ถึงจะหยุดเสียที!
อยู่แค่กายแต่ไร้หัวใจเป็นเช่นไรหญิงสาวเพิ่งเข้าใจวันนี้ วันที่ผู้เป็นสามีหักหลังอย่างเลือดเย็น
คนใจร้าย…อนวัฒน์ใจร้ายกับเธอเหลือเกิน
“คุณมันใจร้าย” หญิงสาวดิ้นขลุกขลักเพราะต้องการให้พันธนาการระหว่างกันสิ้นสุด เธอไม่เอ่ยปากบอกสิ่งที่ปรารถนา เส้นความอดทนที่มีต่อเขาขาดสะบั้นตั้งแต่วินาทีแรกที่อนวัฒน์ทำอุกอาจ
เขาเหยียบหัวใจเธอพังยับเยิน!
“ฉันไม่น่ารู้จักคุณเลย!”
“ญาดา!” ญาดาน้ำตาไหลแทบเป็นสายเลือด ร่างน้อยสะบัดเบี่ยงเตะถีบ ในจังหวะที่เขาตะคอกพลางกดเรียวไหล่ให้จมลงกับโซฟา
“ไม่รู้จักงั้นเหรอ!”
“ใช่คุณมันปีศาจ สารเลวทะ…”
“สารเลวยังไงก็ผัวดา!”
อนวัฒน์ประกบจุมพิตกลีบปากบาง ไม่ปล่อยเธอได้ปรามาสตัดสินเขาอีกต่อไป ชายหนุ่มใช้จูบหนักหน่วงรุกล้ำโพรงปากฉ่ำหวาน ญาดาพยายามสะบัดเรียวแขนหนีห่างหากไม่อาจสู้กำลังของชายชาตรีได้
เขากดขึงทุกสัดส่วนแนบลู่อย่างโหดร้าย ไรฟันคมเม้มดูดดึงควานหากำไรจากความหวานของภรรยา มือเลื่อนปลดหัวเข็มขัดไม่สนใจว่าหญิงสาวสะอึกสะอื้นหนักหน่วงเพียงใด
จังหวะที่ลิ้นร้อนไล่เลียลงตามแอ่งชีพจร คนตัวเล็กรู้สึกเหมือนอยู่ในนรกอเวจีก็ไม่ปาน เสียงหอบหายใจหนัก ๆ จากความปวดร้าวกลายเป็นเกลียดชัง เมื่อคนเป็นสามีไม่คิดแยแสภรรยาที่ร้องไห้ระงม
“ฮะ…ฮึก!” เขากระชากเดรสบาดผิวขาดกระจุยปาไปคนละทิศทาง อนวัฒน์สอดสองนิ้วชำนาญปลดกางเกงชั้นในผ้าลูกไม้ พร้อมปากไล่คาบเปิดเปลือยตะขอบราเซียร์เบื้องหน้า
“ปะ…ปล่อย ดา”
เหมือนหนามแหลมปักลงมากลางอก คำร้องห้ามแม้ฟังดู แผ่วเบาหากนัยน์ตาเกลียดชังช่างอานุภาพรุนแรงเหลือเกิน
“ปล่อยแน่…” อนวัฒน์แสยะยิ้มมุมปากตอบกลับ
“…”
“แต่ปล่อยในตัวดา!” คำพูดจาหักหาญน้ำใจ ญาดาดิ้นหนีแต่ก็ไร้ความหมายเพราะมือกระด้างดันเรียวขายาวให้อ้าออก ชายหนุ่มกระแทกกายหนัก ๆ ไม่รอให้คนใต้ร่างพรั่งพร้อม
“กรี๊ดดดด!” ร่างเล็กกระตุกสุดแรงขณะที่แก่นกายผ่าวร้อนพุ่งพรวดเข้าออกอย่างป่าเถื่อน
“ฮะ…ฮึก” ญาดาเม้มเรียวปากปริแตก ไม่ส่งเสียงครางที่อนวัฒน์เคยปรารถนาอยากได้ยิน ยิ่งเธอต่อต้านเขาเหมือนยิ่งอยากเอาชนะ เพราะเอวสอบเคลื่อนเร็วดั่งเกลียวคลื่น สันกรามฉายชัดซึมด้วยเม็ดเหงื่อ
“อะ…อ่า” อนวัฒน์บังคับเรียวขายาวยกสูง เพื่อเปิดทางให้ตนรังแกหญิงสาวได้อย่างถนัดถนี่ ชายหนุ่มกัดฟันกรอดเพราะยิ่งใกล้กันมากเท่าไร ความคับจากกลีบกุหลาบบวมช้ำรัดแน่นเสียจนเขาแทบไม่เป็นตัวเอง
นิ้วเรียวบดขยี้เม็ดทับทิมหนัก ๆ เพราะคนดื้อแพ่งไม่ส่งเสียงครางสักแอะ นัยน์ตาอ่อนหวานแผ่รังสีผิดหวังเล่นเอาอนวัฒน์ปวดหน่วงทั้งใจ
เขามองเธอไม่ได้อีกต่อไป…วงหน้างดงามเจ็บปวดติดเยือกเย็นบาดลึกทำร้ายคนเข้มแข็ง หมดแล้วอณูความรักที่โอบล้อมสองสามีภรรยา เหลือเพียงอุ่นไอของความเกลียดชังแผ่ซ่านทุก ลมหายใจ
ปัก! ปัก!
แต่เพราะไม่เคยเป็นผู้แพ้ผลักดันให้สุภาพบุรุษกลายเป็นซาตาน อนวัฒน์กระแทกปากหนาหลบหลีกความชิงชัง แก่นกายใหญ่โตทะลวงเข้าออกดุดัน ชายหนุ่มตอกย้ำซ้ำ ๆ ปลดปล่อยสายธารขาวขุ่นในกายสาวครั้งแล้วครั้งเล่า ญาดาหอบสะท้านหมดแรง ไม่รู้ว่าสงครามสวาทนั่นจบสิ้นลงเมื่อไร น้ำตารินไหลเปรอะเปื้อนอาบแก้ม แต่ไม่มีสักเสี้ยวนาทีที่เธอร้องขอความเห็นใจ
เมื่อรักบริสุทธิ์แปรเปลี่ยนให้เป็นพิษร้าย ความไว้ใจพังทลายลงเศษรักร้าวแหลกละเอียดไม่มีชิ้นดี!
ดวงตะวันในช่วงสายสาดส่องใส่หน้า ญาดาสะดุ้งเฮือกจากภวังค์ฝันอันโหดร้าย เมื่อคืนหมดแรงไปตั้งแต่เมื่อไรจำไม่ได้เสียทีเดียว
มือบางกุมศีรษะที่ร้าวระบม เพียงแค่ขยับร่างกายนิดหน่อยความเจ็บปวดจากส่วนล่างพลันแล่นเล่นงานบริเวณท้องน้อย
อนวัฒน์ ฝีมือเขาทั้งนั้น!
นัยน์ตาดวงน้อยสั่นระริกพลางเคลื่อนมองรอบห้องซึ่งบัดนี้ไร้เงาคนใจร้าย เหลือไว้เพียงอะไรบางอย่างตั้งอยู่บริเวณโต๊ะข้างหัวเตียง
ยาคุมฉุกเฉินรวมถึงกระดาษโพสต์อิตยับ ๆ วางไว้อย่าง ลวก ๆ ราวไม่ใส่ใจ
‘จัดการตัวเองให้เรียบร้อย ดาคงไม่อยากท้องเพื่อจับผู้ชายสารเลวแบบผมหรอกจริงไหม’
คำพูดหยามเกียรติขีดเขียนด้วยลายมือคล้ายไก่เขี่ย ญาดากำหมัดขยำแผ่นกระดาษจมอยู่ในอุ้มมือเดียว
เธอหยัดกายฝืนลุกยืน ความสับสนในเรื่องราวต่าง ๆ ที่พวยพุ่งเข้ามาจนหญิงสาวตั้งตัวแทบไม่ทัน รู้อีกทีก็พยุงร่างรวมถึงดวงใจที่แตกสลายมายืนอยู่หน้ากระจกห้องน้ำเสียแล้ว
ร่องรอยเลวร้ายที่สามีกระทำเป็นเปื้อนแดงไม่ว่าจะทั้งในหรือนอกร่มผ้า ญาดากัดริมฝีปากสะอึกสะอื้นปล่อยหยาดน้ำตารินไหลอาบสองข้ามแก้ม
มือสั่นเทาเลื่อนทาบทับกระจกเงา…
แน่ใจใช่ไหมว่าคือชีวิตแต่งงานที่ใฝ่ฝัน นี่หรือสิ่งที่คนรักเขาทำให้กัน
ผู้ชายคนนั้นที่เคยให้สัญญาว่าจะรักและดูแลเธออย่างดี เวลานี้คือซาตาน!
“ฮะ…ฮึก!” เธอปลดปล่อยความเจ็บปวดผ่านม่านตาชุ่มน้ำและเสียงร้องไห้
“…ทำไม ทำไมพี่เชนทำกับดาแบบนี้”
อยู่ดี ๆ ก็มารังแกซ้ำยังใจร้ายใส่เหมือนเธอไม่ใช่คน เขาเหยียบศักดิ์ศรีเธอจมดินตั้งแต่วินาทีแรกที่เลือกหักหาญน้ำใจ
ร่างเล็กทรุดลงกับพื้นคล้ายเสียสติ มือข้างหนึ่งกำผ้าห่มผืนใหญ่ในขณะที่อีกข้างก็ทึ้งศีรษะตนเองเพื่อหาคำตอบในสิ่งที่สงสัยซ้ำแล้วซ้ำเล่า
“ทำไม ทำไม!”
เธอตะโกนลั่นห้องนอนแม้รู้ว่าเขาไม่ได้อยู่ตรงนี้ สิ่งที่ทวงถามไร้ความหมาย…
เพราะอนวัฒน์จากเธอไปเสียแล้ว…
เสื้อผ้าข้าวของเขา ไม่หลงเหลืออยู่สักชิ้นเดียว มีเพียงละอองรักหดหู่ของชีวิตคู่ที่พังทลาย ญาดาฟุบหน้าร้องไห้บนหน้าตักอย่างอ่อนแอ
“ฮะ…ฮือ…ดา เกลียดพี่!”
ใบหน้าหวานแดงก่ำ เปล่งเสียงระงมปานขาดใจ น้ำตาแต่ละหยดที่รินไหลออกมาไม่ต่างกับเศษความรักที่จางหาย ถึงเวลาที่มันแห้งเหือดลบเลือนไป
…เรื่องราวของเขาและเธอ คงเป็นเพียงแค่อดีตที่แสนปวดร้าว
ไม่น่าจดจำ…ไม่น่าจำใส่ใจแม้แต่นิดเดียว!
สามวันถัดมาใบหย่าถูกส่งมาที่บ้านผ่านทนายของตระกูลเขา ญาดารับไว้ด้วยใบหน้าราบเรียบทั้งที่ในใจทุกข์ทรมาน เธอจรดปากกาเซ็นสิ่งที่เขาปรารถนาตัดขาดความเป็นสามีภรรยาตั้งแต่วินาทีนี้เป็นต้นไป
แม้ภาพอดีตหลั่งไหลเข้ามาตอกย้ำว่าครั้งหนึ่งเคยโง่เชื่อน้ำคำคนทรยศแค่ไหนแต่ญาดาก็กล้ำกลืนฝืนทน แม้คิดถึงคน ใจร้ายในทุก ๆ วันที่ตื่นหรือแม้กระทั่งทุกคืนที่ตื่นนอนก็ไม่อ้อนวอนขอให้เขากลับมา
ส่วนฝ่ายอนวัฒน์เอง เขามอบเงินจำนวนห้าล้านโดยอ้างว่าเป็นสินสมรส และหลังจากนั้นผู้ชายที่ขึ้นชื่อว่าเป็นรักแรกของเธอก็หายไปอย่างไร้ร่องรอย
จบสิ้นรักที่อ่อนหวานกลายเป็นยาขม เมื่อทุกอย่างเปรียบดั่งสายลม…
แม้เยือกเย็น แผ่วเบา สุขละมุนแค่ไหน สุดท้ายก็ไม่เคยมีตัวตนอยู่ในชีวิตของกันและกัน!