บทที่เก้า

2424 Words
‘อะไรนะคะเจ๊ ดาโดนแคนเซิลงานอีกแล้ว!’ ร่วมสองอาทิตย์ที่เหตุแบบนี้เกิดขึ้นกับเธอซ้ำ ๆ คนตัวเล็กพ่นลมหายใจเข้าออกบอกตนเองให้ใจเย็นครั้งแล้วครั้งเล่า ทั้งที่แกนสมองตื้อตันไปหมด เธอไม่รู้เลยว่าสาเหตุมาจากไหนหรือเพราะอะไรกัน… ‘ใช่หล่อน เจ้าของงานเขาขอเปลี่ยนตัวอีกแล้ว’ ‘เขาได้บอกเจ๊ไหมว่าทำไมถึงเปลี่ยน’ ‘ไม่พูดลงรายละเอียด แค่เปรย ๆ ว่าไม่สะดวกใจทำงานกับหล่อน’ ญาดาอยากกรีดร้องระบายความรู้สึกอึดอัด แต่หญิงสาวทำได้เพียงกำหมัดแน่น ชั่ววูบเธอตงิดใจเรื่องทั้งหมดไม่มีทางบังเอิญ สังหรณ์ใจแปลก ๆ ว่าใครสักคนที่มีอำนาจเหลือล้นอยู่เบื้องหลังเรื่องบัดซบพวกนี้ บางทีใครคนนั้นอาจเป็นวารร้ายที่ตามราวีด้วยกล่องไปรษณีย์นั่นไง! ‘โอเคเจ๊ ขอโทษด้วยนะดาคงไม่ได้เรื่องเอง’ ‘ไม่ต้องขอโทษ ฉันน่ะไม่เป็นไรมีเด็กคนอื่นเยอะแยะ แต่หล่อนเถอะ ไหนจะต้องส่งลูก ผ่อนบ้านผ่อนรถ ถ้าเป็นแบบนี้ต่อไปแย่แน่ ๆ’ พรอาภาระบายลมหายใจ น้ำเสียงสาวใหญ่เป็นกังวลพอควร ญาดาเป็นเด็กที่หล่อนเอ็นดูและปั้นมาเองกับมือ มีอะไรลำบากก็ช่วยเหลือกันตลอด แต่นี่ทั้งสองกำลังเจอสถานการณ์กลืนไม่เข้าคายไม่ออก ไม่รู้จะสืบหาต้นสายปลายเหตุจากตรงไหนก่อน เพราะ พรอาภารู้ว่ามีเงื่อนงำอะไรบางอย่าง คนอย่างญาดาหรือไม่เต็มที่กับงานจนเจ้าของไม่ประทับใจ ทุกครั้งลูกสาวหล่อนทุ่มสุดตัวในทุกสิ่งที่ได้รับมอบหมาย เช่นนั้นญาดาไม่ฟื้นตัวเร็วขนาดนี้หรอก! “พี่ดา…” อันนายืนซ้อนอยู่เบื้องหลังสะกิดไหล่พี่สาวเบา ๆ ดวงตาคู่กลมของน้องฉายแววทุกข์ ‘แค่นี้ก่อนนะเจ๊หยก ไว้ดาค่อยโทร. กลับนะคะ’ ญาดากะพริบตาถี่ ๆ สงสัย ติ๊ด! “คือวันก่อนนาเจอผู้ชายคนนั้น” น้องสาวหยุดลงตรงหน้า หล่อนอึกอักทว่าอยู่ดี ๆ ก็สารภาพสิ่งที่ไม่ได้รายงานพี่คนโต “นาเจอเขาที่โรงบาลฯ พร้อมกับกล้าข้าว วันนั้นที่รถพี่มินหักเลี้ยวแล้วเกิดอุบัติเหตุชนข้างทาง” อันนาเริ่มเล่าทันที่ทีญาดาวางสาย ใบหน้าเกรี้ยวโกรธพร้อมเสียงตะโกนดัง ๆ ของอดีตพี่เขยยังหลอกหลอนอยู่ทุกคืนวัน “…” หญิงสาวนิ่งใจคอไม่ดี “แต่นาไม่ได้บอกเพราะกลัวว่าพี่จะไม่สบายใจ” คำว่าผู้ชายคนนั้นที่ออกจากปากอันนาทำให้ญาดานึกถึงอดีต ใบหน้าหล่อเหลาทรงเสน่ห์ผสมผสานกับคิ้วเข้ม ซึ่งมักขมวดมุ่นทุกคราเวลาโมโห ไหนจะตาคมกริบที่พร้อมแผดเผาศัตรู ญาดาขนลุกเกรียวทันใด เพราะเธอรู้ว่าวินาทีนี้ตนเองกำลังสู้อยู่กับใคร อนวัฒน์เป็นคนใจร้อน เขาพร้อมกับชนทุกเมื่อไม่ว่าจะกับใครหน้าไหน ยิ่งคนเคยรักที่แปรเปลี่ยนเป็นเกลียดชังอย่างเธอด้วยแล้ว มั่นใจว่าเขายิ่งทวีความร้ายกาจใส่ ความลับที่ญาดาปิดบังไม่ใช่สิ่งที่ชายหนุ่มจะให้อภัยง่าย ๆ ลูกเป็นสิ่งที่เขาใฝ่ฝันมาตลอดช่วงเวลาของชีวิตคู่ ‘พี่จะสร้างบ้านของเรา ปลูกต้นไม้สวย ๆ แบบที่ดาชอบดีไหม มีลูกสักสองสามคนพอเราแก่ตัวไปพวกแกจะได้ไม่เหงา ดาเป็นแม่ใจดีส่วนพี่คงเป็นพ่อเจ้าระเบียบหน่อย แต่มีลูกสาวตัว เล็ก ๆ คงแพ้ลูกอ้อนน่าดู ถ้าเป็นลูกชายก็ดีเหมือนกัน จะได้หน้าตาดีเหมือนพ่อ เอาไว้ตกสาวเข้าบ้านเราเยอะ ๆ งานนอกบ้านไม่ต้องทำนะ…ไม่อยากให้ดาเหนื่อยอีกแล้ว สัญญาว่าจะดูแลอย่างดี’ คำพูดเพ้อฝันก้องกระทบโสตประสาทฉับพลัน ดวงตาคู่งามสั่นเทาขึ้นอีกครั้ง อดีตรักแสนอ่อนหวานวนเข้ามาในตะกอนความคิดชั่วขณะ ก้อนเนื้อในอกข้างซ้ายอย่างหัวใจเจ็บปวดทุกครั้งยามนึกถึงคนไม่รักษาสัญญา! “นาน่าจะบอกพี่ให้เร็วกว่านี้” ท่าทีฉุนเฉียวของชายหนุ่ม ญาดาจินตนาการออกว่าเป็นไปในทิศทางไหน ใจเขาคงนึกโทษทุกอย่างยกเว้นตัวเอง คนเห็นแก่ตัวจะทำอะไรได้นอกจากฟาดงวงฟาดงา “นาขอโทษ” อันนากอบกุมมือพี่สาว นัยน์ตาน้องน้อยแดงก่ำหวาดผวา “ผู้ชายคนนั้นเขาเห็นหน้ากล้าข้าวไหม” ญาดาถามในสิ่งที่มีคำตอบ ลึกแล้วกล้าข้าวคือเลือดเนื้อเชื้อไขของเขา ที่คนพาลลงทุนเรียกร้องความสนใจก็เพราะต้องการให้ญาดาจนตรอก ชายหนุ่มคงคิดพรากใจดวงน้อยจากอกแน่ ๆ และญาดาไม่มีวันยอม! “เห็นค่ะ เหมือนสงสัยด้วยนะว่าเด็กเป็นลูกใคร” เธอหัวเราะในลำคอ แน่ละอนวัฒน์ฉลาดเป็นกรดแต่ดันพลาดตกม้าตายเพราะเรื่องโง่ ๆ คนเจ้าเล่ห์นึกให้ความสนใจกับเด็กที่เพิ่งพบกัน จะเป็นอะไรได้อีกนอกจากหวังว่าเด็กคนนั้นคือบุตรของตนเอง ช่างน่าขำสิ้นดี ตอนทิ้งก็จากไปอย่างไม่ไยดี เขาจรดใบหย่าพร้อมยัดยาคุมให้เธอเองกับมือ… แล้ววันนี้จะมาเรียกร้องสิทธิ์อะไรกัน! “คงคิดว่าเป็นลูกเขาแหละ” “นาเป็นห่วงพี่กับกล้าข้าวจัง เผลอ ๆ ที่งานพี่โดนยกเลิกอาจจะเป็นฝีมือเขา” “พี่ก็ว่างั้น คงอยากไล่ต้อนพี่ให้จนมุม” “เพื่ออะไร พี่กับเขามีชีวิตคนละเส้นทางแล้ว อีกอย่าง กล้าข้าวเขาก็ไม่เคยมาเหลียวแล ทำไมต้องทำอะไรให้ยุ่งยากด้วย” อันนาหวีดเสียงเพราะโมโห ดวงตาของน้าสาวเคลื่อนมองไปยังเจ้าตัวเล็กที่หลับปุ๋ยอยู่บนโซฟา “สงสารกล้าข้าว ถ้ารู้ว่าพ่อทำร้ายแม่แบบนี้จะรู้สึกยังไง” “พี่ไม่มีทางยอมให้เขารังแกเราอยู่ฝ่ายเดียวแน่” ญาดากันฟันกรอด เวลานี้เธอพร้อมเผชิญหน้าแบบตาต่อตาฟันต่อฟัน คนหน้าด้านต้องรู้ว่าผู้หญิงคนนี้ไม่โง่เหมือนหกปีที่ผ่านมา เธอไม่ใช่หญิงสาวผู้ใสซื่อให้บูชารักลวง เพราะอนวัฒน์เป็นคนปักหนามแหลมลงกลางใจคนตัวเล็กเองกับมือ มิหนำซ้ำเขายังบดขยี้มันด้วยฝ่าเท้า ทิ้งไว้เพียงพิษรักร้าวที่สุดท้ายจางหายไปกับวันเวลา “นาห่วงเรื่องกล้าข้าว” อันนาโพล่งเปิดเผยความในใจ “เขาอาจจะได้สิทธิ์ความเป็นพ่อ เพราะอำนาจเงิน” “พี่ก็กลัวเหมือนกัน” เป็นอีกหนึ่งที่เรื่องญาดากังวล ศาลมักให้สิทธิ์คนที่พร้อมกว่าถ้าพ่อกับแม่หย่าขาดกัน คุณสมบัติกับเงินตราที่ตระกูลอนวัฒน์มั่งมีทำให้ชายหนุ่มแย่งลูกไปจากเธอได้ไม่ยากเย็น “เขาต้องอยากได้ลูกคืน” น้องสาวพูดเสียงแข็ง “ไม่มีวัน!” ฝ่ามือของญาดาตวัดเขาหากัน สัญชาตญาณความเป็นแม่ถูกปลุกอยู่แทบทุกวินาที หากใครบังอาจมาแยกบุตรชายของตนไป แม่ที่ไม่มีอะไรนอกจากความรักล้นเปี่ยมผู้นี้ก็พร้อมสู้ยิบตา! ซ่า! ซ่า! น้ำจากฝักบัวไล่เป็นทางยาวผ่านวงหน้าบ่งบอกว่าเครียดเขม็ง ผมดกดำแนบลู่ไม่เป็นทรงแต่ไม่อาจบดบังรัศมีหล่อคมคาย อนวัฒน์เร่งฝีเท้าเข้าห้องน้ำทันทีหลังปิดเอกสารในซองสีน้ำตาล ใจร้อนรุ่มพุ่งสูบฉีดจนต้องใช้สายน้ำเยือกเย็นช่วยบรรเทาความรู้สึกว้าวุ่น ‘เด็กคนนั้นไม่มีชื่อพ่อในใบเกิดผู้ปกครองมีแค่แม่’ ‘ลูกคุณญาดาชื่อกวินท์ อายุห้าขวบ เรียนโรงเรียนรัฐบาลสองภาษา’ คำพูดมือขวาคนสนิทรายงานไปพร้อม ๆ กับเอกสารกอปรภาพถ่ายที่ถูกสรรหาตามคำสั่งนาย ชายหนุ่มต้องการความเคลื่อนไหวของสองแม่ลูกตลอดหกปีที่ผ่านมา เรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ ในชีวิตประจำวันหรือแม้กระทั่งช่วงเวลาที่ญาดาพากล้าข้าวตระเวนเที่ยวทะเลแบบที่เด็กหนุ่มชอบใจถูกบันทึกไว้ อนวัฒน์เพิ่งรับรู้ว่าคนตัวเล็กกลับเข้าไปทำงานพริตตีอีกครั้ง เธอจึงไม่ค่อยมีเวลาอยู่กับกล้าข้าวเท่าที่ควร แต่นอกจากญาดาแล้วบ้านหลังนั้นยังมีอันนาอาศัยร่วมด้วย หล่อนรับหน้าที่พี่เลี้ยงจำเป็นยามคนเป็นแม่ไม่ว่าง ‘แต่แปลกนะครับนาย หมู่นี้ผมเห็นไอ้นี่มันด้อม ๆ มอง ๆ แถวบ้านคุณดาบ่อยครั้ง’ ‘ผู้ชายคนนี้ ?’ ชายชุดดำใส่หมวกพรางตัวมิดชิด ทำเอาอนวัฒน์ขมวดคิ้วสงสัยว่าปิดบังอะไรกันนะ ทำไมต้องลึกลับขนาดนั้น ‘มีคนอื่นอีกไหม’ ปัดความข้องใจถามต่อ ‘ไอ้นี่ครับ’ อีกหนุ่มคือคนคุ้นเคย แต่ภาพที่ทำให้เขายั้งมือไว้ไม่อยู่ บดขยี้แหลกละเอียดคา ฝ่ามือ ทั้งยังอยากกระทืบซ้ำด้วยสองเท้านั่นคือไอ้หน้าเข้มที่เคยเห็นเพียงครั้งเดียว แต่ชายหนุ่มจำมันได้ถนัดตา! ใบหน้าเปื้อนยิ้มสะอาดสะอ้าน คิ้วเข้มเรียงสวยจับกันเป็นทรงเสน่ห์ รูปร่างสูงโปร่งที่ไม่ว่าใส่อะไรก็คงดูดีจนน่าหมั่นไส้ ชายคนนี้อยู่กับญาดาในคืนสุดท้ายก่อนชีวิตคู่เขาจะจบลง! ไอ้หน้าเข้มน่ากระทืบ! ใบหน้าเหนื่อยล้าหลังคลี่คลายปัญหาหนักหน่วงพ่นลมหายใจทิ้งไปมา มือสากหมุนพวงมาลัยเตรียมหักเลี้ยวเข้าบ้าน แต่กลับมีรถคันหรูบังประตูอย่างจัง อนวัฒน์ชะลอฝีเท้ากะลงไปบอกเจ้าของให้ขับไปจอดที่อื่น แต่ยังไม่ทันไรร่างงามของภรรยาก้าวฉับ ๆ ขึ้นรถออกไปเหมือนเร่งรีบ ชายหนุ่มตัดสินใจอยู่ชั่วครู่ ทว่าคำถามมากมายต่างหลั่งไหลคล้ายสับสน เพราะคำว่าเป็นห่วงเมียคำเดียวทำให้ร่างสง่าเหยียบคันเร่งจนมิด โดยไม่ล่วงรู้ว่าจุดหมายปลายทางคือโรงแรมหรูใจกลางเมือง… ‘คุณผู้หญิงคนเมื่อกี้อยู่ในห้องวีไอพีครับ’ ‘ห้องวีไอพี ?’ อนวัฒน์มุ่นคิ้วถามเด็กเสิร์ฟ ‘เธอน่าจะมากับท่านนะครับ’ ‘ท่าน ?’ ใจแกร่งล่วงหล่นลงสู่พื้น เหมือนแรงที่หยัดยืนค่อย ๆ ทลายหายไป เมียเขามาทำอะไรที่นี่ แล้วท่านที่เด็กคนนั่นว่าคือใคร… ญาดาเกี่ยวพันอะไร! ‘บอกชื่อไม่ได้ครับ แต่ปกติท่านมาเลี้ยงกับพรรคพวกอยู่บ่อย ๆ มาแต่ละทีก็หนีบผู้หญิงพวกนั้นข้างกายตลอด’ ‘ผู้หญิงพวกนั้น ?’ ‘ผู้หญิงที่ขายอะพี่ โต ๆ กันคงไม่ต้องให้ผมลงรายละเอียดหรอกใช่ไหม’ คำตอบของเด็กเสิร์ฟทำให้ร่างสูงหมุนปลายเท้าหนี จำเป็นต้องอยู่เพื่อความจริงอีกทำไมกัน ในเมื่อทุกอย่างกระจ่างชัดตั้งแต่ต้น... ญาดาโกหกเขาไปรับงานพริตตีอนวัฒน์ยังพอยอมรับได้ แต่สิ่งที่เธอทำวันนี้ไม่ต่างอะไรกับการสวมเขาสามี หญิงสาวปักมีดแหลมลงกลางหัวใจแกร่ง คำลวงของเธอจ้วงแทงซ้ำ ๆ จนเขาเป็นบาดแผลเหวอะหวะ… เขาทุบพวงมาลัยครั้งแล้วครั้งเล่า ขณะน้ำตารินไหนเปียกสองลำแขนกระทบใบหน้าแดงก่ำ ดวงตาสั่นระริกอดสูนัก อยากปิดตาแล้วหายตัวไปจากวังวนอันโง่งมนี่ สภาพชายหนุ่มแสนทะนงบัดซบสิ้นดี เวลานี้เขาแพ้หมดรูป! โทษอะไรไม่ได้นอกจากตนเองที่เลือกใช้หัวใจนำทางสมอง เป็นคนดีแล้วไง ปกป้องเธอแล้วเขาได้อะไร… สุดท้ายญาดาทรยศหักหลังไม่รักกันอยู่ดี! อนวัฒน์เป็นเพียงคนโง่ แค่คนโง่คนหนึ่งในสายตาเธอ! “พี่เชนคะ” เสียงหวานเข้าแทรกเสียงน้ำ อิงอรปลดปราการทุกอย่างทิ้งลงบนพื้น หล่อนทอดสายตายั่วยวนมองแผ่นหลังแข็งกร้าวของว่าที่สามีในอนาคต “มาทำอะไรตรงนี้” อนวัฒน์สะดุ้งเฮือก เสียงเข้มขึงขึ้นแต่ก็ไม่ได้ดุร้ายอะไร “ให้อิงช่วยพี่นะ” หล่อนสอดลำแขนโอบรอบเอวสอบ ในขณะที่ถูไถร่างกายเปล่าเปลือยพร้อมทั้งหลับตาพริ้มซบแผ่นหลัง “อะ…อิง” อนวัฒน์กัดฟันกรอด เขาและอิงอรใกล้ชิดกันหลายต่อหลายครั้งก็จริง แต่ปราศจากความสัมพันธ์ทางกาย ชายหนุ่มแค่ทำตามสัญญาที่เคยให้ไว้ในอดีต เขาดูแลและให้เกียรติเธอในฐานะว่าที่คู่หมั้น “ให้อิงช่วยพี่นะ เห็นเครียด ๆ” หล่อนเลื่อนไล้นวดขมับทั้งสองข้าง ร่างสูงขบกรามแน่นเส้นความอดทนคล้ายดำดิ่งลงสู่มหาสมุทร ลึกล้ำ น่าอึดอัด วาบหวามจนอนวัฒน์หายใจไม่ทั่วท้อง… เพราะเขาเป็นผู้ชายมีเลือดมีเนื้อ มีบ้างที่จะรู้สึกหวั่นไหวด้วยแรงปรารถนา อิงอรเข้ามาใกล้ชิดขนาดนี้ใครบ้างจะยั้งกายไว้อยู่ นิ้วหัวแม่มือจรดนิ้วชี้นวดเบา ๆ เพื่อให้อนวัฒน์ผ่อนคลาย ใบหน้างดงามเลื่อนกระซิบใบหูด้วยถ้อยคำที่ว่า “ให้อิงช่วยพี่ไหมคะ” ผลัก! ชายหนุ่มพลิกร่างงามกระแทกผนังกระเบื้องด้วยความว่องไว ใบหน้าคร้ามคมใกล้เรียวปากกระจับแค่คืบมีเพียงลมหายใจผะผ่าวรินรดกันเบา ๆ ซ้อนทับความเงียบงัน,,, วินาทีหมายจรดริมฝีปากหยักทาบทับกลีบปากบวมเจ่อ แต่สุดท้ายภาพของใครคนหนึ่งกลับแทรกทับแกนสมองจนอนวัฒน์ผละห่างอิงอรทั้งยังมองหล่อนราวของร้อน! “เป็นอะไรพี่เชน” คิ้วเรียวขมวดบ่งบอกว่าหล่อนไม่เข้าใจ จังหวะกำลังเข้าด้ายเข้าเข็มอยู่แล้ว เขาหยุดทำไมกัน! “อิงอยากเป็นของพี่” มือนุ่มนิ่มหมายแนบทับใบหน้าชายที่รัก “พอเถอะอิง” น้ำเสียงเย็นชาเหมือนยิงแสกหน้า ศักดิ์ศรีอิงอรกลายเป็นฝุ่นผงทันที เพราะคนที่หล่อนต้องการเวลานี้ถดกายถอยห่าง “พี่เชน…” “อย่าทำแบบนี้อีก มันไม่มีประโยชน์อิงน่าจะรู้ดี” เขาว่าก่อนหันหลังคว้าผ้าเช็ดตัวพันเอวสอบลวก ๆ “อิงได้ตัวพี่ก็มีแต่ความเสียใจ” อนวัฒน์จ้ำอ้าวหนีทันที ร่างสูงไม่สนใจว่านาทีนี้ผู้หญิงเบื้องหลังแผดเสียงร้องไห้ประหนึ่งโกรธเคืองเต็มทน “เพราะแกนังดา!” อิงอรกำหมัดแน่นเลือกโทษมารหัวใจฝ่ายเดียว หล่อนเกลียดที่อนวัฒน์ไม่ยอมลืมญาดา! เพราะซองเอกสารนั่นทำให้หล่อนรู้ว่าเขายังใส่ใจเรื่องแม่นั่นอยู่! ดวงตากลมสั่นเครืออ่อนไหว อิงอรปวดไปทั้งหัวใจได้ตัวเขามาก็ไม่ต่างอะไรกับตายทั้งเป็น ต้องทำเช่นไรถึงจะเอาชนะผู้หญิงจน ๆ คนนั้นได้ หล่อนพยายามทุกวิถีทางแล้วทว่าเหมือนเปล่าประโยชน์… เพราะสิ่งที่ได้รับกลับมาไม่มีอะไรนอกจาก ‘ความว่างเปล่า’
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD