‘อะไรนะคะเจ๊ ดาโดนแคนเซิลงานอีกแล้ว!’
ร่วมสองอาทิตย์ที่เหตุแบบนี้เกิดขึ้นกับเธอซ้ำ ๆ คนตัวเล็กพ่นลมหายใจเข้าออกบอกตนเองให้ใจเย็นครั้งแล้วครั้งเล่า ทั้งที่แกนสมองตื้อตันไปหมด เธอไม่รู้เลยว่าสาเหตุมาจากไหนหรือเพราะอะไรกัน…
‘ใช่หล่อน เจ้าของงานเขาขอเปลี่ยนตัวอีกแล้ว’
‘เขาได้บอกเจ๊ไหมว่าทำไมถึงเปลี่ยน’
‘ไม่พูดลงรายละเอียด แค่เปรย ๆ ว่าไม่สะดวกใจทำงานกับหล่อน’ ญาดาอยากกรีดร้องระบายความรู้สึกอึดอัด แต่หญิงสาวทำได้เพียงกำหมัดแน่น
ชั่ววูบเธอตงิดใจเรื่องทั้งหมดไม่มีทางบังเอิญ สังหรณ์ใจแปลก ๆ ว่าใครสักคนที่มีอำนาจเหลือล้นอยู่เบื้องหลังเรื่องบัดซบพวกนี้ บางทีใครคนนั้นอาจเป็นวารร้ายที่ตามราวีด้วยกล่องไปรษณีย์นั่นไง!
‘โอเคเจ๊ ขอโทษด้วยนะดาคงไม่ได้เรื่องเอง’
‘ไม่ต้องขอโทษ ฉันน่ะไม่เป็นไรมีเด็กคนอื่นเยอะแยะ แต่หล่อนเถอะ ไหนจะต้องส่งลูก ผ่อนบ้านผ่อนรถ ถ้าเป็นแบบนี้ต่อไปแย่แน่ ๆ’
พรอาภาระบายลมหายใจ น้ำเสียงสาวใหญ่เป็นกังวลพอควร ญาดาเป็นเด็กที่หล่อนเอ็นดูและปั้นมาเองกับมือ มีอะไรลำบากก็ช่วยเหลือกันตลอด แต่นี่ทั้งสองกำลังเจอสถานการณ์กลืนไม่เข้าคายไม่ออก
ไม่รู้จะสืบหาต้นสายปลายเหตุจากตรงไหนก่อน เพราะ พรอาภารู้ว่ามีเงื่อนงำอะไรบางอย่าง คนอย่างญาดาหรือไม่เต็มที่กับงานจนเจ้าของไม่ประทับใจ ทุกครั้งลูกสาวหล่อนทุ่มสุดตัวในทุกสิ่งที่ได้รับมอบหมาย เช่นนั้นญาดาไม่ฟื้นตัวเร็วขนาดนี้หรอก!
“พี่ดา…” อันนายืนซ้อนอยู่เบื้องหลังสะกิดไหล่พี่สาวเบา ๆ ดวงตาคู่กลมของน้องฉายแววทุกข์
‘แค่นี้ก่อนนะเจ๊หยก ไว้ดาค่อยโทร. กลับนะคะ’
ญาดากะพริบตาถี่ ๆ สงสัย
ติ๊ด!
“คือวันก่อนนาเจอผู้ชายคนนั้น”
น้องสาวหยุดลงตรงหน้า หล่อนอึกอักทว่าอยู่ดี ๆ ก็สารภาพสิ่งที่ไม่ได้รายงานพี่คนโต
“นาเจอเขาที่โรงบาลฯ พร้อมกับกล้าข้าว วันนั้นที่รถพี่มินหักเลี้ยวแล้วเกิดอุบัติเหตุชนข้างทาง” อันนาเริ่มเล่าทันที่ทีญาดาวางสาย ใบหน้าเกรี้ยวโกรธพร้อมเสียงตะโกนดัง ๆ ของอดีตพี่เขยยังหลอกหลอนอยู่ทุกคืนวัน
“…” หญิงสาวนิ่งใจคอไม่ดี
“แต่นาไม่ได้บอกเพราะกลัวว่าพี่จะไม่สบายใจ”
คำว่าผู้ชายคนนั้นที่ออกจากปากอันนาทำให้ญาดานึกถึงอดีต ใบหน้าหล่อเหลาทรงเสน่ห์ผสมผสานกับคิ้วเข้ม ซึ่งมักขมวดมุ่นทุกคราเวลาโมโห ไหนจะตาคมกริบที่พร้อมแผดเผาศัตรู ญาดาขนลุกเกรียวทันใด เพราะเธอรู้ว่าวินาทีนี้ตนเองกำลังสู้อยู่กับใคร
อนวัฒน์เป็นคนใจร้อน เขาพร้อมกับชนทุกเมื่อไม่ว่าจะกับใครหน้าไหน ยิ่งคนเคยรักที่แปรเปลี่ยนเป็นเกลียดชังอย่างเธอด้วยแล้ว มั่นใจว่าเขายิ่งทวีความร้ายกาจใส่
ความลับที่ญาดาปิดบังไม่ใช่สิ่งที่ชายหนุ่มจะให้อภัยง่าย ๆ ลูกเป็นสิ่งที่เขาใฝ่ฝันมาตลอดช่วงเวลาของชีวิตคู่
‘พี่จะสร้างบ้านของเรา ปลูกต้นไม้สวย ๆ แบบที่ดาชอบดีไหม มีลูกสักสองสามคนพอเราแก่ตัวไปพวกแกจะได้ไม่เหงา ดาเป็นแม่ใจดีส่วนพี่คงเป็นพ่อเจ้าระเบียบหน่อย แต่มีลูกสาวตัว เล็ก ๆ คงแพ้ลูกอ้อนน่าดู ถ้าเป็นลูกชายก็ดีเหมือนกัน จะได้หน้าตาดีเหมือนพ่อ เอาไว้ตกสาวเข้าบ้านเราเยอะ ๆ
งานนอกบ้านไม่ต้องทำนะ…ไม่อยากให้ดาเหนื่อยอีกแล้ว สัญญาว่าจะดูแลอย่างดี’
คำพูดเพ้อฝันก้องกระทบโสตประสาทฉับพลัน ดวงตาคู่งามสั่นเทาขึ้นอีกครั้ง อดีตรักแสนอ่อนหวานวนเข้ามาในตะกอนความคิดชั่วขณะ ก้อนเนื้อในอกข้างซ้ายอย่างหัวใจเจ็บปวดทุกครั้งยามนึกถึงคนไม่รักษาสัญญา!
“นาน่าจะบอกพี่ให้เร็วกว่านี้”
ท่าทีฉุนเฉียวของชายหนุ่ม ญาดาจินตนาการออกว่าเป็นไปในทิศทางไหน ใจเขาคงนึกโทษทุกอย่างยกเว้นตัวเอง คนเห็นแก่ตัวจะทำอะไรได้นอกจากฟาดงวงฟาดงา
“นาขอโทษ” อันนากอบกุมมือพี่สาว นัยน์ตาน้องน้อยแดงก่ำหวาดผวา
“ผู้ชายคนนั้นเขาเห็นหน้ากล้าข้าวไหม” ญาดาถามในสิ่งที่มีคำตอบ ลึกแล้วกล้าข้าวคือเลือดเนื้อเชื้อไขของเขา ที่คนพาลลงทุนเรียกร้องความสนใจก็เพราะต้องการให้ญาดาจนตรอก
ชายหนุ่มคงคิดพรากใจดวงน้อยจากอกแน่ ๆ และญาดาไม่มีวันยอม!
“เห็นค่ะ เหมือนสงสัยด้วยนะว่าเด็กเป็นลูกใคร”
เธอหัวเราะในลำคอ แน่ละอนวัฒน์ฉลาดเป็นกรดแต่ดันพลาดตกม้าตายเพราะเรื่องโง่ ๆ คนเจ้าเล่ห์นึกให้ความสนใจกับเด็กที่เพิ่งพบกัน จะเป็นอะไรได้อีกนอกจากหวังว่าเด็กคนนั้นคือบุตรของตนเอง
ช่างน่าขำสิ้นดี ตอนทิ้งก็จากไปอย่างไม่ไยดี เขาจรดใบหย่าพร้อมยัดยาคุมให้เธอเองกับมือ…
แล้ววันนี้จะมาเรียกร้องสิทธิ์อะไรกัน!
“คงคิดว่าเป็นลูกเขาแหละ”
“นาเป็นห่วงพี่กับกล้าข้าวจัง เผลอ ๆ ที่งานพี่โดนยกเลิกอาจจะเป็นฝีมือเขา”
“พี่ก็ว่างั้น คงอยากไล่ต้อนพี่ให้จนมุม”
“เพื่ออะไร พี่กับเขามีชีวิตคนละเส้นทางแล้ว อีกอย่าง กล้าข้าวเขาก็ไม่เคยมาเหลียวแล ทำไมต้องทำอะไรให้ยุ่งยากด้วย” อันนาหวีดเสียงเพราะโมโห ดวงตาของน้าสาวเคลื่อนมองไปยังเจ้าตัวเล็กที่หลับปุ๋ยอยู่บนโซฟา
“สงสารกล้าข้าว ถ้ารู้ว่าพ่อทำร้ายแม่แบบนี้จะรู้สึกยังไง”
“พี่ไม่มีทางยอมให้เขารังแกเราอยู่ฝ่ายเดียวแน่” ญาดากันฟันกรอด เวลานี้เธอพร้อมเผชิญหน้าแบบตาต่อตาฟันต่อฟัน คนหน้าด้านต้องรู้ว่าผู้หญิงคนนี้ไม่โง่เหมือนหกปีที่ผ่านมา
เธอไม่ใช่หญิงสาวผู้ใสซื่อให้บูชารักลวง เพราะอนวัฒน์เป็นคนปักหนามแหลมลงกลางใจคนตัวเล็กเองกับมือ มิหนำซ้ำเขายังบดขยี้มันด้วยฝ่าเท้า ทิ้งไว้เพียงพิษรักร้าวที่สุดท้ายจางหายไปกับวันเวลา
“นาห่วงเรื่องกล้าข้าว”
อันนาโพล่งเปิดเผยความในใจ
“เขาอาจจะได้สิทธิ์ความเป็นพ่อ เพราะอำนาจเงิน”
“พี่ก็กลัวเหมือนกัน”
เป็นอีกหนึ่งที่เรื่องญาดากังวล ศาลมักให้สิทธิ์คนที่พร้อมกว่าถ้าพ่อกับแม่หย่าขาดกัน คุณสมบัติกับเงินตราที่ตระกูลอนวัฒน์มั่งมีทำให้ชายหนุ่มแย่งลูกไปจากเธอได้ไม่ยากเย็น
“เขาต้องอยากได้ลูกคืน” น้องสาวพูดเสียงแข็ง
“ไม่มีวัน!”
ฝ่ามือของญาดาตวัดเขาหากัน สัญชาตญาณความเป็นแม่ถูกปลุกอยู่แทบทุกวินาที หากใครบังอาจมาแยกบุตรชายของตนไป แม่ที่ไม่มีอะไรนอกจากความรักล้นเปี่ยมผู้นี้ก็พร้อมสู้ยิบตา!
ซ่า! ซ่า!
น้ำจากฝักบัวไล่เป็นทางยาวผ่านวงหน้าบ่งบอกว่าเครียดเขม็ง ผมดกดำแนบลู่ไม่เป็นทรงแต่ไม่อาจบดบังรัศมีหล่อคมคาย
อนวัฒน์เร่งฝีเท้าเข้าห้องน้ำทันทีหลังปิดเอกสารในซองสีน้ำตาล ใจร้อนรุ่มพุ่งสูบฉีดจนต้องใช้สายน้ำเยือกเย็นช่วยบรรเทาความรู้สึกว้าวุ่น
‘เด็กคนนั้นไม่มีชื่อพ่อในใบเกิดผู้ปกครองมีแค่แม่’
‘ลูกคุณญาดาชื่อกวินท์ อายุห้าขวบ เรียนโรงเรียนรัฐบาลสองภาษา’ คำพูดมือขวาคนสนิทรายงานไปพร้อม ๆ กับเอกสารกอปรภาพถ่ายที่ถูกสรรหาตามคำสั่งนาย
ชายหนุ่มต้องการความเคลื่อนไหวของสองแม่ลูกตลอดหกปีที่ผ่านมา เรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ ในชีวิตประจำวันหรือแม้กระทั่งช่วงเวลาที่ญาดาพากล้าข้าวตระเวนเที่ยวทะเลแบบที่เด็กหนุ่มชอบใจถูกบันทึกไว้
อนวัฒน์เพิ่งรับรู้ว่าคนตัวเล็กกลับเข้าไปทำงานพริตตีอีกครั้ง เธอจึงไม่ค่อยมีเวลาอยู่กับกล้าข้าวเท่าที่ควร แต่นอกจากญาดาแล้วบ้านหลังนั้นยังมีอันนาอาศัยร่วมด้วย หล่อนรับหน้าที่พี่เลี้ยงจำเป็นยามคนเป็นแม่ไม่ว่าง
‘แต่แปลกนะครับนาย หมู่นี้ผมเห็นไอ้นี่มันด้อม ๆ มอง ๆ แถวบ้านคุณดาบ่อยครั้ง’
‘ผู้ชายคนนี้ ?’
ชายชุดดำใส่หมวกพรางตัวมิดชิด ทำเอาอนวัฒน์ขมวดคิ้วสงสัยว่าปิดบังอะไรกันนะ ทำไมต้องลึกลับขนาดนั้น
‘มีคนอื่นอีกไหม’ ปัดความข้องใจถามต่อ
‘ไอ้นี่ครับ’ อีกหนุ่มคือคนคุ้นเคย
แต่ภาพที่ทำให้เขายั้งมือไว้ไม่อยู่ บดขยี้แหลกละเอียดคา ฝ่ามือ ทั้งยังอยากกระทืบซ้ำด้วยสองเท้านั่นคือไอ้หน้าเข้มที่เคยเห็นเพียงครั้งเดียว แต่ชายหนุ่มจำมันได้ถนัดตา!
ใบหน้าเปื้อนยิ้มสะอาดสะอ้าน คิ้วเข้มเรียงสวยจับกันเป็นทรงเสน่ห์ รูปร่างสูงโปร่งที่ไม่ว่าใส่อะไรก็คงดูดีจนน่าหมั่นไส้
ชายคนนี้อยู่กับญาดาในคืนสุดท้ายก่อนชีวิตคู่เขาจะจบลง!
ไอ้หน้าเข้มน่ากระทืบ!
ใบหน้าเหนื่อยล้าหลังคลี่คลายปัญหาหนักหน่วงพ่นลมหายใจทิ้งไปมา มือสากหมุนพวงมาลัยเตรียมหักเลี้ยวเข้าบ้าน แต่กลับมีรถคันหรูบังประตูอย่างจัง อนวัฒน์ชะลอฝีเท้ากะลงไปบอกเจ้าของให้ขับไปจอดที่อื่น
แต่ยังไม่ทันไรร่างงามของภรรยาก้าวฉับ ๆ ขึ้นรถออกไปเหมือนเร่งรีบ ชายหนุ่มตัดสินใจอยู่ชั่วครู่ ทว่าคำถามมากมายต่างหลั่งไหลคล้ายสับสน เพราะคำว่าเป็นห่วงเมียคำเดียวทำให้ร่างสง่าเหยียบคันเร่งจนมิด โดยไม่ล่วงรู้ว่าจุดหมายปลายทางคือโรงแรมหรูใจกลางเมือง…
‘คุณผู้หญิงคนเมื่อกี้อยู่ในห้องวีไอพีครับ’
‘ห้องวีไอพี ?’ อนวัฒน์มุ่นคิ้วถามเด็กเสิร์ฟ
‘เธอน่าจะมากับท่านนะครับ’
‘ท่าน ?’
ใจแกร่งล่วงหล่นลงสู่พื้น เหมือนแรงที่หยัดยืนค่อย ๆ ทลายหายไป เมียเขามาทำอะไรที่นี่ แล้วท่านที่เด็กคนนั่นว่าคือใคร…
ญาดาเกี่ยวพันอะไร!
‘บอกชื่อไม่ได้ครับ แต่ปกติท่านมาเลี้ยงกับพรรคพวกอยู่บ่อย ๆ มาแต่ละทีก็หนีบผู้หญิงพวกนั้นข้างกายตลอด’
‘ผู้หญิงพวกนั้น ?’
‘ผู้หญิงที่ขายอะพี่ โต ๆ กันคงไม่ต้องให้ผมลงรายละเอียดหรอกใช่ไหม’
คำตอบของเด็กเสิร์ฟทำให้ร่างสูงหมุนปลายเท้าหนี จำเป็นต้องอยู่เพื่อความจริงอีกทำไมกัน ในเมื่อทุกอย่างกระจ่างชัดตั้งแต่ต้น...
ญาดาโกหกเขาไปรับงานพริตตีอนวัฒน์ยังพอยอมรับได้ แต่สิ่งที่เธอทำวันนี้ไม่ต่างอะไรกับการสวมเขาสามี หญิงสาวปักมีดแหลมลงกลางหัวใจแกร่ง คำลวงของเธอจ้วงแทงซ้ำ ๆ จนเขาเป็นบาดแผลเหวอะหวะ…
เขาทุบพวงมาลัยครั้งแล้วครั้งเล่า ขณะน้ำตารินไหนเปียกสองลำแขนกระทบใบหน้าแดงก่ำ ดวงตาสั่นระริกอดสูนัก อยากปิดตาแล้วหายตัวไปจากวังวนอันโง่งมนี่ สภาพชายหนุ่มแสนทะนงบัดซบสิ้นดี เวลานี้เขาแพ้หมดรูป!
โทษอะไรไม่ได้นอกจากตนเองที่เลือกใช้หัวใจนำทางสมอง เป็นคนดีแล้วไง ปกป้องเธอแล้วเขาได้อะไร…
สุดท้ายญาดาทรยศหักหลังไม่รักกันอยู่ดี!
อนวัฒน์เป็นเพียงคนโง่ แค่คนโง่คนหนึ่งในสายตาเธอ!
“พี่เชนคะ” เสียงหวานเข้าแทรกเสียงน้ำ อิงอรปลดปราการทุกอย่างทิ้งลงบนพื้น
หล่อนทอดสายตายั่วยวนมองแผ่นหลังแข็งกร้าวของว่าที่สามีในอนาคต
“มาทำอะไรตรงนี้” อนวัฒน์สะดุ้งเฮือก เสียงเข้มขึงขึ้นแต่ก็ไม่ได้ดุร้ายอะไร
“ให้อิงช่วยพี่นะ”
หล่อนสอดลำแขนโอบรอบเอวสอบ ในขณะที่ถูไถร่างกายเปล่าเปลือยพร้อมทั้งหลับตาพริ้มซบแผ่นหลัง
“อะ…อิง” อนวัฒน์กัดฟันกรอด เขาและอิงอรใกล้ชิดกันหลายต่อหลายครั้งก็จริง แต่ปราศจากความสัมพันธ์ทางกาย ชายหนุ่มแค่ทำตามสัญญาที่เคยให้ไว้ในอดีต เขาดูแลและให้เกียรติเธอในฐานะว่าที่คู่หมั้น
“ให้อิงช่วยพี่นะ เห็นเครียด ๆ”
หล่อนเลื่อนไล้นวดขมับทั้งสองข้าง ร่างสูงขบกรามแน่นเส้นความอดทนคล้ายดำดิ่งลงสู่มหาสมุทร ลึกล้ำ น่าอึดอัด วาบหวามจนอนวัฒน์หายใจไม่ทั่วท้อง…
เพราะเขาเป็นผู้ชายมีเลือดมีเนื้อ มีบ้างที่จะรู้สึกหวั่นไหวด้วยแรงปรารถนา
อิงอรเข้ามาใกล้ชิดขนาดนี้ใครบ้างจะยั้งกายไว้อยู่
นิ้วหัวแม่มือจรดนิ้วชี้นวดเบา ๆ เพื่อให้อนวัฒน์ผ่อนคลาย ใบหน้างดงามเลื่อนกระซิบใบหูด้วยถ้อยคำที่ว่า
“ให้อิงช่วยพี่ไหมคะ”
ผลัก!
ชายหนุ่มพลิกร่างงามกระแทกผนังกระเบื้องด้วยความว่องไว ใบหน้าคร้ามคมใกล้เรียวปากกระจับแค่คืบมีเพียงลมหายใจผะผ่าวรินรดกันเบา ๆ ซ้อนทับความเงียบงัน,,,
วินาทีหมายจรดริมฝีปากหยักทาบทับกลีบปากบวมเจ่อ แต่สุดท้ายภาพของใครคนหนึ่งกลับแทรกทับแกนสมองจนอนวัฒน์ผละห่างอิงอรทั้งยังมองหล่อนราวของร้อน!
“เป็นอะไรพี่เชน”
คิ้วเรียวขมวดบ่งบอกว่าหล่อนไม่เข้าใจ จังหวะกำลังเข้าด้ายเข้าเข็มอยู่แล้ว เขาหยุดทำไมกัน!
“อิงอยากเป็นของพี่” มือนุ่มนิ่มหมายแนบทับใบหน้าชายที่รัก
“พอเถอะอิง”
น้ำเสียงเย็นชาเหมือนยิงแสกหน้า ศักดิ์ศรีอิงอรกลายเป็นฝุ่นผงทันที เพราะคนที่หล่อนต้องการเวลานี้ถดกายถอยห่าง
“พี่เชน…”
“อย่าทำแบบนี้อีก มันไม่มีประโยชน์อิงน่าจะรู้ดี” เขาว่าก่อนหันหลังคว้าผ้าเช็ดตัวพันเอวสอบลวก ๆ
“อิงได้ตัวพี่ก็มีแต่ความเสียใจ” อนวัฒน์จ้ำอ้าวหนีทันที ร่างสูงไม่สนใจว่านาทีนี้ผู้หญิงเบื้องหลังแผดเสียงร้องไห้ประหนึ่งโกรธเคืองเต็มทน
“เพราะแกนังดา!” อิงอรกำหมัดแน่นเลือกโทษมารหัวใจฝ่ายเดียว หล่อนเกลียดที่อนวัฒน์ไม่ยอมลืมญาดา!
เพราะซองเอกสารนั่นทำให้หล่อนรู้ว่าเขายังใส่ใจเรื่องแม่นั่นอยู่!
ดวงตากลมสั่นเครืออ่อนไหว อิงอรปวดไปทั้งหัวใจได้ตัวเขามาก็ไม่ต่างอะไรกับตายทั้งเป็น ต้องทำเช่นไรถึงจะเอาชนะผู้หญิงจน ๆ คนนั้นได้
หล่อนพยายามทุกวิถีทางแล้วทว่าเหมือนเปล่าประโยชน์… เพราะสิ่งที่ได้รับกลับมาไม่มีอะไรนอกจาก ‘ความว่างเปล่า’